ที่เก็บ ที่ฝาก[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดรับฝาก, ห้องสมุดรับฝาก, Example:Depository library หมายถึง ห้องสมุดรับฝาก เป็นห้องสมุดประเภทหนึ่งในสหรัฐอเมริกาที่กฎหมายกำหนดไว้ว่าให้ได้รับสิ่งพิมพ์ทุกชิ้นของรัฐบาลที่จัดหาให้โดยสำนักงานการพิมพ์ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา (U.S. Government Printing Office) และหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาลกลาง โดยผ่าน Federal Depository Library Program (FDLP) และปฏิบัติตามกฎระเบียบของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับการบำรุงรักษาและการเข้าถึงสิ่งพิมพ์ บางศูนย์รับฝากของรัฐบาลกลางยังรวบรวมสิ่งพิมพ์ที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐบาล ห้องสมุดรับฝากในส่วนภูมิภาคได้รับเอกสารทั้งหมดที่เผยแพร่ผ่าน FDLPและเก็บไว้อย่างถาวรอย่างน้อยหนึ่งฉบับ แต่ห้องสมุดรับฝากได้รับเพียงร้อยละ 1 ของสิ่งพิมพ์ที่มีอยู่และต้องการเก็บรักษาไว้อย่างน้อยที่สุด 5 ปี ปัจจุบันห้องสมุดรับฝากนี้มีสิ่งพิมพ์ 2 ประเภท คือ 1) สิ่งพิมพ์ที่พิมพ์โดยหน่วยงานต่าง ๆ ของสหรัฐอเมริกา 2) สิ่งพิมพ์ที่พิมพ์โดยสำนักงานการพิมพ์ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
คลังเก็บ สถานที่เก็บ (ข้อมูลดิจิทัล ฐานข้อมูล) แหล่งที่อยู่ (เว็บไซต์)[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
คลังเก็บสารสนเทศระดับสถาบัน, Example:Institutional Repository หรือ คลังเก็บสารสนเทศระดับสถาบัน นั้น หมายถึง คลังเก็บทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล อันเป็นภูมิปัญญาของมหาวิทยาลัย หน่วยงาน องค์กร ซึ่งมีการจัดเก็บเป็นศูนย์รวม มีการสงวนรักษา และมีการจัดทำดัชนีที่ได้มาตรฐาน สามารถสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศเหล่านั้นได้ [ 1 ] หรือกล่าวได้ว่า คลังเก็บสารสนเทศระดับสถาบันเป็นบริการหรือหน้าที่ของมหาวิทยาลัย/องค์กร ในการจัดการและเผยแพร่งานในรูปแบบดิจิทัลอันเป็นผลงานหรือผลผลิตของคณาจารย์ นักวิจัย นิสิต นักศึกษา หรือสมาชิกในประชาคมนั้นๆ และผู้ใช้ทั้งภายในและภายนอกสามารถเข้าถึงได้ [ 2, 3 ] ซึ่งผลงานเหล่านั้น นอกจากจะเป็นรายงานที่กำลังดำเนินงาน รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ แล้ว ยังหมายรวมถึงงานที่ยังไม่ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ (grey literature) ซึ่งมีเป็นจำนวนมากในวัฒนธรรมของการวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นเรื่องยากที่บรรณารักษ์ที่จะรวบรวม จัดเก็บ และสงวนรักษาไว้อย่างเป็นระบบ [ 4 ] <p> คุณลักษณะที่สำคัญของการเป็นคลังเก็บสารสนเทศระดับสถาบัน <p>จอห์นสัน [ 3 ] กล่าวว่า การจัดทำคลังเก็บสารสนเทศระดับสถาบันจะต้องประกอบด้วยคุณลักษณะดังนี้ <p> 1. เนื้อหาที่เป็นดิจิทัล (Digital content) ในระบบของคลังเก็บสารสนเทศระดับสถาบันนั้นเก็บผลงานที่เป็นดิจิทัลเท่านั้น <p> 2. การเน้นงานที่สร้างโดยสมาชิกของสถาบัน (Institutionally-defined) การจัดทำคลังเก็บระดับสถาบันเน้นการจัดเก็บผลงานของสมาชิกในประชาคมนั้นๆ เท่านั้น <p> 3. เนื้อหาทางวิชาการ (Scholarly content) เนื้อหา ที่นำมาจัดเก็บในคลังเก็บสารสนเทศระดับสถาบันนั้น เน้นเนื้อหาทางวิชาการ เพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของการเป็นคลังเก็บสารสนเทศระดับสถาบันในการรวบรวม การสงวนรักษา และการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ ซึ่งผลงานเหล่านี้อาจหมายรวมถึง ผลงานก่อนตีพิมพ์ และผลงานที่อยู่ในระหว่างการดำเนินงาน บทความที่อยู่ในระหว่างการพิจารณา หนังสือ สื่อการสอน ชุดข้อมูล บทความเสนอการประชุม วิทยานิพนธ์อิเล็กทรอนิกส์ และวรรณกรรมไม่ตีพิมพ์ เป็นต้น การควบคุมและการจัดการการเข้าถึงเนื้อหาทางวิชาการเหล่านี้ จำเป็นต้องอาศัยนโยบายและกลไกที่เหมาะสม รวมทั้งการบริหารจัดการด้านเนื้อหาและระบบการควบคุมเอกสาร (document version control systems) กรอบนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิคของคลังเก็บต้องเอื้ออำนวยให้ผู้ จัดการคลังเก็บมีความยืดหยุ่นต่อการควบคุมระบบ ใครเป็นผู้ที่สามารถรับรอง (approve) เข้าถึง (access) แก้ไข (update) ผลงานดิจิทัลเหล่านั้นที่มาจากต่างแหล่งกันในชุมชนนั้นๆ <p> 4. การสะสมเพิ่มพูน และความยั่งยืน (Cumulative and perpetual) ในส่วนของการเป็นคลังเก็บจะต้องมีการสะสมผลงาน ผลงานเมื่อมีการนำเข้าคลังเก็บแล้ว ไม่ควรมีการถอดถอนออกจากคลัง ยกเว้นแต่มีเหตุจำเป็น เช่น งานนั้นมีการละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นต้น การเป็นคลังเก็บจึงต้องพัฒนาเกณฑ์และนโยบาย รวมทั้งนำระบบการจัดการสิทธิ์ (right management) มาประยุกต์ใช้ ในการอนุญาตให้เข้าถึงเนื้อหาในคลังเก็บทั้งจากหน่วยงานภายในและหน่วยงานภาย นอก รวมทั้งต้องมีระบบการสงวนรักษาผลงาน และสามารถให้เข้าถึงได้ในระยะยาวได้ <p> 5. การทำงานร่วมกันได้และการเข้าถึงแบบเปิด/แบบเสรี (Interoperable and open access) คุณลักษณะที่สำคัญประการหนึ่งของการเป็นคลังเก็บสารสนเทศระดับสถาบัน คือ การสามารถให้มีการเข้าถึงได้แบบเปิด / แบบเสรี หรือมีปัญหาในการเข้าถึงให้น้อยที่สุด (เช่น การต้องลงทะเบียนในการเข้าใช้) ในส่วนของการเป็นระบบที่สามารถทำงานร่วมกันได้นั้น เป็นเรื่องทางเทคนิคที่มีการนำการเก็บถาวรแบบเปิด หรือ Open Archives Initiative (OAI) มาใช้เพื่อเป็นแนวทางการกำหนดมาตรฐานสำหรับการเก็บรักษาในเชิงบันทึกถาวร และสามารถเชื่อมโยง แลกเปลี่ยนเมทาดาทาทำให้สามารถสืบค้น และเรียกใช้ข้อมูลข้ามระบบกันได้ <p>ประโยชน์ของการมีคลังเก็บสารสนเทศระดับสถาบัน <p> 1. ทำให้เกิดระบบการรวบรวม สงวนรักษา และเผยแพร่เนื้อหาทางวิชาการ <p> 2. เป็นเสมือนตัวชี้วัดของคุณภาพทางวิชาการของมหาวิทยาลัย หน่วยงานวิจัย โดยมุ่งที่รวมเอางานทางปัญญาของมหาวิทยาลัย หน่วยงานวิจัย มาไว้ในที่เดียวกัน และสามารถเข้าถึงได้ทั่วโลก <p> 3. เป็นการสงวนรักษาทรัพย์สินทางปัญญาในรูปดิจิทัล <p> 4. เป็นเสมือนพื้นฐานของกระบวนทัศน์ใหม่ในการพิมพ์ผลงานทางวิชาการ <p> 5. เป็นการสื่อสารทางวิชาการ (scholarly communication) <p> 6. เป็นการจัดการความรู้ <p> 7. เป็นการสนับสนุนเรื่องการเข้าถึงโดยเสรี <p>รายการอ้างอิง: <p>[ 1 ] “What is an Institutional Repository”. [ On-line ]. Available: http://library.ucalgary.ca/libraryinformation/dspace/whatisaninstitutionalrepository.php. Visited: 12/08/2007 10.30. <p>[ 2 ] Lynch, Clifford A. “Institutional repository : essential infrastructure for scholarship in the digital age.” ARL 226 (February 2003): 1-7 [ On-line ]. Available: http://www.arl.org/resources/pubs/br/br226/br226ir.shtml. Visited: 12/08/2007 10.34. <p>[ 3 ] Johnson, Richard K. “Institutional repositories : partnering with faculty to enhance scholarly communication.” D-Lib Magazine V.8 No.11 (November 2002) [ On-line ]. Available: http://www.dlib.org/dlib/november02/johnson/11johnson.html. Visited: 12/08/10.52. <p>[ 4 ]Tennant, Roy. “Institutional Repositories”. Library Journal 9, 15 (2002). [ On-line ]. Available: http://www.libraryjournal.com/index.asp?layout=article&articleid=CA242297&publication=libraryjournal. Visited: 13/08/2007. 10.51.[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
สถานรับฝากเงินตรา[เศรษฐศาสตร์]
การประกันเงินฝาก[เศรษฐศาสตร์]
เงินฝากธนาคาร[เศรษฐศาสตร์]
เงินฝากตามกำหนดเวลา[เศรษฐศาสตร์]
การตกตะกอน[วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด, Example:เป็นบริษัทย่อยของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและส่งเสริมให้บริการระบบหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ของประเทศ โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ และสำนักหักบัญชี โดยใช้ระบบยอดสุทธิในการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ สำหรับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ และตลาดตราสารหนี้ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์ของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ[ตลาดทุน]
ใบสำคัญแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย, Example:ตราสารทุนที่ออกโดยบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ซึ่งมีสถานะเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนโดยอัตโนมัติ และมีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็นหุ้นสามัญ หรือหุ้นบุริมสิทธิที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้ลงทุนสมารถซื้อขายเอ็นวีดีอาร์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในลักษณะเดียวกับการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนทั่วไป ผู้ถือเอ็นวีดีอาร์จะได้รับสิทธิหรือผลตอบแทนทางการเงินเช่นเดียวกับผู้ถือหุ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิทธิ แต่จะไม่มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท เอ็นวีดีอาร์จะช่วยอำนวยความสะดวกในการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนชาวต่างชาติที่ติดขัดในเรื่องเพดานการถือครอง แต่ทั้งนี้ก็มิได้จำกัดการซื้อขายของผู้ลงทุนทั่วไปแต่อย่างใด[ตลาดทุน]
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์, Example:หน่วยงานที่ให้บริการเป็นศูนย์กลางรับฝากและถอนหลักทรัพย์ให้สมาชิก รวมทั้งบริการอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การโอน และงานทะเบียนผู้ถือหุ้น การทำหน้าที่ดังกล่าวช่วยอำนวยความสะดวกแก่สมาชิกในการชำระราคา และส่งมอบหลักทรัพย์ที่ซื้อ ขายกัน เนื่องจากสมาชิกทุกรายต่างก็มีบัญชีฝากหุ้นอยู่ที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ การส่งมอบหุ้นที่ซื้อขายกันสามารถ กระทำได้โดย ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ทำการโอนจำนวนหุ้นในบัญชีของสมาชิกผู้ขายไปเข้าบัญชีของสมาชิกผู้ซื้อ ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่ต้องเสียเวลาและมีภาระในการส่งมอบรับมอบใบหุ้นระหว่างกัน สถาบันที่ทำหน้าที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ในประเทศไทย คือ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Thailand Securities Depository Co., Ltd. หรือ TSD ซึ่งเป็นบริษัทลูกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย[ตลาดทุน]
เงินฝากธนาคาร[TU Subject Heading]
บัตรเงินฝาก[TU Subject Heading]
การธนาคารเงินฝาก[TU Subject Heading]
ประกันเงินฝาก[TU Subject Heading]
ระบบมัดจำ-คืนเงิน[TU Subject Heading]
การฝากทรัพย์ (กฎหมาย)[TU Subject Heading]
การค้ำประกันสินเชื่อโดยรัฐ[TU Subject Heading]
บุพบท[TU Subject Heading]
การตกตะกอน[TU Subject Heading]
แหล่งแร่, Example:มวลของสารแร่ที่เกิดตามธรรมชาติ เช่น สินแร่โลหะหรืออโลหะ โดยไม่คำนึงถึงลักษณะการกำเนิดของแร่ โดยปกติ เป็นแหล่งที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ คำนี้อาจหมายรวมถึงแหล่งสะสมของถ่านหินและปิโตรเลียมด้วยก็ได้ [สิ่งแวดล้อม]
แหล่งแร่แบบน้ำร้อน, Example:แหล่งแร่ที่เกิดจากการที่สินแร่และแร่กาก มาสะสมตัวในรอยแตก รอยเลื่อน หรือช่องว่างใด ๆ โดยการแทนที่ หรือการบรรจุในช่องว่าง โดยมีน้ำหรือของเหลวที่มีอุณหภูมิตั้งแต่ 500-7000 ซ. และมีความดันตั้งแต่ 1-3 กิโลบาร์ เป็นตัวนำพาแร่ธาตุมาสะสมตัว ของเหลวดังกล่าวมีกำเนิดต่าง ๆ กัน หินท้องที่ในบริเวณแหล่งแร่แบบนี้มักมีการเปลี่ยนสภาพ [สิ่งแวดล้อม]
แหล่งแร่กำเนิดจากการสะสม, Example:แหล่งแร่ที่เกิดจากการสะสมนั้นเกิดขึ้นแบบ เดียว กับการเกิดหินชั้นนั่นเอง อาจจะโดยกรรมวิธีทางเคมี คือตกผลึกจากสารละลาย หรือโดยกรรมวิธีทางชีวะ คือการสะสมตัวของอินทรีย์สาร หรือโดยการระเหย แหล่งแร่ มักจะเกิดเป็นชั้นหรือเป็นส่วนในชั้น หรือไม่ก็กระจายอยู่ในชั้นใดชั้นหนึ่ง แหล่งแร่สะสม ได้แก่ แร่เหล็ก แมงกานีส ถ่านหิน ยิปซัม ดินเบา แอนไฮไดรท์ หินเกลือ เป็นต้น [สิ่งแวดล้อม]
แหล่งแร่จากการแปรสัมผัส, Example:หินหนืดที่แทรกดันขึ้นมานั้นประกอบด้วยก๊าซและ ของไหล ที่เป็นสารประกอบแร่เป็นจำนวนมาก เมื่อหินหนืดแข็งตัวตกผลึก ก๊าซและของเหลวร้อนจะแทรกเข้าไปแทนที่ในหินข้างเคียงซึ่งถูกแย่งที่ได้ง่าย ได้แก่ หินปูนหรือหินดินดานปนปูน เกิดเป็นแหล่งแร่ตรงรอยสัมผัส โดยมีรูปร่างลักษณะขรุขระไม่เป็นระเบียบและค่อนข้างเล็ก หินหนืดที่ให้แหล่งแร่แบบแปรสัมผัสมักจะมีปริมาณซิลิกาสูงแหล่งแร่แปรสัมผัส ที่เกิดเข้าไปอยู่ในเขตหินเดิมข้างเคียงนั้น ได้แก่ แร่เหล็ก แร่ทองแดง แร่สังกะสี [สิ่งแวดล้อม]
แหล่งแร่จากการผุพังอยู่กับที่, Example:หินเปลือกโลกที่ผุพังอยู่กับที่ (Weathering) แร่ที่อยู่ในหินบางชนิดละลายน้ำได้ก็จะละลายไป ส่วนที่ไม่ละลายหรือทนทานต่อการผุพังก็จะคงเหลืออยู่ และสะสมกันมากขึ้นจนเกิดเป็นแหล่งแร่มีค่าทางเศรษฐกิจได้ เช่น แหล่งแร่แมงกานีส แร่บ๊อกไซท์ ในบริเวณบางแห่งนอกจากหิน จะผุพังแล้วยังถูกพาไปจากแหล่งเดิมและสะสมกันในท้องธารน้ำ หรือหุบเขา เกิดเป็นแหล่งลานแร่ แหล่งลานแร่ที่สมบูรณ์ มักพบว่าต้นกำเนิดอยู่ใกล้ ๆ นั่นเอง เช่น แหล่งแร่ดีบุก แร่ทองขาว เพชร เป็นต้น [สิ่งแวดล้อม]
แหล่งแร่จากหินหนืด, Example:แหล่งแร่เกิดจากการตกผลึกของหินหนืด อาจจะเกิดก่อนหรือหลังการแข็งตัวของหินหนืดซึ่งเย็นตัวลง จากอุณหภูมิเดิม 7000-1, 5000 ซ. ภายใต้ความดันสูงมาก [สิ่งแวดล้อม]
แหล่งสะสม, Example:บริเวณที่มีการสะสมตัวตามธรรมชาติของสาร เช่น ดิน หิน แร่ [สิ่งแวดล้อม]
การทับถมของสลัดจ์, Example:การทับถมของส่วนที่เป็นของแข็งซึ่งมีต้นกำเนิด มาจากน้ำเสีย [สิ่งแวดล้อม]
การทำเหมืองปล่อง, Example:เป็นการทำเหมืองในแหล่งลานแร่ ที่เปลือกดินหนามาก แต่มีความสมบูรณ์ดี โดยการเจาะปล่อง แล้วกรุไม้ โดยแข็งแรงค้ำยันจนถึงชั้นกระสะแร่ และมีเครื่องคว้านทำ ด้วยไม้หมุนด้วยมือ ทำหน้าที่ในการขนกระสะแร่นำขึ้นมาล้างข้างบน ภายใต้ดินบริเวณกระสะแร่ตอนที่ได้นำกระสะแร่ขึ้นมาแล้ว มีไม้กลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว ค้ำจุนไว้กันดินพังเป็นระยะ ๆ ห่างกันเป็นช่วงสั้น ๆ เพื่อช่วยให้ระบายอากาศลงสู่ใต้ดิน [สิ่งแวดล้อม]
ตะกอนทับถมก้นทะเล[สิ่งแวดล้อม]
ตะกอนน้ำกร่อย, Example:ตะกอนที่น้ำกร่อยพัดพามาทับถมแล้วเกิดเป็นดิน ในประเทศไทยพบที่ราบภาคกลางตอนใต้ ตั้งแต่แถวทุ่งรังสิตขึ้นไปถึงจังหวัดอยุธยา ดินที่เกิดจากตะกอนน้ำกร่อยนี้จะเป็นดินเปรี้ยวจัด ในชั้นหน้าตัดของดินมักจะพบสารสีเหลืองคล้างฟางข้าว เกิดขึ้นในดินชั้นใดชั้นหนึ่ง สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน [สิ่งแวดล้อม]
ตะกอนอินทรีย์ทับถม, Example:ตะกอนจากซากพืชและสัตว์ที่ทับถมอยู่ใต้ท้องน้ำ [สิ่งแวดล้อม]
สิ่งทับถม, แหล่งสะสม, Example:1) สิ่งทับถม คือ เศษหิน ดิน แร่ และอินทรีย์วัตถุ ที่ตกสะสมจากการนำพาของน้ำลม หรือธารน้ำแข็ง หรือที่ตกตะกอนจากปฏิกิริยาเคมี หรืออื่น ๆ 2) แหล่งสะสม คือ บริเวณที่มีการสะสมตัวของดิน หิน แร่ แต่ถ้าเป็นบริเวณที่แร่มาสะสมตัว เรียกว่า แหล่งแร่ (mineral deposits) หรือแหล่งสินแร่ (ore deposits) สิ่งทับถม, แหล่งสะสม [สิ่งแวดล้อม]
สิ่งทับถมลมพา, Example:ทรายหรือดินละเอียดที่ลมหอบเอามาทับถม อย่างเช่นเนินทรายที่มักพบอยู่ทั่วไปตามหาดทรายหรือทะเลทราย [สิ่งแวดล้อม]
มอบสัตยาบันสารไว้กับตัวกลางหรือประเทศภาคีหนึ่งใดที่ตกลงกัน[การทูต]
ผู้เก็บรักษาสนธิสัญญา อนุสัญญา[การทูต]
บัญชีเงินฝากประจำ[การบัญชี]
ผู้รับฝากเงินประเภทเงินฝากประจำ[การบัญชี]
แองเกิ้ลออฟรีโพส[การแพทย์]
แคลเซียมสะสมอยู่[การแพทย์]
เข้าไปพอก, ตะกอน, ฝังตัว[การแพทย์]
การเกาะติด, การพอกพูน[การแพทย์]
การเคลือบหรือห่อหุ้มโดยใช้ไฟฟ้าสถิตย์[การแพทย์]
angle of repose, มุมทรงตัว[เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ]
คลังสารสนเทศ[การจัดการความรู้]