469 ผลลัพธ์ สำหรับ 

*ร้าย*

 ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น: ร้าย, -ร้าย-
Longdo MED - TH
(n)การแพร่กระจายของเนื้อร้าย มะเร็ง ไปยังอวัยวะอื่นๆ
Longdo Unapproved TH - TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
inland taipan
[อินแลด์ ไทพัน](n)งูชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียบริเวณแห้งแล้ง ชอบอากาศเย็น ออกล่าเหยื่อในตอนกลางคืนหรือตอนอากาศเย็น ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นงูที่มีพิษร้ายแรงทีั่สุดในโลกด้วยพิษมีปล่อยมาเพียงแค่ 44 มิลลิกรัมต่อครั้ง แต่มีความรุนแรงกว่างูเห่าอินเดียถึง 50 เท่า
นัยประหวัด
(n)คำที่มีความหมายให้ย้อนนึกถึง เช่น ความหมายนัยตรงแปลว่า ก้อนเนื้อร้าย ความหมายโดยนัย เช่น “อย่าทำตัวเป็นมะเร็งในที่ทำงาน” มะเร็ง หมายถึง ผู้ที่ไม่มีประโยชน์ให้กับบริษัท ความหมายนัยประหวัด เช่น “ กิจกรรมในงานวันมะเร็งแห่งชาติได้รับความสนใจมาก“ มะเร็ง หมายถึง การย้อนนึกถึงความทรมานจความเจ็บปวดจากเนื้อร้าย โรคร้ายนี้คร่าชีวตผู้คนจำจวนมาก
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
(n)outlawSee Also:bandit, criminal fellow, murdererSyn.ผู้ร้ายAnt.คนดี, คนบริสุทธิ์Example:ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายดักปล้นเงินจากลูกค้าของธนาคารUnit:คน
(adv)anyhowSee Also:in any case, good and badSyn.ชะรอย, บางทีExample:ดีร้ายมันคงจะกลับมาอีก
(n)misfortuneSee Also:ill-omen, time of calamity, time of misfortune, disasterSyn.ชะตาร้าย, คราวร้ายAnt.ตาดี, เคราะห์ดีExample:หากเข้าตาร้ายทัพเราอาจพ่ายแพ้ให้แก่ศัตรูThai Definition:ถึงคราวที่เดือดร้อน, โชคไม่ดี
(v)harmSee Also:do harm, hurtSyn.รังแก, ทำอันตราย, ประทุษร้ายExample:ผู้ร้ายทำร้ายร่างกายตัวประกันThai Definition:ทำให้บาดเจ็บหรือเสียหาย
(n)bad effectSee Also:harmful effect, unfavorable effect, disastrous effectSyn.โทษ, ผลเสียAnt.ผลดี, ผลประโยชน์Example:ค่ายบางระจันเป็นร่องรอยหลักฐานอันแน่ชัดถึงผลร้ายของการแตกสามัคคีกันระหว่างชนในชาติThai Definition:สิ่งไม่ดีที่เกิดตามมา
(v)be wickedSee Also:be cruel, be merciless, be pitiless, be heartless, be vicious, be evil-mindedSyn.ใจดำ, ดุร้าย, โหด, ใจทมิฬAnt.ใจดี, ปราณีExample:เขายังคงใจร้ายกับลูกเลี้ยงของเขาอยู่จนทุกวันนี้Thai Definition:ไม่ปราณี
(adj)evil-mindedSee Also:cruel, wicked, merciless, pitilessSyn.ใจดำ, ดุร้าย, โหด, ใจทมิฬAnt.ใจดี, ปราณีExample:คนใจร้ายอย่างเขาไม่น่าจะมีคนไปรักและนับถือมากเช่นนั้นThai Definition:ไม่ปราณี
(v)have maliceSee Also:have wicked intentions, harbour evil designings, harbour evil thoughtsExample:ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่คิดถึงแต่ตัวเอง แต่เขาก็ไม่เคยคิดร้ายต่อผู้อื่น
(conj)moreoverSee Also:in addition, furthermoreSyn.ยิ่งไปกว่านั้นExample:เขาไล่ผมยังกะหมูกะหมา หาว่าไปทำเสียงดังรบกวนเขา ซ้ำร้ายบางบ้านยังปล่อยหมาไล่กัดผมอีกด้วยThai Definition:ร้ายขึ้นไปอีก
(v)be sharp-tonguedSee Also:be foul-mouthedExample:เมืองที่ท่านจะไปจำพรรษานั้น ชาวบ้านปากร้ายหยาบคาย ถ้าถูกบริภาษด้วยคำหยาบคายจะทนไหวหรือThai Definition:มักดุด่าว่าร้าย
(n)criminalSee Also:lawbreaker, offender, malefactor, culprit, crook, felonSyn.อาชญากร, โจร, คนร้าย, มิจฉาชีพAnt.ตำรวจExample:หน้าที่ของตำรวจคืออยู่เวรยามตามหน้าที่ จับผู้ร้ายUnit:คนThai Definition:ผู้ที่ลักขโมยหรือปล้นทรัพย์สินผู้อื่น
(v)have a nightmareAnt.ฝันดีExample:เขาฝันร้ายทุกคืนหลังจากเกิดเรื่องวันนั้นThai Definition:เห็นเป็นเรื่องราวที่ไม่ดีเมื่อหลับ
(n)nightmareSee Also:bad dreamAnt.ฝันดีExample:ฝันร้ายของเขาเกือบจะเป็นจริง เมื่อลูกน้องที่เขารู้ใจมากที่สุดถูกยิงUnit:เรื่องThai Definition:นึกเห็นสิ่งที่ไม่ดีขณะหลับ
(n)toxicitySee Also:toxicExample:ประชากรโลกกว่า 2, 500 ล้านคน กำลังเสี่ยงอยู่กับพิษร้ายของสารดีดีทีThai Definition:ความร้ายแห่งพิษ
(adj)lethalSee Also:deadly, dangerousExample:นางมีอาวุธอันร้ายกาจสองอย่าง คือ จักรกับตรีศูลThai Definition:ที่มีประสิทธิภาพร้ายแรง
(v)be fierceSee Also:be ferocious, be cruel, be savage, be wild, be viciousExample:ตอนเด็กๆ ใครๆ ก็ว่าผมร้ายกาจThai Definition:ร้ายมาก, ร้ายยิ่ง
(n)bad omenSee Also:evil omenSyn.ลางบอกเหตุ, ลางExample:เขารู้สึกว่ามีลางร้ายที่บอกให้รู้ล่วงหน้าว่าจะเจ็บตัวThai Definition:เครื่องหมายที่ปรากฏให้เห็นอันบอกผลร้าย
(n)criminalSee Also:villain, evil man, bandit, brigand, gangsterSyn.คนร้ายAnt.คนดีExample:เขาได้รับการยกย่องจากวายร้ายทั้งหลายว่าเป็นนายกรัฐมนตรีของอาณาจักรแก๊งสเตอร์ที่แท้จริงUnit:คน
(adj)devilishSee Also:evil, fiendish, diabolical, demonic, despicableSyn.เหลือร้าย, ชั่วร้าย, ชั่วช้าAnt.ดีExample:เราอุตส่าห์หลบมาหากินตอนกลางคืน แต่เราก็มาเจอเข้ากับนกเค้าแมววายร้ายเข้าอีก
(v)gossipSyn.นินทา, ว่าExample:ไม่ว่าจะถูกนินทาว่าร้ายต่างๆ นานาเรื่องที่เขามีบ้านเล็กบ้านใหญ่อย่างไรเขาก็ไม่ใส่ใจThai Definition:ติเตียนลับหลัง
(v)be badSee Also:be evil, be immoral, be wicked, be depravedSyn.ไม่ดี, ชั่วร้าย, เลวทราม, เลว, ทรามExample:ถึงผู้หญิงคนนั้นจะเลวร้ายแค่ไหน เธอก็ยังรักลูกของเธออยู่Thai Definition:มีนิสัยไม่ดีมากๆ
(n)pessimismSee Also:inclination to expect the worstAnt.แง่ดีExample:เธอคำนึงถึงแต่แง่ร้ายของเขา เลยเอาแต่ระแวงเขาตลอดThai Definition:นัยว่าเป็นเรื่องไม่ดี
(v)be cruelSee Also:be ruthless, be heartless, be brutal, be callous, be inhumane, be malevolent, be unkind, bSyn.โหดเหี้ยม, ใจร้ายAnt.ใจดีExample:พฤติกรรมของทหารนาซีโหดร้ายดุจคนเถื่อน
(adv)brutallySee Also:cruelly, ruthlessly, heartlessly, callously, inhumanely, malevolently, unkindly, viciouslySyn.ร้ายกาจ, โหดเหี้ยม, อำมหิตExample:รัฐมนตรีอินเดียก็ถูกระเบิดสังหารอย่างโหดร้าย
(v)slanderSee Also:frameSyn.ใส่ความ, ใส่ไฟ, ใส่ร้ายป้ายสีExample:ดร.ป๋วยอึ๊งภากรณ์ท่านนั่งทำงานที่นี่อยู่ 2 ปีก่อนที่จะถูกใส่ร้ายป้ายสีจนต้องออกไปอยู่อังกฤษThai Definition:หาความร้ายป้ายผู้อื่น
(v)defameSee Also:malign, slander, smear, vilify, abuseSyn.ป้ายสี, ให้ร้ายป้ายสี, ใส่ความ, ใส่ร้าย, ป้ายร้ายExample:เขาได้ใช้วิธีประจบสอพลอเลียเจ้านายหรือแม้กระทั่งให้ร้ายเพื่อนร่วมงานเพื่อประโยชน์ตนเองThai Definition:ใส่ความผู้อื่นโดยไม่มีมูลความจริง
(n)bad newsAnt.ข่าวดีExample:ผมไม่รู้ว่าจะแจ้งข่าวร้ายนี้ให้เธอทราบได้อย่างไรThai Definition:เรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่เลวร้าย หรือไม่ดี
(n)misfortuneSee Also:bad luck, adversity, hard luck, ill luck, infelicitySyn.คราวเคราะห์, คราวซวยAnt.คราวดีThai Definition:คราวที่โชคร้าย
(n)malignanceSee Also:badness, vileness, mercilessness, evil, vice, wickedness, terriblenessSyn.ความชั่ว, ความเลว, ความร้ายกาจ, ความชั่วร้ายAnt.ความดีExample:ในที่สุดเขาก็ถูกเปิดโปงความร้ายของเขาออกมา
(v)wickedSee Also:bad, low, evilSyn.เลวทราม, เลวร้าย, ดุร้าย, ชั่ว, ชั่วช้า, โหดเหี้ยม, ทราม, ต่ำช้า, ร้าย, เลวมากExample:พวกผู้ก่อการร้ายชั่วร้ายมาก มันไม่มีความปราณีให้แก่ผู้ใดเลย
(v)bear ill willSee Also:intend to do harm, have bad intention, bear malice toward somebodySyn.ปองร้าย, ประสงค์ร้าย, คิดร้าย, มุ่งร้ายหมายขวัญAnt.หวังดี, มุ่งดี, ประสงค์ดีExample:มีคนมุ่งร้ายคอยใส่ความเขาอยู่เสมอThai Definition:มุ่งจะทำร้าย
(n)bad thingSee Also:evilSyn.สิ่งเลวร้ายAnt.สิ่งดีExample:ยายไปอาบน้ำมนต์เพื่อปัดสิ่งร้ายออกจากตัว
(v)be in troubleSee Also:be in distressSyn.เข้าตาร้าย, ถึงตาร้ายExample:ถ้าเศรษฐกิจไทยยังเข้าร้ายแบบนี้ การพัฒนาประเทศคงเป็นไปได้ยากThai Definition:ตกอยู่ในฐานะไม่ดี, อยู่ในสภาพลำบาก
(v)speak rudelyThai Definition:พูดมากหยาบคาย, พูดไม่เพราะ
(n)accidentSee Also:mishap, misadventure, misfortune, calamity, disasterSyn.เคราะห์ร้าย, โชคร้าย, เคราะห์หามยามร้ายExample:หมอดูทำนายว่าจะเกิดเหตุร้ายในช่วงเบญจเพส
(n)doing harmSee Also:hurting, attack, molestationSyn.การรังแก, การข่มขู่, การประทุษร้าย, การข่มเหงExample:การทำร้ายร่างกายผู้อื่นถือเป็นความผิดThai Definition:การทำให้บาดเจ็บหรือเสียหาย
(n)devilSee Also:ghost, monster, demon, spirit, Satan, fiendSyn.ผี, ภูติ, มาร, ซาตาน, ผีสางExample:คนไทยบางกลุ่มยังมีความเชื่องมงายในเรื่องภูติผีปีศาจUnit:ตน, ตัว
(v)ambushSee Also:waylay, attackExample:ญาติสนิทของเราถูกลอบทำร้าย
(n)fierce animalSee Also:wild animalExample:จระเข้เป็นสัตว์ร้าย อยู่ในน้ำ เลี้ยงไม่เชื่องUnit:ตัว
(n)fierce animalSee Also:wild animalExample:จระเข้เป็นสัตว์ร้าย อยู่ในน้ำ เลี้ยงไม่เชื่องUnit:ตัว
(adj)awfulSee Also:terrible, dreadfulSyn.ร้ายมากExample:ไวรัสเหลือร้ายตัวนี้เพิ่มจำนวนตัวเองเป็นทวีคูณอย่างรวดเร็ว
(v)be awfulSee Also:be terrible, be dreadfulSyn.ร้ายมาก, ร้ายกาจExample:แผนการของเขาเหลือร้ายจริงๆ
(n)gangstersSee Also:hoodlums, rascals, rogues, criminalsSyn.คนร้าย, ผู้ร้ายExample:เหล่าร้ายที่จับได้ทั้งหมดนี้เป็นชาวอิตาเลียนทั้งหมด
(v)terrorizeSee Also:cause terrorism, cause violenceExample:ชาวซิกพยายามใช้ปากีสถานเป็นฐานที่มั่น ลอบเข้าไปก่อการร้ายในรัฐปัญจาบของอินเดีย
(n)crueltySee Also:wildnessSyn.ความโหดเหี้ยม, ความโหดร้าย, ความป่าเถื่อนAnt.ความอ่อนโยนExample:เสือเป็นสัตว์ที่มีความดุร้ายพอๆ กับสิงโต
(conj)in any caseSee Also:perhaps, maybe, anyhowSyn.เผื่อว่า, บางทีExample:ในยามสับสนไม่รู้ว่าใครเป็นคนดี ใครเป็นคนร้าย ชะดีชะร้ายอาจจะมองคนไม่ดีเป็นคนดีThai Definition:ีแสดงถึงความไม่แน่นอน, โดยปกติมักใช้ในลักษณะเหตุการณ์ที่สังหรณ์หรือกริ่งเกรงว่าอาจจะเกิดขึ้นตามที่คาดไว้
(v)injureSee Also:harm, commit an offense, do harm, molest, hurtSyn.ทำร้าย, ทารุณ, ทำร้ายร่างกาย, ทำอันตราย, ทำให้บาดเจ็บ, รังแกExample:เขาถูกประทุษร้ายจากน้ำมือของพวกผู้ร้าย
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
(กฺร่าย) น. ผ้าคาดที่ถักเป็นตาข่าย เช่น คาดกร่ายชายทองวาง ร่วงรุ้ง (กาพย์ห่อโคลง).
ก. พูดถึงในเชิงร้าย, ให้ร้าย.
น. เป็นฐานความผิดอาญา ที่ผู้กระทำก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อบุคคล ต่อทรัพย์สินอันเป็นสาธารณะ หรือต่อทรัพย์สินของรัฐหนึ่งรัฐใด หรือของบุคคลใดหรือต่อสิ่งแวดล้อมอันก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างสำคัญ โดยผู้กระทำมุ่งหมายเพื่อขู่เข็ญหรือบังคับรัฐบาลไทย รัฐบาลต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศ ให้กระทำหรือไม่กระทำการใดอันจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง หรือเพื่อสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน แต่ทั้งนี้ไม่รวมถึงการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ.
ก. รังแกเบียดเบียน.
ก. ถึงคราวเดือดร้อน.
ก. ตกอยู่ในฐานะไม่ดี.
น. คนที่ไม่มีคุณธรรม
คนทำผิดอาญา, อาชญากร.
น. คนทำชั่วย่อมตกนรก, มักใช้เข้าคู่กับ คนดีผีคุ้ม ว่า คนดีผีคุ้ม คนร้ายตายขุม.
ใช้เข้าคู่กับคำ ข่มเหง เป็น ข่มเหงคะเนงร้าย.
ว. มีสติไม่ปรกติ, บางคราวดีบางคราวร้าย, ดีบ้างร้ายบ้าง.
น. เคราะห์ร้าย.
ว. ดุร้าย, ไม่ปรานี.
ว. เผื่อว่า, บางทีแสดงถึงความไม่แน่นอน, เช่น ซื้อลอตเตอรี่ไว้สักใบเถิด ชะดีชะร้ายจะถูกรางวัล, โดยปรกติมักใช้ในลักษณะเหตุการณ์ที่สังหรณ์หรือกริ่งเกรงว่าอาจจะเกิดขึ้นตามที่คาดไว้ เช่น ชะดีชะร้ายก็จะตายเสียกลางทาง.
น. ชื่อท่ารำแบบหนึ่ง โดยมือข้างหนึ่งตั้งวงสูง มืออีกข้างหนึ่งแบมือหงาย แขนตึง ทอดต่ำลง เอียงศีรษะข้างเดียวกับมือที่แขนตึง.
ก. ทำการประทุษร้ายแก่กายหรือจิตใจของบุคคล ไม่ว่าจะทำด้วยใช้แรงกายภาพหรือด้วยวิธีอื่นใด และหมายความรวมถึงการกระทำใด ๆ ซึ่งเป็นเหตุให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ไม่ว่าจะโดยใช้ยาทำให้มึนเมา สะกดจิต หรือใช้วิธีอื่นใดอันคล้ายคลึงกัน.
ว. ร้ายยิ่งขึ้นไปอีก.
ว. ชะรอย, บางที, เช่น ดีร้ายของนี้จะถูกขโมยมา.
ว. เหี้ยมโหด.
น. ดูว่าไม่ดี เช่น เมื่อแขกเมืองมาแลเบีกเข้าไปถวายบังคม บมิได้นุ่งห่มเสื้อสนอบซึ่งพระราชทานนั้น แลนุ่งห่มเสื้อผ้าอื่นมิควรให้มาดูร้าย (สามดวง กฎมณเทียรบาล).
น. ตอนแรกประพฤติตัวไม่ดี แต่ภายหลังกลับสำนึกตัวได้แล้วประพฤติดีตลอดไป, ตอนต้นไม่ดีไปดีเอาตอนหลัง.
น. รอยบุ๋มที่ตะโพกทั้ง ๒ ข้าง ถือว่าเป็นลักษณะไม่ดีของผู้หญิง ๑ ใน ๓ อย่าง คือ สีจัก ยักหล่ม ถ่มร้าย, มักใช้เข้าคู่กับคำ ยักหล่ม เป็น ยักหล่มถ่มร้าย.
ก. ทำให้บาดเจ็บหรือเสียหาย.
น. เป็นฐานความผิดอาญา ที่ผู้กระทำทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น.
น. คนใดไม่ดี ก็ตัดออกไปจากหมู่คณะ.
น. สัตว์ป่าที่ดุร้าย เช่น หมี เสือ.
น. เนื้อเป็นโรค เกิดแก่ คน สัตว์ และต้นไม้ หรือแผลที่เป็นมะเร็ง มีอาการต่าง ๆ.
(ปฺระทุดสะ-) ก. ทำให้บาดเจ็บ เช่น ประทุษร้ายร่างกาย, ทำให้เสียหาย เช่น ประทุษร้ายทรัพย์สิน.
ก. มุ่งร้าย, หมายจะทำร้าย.
ว. มักดุด่าว่าร้าย.
ก. พูดจาดุด่าแต่น้ำใจดี.
น. บุคคลที่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลและพยายามก่อความไม่สงบขึ้นในที่ต่าง ๆ.
น. โจร, อาชญากร
ตัวโกงในการแสดงละครหรือภาพยนตร์เป็นต้น.
ว. ปานกลาง, ไม่ดีนัก, ไม่เลวนัก
บางที (แสดงความไม่แน่นอน) เช่น พอดีพอร้ายไม่ได้ไป.
ว. ชั่วร้าย, ไม่สมควร
อาการที่ล่วงเกินในเชิงชู้สาว.
ก. คิดปองร้าย.
ก. ไม่พอใจ, ไม่ชอบใจ.
ก. เดินได้จังหวะ.
น. ชื่อคำประพันธ์ประเภทร้อยกรองแบบหนึ่ง เช่น ร่ายยาว ร่ายสุภาพ ร่ายดั้น ร่ายโบราณ
ทำนองร้องสำหรับดำเนินเรื่องของโขนละคร มี ๒ อย่าง คือ ร่ายในและร่ายนอก ร่ายในสำหรับโขนและละครใน ร่ายนอกสำหรับละครนอกและละครทั่วไป.
น. ชื่อร่ายชนิดหนึ่ง บทหนึ่งมี ๕ วรรคขึ้นไป วรรคหนึ่งใช้ตั้งแต่ ๕-๗ คำ และจะต้องจบด้วยบาทที่ ๓ และที่ ๔ ของโคลงดั้นวิวิธมาลี นอกนั้นเหมือนร่ายสุภาพ.
น. ชื่อร่ายชนิดหนึ่ง นิยมใช้ในวรรณคดีโบราณ ไม่นิยมเอกโท ไม่จำกัดวรรคและคำ แต่มักใช้วรรคละ ๕ คำและใช้คำเท่ากันทุกวรรค.
ก. เร่เตร่ไปเป็นจังหวะตามกิ่งไม้ เช่น นกร่ายไม้ กระแตร่ายไม้.
น. ชื่อร่ายชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายร่ายโบราณ ใช้แต่งบทเทศน์ บทสวด บทกล่อมลูก เป็นต้น ไม่จำกัดวรรคและคำ แต่ละวรรคไม่ควรน้อยกว่า ๕ คำ นิยมส่งสัมผัสส่งท้ายวรรคหน้า และรับสัมผัสในวรรคถัดไปที่คำใดก็ได้ สัมผัสเชื่อมกันไปเช่นนี้จนจบ.
ก. เดินหรือจับระบำไปตามจังหวะดนตรีของละครรำ.
น. ชื่อร่ายชนิดหนึ่ง บทหนึ่งมี ๕ วรรคขึ้นไป วรรคหนึ่งมี ๕ คำ ส่งสัมผัสท้ายวรรคหน้า และรับสัมผัสกับคำที่ ๑ ที่ ๒ หรือที่ ๓ ของวรรคถัดไป และจะต้องจบด้วยโคลง ๒ สุภาพ.
ก. บริกรรมเวทมนตร์คาถาเพื่อทำให้ศักดิ์สิทธิ์ เช่น ร่ายเวท ร่ายมนตร์ ร่ายคาถา.
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
คำสั่งให้ความคุ้มครองบุคคล (ต่อการทำร้ายร่างกาย)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ร้าย[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
การอาเจียนอย่างร้าย[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
โรคติดต่อร้ายแรง[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
-ติดต่อร้ายแรง[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ตับอ่อนอักเสบเร็วร้าย[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. ฝีลามร้าย๒. ฝีลามร้ายฝ่าเท้า, รองช้ำ๓. ฝีตับอ่อน [ มีความหมายเหมือนกับ phlegmon, pancreatic ][แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
-นำโรคติดต่อร้ายแรง[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
การใช้กำลังทำร้ายร่างกาย[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
อาวุธร้ายแรง, อาวุธสำหรับสังหาร[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความร้ายแรงของพลังทำลาย[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. การกระทำทารุณโหดร้าย (ก. อาญา)๒. การกระทำทารุณ (ที่เป็นเหตุฟ้องหย่า) (ก. แพ่ง)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การส่งผู้ร้ายข้ามมลรัฐ (อเมริกัน)[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การส่งผู้ร้ายข้ามมลรัฐ (อเมริกัน)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. การเกณฑ์๒. การขอ, คำขอเบิก (สิ่งที่ต้องการ)๓. การขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. การเรียกเกณฑ์๒. การขอ, คำขอเบิก, หนังสือร้องขอ๓. การขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน, การขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามมลรัฐ (อเมริกัน)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การกล่าวร้ายต่อสินค้า[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การกล่าวร้ายต่อกรรมสิทธิ์[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
อย่างร้ายแรง[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การฝันร้าย[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
นอกกฎหมาย, คนนอกกฎหมาย, ผู้ร้าย[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
อาวุธที่ใช้กระทำความผิด, อาวุธร้ายแรง[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การทำร้ายอย่างรุนแรง[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. การประทุษร้าย๒. การขู่ว่าจะประทุษร้าย[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การทำร้ายร่างกาย [ ดู battery ][นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การลงมือทำร้ายร่างกาย[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ภัยจากการจู่โจมทำร้าย[ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
การกระทำทารุณโหดร้าย[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ทำให้ร้ายแรงขึ้น[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
การทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายสาหัส[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ผู้หลบหนีคดีอาญาข้ามแดน, ผู้ร้ายข้ามแดน[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
เจตนาร้าย, เจตนาทุจริต[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ไม่ร้าย[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความดันเลือดสูงไม่ร้าย[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
เนื้องอกไม่ร้าย[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ไม่ร้าย[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
การทำร้ายร่างกาย [ ดู assault ][นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย, การทำร้ายร่างกาย[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ทรัพย์ที่ผู้ร้ายโยนทิ้งขณะหลบหนี[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความผิดอาญาที่ไม่ร้ายแรง[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความผิดอาญาที่ไม่ร้ายแรง[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การรบกวน, การทำร้าย[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การทำร้ายอวัยวะจนใช้ป้องกันตัวไม่ได้ [ ดู maim และดู mutilation ความหมายที่ ๒ ประกอบ ][นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
เจตนาร้าย [ ดู criminal intent ][นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
เจตนาร้าย[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
เจตนาร้าย[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
เจตนาร้ายโดยไตร่ตรองมาก่อน[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
เจตนาร้ายที่ชัดแจ้ง[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
เจตนาร้ายตามกฎหมาย[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
การประทุษร้าย การทรยศต่ออาณาจักรExample:คำที่มักเขียนผิด คือ กบฎ[คำที่มักเขียนผิด]
กล่าวร้ายให้เขาเสียหายExample:คำที่มักเขียนผิด คือ ประนาม[คำที่มักเขียนผิด]
ทำร้ายร่างกาย[ศัพท์วัยรุ่น]
การกระทำโหดร้ายป่าเถื่อน[TU Subject Heading]
การก่อการร้ายทางชีวภาพ[TU Subject Heading]
อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (ค.ศ. 1984)[TU Subject Heading]
อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามและการขจัดรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดของการใช้แรงงานเด็ก (ค.ศ. 1999)[TU Subject Heading]
การก่อการร้ายภายในประเทศ[TU Subject Heading]
การส่งผู้ร้ายข้ามแดน[TU Subject Heading]
กลุ่มอาการร้ายแรงจากสารออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท[TU Subject Heading]
ผู้ร้าย[TU Subject Heading]
ภาวะน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอดชนิดร้ายแรง[TU Subject Heading]
การโจมตีโดยผู้ก่อการร้าย 11 กันยายน ค.ศ. 2001[TU Subject Heading]
การใช้อำนาจรัฐก่อการร้าย[TU Subject Heading]
การก่อการร้าย[TU Subject Heading]
การก่อการร้ายกับสื่อมวลชน[TU Subject Heading]
การก่อการร้ายในสื่อมวลชน[TU Subject Heading]
ครอบครัวของผู้ประสบภัยจากการก่อการร้าย[TU Subject Heading]
ผู้ก่อการร้าย[TU Subject Heading]
ผู้ประสบภัยจากการก่อการร้าย[TU Subject Heading]
สงครามตอบโต้การก่อการร้าย ค.ศ. 2001-[TU Subject Heading]
อนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการปฏิบัติ หรือการลงโทษอื่น ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี[การทูต]
Convention on Prohibitions or Restrictions on the Use od Certain Conventional Weapons Which May Be Deemed to Be Excessively Injurious or to Have Indiscriminate Effects = อนุสัญญาห้ามอาวุธตามแบบบางชนิดที่ก่อให้เกิดการบาด เจ็บร้ายแรงเกินความจำเป็นหรือก่อให้เกิดลโดยไม่จำกัดเป้าหมาย มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการห้ามหรือหารจำกัดการใช้อาวุธตามแบบบางชนิดที่ก่อให้ เกิดผลกระทบร้ายแรงด้านมนุษยธรรม โดยสาระสำคัญของการ คอบคุมอาวุธตามแบบแต่ละชนิดจะถูกกำหนดไว้ในพิธีสารแต่ละฉบับต่างหาก ซึ่งในชั้นนี้ มีพิธีสาร 5 ฉบับ และรัฐต่างๆ สามารถเลือกยอมรับพิธีสารต่อท้ายอนุสัญญาฯ ฉบับใดก็ได้อย่างน้อยจำนวน 2 ฉบับ[การทูต]
การฝึกร่วม/ผสมคอบร้าโกลด์ เป็นการฝึกทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเซีย ตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกองทัพไทยและกองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นแปซิฟิก (USPACOM) ร่วมกันเป็น เจ้าภาพจัดการฝึกในประเทศไทยเป็นประจำทุกปี การฝึกคอบร้าโกลด์พัฒนามาจากการฝึกผสมยกพลขึ้นบกระหว่างกองทัพเรือไทยกับกอง ทัพเรือสหรัฐอเมริกาและกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำการฝึกร่วมกันมาตั้งแต่ พ.ศ. 2499 ต่อมาใน พ.ศ. 2525 ได้รวมการฝึกหลายอย่างเข้าด้วยกันแล้วกำหนดชื่อรหัสการฝึกขึ้นใหม่ว่า "การฝึกร่วม/ผสมคอบร้าโกลด์" ปัจจุบัน มีประเทศที่ร่วมฝึกรวม ทั้งร่วมสังเกตการณ์หลายประเทศ รวมทั้งได้ขยายการฝึกครอบคลุมการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การตอบโต้การก่อการร้ายด้วย[การทูต]
คณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น[การทูต]
เป็นโครงการที่ริเริ่มขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2545 โดยสำนักศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐอเมริกา ( US Bureau of Customs and Border Protection )ภายใต้กระทรวง Department of Homeland Security มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่สินค้าที่ขนส่งเข้าไปยังสหรัฐ อเมริกา ด้วยการติดตั้งระบบติดตามตู้บรรทุกสินค้าที่มีความเสี่ยงต่อการก่อการร้าย และมีระบบตรวจสอบตู้บรรทุกสินค้าก่อนออกจากประเทศต้นทางไปสู่สหรัฐอเมริกา[การทูต]
การส่งผู้ร้ายข้ามแดนแฝง (หรือการผลักดันออกนอกประเทศ)[การทูต]
ความผิดตามกฎหมายของทั้ง 2 ประเทศ ใช้ในกรณีส่งผู้ร้ายข้ามแดน[การทูต]
การยกเว้นจากอากรศุลกากร และการตรวจสิ่งของเครื่องใช้ของคณะผู้แทนทางการทูต การยกเว้นดังกล่าวนี้ไม่ถือว่าเป็นสิทธิ แต่เป็นเรื่องของการแสดงอัธยาศัยไมตรีระหว่งประเทศที่ให้ต่อกันมากกว่า กฎหมายระหว่างประเทศก็มิได้กำหนดพันธะที่จะต้องให้การยกเว้นจากอากรศุลกากร อย่างไรก็ดี รัฐส่วนมากได้แสดงอัธยาศัยไมตรีโดยให้ผู้แทนทางการทูตได้รับการยกเว้นอากร ศุลกากรแก่สินค้าและเครื่องใช้ที่นำเข้ามาใช้ในส่วนตัวเองอนุสัญญากรุง เวียนนาได้ระบุไว้ในมาตรที่ 36 ว่า1. รัฐผู้รับจะอนุญาตให้นำเข้าและอำนวยให้มีการยกเว้นจากอากรศุลกากร ภาษี ตลอดจนค่าภาระที่เกี่ยวข้องทั้งมวล นอกจากค่าภาระในการเก็บรักษา การขนส่งและบริการ ให้ทำนองเดียวกันตามกฎหมายหรือข้อบังคับ ซึ่งรัฐผู้รับอาจกำหนดไว้แก่ก. สิ่งของสำหรับใช้ในทางการของคณะผู้แทนข. สิ่งของสำหรับใช้ส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต หรือคนในครอบครัวของตัวแทนทางการทูต ซึ่งประกอบเป็นส่วนครัวเรือนของตัวแทนทางการทูต รวมทั้งสิ่งของที่แสดงเจตนาสำหรับการตั้งถิ่นฐานของตัวแทนทางการทูตด้วย2. หีบห่อส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต ให้ได้รับยกเว้นจากการตรวจตรา นอกจากมีมูลเหตุอันร้ายแรงที่ทำให้สันนิษฐานได้ว่า หีบห่อส่วนตัวนั้นบรรจุสิ่งของซึ่งไม่อยู่ในข่ายแห่งการยกเว้นที่ได้ระบุไว้ ในวรรค 1 ของข้อนี้ หรือสิ่งของซึ่งการนำเข้าหรือส่งออกนั้นต้องห้ามทางกฎหมาย หรือถูกควบคุมตามข้อบังคับว่าด้วยการกักตรวจโรคของรัฐผู้รับ การตรวจตราเช่นว่านี้ให้กระทำต่อหน้าตัวแทนทางการทูต หรือต่อหน้าผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจของตัวแทนทางการทูตเท่านั้น[การทูต]
การส่งผู้ร้ายข้ามแดน การที่ชาติหนึ่งยอมส่งคนในชาติของตนให้แก่อีกชาติหนึ่ง คือคนในชาติที่ถูกกล่าวหา หรือต้องโทษฐานกระทำความผิดภายนอกเขตแดนของตน และเป็นความผิดที่กระทำขึ้นในเขตอำนาจของอีกชาติหนึ่ง ซึ่งมีความสามารถที่จะตัดสินคดี รวมทั้งลงโทษบุคคลที่ถูกกล่าวหานั้นข้ออ้างว่า ในกรณีที่ชนชาติหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่าประกอบอาชญากรรมแล้วหลบหนีไปยังต่าง ประเทศนั้น รัฐของผู้ที่ประกอบอาชญากรรมมีสิทธิที่จะขอให้ต่างประเทศนั้นส่งตัวผู้กระทำ ผิดกลับคืนมา เพื่อส่งตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาลงโทษได้ แต่หลายคนยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ในข้อนี้ มีไม่น้อยที่สนับสนุนหลักการที่ว่า กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองหน้าที่ที่จะต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน กล่าวคือ นอกจากสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่มีต่อกันแล้ว กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองสิทธิที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กัน อย่างไรก็ดี ตามสนธิสัญญาที่มีต่อกัน ผู้ร้ายที่หนีความยุติธรรมจะถูกส่งไปให้อีกประเทศหนึ่งตามสนธิสัญญานั้น จักกระทำโดยวิถีทางการทูต ส่วนผู้หลบหนีเจ้าหน้าที่เพราะเหตุผลทางการเมือง จะส่งข้ามแดนอย่างผู้ร้ายไม่ได้ และเมื่อหลบหนีไปยังอีกประเทศหนึ่งได้สำเร็จ ประเทศนั้นๆ มักจะให้อาศัยพักพิงในประเทศของตนเป็นในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง[การทูต]
การส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยมีสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศรองรับ[การทูต]
ความผิดที่ส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้[การทูต]
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1946 สมัชชาสหประชาชาติได้ยืนยันเป็นเอกฉันท์ว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือการฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อนนั้นให้ถือเป็นอาชญากรรม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งโลกที่บรรลุความเจริญแล้วประณามอย่างรุนแรงอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกัน และการลงโทษอาชญากรรมเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ สมัชชาสหประชาชาติได้ลงมติรับรองเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 1948 อนุสัญญานี้ได้นิยามคำว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) หมายถึงการประกอบอาชญากรรมบางอย่าง โดยมีเจตนาที่จะทำลายล้างกลุ่มชนชาติ กลุ่มเผ่าพันธุ์ กลุ่มเชื้อชาติ หรือกลุ่มศาสนา ในบางส่วนหรือทั้งหมดก็ตาม การประกอบกรรมซึ่งถือเป็นการฆ่าล้างชาตินั้นได้แก่ การฆ่า การทำให้เกิดความเสียหายอย่างสาหัส ทั้งต่อร่างกายหรือจิตใจ และการบังคับให้มีสภาวะการครองชีพที่เจตนาจะให้ชีวิตร่ายกายถูกทำลาย ไม่ว่าจะเพียงส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดก็ตาม ตลอดจนออกมาตรการกีดกันมิให้มีลูกและโยกย้ายเด็ก ๆ ไม่เพียงแต่การฆ่าล้างชาติอย่างเดียว หากแต่การคบคิดหรือการยุยงให้มีการฆ่าล้างชาติ รวมทั้งความพยายามที่จะฆ่าล้างชาติและสมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมดังกล่าว ย่อมถูกลงโทษได้ตามนัยแห่งอนุสัญญานี้ บรรดาผู้ที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกลงโทษไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้ ปกครอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง หรือเอกชนส่วนบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดของตามกฎหมายก็ตามบรรดาประเทศที่ภาคี อนุสัญญานี้จำเป็นต้องออกกฎหมายของตนเพื่อรองรับ และจะต้องตกลงเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนในกรณีที่บุคคลนั้นๆ มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติ และบุคคลที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกพิจารณาลงโทษในประเทศที่มีการ ประกอบอาชญากรรมดังกล่าวขึ้น หรือโดยศาลระหว่างประเทศที่มีอำนาจครอบคลุมถึงเจตนารมณ์ของสนธิสัญญานี้ เพื่อต้องการป้องกัน และลงโทษอาชญากรรมฆ่าล้างชาติ ไม่ว่าจะประกอบขึ้นในยามสงครามหรือในยามสงบก็ตามอนุสัญญาดังกล่าวได้เริ่มมี ผลบังคับเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1951 เป็นเวลา 90 วันหลังจากที่ 20 ประเทศได้ให้สัตยาบัน หรือให้ภาคยานุวัติตามที่ระบุอยู่ในอนุสัญญา อนุสัญญานี้จะมีผลบังคับเป็นเวลา 10 ปี และมีการต่ออายุสัญญาทุก 5 ปี สำหรับประเทศที่มิได้บอกเลิกสัญญา หากประเทศที่ยังเป็นภาคีอนุสัญญามีจำนวนเหลือไม่ถึง 16 ประเทศ อนุสัญญานี้จะเลิกมีผลบังคับทันที[การทูต]
การก่อการร้ายสากล[การทูต]
การทูตแบบใหม่ ภายหลังสงครามโลกครั้งแรก หรือตั้งแต่ ค.ศ. 1918 เป็นต้นมา ได้เกิดการทูตแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างไปจาการทูตแบบเก่า อันได้ปฏิบัติกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี นักวิชาการบางท่านมีความเอนเอียงที่จะตำหนิว่า การที่เกิดสงครามโลกขึ้นนั้น เป็นเพราะการทูตประสบความล้มเหลวมากกว่าอย่างไรก็ดี บางท่านเห็นว่าแม้ส่วนประกอบของการทูตจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่เนื้อหาหรือสาระสำคัญของการทูตยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นการผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่างการทูตแบบเก่ากับการทูตแบบใหม่อาจกล่าวได้ ว่า มีปัจจัยสำคัญ ๆ อยู่สามประการ ที่มีอิทธิพลหรือบังเกิดผลโดยเฉพาะต่อวิธีการหรือทฤษฎีของการเจรจาระหว่าง ประเทศ กล่าวคือ ข้อแรก ชุมชนนานาชาติทั้งหลายเกิดการตื่นตัวมากขึ้น ข้อที่สอง ได้มีการเล็งเห็นความสำคัญของมติสาธารณะ ( Public Opinion) มากขึ้น และประการสุดท้าย เป็นเพราะการสื่อสารคมนาคมได้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วอดีตนักการทูตผู้มี ชื่อเสียงคนหนึ่งของอินเดีย ได้แสดงความไม่พอใจและรังเกียจความหยาบอย่างปราศจากหน่วยก้านของการดำเนิน การทูตแบบใหม่ เช่น การโฆษณาชวนเชื่อเข้าใส่กัน การใช้ถ้อยคำในเชิงผรุสวาทต่อกัน การเรียกร้องกันอย่างดื้อ ๆ ขาดความละมุนละไมและประณีต อาทิเช่น การเรียกร้องข้ามหัวรัฐบาลไปยังประชาชนโดยตรงในค่ายของฝ่ายตรงกันข้ามการ กระทำต่าง ๆ ที่จะให้รัฐบาลต้องเสียชื่อหรือขาดความน่าเชื่อถือ ตลอดจนการใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ห้ามไม่ให้ประชาชนติดต่อกันทางสังคม และอื่น ๆ เป็นต้น[การทูต]
ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง[การทูต]
หมายถึง ตัวบุคคลของตัวแทนทางทูตจะถูกละเมิดมิได้ กล่าวคือ มาตรา 29 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติในเรื่องนี้ไว้ว่า ?ตัวบุคคลของตัวแทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้ ตัวแทนทางการทุตจะไม่ถูกจับกุมหรือกักขังในรูปใด ๆ ให้รัฐผู้รับปฏิบัติต่อตัวแทนทางการทูตด้วยความเคารพตามสมควร และดำเนินการที่เหมาะสมทั้งมวลที่จะป้องกันการประทุษร้ายใด ๆ ต่อตัวบุคคล เสรีภาพ หรือเกียรติของตัวแทนทางการทูต?ตัวบุคคลของตัวแทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้ นั้น ได้ถือเป็นปัจจัยหลักในการที่ให้ผู้แทนทางการทูตได้รับสิทธิและความคุ้มกัน ทั้งมวล ถึงกับมีการพูดกันว่า ผู้ใดประทุษร้ายต่อตัวเอกอัครราชทูต จักถือว่าเป็นการทำร้ายต่อประมุขของประเทศซึ่งผู้แทนทางการทูตผู้นั้นเป็น ตัวแทนอยู่ ทั้งยังถือว่าเป็นการยังผลร้ายต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชาติทั้ง มวลด้วยตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1964 ชายหนุ่มญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งมีจิตวิปลาส ได้ใช้มีดแทง นายเอ็ดวิน โอไรส์ชาวเออร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศญี่ปุ่น ในเขตนอกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงโตเกียว รัฐมนตรีว่าการกระทวงมหาดไทยญี่ปุ่นได้ลาออกจากตำแหน่งทันทีและรุ่งขึ้นใน วันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1964 นายอิเคดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในสมัยนั้น ได้ทำการขอโทษต่อประชาชนชาวอเมริกันทางวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการดำเนินการในทำนองนี้ และการที่นายกรัฐมนตรีอิเคดะได้ปฏิบัติดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า การที่ตัวบุคคลของผู้แทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้นั้น มีความสำคัญมากเพียงใดตัวแทนทางการทูตจะถูกจับ ถูกฟ้องศาล หรือถูกลงโทษฐานประกอบอาชญากรรมนั้นไม่ได้ เพราะถือว่าผู้แทนทางการทูตมิได้อยู่ในอำนาจศาลของรัฐผู้รับ อย่างไรก็ดี หากผู้แทนทางการทูตกระทำความผิดอย่างโจ่งแจ้ง รัฐผู้รับอาจขอให้รัฐผู้ส่งเรียกตัวกลับไปยังประเทศของเขาได้ในทันที[การทูต]
ความผิดทางการเมือง หลักการข้อหนึ่งของการส่งตัวผู้กระทำความผิดไปให้อีก ประเทศหนึ่ง หรือที่เรียกว่าการส่งผู้ร้ายข้ามแดน คือ ผู้ที่กระทำผิดทางการเมืองจะถูกส่งข้ามแดนไปให้อีกประเทศหนึ่งไม่ได้เป็นอัน ขาด แต่อย่างไรก็ดี มีปัญหาในปฏิบัติคือว่า จะแยกความแตกต่างกันอย่างไรระหว่างความผิดทางการเมือง กับที่มิใช่ด้วยเหตุผลทางการเมือง นักวิชาการบางท่านนิยามความหมายของคำว่าความผิดทางการเมืองไว้ว่า คือ ความผิดฐานกบฏ (Treason) ซึ่งในกฎหมายของหลายประเทศหมายถึงการประทุษร้าย หรือพยายามประทุษร้ายต่อประมุขของประเทศ หรือช่วยฝ่ายศัตรูทำสงครามกับประเทศของตน ความผิดฐานปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบภายในประเทศ (Sedition) หรือการประกอบจารกรรม (Espionage) อันเป็นการคุกคามต่อความั่นคงหรือต่อระบบการปกครองของประเทศผู้ร้องขอ (หมายถึงประเทศที่ร้องขอให้ส่งตัวผู้กระทำผิดไปให้ในลักษณะผู้ร้ายข้ามแดน) ไม่ว่าจะกระทำโดยคนเดียวหรือหลายคนก็ตาม[การทูต]
คือคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดม ออกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 โดยหัวหน้าคณะรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจีน ลงนามโดยประธานาธิบดีของรัฐบาลจีนคณะชาติ เป็นคำประกาศเมื่อตอนใกล้จะเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โดยฝ่ายสัมพันธมิตรดังกล่าวกำลังทำสงครามขับเคี่ยวอยู่กับฝ่ายญี่ปุ่น พึงสังเกตว่า สหภาพโซเวียต ในตอนนั้นมิได้มีส่วนร่วมในการออกคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดมแต่อย่างใดโดยแท้จริงแล้ว คำประกาศนี้เท่ากับเป็นการยื่นคำขาดให้ฝ่ายญี่ปุ่นตัดสินใจเลือกเอาว่าจะทำ การสู้รบต่อไป หรือจะยอมจำนนเพื่อยุติสงคราม คำประกาศได้เตือนอย่างหนักแน่นว่า หากญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะสู้รบต่อไป แสนยานุภาพอันมหาศาลของสัมพันธมิตรก็จะมุ่งหน้าโจมตีบดขยี้กองทัพและประเทศ ญี่ปุ่นให้แหลกลาญ แต่หากว่าญี่ปุ่นยอมโดยคำนึงถึงเหตุผล ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้ตั้งเงื่อนไขไว้หลายข้อ สรุปแล้วก็คือ ลัทธิถืออำนาจทหารเป็นใหญ่จะต้องถูกกำจัดให้สูญสิ้นไปจากโลกอำนาจและอิทธิพล ของบรรดาผู้ที่ชักนำให้พลเมืองญี่ปุ่นหลงผิด โดยกระโจนเข้าสู่สงครามเพื่อครองโลกนั้น จะต้องถูกทำลายให้สิ้นซาก รวมทั้งพลังอำนาจในการก่อสงครามของญี่ปุ่นด้วยจุดต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด จะต้องถูกยึดครองไว้จนกระทั่งได้ปฏิบัติตามจุดมุ่งหมายของสัมพันธมิตรเป็นผล สำเร็จแล้ว อำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นให้จำกัดอยู่เฉพาะภายในเกาะฮอนซู ฮ็อกไกโด กิวชู ชิโกกุ และเกาะเล็กน้อยอื่น ๆ ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด อาชญากรสงครามทุกคนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล รวมทั้งที่ทำทารุณโหดร้ายต่อเชลยศึกของสัมพันธมิตร รัฐบาลญี่ปุ่นจะต้องกำจัดสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการรื้อฟื้น และเสริมสร้างความเชื่อถือในหลักประชาธิปไตยในระหว่างพลเมืองญี่ปุ่น และจัดให้มีเสรีภาพในการพูด การนับถือศาสนา และในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมที่จะเกื้อกูลต่อภาวะ เศรษฐกิจของประเทศ และความสามารถที่จะชำระค่าปฏิกรรมสงคราม แต่จะไม่ยอมให้คงไว้ซึ่งกิจการอุตสาหกรรมชนิดที่จะช่วยให้ญี่ปุ่นสร้างสม อาวุธเพื่อทำสงครามขึ้นมาอีก ในทีสุด กำลังทหารสัมพันธมิตรจะถอนตัวออกจากประเทศญี่ปุ่นในทันทีที่จุดประสงค์ต่าง ๆ ได้บรรลุผลเรียบร้อยแล้ว ในตอนท้ายของเงื่อนไข สัมพันธมิตรได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข เสียโดยไว[การทูต]
หลักเกณฑ์ว่าด้วยการพิจารณาความผิดเฉพาะเรื่อง หลักเกณฑ์ไม่ให้ลงโทษผู้ร้ายข้ามแดนในความผิดอื่น นอกเหนือจากความผิดที่ขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน[การทูต]
ภารกิจของผู้แทนทางการทูตหรือหัวหน้าคณะทูตจะสิ้น สุดลง 1. ระยะเวลาที่ผู้แทนทางการทูตได้รับแต่งตั้งให้ประจำอยู่ในประเทศผู้รับได้ครบ กำหนดตามวาระ2. เมื่อวัตถุประสงค์ของภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติได้สัมฤทธิผลเรียบ ร้อยแล้ว3. ถูกเรียกตัวกลับเนื่องจากต้องโยกย้ายไปที่อื่น หรือลาออก หรือเนื่องจากครบเกษียณอายุ4. ถูกเรียกตัวกลับเนื่องจากไม่เป็นที่พอใจของรัฐบาลของตน หรือกระทำตามคำขอร้องของรัฐบาลของประเทศผู้รับ ซึ่งเขาได้รับแต่งตั้งให้ประจำทำงานอยู่5. เนื่องจากการเสด็จสวรรคตของพระมหากษัตริย์ของประเทศตน หรือประเทศที่ตนได้รับแต่งตั้งให้ประจำทำงาน6. หากตัวเขาเองได้กระทำการอันเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศบางอย่าง หรือเนื่องจากเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่คาดไม่ถึง และมีลักษณะร้ายแรงจริง ๆ ตัวเขาเองจะต้องรับผิดชอบในการตัดความสัมพันธ์7. เมื่อรัฐบาลผู้รับ ซึ่งตัวเขาได้รับแต่งตั้งให้ประจำทำงานอยู่นั้น แล้วจะด้วยเหตุผลอย่างใดก็ตาม ได้แจ้งให้เขาเดินทางออกไปจากประเทศในทันที โดยไม่ต้องระให้รัฐบาลของตนเรียกตัวกลับ8. เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งของผู้แทนทางการทูต ดังเช่น ได้รับเลื่อนตำแหน่งจากอัครราชทูตขึ้นเป็นเอกอัครราชทูต9. เนื่องจากเกิดสงครามขึ้นระหว่างรัฐทั้งสอง10. เนื่องจากถูกถอดจากตำแหน่ง หรือสละราชบัลลังก์ของประมุขของประเทศใดประเทศหนึ่ง 11. เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในประเทศใดประเทศหนึ่ง จากระบบพระมหากษัตริย์เป็นระบบสาธารณรัฐ หรือเป็นระบบสาธารณรัฐอันมีประมหากษัตริย์ทรงอยู่ใต้กฎหมาย12. เนื่องจากรัฐใดรัฐหนึ่งของทั้งสองรัฐต้องสูญสภาวะในการเป็นรัฐเหตุผลข้างต้น ทั้งหมดนี้ เป็นทรรศนะของเซอร์เออร์เนสท์ ซาทาว ซึ่งได้ให้ไว้ในหนังสือของท่าน ชื่อว่า ?A Guide to Diplomatic Practice? ฉบับเรียบเรียงใหม่ครั้งที่ 4 โดยเซอร์เนวิลล์ แบลนด์[การทูต]
อาชญากรรมสงคราม ตามกฎบัตรต่อท้ายความตกลงว่าด้วยการพิจารณาลงโทษ อาชญากรสางคามที่สำคัญ ๆ ของฝ่ายอักษะยุโรป (European Axis) การกระทำต่อไปนี้ถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามคือ การละเมิดกฎหมายหรือประเพณีของการสงคราม เช่น การฆ่า การปฏิบัติอันโหดร้าย หรือการขับคนไปทำงานเยี่ยงทาส หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด ซึ่งกระทำต่อราษฎรพลเรือนของดินแดนที่ถูกยึดครอง การฆ่าหรือปฏิบัติอย่างโหดร้ายต่อเชลยศึกหรือบุคคลในท้องทะเล การฆ่าตัวประกัน การปล้นสะดมทรัพย์สินสาธารณะหรือส่วนบุคคล การทำลายล้างตัวเมืองหรือหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่จำเป็นในแง่การทหาร[การทูต]
งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก[การทูต]
การก่อการร้ายชีวภาพ, การก่อการร้ายชีวภาพ การก่อการร้ายที่ข่มขู่หรือตั้งใจใช้สารชีวภาพ เช่น เชื้อโรคต่างๆ เช่น แบคทีเรียหรือไวรัส) หรือชีวพิษExample:การก่อการร้าชีวภาพ สร้างความกลัวให้กับกลุ่มคนเป้าหมายหรือสังคมโดยรวม โดยสิ่งต่างๆ เหล่านี้อาจได้มาจากธรรมชาติหรืออยู่ในรูปที่ดัดแปลงโดยมนุษย์ก็ได้ และอาจใช้ในรูปฝุ่น ผง หรือทำให้ปนเปื้อนไปกับอาหารหรือน้ำ เป็นต้น[เทคโนโลยีชีวภาพ]
เนื้องอกของไอซ์เลทส์เซลล์ชนิดไม่ร้าย, เนื้องอกไอซ์เลท[การแพทย์]
เลือดจางอะพลาสติก, โลหิตจางชนิดอพลาสติค, โรคไขกระดูกไม่ทำงาน, โลหิตจางอพลาสติค, โลหิตจางอะพลาสติก, อพลาสติคอนีเมีย, อพลาสติคแอนีเมีย, โรคโลหิตจางที่ไม่มีการเกิดใหม่ของเม็ดเลือดแดง, โลหิตจางเนื่องจากไขกระดูกไม่ทำงาน, โรคโลหิตจาง, ไขกระดูกไม่สร้างเม็ดเลือด, โรคโลหิตจางแบบร้ายแรง[การแพทย์]
โรคโลหิตจางชนิดร้ายแรง, โรคโลหิตจางแบบเพอร์นิเชียส, โรคเลือดจางอย่างร้าย, โรคโลหิตจางอย่างแรง, โรคเลือดจางแบบร้าย, โลหิตจางร้ายแรง, โรคโลหิตจาง, โลหิตจางชนิดเพอนิเซียส, โรคโลหิตจางเพอร์นีเชียส, โรคโลหิตจางอย่างร้ายแรง, โรคโลหิตจางอย่างแรง, โรคเลือดจางอย่างร้าย, เปอร์นิเซียสอะนีเมีย, โลหิตจางแบบเพอร์นิเชียส, เลือดจางเปอร์นิเชียส[การแพทย์]
โลหิตจางร้ายแรง[การแพทย์]
ไม่ยินดียินร้าย, เฉยเมยไร้อารมณ์ใดๆทั้งสิ้น, อาการเฉยเมย, เฉยเมย, อารมณ์เฉยชา, ความเฉยเมยเซื่องซึม[การแพทย์]
มีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย[การแพทย์]
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
[ākhātmatrāi] (v) EN: have a great malice
[amnāt chūarāi] (n, exp) EN: evil power
[ārom rāi] (adj) EN: bad-tempered ; hot-tempered ; bad disposition
[chatā rāi] (n, exp) EN: bad luck  FR: malheur [ m ]
[chōkrāi] (n) EN: bad luck ; misfortune  FR: malchance [ f ] ; infortune [ f ] ; mauvaise fortune [ f ] ; déveine [ f ] (fam.) ; poisse [ f ] (fam.) ; guigne [ f ] (fam.) ; guignon [ m ] (fam. - vx) ; cerise [ f ] (arg.)
[chūarāi] (adj) EN: wicked ; bad ; low ; evil ; sinful  FR: méchant ; malveillant
[dāo rāi] (n, exp) EN: bad character
[durāi] (adj) EN: fierce  FR: féroce ; cruel
[fan rāi] (n, exp) EN: nightmare ; bad dream  FR: cauchemar [ m ] ; mauvais rêve [ m ] ; rêve affreux [ m ]
[fan rāi] (v, exp) EN: have a nightmare ; have bad dreams  FR: faire des cauchemars ; faire de mauvais rêves ; cauchemarder (fam.)
[hairāi] (v, exp) EN: defame ; malign ; slander ; smear ; vilify ; abuse  FR: calomnier ; diffamer
[hētkān rāiraēng] (n, exp) EN: tragedy  FR: tragédie [ f ]
[hōtrāi] (adj) EN: cruel ; pitiless ; brutal ; atrocious ; vicious ; heartless ; ruthless ; insensate ; unkind  FR: cruel ; atroce ; sans pitié ; brutal ; insensible
[jāi ngoen yāng suruisurāi] (v, exp) EN: throw money out of the window  FR: jeter l'argent par la fenêtre/les fenêtres
[jairāi] (adj) EN: evil-minded ; cruel ; wicked ; merciless ; pitiless ; vicious ; heartless ; unkind ; mean  FR: mauvais ; méchant
[jairāi jang] (xp) EN: you are wicked ! ; how could you !
[jēttanā rāi] (n, exp) EN: evil intentions ; ill-will  FR: mauvaises intentions [ fpl ] ; intention malveillante [ f ]
[jēttanā rāi] (x) EN: with malice ; with evil intent ; malicious
[jōn phūrāi] (n) EN: criminal ; thief ; robber ; bandit ; burglar  FR: bandit [ m ] ; voleur [ m ] ; criminel [ m ]
[kān løpthamrāi] (n, exp) EN: ambush
[kān sommot saphāp thī lēorāi thīsut] (n, exp) EN: worst-case scenario
[kān song phūrāi khām daēn] (n, exp) EN: extradition  FR: extradition [ f ]
[khamrøngkhø hai song phūrāi khām daēn] (n, exp) EN: extradition request
[khan rāiraēng māk] (n, exp) EN: critical stage
[khāo rāi] (n, exp) EN: bad news  FR: mauvaise nouvelle [ f ]
[khit rāi] (v, exp) EN: have malice ; have wicked intentions ; harbour evil designings ; harbour evil thoughts  FR: être animé de mauvaises intentions
[khomhēngkhanēngrāi] (v) EN: bully ; annoy ; persecute ; hector
[khon chūarāi] (n, exp) EN: ruffian
[khonrāi] (n) EN: outlaw ; criminal ; malefactor  FR: malfaiteur [ m ]
[khøtoklong song phūrāi khām daēn] (n, exp) EN: extradition treaty  FR: traité d'extradition [ m ]
[khrǿrāi] (n) EN: misfortune ; unfortunate ; adversity ; bad luck ; misadventure ; mischance  FR: malheur [ m ] ; malchance [ f ]
[khwām chūarāi] (n) EN: malignance ; vice ; wickedness ; viciousness ; atrocity ; evilness ; harm ; badness  FR: méchanceté [ f ] ; malveillance [ f ]
[khwām durāi] (n) EN: cruelty  FR: cruauté [ f ] ; férocité [ f ]
[khwām hōtrāi] (n) EN: ferocity ; wickedness ; cruelness  FR: cruauté [ f[ ; atrocité [ f ]
[khwām jairāi] (n) EN: meanness
[khwām lēorāi] (n) EN: vileness
[køkān rāi] (v, exp) EN: terrorize ; cause terrorism ; cause violence  FR: causer des violences
[lāng rāi] (n, exp) FR: mauvais présage [ m ] ; mauvais augure [ m ]
[lēorāi] (v) EN: be bad
[lēorāi thīsut] (adj) EN: worst-case  FR: pire
[løpthamrāi] (v) EN: ambush
[mī jēttanā rāi] (adj) EN: hateful
[møng nai ngae rāi] (v, exp) EN: look at the dark side ; be pessimistic  FR: être pessimiste ; voir le mauvais côté des choses
[neūarai] (n, exp) EN: cancer ; malignant tumor ; gangrene  FR: cancer [ m ] ; tumeur maligne [ f ] ; gangrène [ f ]
[ngae rāi] (v) EN: pessimism ; inclination to expect the worst  FR: pessimisme [ f ]
[ngū leūam phā rāi] (n, exp) EN: Dog-toothed Cat Snake
[pāk rāi] (v) EN: be sharp-tongued ; be foul-mouthed ; be given to abuses ; be bitter of speech  FR: être mauvaise langue
[pen lāng rāi] (v) EN: bode ill ; be ill-omened
[pen lāng rāi] (adj) EN: sinister
[phī rāi] (n, exp) FR: esprit malfaisant [ m ] ; génie malfaisanrt [ m ]
Longdo Approved EN-TH
(n)ป้อมตำรวจ ตั้งอยู่ตามสถานที่ชุมชมเพื่อรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย หรือให้ความช่วยเหลือต่างๆ แก่ประชาชน (คำนี้มาจากคำภาษาญี่ปุ่น, ในประเทศญี่ปุ่นจะมีป้อมในลักษณะนี้ตามจุดต่างๆ ทั่้วเมือง)
(n)กลุ่มผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ
(n)กลุ่มผู้ก่อการร้ายสากล
(n, slang)นักเลง, อันธพาล, วายร้าย, ผู้ร้าย, ฆาตกร, อาชญากร
(adj)ตรงกันข้าม, ในทางลบ, เป็นผลร้าย, เสียเปรียบ, ในทิศทางตรงข้ามSee Also:adverseness n.Syn.opposing
(n)ความสามารถที่จะไม่ถูกตีให้แตกได้, ความเข้มแข็งต่อการถูกกระทบหรือทำร้ายได้ทั้งทางจิตใจและร่างกาย
ช่วงเวลาสำหรับเหล่าแม่มดที่โชคร้ายที่ถูกกดขี่ข่มเหงในยุคกลาง ซึ่งเหล่าแม่มดถูกใส่ร้าย ป้ายคำโป้ปดต่างๆ, เหล่าแม่มดถูกจับเผาทั้งเป็นในสก็อตแลนด์และภาคพื้นทวีปยุโรป ส่วนในอังกฤษและสหรัฐอเมริกา พวกเธอถูกจับแขวนคอ(ทั้งเป็น)
(n)กลุ่มผู้ก่อการร้ายอัลกออิดะ
กลุ่มผู้ก่อการร้ายอัลกออิดะ
(n)การระรานทางไซเบอร์, การกลั่นแกล้ง การให้ร้าย การด่าว่า การข่มเหง หรือการรังแกผู้อื่นทางสื่อสังคมต่าง ๆ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ [ ศัพท์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับราชบัณฑิตยสภา ]
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
(n)สถานการณ์ที่เลวร้าย
(n)เหตุร้ายSee Also:อุปัทวเหตุ
(n)ผู้ที่ดักลอบทำร้าย
(n)โรคติดต่อร้ายแรงในสัตว์เลี้ยง (เช่น วัว ควาย)See Also:โรคแอนแทร็คซ์
(adj)ที่ขจัดความชั่วร้าย
(adv)อย่างเลวร้ายSyn.poorly, horribly, badly
(idm)ทำให้เลวร้ายขึ้น (โดยเฉพาะทำให้เศร้าเสียใจ, ทำให้อันตรายมากขึ้น)
(n)การนินทาลับหลังSee Also:การพูดให้ร้าย, การลอบกัดSyn.calumny, slander
(n)ผู้ร้ายSee Also:คนชั่ว, คนไม่ดีSyn.baddyAnt.good guy, brick
(n)ผู้ร้ายSee Also:คนชั่ว, คนไม่ดีSyn.bad guyAnt.goody
(n)ผู้ร้ายSee Also:คนชั่ว, คนไม่ดีSyn.baddyAnt.goody
(vt)พูดให้ร้ายคนอื่น
(n)ความเลวSee Also:ความชั่วร้ายSyn.evil, wickednessAnt.goodness
(adj)มุ่งร้ายหรือร้ายกาจSee Also:ทำให้เกิดอันตรายSyn.baleful, baneful, harmful
(n)ผู้ร้ายSee Also:โจรSyn.highwayman, thief
(n)การขโมยและก่อความรุนแรงของผู้ร้าย
(n)คนหยาบคายSee Also:คนโหดร้ายSyn.boor, fiend
(vt)กระทำป่าเถื่อนSee Also:ทำโหดร้ายSyn.brutalize
(adj)ป่าเถื่อนSee Also:หยาบคาย, โหดร้าย, ดุร้ายSyn.uncivilizedAnt.civilized
(n)ปลาทะเลบาราคิวดาตระกูล SphyraenaSee Also:ดุร้ายและมีฟันแหลมคม
(n)การทำร้ายร่างกายSee Also:การโจมตี, การต่อสู้
(n)คนอารมณ์ร้าย
(adj)โหดร้ายและน่าขยะแขยง
(adj)ซึ่งพูดให้ร้ายคนอื่น
(adj)ชั่วร้ายSyn.evil, wicked
(n)การทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงเนื่องจากความสะเพร่าSyn.gaffe
(vt)โจมตีโดยการใช้ระเบิดหรือปืนที่มีอานุภาพร้ายแรงSee Also:ถล่ม, กระหน่ำ, จู่โจมSyn.assail, attack
(n)การโจมตีโดยการใช้ระเบิดหรือปืนที่มีอานุภาพร้ายแรงSyn.attack
(n)สิ่งที่ให้ผลร้ายแบบไม่คาดคิดแก่ผู้ที่ทำหรือพูดออกไปSyn.backfire
(vi)ส่งผลร้ายย้อนกลับมาSyn.backfire
(adj)สภาพเลวร้ายมากSee Also:เหนื่อยและป่วยมาก
(adj)ถูกทารุณSee Also:ถูกทำร้ายร่างกาย
(adj)โหดร้ายSee Also:รุนแรงSyn.cruelAnt.kindly
Hope Dictionary
(อะบิวซ) vt., n. ใช้ในทางผิด, ใช้มากเกินไป, ใช้เป็นโทษ, หลอกลวง, ข่มขืน, ชำเรา, กล่าวร้าย. -abusive adj., -abuser n.
(อะเคอร์' ซิค) adj. ถูกสาปแช่ง, เคราะห์ร้าย, น่าชิงชัง, อัปรีย์. -accursedness n.Syn.cursed, doomed, condemned
(อะคิวทฺ') adj. แหลม, คม, รุนแรง, เข้มข้น, เหี้ยม, เฉียบแหลม, มีไหวพริบดี, ไว, มีมุมนแหลม, ตาคมกริบ, ร้ายแรง, เสียงสูง. -acuteness n.Syn.keen, intenseAnt.dull, mild
(แอดดิแอฟ' ฟอรัส) adj. ไม่ดีและไม่ร้ายต่อ (doing neither good nor harm)
(แอดเวอส', แอด' เวอส) adj. ตรงกันข้าม, เป็นปฏิปักษ์, เป็นผลร้าย, เสียเปรียบ, หันไปทางแกน, ในทิศทางตรงข้าม. -adverseness n.Syn.opposing, damaging
(แอดเวอ' ซีที) n. ความเคราะห์ร้าย, ภัยพิบัติSyn.misfortune, calamity
(แอฟ' รีท , อะฟรีท') n. ปีศาจร้ายในนิยายอาหรับ (monster, afrit)
(เอล' เฮาซฺ) n. ร้ายขายเหล้าที่มี ale ขาย
(แอม' มะซอน) n. แม่น้ำอะเมซอนในภาคเหนือของอเมริกาใต้, หญิงที่ดุร้ายและตัวสูงใหญ่. -Amazonian adj.
(แอม' เซส) n. โชคร้าย, ระยะทางที่สั้น ที่สุด . ปริมาณที่น้อยที่สุด, ระยะทางที่สิ้นที่สุด, ของที่มีมาตรฐานต่ำสุด, ของที่ไร้ค่าที่สุด
(แอมบัสเคด') n., vt., vi. การซุ่มโจมตี, การคอยดักทำร้าย. -ambuscader n.Syn.ambush
(แอม' บุช) n., vt. การซุ่มโจมตี, การคอยดักทำร้าย, ที่ที่คอยดักทำร้าย, ที่ซุ่มโจมตี, ผู้ซุ่มโจมตีหรือทำร้าย, ซุ่มโจมตีหรือทำร้าย. -ambusher n. -ambushlike adj.Syn.waylaying, hiding, cover
(แอน' นิเมิล) n. สัตว์, คนที่คล้ายสัตว์, สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม, คนที่โหดร้ายคล้ายสัตว์. -adj. เกี่ยวกับสัตว์. -animalic, animalian adj.Syn.creature, beastAnt.human
(แอน' แธรค') n., (pl. -thraces) โรคติดต่อร้ายแรงในสัตว์เลี้ยง (วัวควาย และอื่น ๆ) เนื่องจากเชื้อ Bacillus anthracis, โรคฝีฝักบัวร้ายแรงในคน, โรคกาลีในสัตว์
(แอพพะโทรเพ'อิด) adj. เพื่อขนัดสิ่งชั่วร้าย (intended to avert evil)
(อะเรน') vt. นำตัวมาขึ้นศาล, กล่าวหา, กล่าวร้าย-arraigner n. (charge, accuse)
(แอร์'เรินทฺ) adj. เหลือเกิน, อย่างที่สุด, โดยสิ้นเชิง, ตลอด, ร้ายกาจSyn.flagrant, egregious, baseAnt.proper, decent
(อัสเพิร์ส') vt. ใส่ร้าย, ป้ายร้าย, พรมน้ำ -asperser n. -aspersive adj.
(อัสเพอ'เชิน, -เชิน) n. ข้อกล่าวหา, การใส่ร้าย, การป้ายร้าย, การพรมน้ำมนต์
(อะเซล') vt. โจมตี, ป้ายร้าย, รุกราน, กล่าวหา, ทำร้าย-assailer, assailment n.
(อะเซ'เลินทฺ) n. ผู้โจมตี, ผู้ป้ายร้าย
(เอ'ธีอิสซึม) n. ความเชื่อที่ว่าไม่มีพระเจ้า, ความไม่มีพระเจ้า, ความชั่วร้าย
(อะโทร'เชิส) adj. โหดร้าย, ชั่วร้าย, น่ากลัว, ดุร้าย, เลวร้าย, ข่มขืนใจสตรี.
(อะทรอส'ซิที) n. ความโหดร้าย, ความชั่วภัย, ความน่ากลัว, ความดุร้าย, สิ่งชั่วร้าย, การกระทำที่ชั่วร้ายSyn.enormity, outrage, crime
(อะแทค') vt., vi., n. โจมตี, เข้าตี, ทำร้าย, เล่นงาน, ลงมือทำ, (โรค) เป็น, (ไข้) จับ, ลงมือทำ, เริ่มขึ้น, เริ่มต้น, ข่มขืน, พยายามข่มขืน
(ออ'ซัม) adj. น่ากลัว, ทำให้น่ายำเกรง, ร้ายแรง. -awesomeness n.
(แบบ'บิลอน) n. เมืองหลวงของBabylonis โบราณ, เมืองที่มีความหรูหราฟุ่มเฟือยและชั่วร้าย
(แบด) adj. เลว, ร้ายSyn.evilAnt.upright -Conf. bade, ill
(แบด'เทมเพิร์ดฺ) adj. อารมณ์ร้าย, อารมณ์ไม่ดีSyn.irritable
(แบด'ลี) adj., adv. เลว, ร้าย, บกพร่อง, ไม่ถูกต้อง, มีอารมณ์กลัดกลุ้ม, ป่วยSyn.not well
(เบล) n. ห่อใหญ่, มัดใหญ่, ม้วนใหญ่, ความชั่ว, ความหายนะ, ความเคราะห์ร้าย, ความทุกข์ทรมาน, ความเสียใจ vt. บรรจุหีบห่อSee Also:baler, n.
(เบล'ฟูล) adj. มุ่งร้าย, ร้ายกาจ, ชั่วร้ายSyn.evil, sinisterAnt.good
(บาร์แบร์'ริที) n. ความโหดร้าย, การกระทำที่โหดร้าย, ความทารุณ, ความหยาบSyn.savagery
(แบส'เทิร์ด) n. ลูกไม่มีพ่อ, ลูกนอกกฎหมาย, พันทาง, สิ่งสารเลว, สิ่งปลอมแปลง, วายร้าย, อ้ายชั่ว adj. เกิดแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย, ผิดปกติ, พิกล, เลว, ปลอม, เชื่อถือไม่ได้, ทำให้ผิดกฎหมาย)See Also:bastardly adj. ดูbastard bastardy n. ดูbastard
(แบ'ริช) adj. คล้ายหมี, หยาบ, งุ่มง่าม, อารมณ์ร้ายSyn.clumsy
(บะลิจ'เจอเรินทฺ) adj. ชอบสงคราม, ทำสงคราม, มุ่งร้าย, ก่อสงคราม n. ภาวะสงคราม, ฝ่ายที่เข้าทำสงครามSyn.pugnaciousAnt.pacific
(บิสแพท'เทอะ) { bespattered, bespattering, bespatters } vt. ทำให้เปื้อน, ทำให้เป็นจุด ๆ , สาด, สาดโคลน, ให้ร้าย, โปรยSyn.soil, make sparkle
(เบส'เชิล) adj. เกี่ยวกับสัตว์ป่า, เหมือนสัตว์ป่า, โหดร้าย, ทารุณ, ซึ่งไร้เหตุผล, ไร้ปัญญาSyn.animalisticAnt.human, humane
(ไบลฺ) n. น้ำดี, อารมณ์ร้ายSyn.peevishness
(บิล'เยิส) adj. เกี่ยวกับน้ำดี, ซึ่งมีน้ำดีออกมากผิดปกติ, เป็นโรคตับหรือน้ำดี, มีอารมณ์ร้าย
(บิทชฺ) n. สุนัขตัวเมีย, แม่สุนัข, หญิงร้ายที่เห็นแก่ตัว, หญิงสำส่อน, หญิงเลวSee Also:bitchy adj. ดูbitch bitchiness n. ดูbitch
(บิท'ชี) adj. เกี่ยวกับสุนัขตัวเมียหรือแม่สุนัข, ร้าย.See Also:bitchiness n.
(แบลค) { blacked, blacking, blacks } adj. ด่า, สีดำ, สวมเสื้อสีดำ, เกี่ยวกับนิโกร, เปื้อน, ผิวดำ, มุ่งร้าย, เป็นอันตราย, แห้งแล้ง, มลทิน, ด่างพร้อย, มืดมน, นิโกร, อารมณ์เสีย, ไม่ใส่ครีม (กาแฟ) n. คนผิวดำ, จุดดำ, เครื่องดำ, เครื่องไว้ทุกข์, ตาฟกช้ำ, สารสีดำ, ม้าดำ, เสื้อสีดำ vt. ท
n. โรคเฉียบพลันร้ายแรงในแกะเนื่องจากเชื้อ Clostridium novyi
n. แกะดำ, คนผ่าเหล่า, นิ้วร้าย
(แบลค'เคิน) vt. ทำให้ด่า, พูดให้ร้าย, กล่าวร้าย, ด่า. vi. กลายเป็นสีดำหรือมืดSee Also:blackener n. ดูblackenSyn.defame
(แบลค'ลี่) adv. มืด, ร้าย, โกรธ
(เบลม) { blamed, blaming, blames } vt. กล่าวโทษ, ตำหนิ, ประณาม, นินทา, กล่าวร้าย, โยนความผิดให้ -Phr. (be to blame ควรถูกตำหนิ, ควรรับผิดชอบ) n. การตำหนิ, ความรับผิดชอบ, ภาระSee Also:blamer n. blameful adj. ดูblame blameless adj. ดูblame -Conf. put
(แบลสฟีม') { blasphemed, blaspheming, blasphemes } v. ดูหมิ่น, สบประมาท, กล่าวร้าย, ด่า , ดูหมิ่นศาสนาSee Also:blasphemer n. ดูblaspheme
(บลาสฺ'ทิด) adj. เหี่ยว, ถูกทำลาย, เฮงซวย, ถูกสาปแช่ง, วายร้ายSyn.destroyed
Nontri Dictionary
(adj)ถูกแช่ง, ถูกสาป, เคราะห์ร้าย, อัปรีย์
(n)การกล่าวหา, การใส่ความ, การใส่ร้าย
(vt)กล่าวหา, ใส่ร้าย, ใส่ความ
(adj)ตรงข้าม, สวน, เป็นปฏิปักษ์, เป็นผลร้าย
(n)ความขัดสน, ความทุกข์ยาก, ภัยพิบัติ, ความเคราะห์ร้าย
(vt)ทำให้เลวลง, ทำให้รุนแรงขึ้น, ทำให้ร้ายแรงขึ้น
(n)การทำให้ร้ายแรงขึ้น, การทำให้รุนแรงขึ้น
(n)การซุ่มทำร้าย, การดักโจมตี, ที่ซุ่ม
(vt)ดักโจมตี, ดักทำร้าย, ซุ่มทำร้าย
(adj)ไม่แยแส, เฉยเมย, เฉื่อยชา, ไม่ยินดียินร้าย
(adj)มาก, อย่างที่สุด, เลวมาก, ร้ายกาจ
(vt)กล่าวหา, ใส่ร้ายป้ายสี, แพร่ข่าวเท็จ
(n)การกล่าวหา, การใส่ร้าย, ข่าวเท็จ
(vt)ทำร้าย, ก้าวร้าว, ด่าว่า, โจมตี, รุกราน, ต่อสู้
(n)ผู้ทำร้าย, ผู้โจมตี, ผู้ป้ายร้าย
(n)การเข้าทำร้าย, การจู่โจม, การโจมตี, การข่มขืน
(vt)ทำร้าย, โจมตี, จู่โจม, ข่มขืน
(adj)โหดร้าย, ป่าเถื่อน, ชั่วร้าย, ทารุณ, น่ากลัว, เลวร้าย
(adv)อย่างโหดร้าย, อย่างชั่วร้าย, อย่างทารุณ, อย่างเลวร้าย
(n)ความโหดร้าย, ความดุร้าย, ความป่าเถื่อน, ความทารุณ, ความร้ายกาจ
(vt)ต่อสู้, โจมตี, จู่โจม, ทำร้าย, เล่นงาน
(adj)น่ากลัว, ร้ายแรง, น่าหวาดเสียว, น่ายำเกรง
(n)คนร้าย, โจร, คนเลว, คนนอกกฎหมาย
(adj)ร้ายแรง, ชั่วร้าย, ร้ายกาจ
(n)โจร, ผู้ร้าย, คนนอกกฎหมาย
(adj)มีอันตราย, มีผลร้าย, เป็นพิษ
(n)ความป่าเถื่อน, ความโหดร้าย, ความทารุณ
(adj)ป่าเถื่อน, โหดร้าย, ดุร้าย, ทารุณ
(adj)คล้ายหมี, งุ่มง่าม, หยาบคาย, อารมณ์ร้าย
(vt)ทำให้เปรอะ, ทำให้เปื้อน, ให้ร้าย, สาด, โปรย
(adj)เยี่ยงสัตว์ป่า, อย่างสัตว์เดรัจฉาน, โหดร้าย
(n)น้ำดี, อารมณ์ร้าย
(adj)เกี่ยวกับน้ำดี, โมโหร้าย, มีอารมณ์ร้าย, โทสะร้าย
(n)แกะดำ, นิ้วร้าย, คนผ่าเหล่า, คนเลวทราม
(vi, vt)กลายเป็นสีดำ, ใส่ร้ายป้ายสี
(vt)กล่าวโทษ, ติเตียน, ตำหนิ, ประณาม, กล่าวร้าย
(n)คนน่าเหยียดหยาม, คนไร้ค่า, คนวายร้าย
(adj)กระหายเลือด, โหดร้าย
(n)ลางบอกเหตุ, ลางสังหรณ์, ลางร้าย
(n)โจร, ผู้ร้าย
(adj)ทารุณ, ดุร้าย, โหดร้าย, โหดเหี้ยม
(n)ความทารุณ, ความโหดร้าย, ความโหดเหี้ยม
(adj)ดุร้าย, เหี้ยมโหด, เหมือนสัตว์ร้าย
(n)สัตว์เดรัจฉาน, สัตว์ป่า, สัตว์ร้าย
(adj)โหดเหี้ยม, เหมือนสัตว์ร้าย, คล้ายสัตว์ป่า
(n)นักย่องเบา, ขโมย, ผู้ร้าย, พวกตีนแมว
(n)คนซ่องสุมกัน, แผนร้าย
(vt)หมิ่นประมาท, สบประมาท, ใส่ร้าย
(adj)ใส่ร้าย, สบประมาท, หมิ่นประมาท
(n)การใส่ร้าย, การสบประมาท, การหมิ่นประมาท
Longdo Unapproved EN-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
(adj)แย่สุดๆ, เลวร้ายมาก, ที่มีมาตรฐานต่ำมาก
(adv)อย่างเป็นผลร้าย อย่างเป็นผลลบ (ใช้กับบัญชี)ที่ติดลบSyn.hostilely
(uniq)เทศกาลเฉลิมฉลอง หนึ่งใน เทศกาลแห่งเปลวเพลิง ซึ่งรับทอดมาจากศาสตร์เซลติกโบราณ ซึ่งนิยมจะเฉลิมฉลองกันในยามค่ำคืน เพแกนจะขี่เหล่าปศุสัตว์ระหว่างกองไฟซึ่งก่อ ณ กลางแจ้ง ทั้งสองกอง เป็นความเชื่อว่าจะปกป้องพวกเขาจากโรคร้าย ส่วนคู่หนุ่มสาวที่ปราถณาจะมีชีวิตคู่ที่ชุ่มชื่นก็จะ "กระโดดเหนือกองไฟ" ในคืน Beltane
(slang)ผีเข้าผีออก, เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
(n, vi, vt)ใจร้าย
(vt)แก้สถานการณ์หรือความรู้สึกที่เลวร้าย
(vi)หยุด, อย่ากระดุกกระดิก (เป็นคำที่ตำรวจใช้ในการสั่งให้คนร้ายหยุดการเคลื่นไหวใดๆ ขณะเข้าจับกุม)See Also:Don't moveSyn.Stop
เครื่องรางที่มีรูปหัวของกอร์กอน เป็นสัญลักษณ์ต่อต้านความชั่วร้ายและภยันตราย
[ลูซิเฟอร](n)ลูซีเฟอร หรือซาตาน เป็นคนที่ก่อเหตชั่วร้ายให้กับมนุษย์ เป็นบิคาแห่งความชั่ว ตามความเชื่อศาสนาคริสต มันมีหลายชื่อ เช่น ดาวประจำกลางวัน มาร พญามาร งูดึกดำบรรณ ซาตาน
อย่างร้ายแรง
(n)การไล่ทำร้ายและสังหาร เช่นการไล่ทำร้ายและสังหารชาวยิว หรือการไล่ทำร้ายและสังหารผู้นับถือคริสต์ศาสนาในสมัยคริสเตียนยุคแรก
โรคอักเสบเฉียบพลันที่เกี่ยวข้องกับทุกชั้นของผนังหลอดเลือดแดงและมีลักษณะโดยการเสื่อมสภาพเนื้อร้ายการขับถ่ายและการก่อตัวของก้อนอักเสบตามแนวด้านนอก
เป็นความผิดปกติของลักษณะการตั้งครรภ์โดยความดันโลหิตสูงและจำนวนมากของโปรตีนในปัสสาวะ ความผิดปกติที่มักจะเกิดขึ้นจากสัปดาห์ที่28ของการตั้งครรภ์และได้รับผลเลวร้ายเมื่อปล่อยเวลาผ่านไป ในโรครุนแรงอาจจะมีการสลายของเซลล์เม็ดเลือดแดง, เกล็ดเลือดต่ำนับ, การทำงานของตับบกพร่อง, การผิดปกติของไต, บวม, หายใจถี่เนื่องจากของเหลวในปอด, หรือผลกระทบกับมองเห็นภาพ
(n)โรคเครียดหลังเหตุการณ์ร้ายแรง (Post-Traumatic Stress Disorder)
[เรเว่น](n, name)นกขนาดใหญ่ขนสีดำนิสัยดุร้าย ไม่ชอบรวมเป็นฝูง ลักษณะคล้ายอีกา
ความผิดปกติของเซลล์กล้ามเนื้อม, อาจนำไปสู่สภาวะร้ายแรง การสลายตัวของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อโครงร่างเป็นผลมาจากการเกิดไฟฟ้าหรือการสัมผัสเป็นเวลานานกับสารพิษ (ลักษณะการขับถ่ายของ ปัสสาวะออกมาสีดำเหมือนน้ำโคคาโคล่า ในปัสสาวะ)
เนื้องอกร้ายของอัณฑะ; มักจะเกิดขึ้นในผู้ชายที่มีอายุมากกว่า
(phrase)คำอุทานเมื่อมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น หรือเมื่อความผิดที่ปกปิดเป็นที่ปรากฏต่อสาธารณะ (แปลตามตัวอักษรคือ อุจจาระถูกใบพัดลมหมุนปัดกระจายไปทั่ว)
(n)การทำร้ายร่างกายตัวเอง
(n, vt)ช็อตด้วยไฟฟ้า tasers, tasered, tasering (To taser someone) Taser เป็นยี่ห้อปืนไฟฟ้ายี่ห้อหนึ่ง เป็นอาวุธที่ใช้เพื่อป้องกันตัว หรืออาวุธที่ตำรวจใช้เพื่อทำให้ผู้ร้ายล้มลง หรือหมดสติ ได้ข้อมูลจาก answers.com A Taser is an electroshock weapon that uses Electro-Muscular Disruption (EMD) technology[ 1 ] to cause neuromuscular incapacitation[ 2 ] (NMI) and strong muscle contractions through the involuntary stimulation of both the sensory nerves and the motor nerves.
Image:
taser
(slang)ทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น โดยทำให้ใครบางคนโกรธหรือเสียใจมากกว่าเดิม ex. Martha's still mad at you, so don't go adding fuel to the fire by arguing with her right now. Let her calm down, first.
(slang)ทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น โดยทำให้ใครบางคนโกรธหรือโศกเศร้ามากกว่าแต่ก่อน ex. He not only ignored to call but he also added fuel to the flames by coming to the meeting 1 hour late.
(adj)1. ไม่มีความระมัดระวัง, ไม่มีเหตุผล 2. ป่าเถื่อน, โหดร้าย 3. (ต้นไม้) ขึ้นอย่างไม่ยับยั้ง 4. (ผู้หญิง) ทำตัวเสเพล
พื้นที่กว้าง / ทิ้งระยะห่าง เพื่อหลีกเลี่ยงผลร้ายที่จะเกิดขึ้น
Longdo Approved JP-TH
[つんでれ, tsundere](adj)อาการที่แสดงออกทางบุคลิกภาพทีแรกเป็นแบบ เย็นชา หรือกระทั่ง โหดร้าย (คือคำว่า ツンツン tsun tsun) ต่อใครคนหนึ่ง แต่ภายหลังก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยน (คือคำว่า デレデレdere dere) เป็นคำที่เริ่มแรกใช้ในการ์ตูน, anime ในประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะขยายวงกว้างเป็นที่เข้าใจกันแพร่หลายมากขึ้น
[てろ, tero](n)การก่อการร้ายSee Also:テロリズム
[てろりずむ, terorizumu](n)การก่อการร้ายSee Also:テロ
[ふしあわせ, fushiawase](n)ความซวย ความโชคร้ายSyn.しあわせでないこと, 不仕合わせ
[じんせいさいあく, jinseisaiaku](n)สิ่งเลวร้ายที่สุดในชีวิต
[ざんこく, zankoku]การกระทำที่โหดร้าย
[ひなんくんれん, hinankunren](n)การฝึกหลบภัย หรือหนีภัย ในญี่ปุ่นจะมีการฝึกทั้งหนีภัยแผ่นดินไหว ไฟไหม้ในโรงเรียน ในปัจจุบันมีภัยจากคนร้ายที่เข้าไปฆ่าเด็กนักเรียนชั้นประถม จึงทำให้มีการฝึกหนีภัยคนร้ายด้วย
Longdo Unapproved JP-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
残忍
[ざんにん, zannin]การกระทำที่โหดร้าย
落ち込む
[おちこむ, ochikomu](vt)ตกลงไป บุ๋ม ยุบเป็นแอ่ง ตกอยู่ใน(สภาพเลวร้าย) ท้อแท้สิ้นหวังหมดกำลังใจ
วิกฤต
[おちこむ]เหตุการณ์ร้ายแรง
スミアー
[すみあー, sumia]ใส่ร้าย
ぼやける
[ぼやける, boyakeru](vi, vt, adj)(ดิม) { dimmed, dimming, dims } adj. ทึบ, หมอง, สลัว, ไม่สว่าง, พร่า, คลุมเครือ, เลือนราง, เชื่องช้า, ท้อแท้, หมอง, ไม่แจ่มแจ้ง -Phr. (take a dim view of สงสัย, มองในแง่ร้าย) vt., vi. (ทำให้) ทึบ, (ทำให้) หมอง, ทำให้ (เลือนราง) ., S. . dims n., pl. ไฟสลัว, ไฟหรี่
意地悪
[いじわる, ijiwaru](n, vt)โกรธ ปองร้าย
ありさま
[ありさま, arisama](n)สภาพ (ที่เลวร้าย)
野獣
[やじゅう, yajuu](n)สัตว์ป่า, สัตว์ร้าย
拗れる
[こじれる, kojireru](vi)หนักกว่าเดิม เลวร้ายขึ้น แย่ลง
行けず
[いけず, ikezu](ภาษาถิ่นโอซาก้า) ใจร้าย ชอบกลั่นแกล้ง
Saikam JP-TH-EN Dictionary
悪気
[わるぎ, warugi] TH: เจตนาร้าย
悪気
[わるぎ, warugi] EN: ill-will
腐る
[くさる, kusaru] TH: ชั่วร้าย
腐る
[くさる, kusaru] EN: to go bad
Longdo Approved DE-TH
(n)|das, nur Sing.| โชคร้าย, การมีเคราะห์
(adj)ดูไม่ดี, แย่, ชั่วร้าย, ปิศาจ
(n)|das, nur Sg.| ความโชคร้าย หรือ ไม่มีดวง, อุบัติเหตุ, โศกนาฏกรรม ตัวอย่างการใช้คำ 1° Bei diesem Unglück sind 13 Schüler aus Stuttgart gestorben. = ในโศกนาฏกรรม ครั้งนี้ ทำให้นักเรียนจากเมืองชตุ๊ดการ์ด, เยอรมนี ได้เสียชีวิตลง 13 คน 2° Busunglück = อุบัติเหตุโดยรถโดยสารประจำทาง ( ร้ายแรงกว่า Autounfall หน่อย เพราะจำนวนผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตมีจำนวนมากกว่า ) 3° Das bringt mir Unglück! = ผม ช่างโชคร้าย อะไรเช่นนี้ ( Unglück นิยมพูด โดยละ Artikel, das ) 4° Unglücklicherweise, daß ich deine Geschichte erfahren habe! = ช่างโชคร้าย อะไรเช่นนี้ ที่ผมต้องมารับรู้ เรื่องราวของคุณอย่างนี้นะ! )See Also:die Katastrophe, das PechSyn.der Unfall
(adj, adv)โหดร้าย, เลือดเย็น, เหี้ยมโหด, อำมหิต เช่น Er hat sie kaltblütig umgebracht. = เขาฆ่าหล่อนได้อย่างเหี้ยมโหด
(idiomatisch)คน หรือ สัตว์ รอดพ้นการล่าจับจากอีกคนหนึ่งได้ เช่น Die Gangster gingen der Polizei durch die Lappen. = กลุ่มโจรร้าย รอดพ้นการจับกุมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้Syn.jmd./ein Tier entkommt jmdm..
(adj)ใจร้าย เช่น Das ist gemein von dir. เธอใจร้ายจังSee Also:A. anständig
(vt)|schoß an, hat angeschossen, jmdn./etw.| ทำร้ายด้วยการยิงปืน, ทำให้บาดเจ็บจากการยิงปืน เช่น Der Bankräuber hat eine Polizistin angeschossen. โจรปล้นธนาคารยิงตำรวจหญิงคนหนึ่งบาดเจ็บSee Also:schießen, erschießen
(n)|die, pl. Freilassungen| การปลดปล่อย, การไถ่ตัว, การไถ่เชลย เช่น Selbst die Terrorgruppe setzte sich offenbar für ihre Freilassung ein. กลุ่มผู้ก่อการร้ายเองก็ยังขอร้องให้มีการปล่อยตัวของเธอ
(n)|die, pl. Fahndungen| การตามล่าตัวผู้ร้าย, การตามล่าอาชญากร เช่น Fahndung von Haus zu Haus การค้นหาทุกประตูเรือน
(n)|der, pl. Überfalle| การโจมตี, การทำร้าย เช่น Sind es auch solche Überfalle, bei welchen Mehrere auf ein einzelnes Opfer einschlagen, es misshandeln und demütigen?Syn.Angriff
(vt)|misshandelte, misshandelt| ประทุษร้าย, ทำร้ายร่างกาย เช่น Ein 26 Jahre alter Mann hat Sonntag gegen 06.30 Uhr eine 25-Jährige nach einem Diskothekenbesuch misshandelt.
(n)|die, pl. Hypertrophien| การขยายตัวใหญ่เกินไป การที่อวัยวะเนื้อเยื่อขยายตัวใหญ่ขึ้น แต่ไม่ใช่เนื้อร้ายSyn.die Organvergrößerung
Longdo Unapproved DE-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
(n)ร้านขายของฝาก, ร้ายขายของที่ระลึก
เพิ่มคำศัพท์
add
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ