แปลศัพท์
PopThai
dropdown
US
ads-m
409 ผลลัพธ์ สำหรับ 

*สงบ*

 ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น: สงบ, -สงบ-
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
(v)calm downSee Also:tranquilly, calmlySyn.สงบสติอารมณ์, สงบจิตสงบใจExample:หลวงพ่อบอกให้หญิงสาวสงบใจไว้เสียบ้าง ยิ่งคิดมากก็ยิ่งเป็นทุกข์หนักThai Definition:สำรวมจิตใจไม่ให้ทุกข์ร้อน
(v)cease fightingSyn.หย่าศึก, เลิกรบExample:รัฐบาลสหรัฐอเมริกาต้องรีบสงบศึกโดยเร็วThai Definition:ขอยุติการรบ
(adv)peacefullySee Also:tranquillySyn.สุขสงบ, สงบExample:ชาวจีนอาศัยอยู่ในเมืองไทยอย่างสงบสุขนานนับร้อยปีThai Definition:อย่างเรียบร้อยเป็นปกติไม่ทุกข์ร้อนใดๆ
(v)be peacefulSee Also:be serene, be tranquil, be calmSyn.สงบสุขAnt.วุ่นวาย, โกลาหล, ป่วน, อลเวง, อลวน, อลหม่านExample:ความเชื่อพื้นบ้านต่างๆ ล้วนมีคุณค่าในการธำรงสังคมชนบทให้เป็นสุขสงบได้
(adv)peacefullySee Also:placidly, serenely, tranquilly, quietly, calmlySyn.สงบสุขExample:เราจะสร้างสรรค์สังคมให้เดินเข้าสู่ความยุติธรรมอย่างสุขสงบได้อย่างไรThai Definition:มีความสุขและสงบ
(adv)stillSee Also:quietly, calmlySyn.นิ่งสงบAnt.ลุกลี้ลุกลนExample:ท่านนั่งสงบนิ่งภายใต้ร่มโพธิ์มาเป็นเวลาหลายชั่วยามแล้วThai Definition:อย่างไม่เคลื่อนไหวร่างกายและไม่ส่งเสียง
(adv)calmlySee Also:tranquilly, peacefully, quietly, serenelySyn.สงบ, เงียบสงบExample:เขาใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบเงียบกับครอบครัวที่ต่างจังหวัด
(v)be calmSee Also:be tranquil, be peaceful, be quiet, be sereneSyn.สงบ, เงียบ, เงียบสงบExample:ทุกอย่างรอบๆ ตัวสงบเงียบ น่าปลีกวิเวกเหลือเกิน
(adj)calmSee Also:tranquil, peaceful, quiet, sereneSyn.สงบ, เงียบ, เงียบสงบExample:เสียงหัวเราะของบรรดาวัยรุ่นทำลายบรรยากาศสงบเงียบจนหมดสิ้น
(adv)calmlySee Also:silently, quietlySyn.อย่างเงียบๆ, อย่างสงบเงียบAnt.อย่างอึกทึกครึกโครมExample:ประชาชนชุมนุมกันอย่างสงบ ณ ท้องสนามหลวง
(adj)peacefulSee Also:calm, quiet, silentSyn.สำรวม, สงบเงียบ, อดกลั้นAnt.โวยวาย, ตีโพยตีพาย, เอะอะโวยวายExample:เธอรับฟังข่าวร้ายด้วยอาการเงียบสงบ
(adv)peacefullySee Also:tranquilly, calmlyExample:ปัญหาที่ว่าใหญ่ก็ถูกจัดการไปได้อย่างสงบราบคาบ
(v)be peacefulSee Also:be tranquil, be calmExample:ศัตรูสงบราบคาบลงได้เพราะความสามัคคีของประชาชนในบ้านเมืองThai Definition:มีความเรียบร้อยปราศจากความกระด้างกระเดื่อง
(v)calm downSee Also:calm oneself, control one's emotion, suppress one's feelingSyn.สงบจิตใจAnt.วุ่นวายใจExample:เขานั่งพะอืดพะอมอยู่ครู่หนึ่ง แล้วออกมาสงบอารมณ์เฉยๆ อยู่อีกพักใหญ่
(v)be modestSee Also:be reserved, be mild, be quietExample:ฝ่ายชายสงบเสงี่ยมอยู่เบื้องล่างไม่กล้าสบตาว่าที่พ่อตาแม่ยายThai Definition:ระงับกิริยาวาจาด้วยเจียมตัว
(v)be calm-heartedSee Also:be peaceful inside, be emotionally tranquil, find peacefulnessSyn.สงบอกสงบใจExample:เขาไปสงบจิตสงบใจอยู่ในป่า
(v)be calm-heartedSee Also:be peaceful inside, be emotionally tranquil, find peacefulnessSyn.สงบอกสงบใจExample:เขาไปสงบจิตสงบใจอยู่ในป่า
(v)keep silenceExample:เราต้องรู้จักสงบปากสงบคำเสียบ้าง เรื่องจะได้ไม่รุนแรงThai Definition:นิ่งไว้ไม่โต้เถียง
(v)calm downSee Also:calm oneself, remain calmSyn.สงบใจ, สงบจิตสงบใจExample:คุณควรไปสงบสติอารมณ์ข้างนอกก่อนแล้วค่อยมาพูดกันใหม่Thai Definition:สำรวมจิตใจไม่ให้ทุกข์ร้อน
(n)peaceSee Also:harmony, concordSyn.ความสงบ, ความเรียบร้อยAnt.ความวุ่นวาย, ความยุ่งเหยิงExample:เรือลาดตระเวนตามชายฝั่งทะเลเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของเมืองชลบุรี
(n)agitatorSee Also:instigator, troublemaker, firebrand, rabble-rouser, stirrerSyn.ผู้ก่อกวนExample:แผนนี้เป็นน้ำมือของผู้ก่อความไม่สงบที่กำลังพยายามจะโค่นรัฐบาลUnit:คน, กลุ่มThai Definition:บุคคลที่ก่อให้เกิดความรำคาญหรือความวุ่นวายให้เกิดขึ้น
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
(สะหฺงบ) ก. ระงับ เช่น สงบจิตสงบใจ สงบสติอารมณ์ สงบศึก, หยุดนิ่ง เช่น คลื่นลมสงบ พายุสงบ, กลับเป็นปรกติ เช่น เหตุการณ์สงบแล้ว, ปราศจากสิ่งรบกวน เช่น จิตใจสงบ, ไม่กำเริบ เช่น อาการไข้สงบลง ภูเขาไฟสงบ, ไม่วุ่นวาย เช่น บ้านเมืองสงบปราศจากโจรผู้ร้าย.
ก. ปราศจากเสียงรบกวน เช่น เด็ก ๆ ไม่อยู่บ้าน ทำให้บ้านสงบเงียบ.
ก. นิ่ง, ไม่พูด, เช่น เขาเป็นคนสงบปากสงบคำ, ไม่โต้เถียง เช่น สงบปากสงบคำเสียบ้าง อย่าไปต่อล้อต่อเถียงเขาเลย.
ก. เรียบร้อยปราศจากเสี้ยนหนามหรือความกระด้างกระเดื่อง เช่น บ้านเมืองสงบราบคาบ.
ก. ระงับกิริยาวาจาด้วยความสุภาพเรียบร้อย เช่น เวลาอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัว.
น. กฎหมายที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารลิดรอนสิทธิเสรีภาพบางประการของประชาชนได้ตามความจำเป็น ทั้งให้มีอำนาจหน้าที่เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนในส่วนที่เกี่ยวกับการยุทธ การระงับปราบปรามหรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาบางอย่างที่ประกาศระบุไว้แทนศาลพลเรือน การใช้กฎอัยการศึกจะกระทำได้เมื่อมีเหตุจำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เช่น ในกรณีเกิดสงคราม การจลาจล โดยจะให้มีผลบังคับทุกท้องที่หรือบางท้องที่ก็ได้ตามความจำเป็น.
(กฺรมมะ-) น. กรมใหญ่กรมหนึ่งในจตุสดมภ์ มีเสนาบดีเป็นผู้บังคับบัญชา มีอำนาจหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยในราชธานีและปริมณฑล ปราบปรามโจรผู้ร้าย รวมทั้งบังคับบัญชาศาลในสังกัดซึ่งมีอำนาจพิจารณาคดีความอุกฉกรรจ์และดูแลคุก (เรือนจำ) มหันตโทษ, เวียง หรือ กรมพระนครบาล ก็เรียก
(กำมะถาน) น. ที่ตั้งแห่งการงาน หมายเอาอุบายทางใจ มี ๒ ประการ คือ สมถกรรมฐาน เป็นอุบายสงบใจ และวิปัสสนากรรมฐาน เป็นอุบายเรืองปัญญา.
(กฺระ-) ว. กระสานติ์, สงบ, ราบคาบ, เช่น ดำรงกรษัตรให้กรสานต์ (ยวนพ่าย).
ว. สงบ, ราบคาบ, กสานติ์ ก็ใช้, เขียนเป็น กรสานต์ ก็มี เช่น ดำรงกรษัตรให้กรสานต์ (ยวนพ่าย).
ก. ทำเรื่องราวที่สงบอยู่แล้วให้เกิดเป็นปัญหาขึ้นมา.
(กะ-) ว. สงบ, ราบคาบ, เช่น ผ่องนํ้าใจกสานติ์ (เฉลิมพระเกียรติพระนารายณ์). (ก + ป. สนฺติ), กระสานติ์ ก็ใช้.
ก. ก่อให้เกิดความรำคาญหรือไม่สงบ.
ก. ประพฤติสงบจิตใจอยู่ในที่สงัดตามลัทธิคริสต์ศาสนา.
ก. ทำใจให้สงบตามหลักทางศาสนา, โดยปริยายหมายถึงนั่งหลับหรือเหม่อใจลอยไม่รับรู้อะไร. (ดู ฌาน ประกอบ).
(โขฺลน) น. เจ้าพนักงานหญิงมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในพระราชฐานชั้นในของพระราชวังหลวงและวังหน้า.
ก. ครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา ๑๐ ปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา ๕ ปี บุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น.
น. เหตุการณ์ที่กรุ่นอยู่ภายใน แต่ภายนอกดูเสมือนสงบเรียบร้อย.
ว. ไม่มีเสียง เช่น นั่งเงียบ, ไม่มีเสียงอื้ออึง เช่น บ้านนี้เงียบ, สงบ, ปราศจากเสียงรบกวนหรือการก่อกวน, เช่น เหตุการณ์เงียบลงแล้ว
น. พื้นที่และสถานที่ตั้งที่มีความสำคัญในทางการเมือง เศรษฐกิจ จิตวิทยา และกำลังรบทางทหารทั้งในยามสงบและยามสงคราม.
(ชาน) น. ภาวะที่จิตสงบแน่วแน่เนื่องมาจากการเพ่งอารมณ์ หรือการเพ่งอารมณ์จนจิตแน่วแน่เป็นสมาธิ แบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ รูปฌาน กับ อรูปฌาน.
ก. พักผ่อนเพื่อคลายความเคร่งเครียดโดยไปอยู่ในที่สงบหรือที่มีอากาศปลอดโปร่ง.
(-หฺรวด) น. เจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ตรวจตรารักษาความสงบ จับกุม และปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมาย เรียกชื่อตามหน้าที่ที่รับผิดชอบ เช่น ตำรวจสันติบาล ตำรวจกองปราบ ตำรวจนํ้า ตำรวจรถไฟ ตำรวจป่าไม้.
น. ตำรวจผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยและจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายในเขตกรุงเทพมหานคร.
น. ตำรวจผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยและจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายนอกกรุงเทพมหานคร.
(-ระโคด) ว. ไม่มีเสียง, เงียบ, สงบ, สงัด.
ก. บรรเทา, ทุเลา, คลาย, เบาลง, ให้สงบ, ทำให้เบาบางลง.
ก. สงบ.
(-ปราม) ก. ทำให้สงบราบคาบ.
น. บุคคลที่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลและพยายามก่อความไม่สงบขึ้นในที่ต่าง ๆ.
น. เจ้าพนักงานซึ่งกฎหมายให้มีอำนาจและหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งรวมถึงพัศดี เจ้าพนักงานกรมสรรพสามิต กรมศุลกากร กรมเจ้าท่า พนักงานตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าพนักงานอื่น ๆ ในเมื่อทำการอันเกี่ยวกับการจับกุมปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งตนมีหน้าที่ต้องจับกุมหรือปราบปราม.
น. การยอมสงบดีกว่าจะเอาชนะต่อเรื่องให้ลุกลามไป.
ก. คุ้ยเขี่ยหาความที่ควรจะสงบแล้วให้กลับเกิดเป็นเรื่องขึ้นมาอีก, มักใช้ว่า ฟื้นฝอยหาตะเข็บ.
ก. ไม่สงบ, พล่านไป, ส่ายไป, (ใช้แก่จิต).
น. ชื่อกรมที่ปกครองหัวเมืองฝ่ายเหนือในสมัยโบราณ มีสมุหนายกเป็นประธาน, ชื่อกระทรวงที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการปกครองท้องที่ บำบัดทุกข์บำรุงสุข การพัฒนาชนบทและชุมชน การส่งเสริมการศึกษาและการประกอบอาชีพ การรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน การป้องกันสาธารณภัย การผังเมือง การโยธา และการราชทัณฑ์.
น. ความนิ่ง, ความสงบ.
น. วิชาว่าด้วยการพัฒนาและการใช้อำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจ จิตวิทยา และกำลังรบทางทหารตามความจำเป็นทั้งในยามสงบและยามสงคราม.
ว. ที่มีความสำคัญทางการเมือง เศรษฐกิจ จิตวิทยา และกำลังรบทางทหาร ทั้งในยามสงบและยามสงคราม เช่น จุดยุทธศาสตร์.
น. การทำจิตใจให้สงบ, การที่จิตไม่รับรู้อารมณ์ คือ รูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัสต่าง ๆ, วิธีการควบคุมร่างกายและจิตใจได้อย่างสมบูรณ์โดยการทำจิตให้เป็นสมาธิ.
ก. ยับยั้งไว้, ทำให้สงบ, เช่น ระงับคดี ระงับเรื่องราว.
วุ่นวาย, เกิดความไม่สงบ, เช่น บ้านเมืองระส่ำระสาย.
ก. มีใจผูกพันด้วยความห่วงใย เช่น พ่อแม่รักลูก รักชาติ รักชื่อเสียง, มีใจผูกพันด้วยความเสน่หา, มีใจผูกพันฉันชู้สาว, เช่น ชายรักหญิง, ชอบ เช่น รักสนุก รักสงบ.
เรียบร้อยปราศจากเสี้ยนหนามหรือความกระด้างกระเดื่อง เช่น บ้านเมืองสงบราบคาบ ตำรวจปราบโจรผู้ร้ายเสียราบคาบ.
สงบราบคาบ เช่น สถานการณ์บ้านเมืองเรียบร้อย.
(รึ-) น. ฤๅษี, นักบวชพวกหนึ่ง มีมาก่อนพุทธกาล สละบ้านเรือนออกไปบำเพ็ญพรตแสวงหาความสงบ.
น. ฤษี, นักบวชพวกหนึ่ง มีมาก่อนพุทธกาล สละบ้านเรือนออกไปบำเพ็ญพรตแสวงหาความสงบ.
อารักขาเขตพระราชฐานหรือบริเวณรอบสถานที่ที่ประทับนอกพระนคร ทั้งการเสด็จโดยสถลมารคและชลมารค, รักษาความสงบเรียบร้อยระหว่างพระเจ้าแผ่นดินทรงพระประชวร หรือพระรัชทายาทก่อนเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ โดยจัดเจ้าหน้าที่ล้อมที่ประทับเป็นชั้น ๆ.
น. เรียกผู้หญิงที่มีความสุภาพเรียบร้อย สงบเสงี่ยม อ่อนโยน รู้จักรักนวลสงวนตัว ประกอบด้วยเมตตากรุณา และรู้จักการบ้านการเรือน เป็นต้น.
ก. ลักษณะบรรยากาศที่สงบเยือกเย็นทำให้เกิดความรู้สึกอ้างว้าง ว้าเหว่ เปล่าเปลี่ยวใจ เช่น เข้าไปในบ้านร้างรู้สึกวังเวง.
ไม่สงบ เช่น บ้านเมืองวุ่นวายเกิดจลาจลไปทุกหนทุกแห่ง.
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
สันติภาพ, ความสงบ, ปรกติสุข[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
สันติภาพ, ความสงบ, ปรกติสุข[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การครอบครองโดยสงบ [ ดู quiet possession ][นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การแทรกซึมอย่างสงบ (เพื่อให้มีอิทธิพล)[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การครอบครองโดยสงบ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การต่อต้านอย่างสงบ [ ดู civil disobedience ประกอบ ][รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ทัณฑ์บนให้รักษาความสงบ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความสงบสุขของพสกนิกร [ ดู pax regis ][นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การรุกโดยสงบ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การก่อกวนความสงบสุข[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การทำลายความสงบ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
อำนาจในการรักษาความสงบเรียบร้อย[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความสงบเรียบร้อยของประชาชน[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความสงบเรียบร้อยของประชาชน[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความสงบสุขของประชาชน[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
อำนาจในการรักษาความสงบเรียบร้อย[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
อำนาจรักษาความสงบเรียบร้อย[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความสงบสุขของพสกนิกร [ ดู peace of the King ][นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การรักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อย[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การมั่วสุมเพื่อก่อความไม่สงบ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การกบฏ, การก่อความไม่สงบ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การต่อต้านอย่างสงบ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความไม่สงบ, ความกระสับกระส่าย, ความทุรนทุราย[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. การทุเลา, การสงบ๒. ระยะโรคทุเลา, ระยะโรคสงบ[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
การระงับ, การทำให้สงบ[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. ยาระงับประสาท [ มีความหมายเหมือนกับ temperantia ]๒. -ระงับ, -ทำให้สงบ[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ระเบียบสังคม, ความสงบเรียบร้อยทางสังคม[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ภัยสงบ[ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความสงบเรียบร้อยของประชาชน[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ระเบียบสังคม, ความสงบเรียบร้อยทางสังคม[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. คำสั่ง, ระเบียบ๒. ความสงบเรียบร้อย[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความผิดต่อกฎหมายและความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความผิดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ภาวะกายใจไม่สงบ[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ยาสงบประสาทรอง, ยาคลายกังวล [ มีความหมายเหมือนกับ anxiolytic ๑ ][แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
การสงบศึก (ก. ระหว่างประเทศ)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ยาสงบประสาทรอง, ยาคลายกังวล [ มีความหมายเหมือนกับ anxiolytic ๑ ][แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
การสงบศึก[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. ยาสงบประสาทรอง, ยาคลายกังวล [ มีความหมายเหมือนกับ agent, antianxiety; drug, anxiolytic; tranquiliser, minor; tranquilizer, minor ]๒. -สงบประสาท, -คลายกังวล[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ยาสงบประสาทรอง, ยาคลายกังวล [ มีความหมายเหมือนกับ anxiolytic ๑ ][แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
การใช้ทรัพย์สินที่เช่าโดยสงบ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การครอบครองโดยสงบ [ ดู peaceable possession ][นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความสงบสุขแห่งราชอาณาจักร [ ดู King's peace ][รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความสงบสุขแห่งราชอาณาจักร[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การก่อกวนความสงบสุข[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การทำลายความสงบ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ยาสงบประสาทหลัก [ มีความหมายเหมือนกับ antipsychotic ๑ และ drug, neuroleptic ][แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ยาสงบประสาทรอง, ยาคลายกังวล [ มีความหมายเหมือนกับ anxiolytic ๑ ][แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ยาสงบประสาทรอง, ยาคลายกังวล [ มีความหมายเหมือนกับ anxiolytic ๑ ][แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
การก่อกวนความสงบสุข[TU Subject Heading]
การก่อความไม่สงบ[TU Subject Heading]
ความสงบแห่งจิตใจ[TU Subject Heading]
การจัดแสงบนเวที[TU Subject Heading]
แผนงานการจัดตั้งประชาคมการเมืองและความมั่นคงอา เซียน เป็นเอกสารที่รวบรวมรายการกิจกรรมต่างๆ ที่รัฐสมาชิกอาเซียนจะทำร่วมกันเพื่อสร้างประชาคมการเมืองและความมั่นคงอา เซียนภายในปี 2558 แผนงานฯ ได้รับการรับรองโดยผู้นำในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 ที่ชะอำ หัวหิน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2552 โดยแผนงาน มีวิสัยทัศน์ 3 ประการ ให้อาเซียนเป็น(1) ประชาคมที่มีกฎเกณฑ์และค่านิยมร่วมกัน (2)เป็นประชาคมที่สงบสุขและรับผิดชอบร่วมกันในการรักษาความมั่นคงสำหรับ ประชาชนที่ครอบคลุมในทุกด้าน และ (3)เป็นประชาคมที่มีพลวัตรและร่วมมือปฎิสัมพันธ์กับโลกภายนอก[การทูต]
ในการปฏิบัติของคณะผู้แทนทางการทูตต่อรัฐผู้รับ นั้นหน้าที่สำคัญที่สุดอันหนึ่งของนักการทูตคือ จะต้องละเว้นจากการเข้าแทรกแซงใด ๆ ในกิจการภายในของรัฐผู้รับ อนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติเรื่องนี้ไว้ในมาตราที่ 41 ว่า1. โดยไม่เสื่อมเสียแก่เอกสิทธิ์และความคุ้มกันของตน เป็นหน้าที่ของบุคคลทั้งมวลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นนี้ ที่จะเคารพกฎหมายรวมทั้งข้อบังคับของรัฐผู้รับ บุคคลเหล่านี้มีหน้าที่ที่จะไม่แทรกสอดในกิจการภายในของรัฐนั้นด้วย2. ธุรกิจในทางการทั้งมวลกับรัฐผู้รับ ซึ่งรัฐผู้ส่งได้มอบหมายแก่คณะผู้แทนให้กระทำกัน โดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นเช่นที่อาจจะตกลงกัน3. สถานที่ของคณะผู้แทนต้องไม่ใช้ไปในทางที่ไม่ต้องด้วยกับการหน้าที่ของคณะผู้ แทน ดังที่ได้กำหนดลงไว้ในอนุสัญญานี้ หรือโดยกฎเกณฑ์อื่นของกฎหมายระหว่างประเทศทั่วไป หรือด้วยการตกลงพิเศษอื่นใดที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ ข้อ 42 ของอนุสัญญากรุงเวียนนายังได้บัญญัติด้วยว่า ตัวแทนทางการทูตจะต้องไม่ปฏิบัติกิจกรรมใดทางวิชาชีพหรือพาณิชย์เพื่อ ประโยชน์ส่วนตัวในรัฐผู้รับตามบทบัญญัติข้างต้นของอนุสัญญากรุงเวียนนา พอจะตีความหมายได้ว่า ผู้แทนทางการทูตจะต้องเคารพกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ เพื่อที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประชาชน รวมทั้งความปลอดภัยในรัฐผู้รับ การปฏิบัติใดๆ ที่ถูกต้องของผู้แทนทางการทูตนั้นย่อมเป็นเครื่องประกันอย่างดีที่สุด ที่ตัวบุคคลของผู้แทนทางการทูตนั้นจะถูกล่วงละเมิดมิได้ตามที่กล่าวอ้าง[การทูต]
ใช้กับราชการทุกคนที่ประจำทำงานในด้านทางการทูต ไม่ว่าจะประจำอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ หรือในราชการต่างประเทศ คือ ในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือในสำนักงานทางทูตอื่นๆในทรรศนะของ เซอร์แฮโรลด์ นิโคลสัน นักการทูตยอดเยี่ยมคนหนึ่งของอังกฤษ ได้ระบุไว้ว่า นักการทูตหรือ Diplomat จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ ยึดถือความเป็นจริง มีความแม่นยำ สงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น อารมณ์ดี มีความสงบเสงี่ยมและมีความจงรักภักดี ทั้งยังจะต้องเป็นผู้ที่มีสติปัญญา มีความรู้ มองเห็นการณ์ไกล มีความสุขุมรอบคอบ ใจดีกับแขกและผู้แปลกหน้า มีเสน่ห์ มีความอุตสาหะวิริยะ มีความกล้า และมีปฏิภาณในทำนองเดียวกัน Francoise de Callieres (1645-1717) นักการทูตชั้นเยี่ยมของฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นเอกอัครราชทูตประจำโปแลนด์ ซาวอย ฮอลแลนด์ บาวาเรีย และลอเรน ได้เขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่งชื่อว่า De la miniere avec les souverains เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการเจรจาทางการทูต ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังเป็นที่รับรองกันทั่วไปว่าเป็นหนังสือที่ดีเยี่ยมเล่ม หนึ่ง หรือเป็นจินตกวีนิพนธ์เรื่องการดำเนินการทูตกับเจ้าผู้ครองนคร (Princes) สมัยนั้นCallieres ได้วางมาตรฐานของนักการทูตไว้สูงมากเพราะเขาเห็นว่า ไม่มีงานราชการใด ๆ ที่จะยากยิ่งไปกว่าการเจรจา ในการเจรจานั้น ผู้เจรจาจะต้องสามารถมองเห็นเหตุการณ์ทะลุปรุโปร่ง หรือมีสติปัญญาเฉียบแหลม มีความคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง มีความละมุนละไม มีความรอบรู้และความเข้าใจอย่างกว้างขวาง ตลอดจนข้อสำคัญที่สุด ต้องเป็นผู้มีความสุขุมคัมภีรภาพ สามารถมองเห็นการณ์ไกลชนิดเจาะลึกทีเดียว นอกจากนี้ จะต้องเป็นผู้มีอารมณ์ขันอย่างสม่ำเสมอ ไม่โกรธง่าย มีจิตใจสงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น พร้อมเสมอที่จะรับฟังทุกคนที่เขาพบด้วยความตั้งอกตั้งใจ พูดจาอย่างเปิดเผย และมีอารมณ์ร่าเริงไม่หน้าเง้าหน้างอ มีอัธยาศัยไมตรี รวมทั้งมีกิริยาท่าทางเป็นที่ต้องตาต้องใจกับทุกคน ในฐานะนักเจรจา (Negotiator) นักการทูตจะต้องมีคุณลักษณะและคุณสมบัติตามที่กล่าวมานี้เป็นอย่างน้อย เนื่องจากมีการเจรจาเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของนักการทูตนั่นเอง[การทูต]
คณะกรรมการชายแดนทั่วไป เป็นกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคง ชายแดน ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทยและประเทศเพื่อนบ้านเป็นประธานร่วม กัน ทำหน้าที่กกำหนดแนวทางและมาตรการที่เหมาะสมเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือ รักษาความสงบเรียบร้อยและเสถียรภาพในพื้นที่บริเวณชายแดน ซึ่งกลไกนี้ไทยมีกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดต่อกันทั้ง 4 ประเทศ[การทูต]
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1946 สมัชชาสหประชาชาติได้ยืนยันเป็นเอกฉันท์ว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือการฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อนนั้นให้ถือเป็นอาชญากรรม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งโลกที่บรรลุความเจริญแล้วประณามอย่างรุนแรงอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกัน และการลงโทษอาชญากรรมเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ สมัชชาสหประชาชาติได้ลงมติรับรองเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 1948 อนุสัญญานี้ได้นิยามคำว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) หมายถึงการประกอบอาชญากรรมบางอย่าง โดยมีเจตนาที่จะทำลายล้างกลุ่มชนชาติ กลุ่มเผ่าพันธุ์ กลุ่มเชื้อชาติ หรือกลุ่มศาสนา ในบางส่วนหรือทั้งหมดก็ตาม การประกอบกรรมซึ่งถือเป็นการฆ่าล้างชาตินั้นได้แก่ การฆ่า การทำให้เกิดความเสียหายอย่างสาหัส ทั้งต่อร่างกายหรือจิตใจ และการบังคับให้มีสภาวะการครองชีพที่เจตนาจะให้ชีวิตร่ายกายถูกทำลาย ไม่ว่าจะเพียงส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดก็ตาม ตลอดจนออกมาตรการกีดกันมิให้มีลูกและโยกย้ายเด็ก ๆ ไม่เพียงแต่การฆ่าล้างชาติอย่างเดียว หากแต่การคบคิดหรือการยุยงให้มีการฆ่าล้างชาติ รวมทั้งความพยายามที่จะฆ่าล้างชาติและสมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมดังกล่าว ย่อมถูกลงโทษได้ตามนัยแห่งอนุสัญญานี้ บรรดาผู้ที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกลงโทษไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้ ปกครอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง หรือเอกชนส่วนบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดของตามกฎหมายก็ตามบรรดาประเทศที่ภาคี อนุสัญญานี้จำเป็นต้องออกกฎหมายของตนเพื่อรองรับ และจะต้องตกลงเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนในกรณีที่บุคคลนั้นๆ มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติ และบุคคลที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกพิจารณาลงโทษในประเทศที่มีการ ประกอบอาชญากรรมดังกล่าวขึ้น หรือโดยศาลระหว่างประเทศที่มีอำนาจครอบคลุมถึงเจตนารมณ์ของสนธิสัญญานี้ เพื่อต้องการป้องกัน และลงโทษอาชญากรรมฆ่าล้างชาติ ไม่ว่าจะประกอบขึ้นในยามสงครามหรือในยามสงบก็ตามอนุสัญญาดังกล่าวได้เริ่มมี ผลบังคับเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1951 เป็นเวลา 90 วันหลังจากที่ 20 ประเทศได้ให้สัตยาบัน หรือให้ภาคยานุวัติตามที่ระบุอยู่ในอนุสัญญา อนุสัญญานี้จะมีผลบังคับเป็นเวลา 10 ปี และมีการต่ออายุสัญญาทุก 5 ปี สำหรับประเทศที่มิได้บอกเลิกสัญญา หากประเทศที่ยังเป็นภาคีอนุสัญญามีจำนวนเหลือไม่ถึง 16 ประเทศ อนุสัญญานี้จะเลิกมีผลบังคับทันที[การทูต]
นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics)[การทูต]
คือความละเมิดมิได้จากสถานที่ของคณะผู้แทน หมายความว่า บ้านของตัวแทนทางการทูต รวมทั้งสถานที่อื่น ๆ ที่ใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการทูต รวมถึงตึกรามใด ๆ ที่ผู้แทนทางการทูตใช้ดำเนินงานทางการทูตในตำแหน่งที่ของเขา ไม่ว่าสถานที่นั้น ๆ จะเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลของเขาหรือเป็นของเขาเอง หรือแม้แต่เป็นสถานที่ที่ให้ตัวแทนทางการทูตเช่า เหล่านี้จะได้รับความคุ้มกัน (Immunity) ทั้งสิ้น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใด โดยเฉพาะเจ้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เก็บภาษี หรือเจ้าหน้าที่ศาล จะเข้าไปในที่อยู่หรือทำเนียบของผู้แทนทางการทูตมิได้ นอกจากจะได้รับความยินยอมให้กระทำเช่นนั้นอย่างไรก็ดี หากเกิดอาชญากรรมขึ้นภายในสถานที่ของคณะผู้แทน หรือในที่อยู่ของตัวแทนทางการทูต โดยบุคคลซึ่งมิได้อุปโภคความละเมิดมิได้ ตัวแทนทางการทูตผู้นั้นจะต้องมอบตัวอาชญากรดังกล่าวให้แก่รัฐบาลท้องถิ่นตาม ที่ขอร้อง กล่าวโดยทั่วไป ตัวแทนทางการทูตจะยอมให้ที่พักพิงในสถานทูตแก่อาชญากรใด ๆ ไม่ได้ เว้นแต่ในกรณีที่เห็นว่าอาชญากรผู้นั้นตกอยู่ในอันตรายที่จะถูกฆ่าจากฝูงชน ที่ใช้ความรุนแรง ก็จะยอมให้เข้าไปพักพิงได้เป็นกรณีพิเศษในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้กล่าวไว้ในข้อ 22 ดังนี้ ?1. สถานที่ของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ ตัวแทนของรัฐผู้รับไม่อาจเข้าไปในสถานที่นั้นได้ เว้นแต่ด้วนความยินยอมของหัวหน้าคณะผู้แทน 2. รัฐผู้รับมีหน้าที่พิเศษที่จะดำเนินการทั้งมวลที่เหมาะสม เพื่อคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทนจากการบุกรุกหรือความเสียหายใด ๆ และที่จะป้องกันการรบกวนใด ๆ ต่อความสงบสุขของคณะผู้แทน หรือการทำให้เสื่อมเสียเกียรติ 3. สถานที่ของคณะผู้แทน เครื่องตกแต่ง และทรัพย์สินอื่นของคณะผู้แทนในสถานที่นั้น ตลอดจนพาหนะในการขนส่งของคณะผู้แทน ให้ได้รับความคุ้มกันจาการค้น การเรียกเกณฑ์ การอายัด หรือการบังคับคดี ?[การทูต]
ความสงบเรียบร้อย[การทูต]
การทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ[การทูต]
ความผิดทางการเมือง หลักการข้อหนึ่งของการส่งตัวผู้กระทำความผิดไปให้อีก ประเทศหนึ่ง หรือที่เรียกว่าการส่งผู้ร้ายข้ามแดน คือ ผู้ที่กระทำผิดทางการเมืองจะถูกส่งข้ามแดนไปให้อีกประเทศหนึ่งไม่ได้เป็นอัน ขาด แต่อย่างไรก็ดี มีปัญหาในปฏิบัติคือว่า จะแยกความแตกต่างกันอย่างไรระหว่างความผิดทางการเมือง กับที่มิใช่ด้วยเหตุผลทางการเมือง นักวิชาการบางท่านนิยามความหมายของคำว่าความผิดทางการเมืองไว้ว่า คือ ความผิดฐานกบฏ (Treason) ซึ่งในกฎหมายของหลายประเทศหมายถึงการประทุษร้าย หรือพยายามประทุษร้ายต่อประมุขของประเทศ หรือช่วยฝ่ายศัตรูทำสงครามกับประเทศของตน ความผิดฐานปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบภายในประเทศ (Sedition) หรือการประกอบจารกรรม (Espionage) อันเป็นการคุกคามต่อความั่นคงหรือต่อระบบการปกครองของประเทศผู้ร้องขอ (หมายถึงประเทศที่ร้องขอให้ส่งตัวผู้กระทำผิดไปให้ในลักษณะผู้ร้ายข้ามแดน) ไม่ว่าจะกระทำโดยคนเดียวหรือหลายคนก็ตาม[การทูต]
งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก[การทูต]
ยาสงบประสาทไตรซัยขลิกแอนตีดีเพร็สแซ็นท์, ยาต้านซึมเศร้าชนิดไตรไซคลิก, ยาต้านอาการซึมเศร้าจำพวก 3 วง[การแพทย์]
ฤทธิ์ทำให้เกิดอาการสงบลง[การแพทย์]
ระยะสงบไข้, ระยะพักฟื้น[การแพทย์]
โครงพื้นฐานสำคัญของโครงพื้นฐานสำคัญของประเทศ หมายถึง บรรดาหน่วยงานหรือองค์กร หรือส่วนงานหนึ่งส่วนงานใดของหน่วยงานหรือองค์กร ซึ่งธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานหรือองค์กร หรือส่วนงานของหน่วยงานหรือองค์กรนั่น มีผลเกี่ยวเนื่องสำคัญต่อความมั่นคงหรือความสงบเรีบร้อยของประเทศหรือต่อสาธารณชนประเทศ[เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ]
แถบลมสงบบริเวณ ศูนย์สูตร[อุตุนิยมวิทยา]
แถบลมสงบบริเวณกึ่ง โซนร้อน[อุตุนิยมวิทยา]
การดูดกลืน, กระบวนการที่วัตถุดูดกลืนสารหรือพลังงาน  เช่น ใบไม้ ดูดกลืนพลังงานแสงบางความถี่ เพื่อใช้ในการสังเคราะห์ ด้วยแสง หรือผิวโลหะดูดกลืนพลังงานแสงบางความถี่ แล้วทำให้เกิดโฟโตอิเล็กตรอน เป็นต้น[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
แผ่นกรองแสง, แผ่นวัสดุโปร่งแสงซึ่งมีสมบัติดูดกลืนแสงบางสีได้ ถ้านำแผ่นกรองแสงสีใดมากั้นทางเดินของแสงสีขาว แผ่นกรองแสงจะให้แสงสีนั้นทะลุผ่านไปได้โดยจะดูดกลืนแสงสีอื่นไว้[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
ระยะพัก, เฉื่อยต่อปฎิกิริยา, ระยะสงบ, ทำงานลดลง, ไม่ว่องไว[การแพทย์]
รูปที่หันแสงไม่ได้, รูปไม่ว่องไว, รูปอกัมมันต์, อยู่ในสภาพสงบอยู่, ไม่มีฤทธิ์, รูปที่ทำงานไม่ได้, รูปไร้ฤทธิ์, สภาพที่ไม่ทำงาน[การแพทย์]
ชนิดไม่มีอาการ, ระยะสงบ, แอบแฝง[การแพทย์]
ระยะสงบ[การแพทย์]
ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
พ่อของท่าน ให้ข้าคอยดูแลความสงบสุขใน อะกราบาห์ เด็กชายนั่นเป็น อาชญากรAladdin (1992)
เอาละ สงบใจไว้ ทำความสะอาดวันอาทิตย์ของเจ้าเสียใหม่ ซาลามAladdin (1992)
พระฮินดูสู่ความสงบ มันมีความสงบในตัว คุณไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?Basic Instinct (1992)
ทั้งสองคนเอนหลังพิงกำแพง พ่นควันอย่างเงียบสงบ...Basic Instinct (1992)
ไม่มีคุกสำหรับเขา แค่อวสานอย่างมีความสุข... ...ในสถาบันโรคจิต ที่เงียบสงบBasic Instinct (1992)
ฉันอยากได้ความสงบสุขThe Bodyguard (1992)
ฉันจะไม่ได้พักอย่างสงบสุขWuthering Heights (1992)
หล่อนพักผ่อนอย่างสงบแล้ว ฮีธคลิฟฟ์Wuthering Heights (1992)
ฉันให้ความสงบแก่ตัวเอง ยามเห็นใบหน้าหล่อนอีกครั้งWuthering Heights (1992)
ขอให้พวกเขา พักผ่อนอย่างสงบในพื้นดินWuthering Heights (1992)
นี่ผมตื่นเต้นมากเลย ขอสงบสติอารมณ์แปปนึงHero (1992)
นี่พี่ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่อย่างสงบสุขน่ะเหรอครับHero (1992)
ไม่เคยได้อยู่อย่างสงบOf Mice and Men (1992)
สงบสติหน่อยOf Mice and Men (1992)
" คูล รันนิ่ง " หมายความว่า " การเดินทางที่สงบ "Cool Runnings (1993)
การเดินทางที่สงบCool Runnings (1993)
คงที่ สงบลง เพียงสงบลงIn the Name of the Father (1993)
สงบลง หยุดมันIn the Name of the Father (1993)
รักษาความสงบ, GerryIn the Name of the Father (1993)
- หยุดมัน สงบสติอารมณ์In the Name of the Father (1993)
- เพียงแค่สงบลง หยุดมันIn the Name of the Father (1993)
เพียงแค่พักสงบอยู่บนของคุณมากที่สุด พฤติกรรมและการ?In the Name of the Father (1993)
ปล่อยให้แม่ของแกไปสวรรค์อย่างสงบเถอะThe Joy Luck Club (1993)
ขอให้เรายืนสงบ 3 นาทีSchindler's List (1993)
คุณเคยเลือดกำเดาไหล ตอนนี้ สงบลงได้แล้วDeep Throat (1993)
นึกถึงที่ที่สงบJunior (1994)
ฉันชอบช่วงเวลาสงบ ก่อนพายุจะโหมกระหน่ำจริง ๆLéon: The Professional (1994)
สงบใจไว้ ไปดี๋ยวนี้ ไปLéon: The Professional (1994)
จะสงบความร่วมมือ และทั้งหมดนี้จะเป็นไปในนาที!Pulp Fiction (1994)
FLN{ แนวร่วมปลดปล่อยชาติแอลจีเรีย } สร้างเครื่องกีดขวางซึ่งติดตั้ง FLN คือ แนวร่วมปลดปล่อยชาติแอลจีเรีย เพื่อรักษาความสงบในเขตมุสลิมWild Reeds (1994)
ฉันเย็ดเธอทั้งคืน ให้สงบสติอารมณ์Wild Reeds (1994)
ที่นี่สงบดีออกWild Reeds (1994)
เขามีวิธีที่เงียบสงบเกี่ยวกับเขาThe Shawshank Redemption (1994)
- เพียงแค่สงบเพศสัมพันธ์ลงThe Shawshank Redemption (1994)
ขอฉันสมมุตินะว่า ผลสรุปของเรื่องทั้งหมดนี้ ก็คือคุณจะไม่ยอมเกษียณอย่างสงบใช่ไหมDon Juan DeMarco (1994)
พยายามคิดถึงเรื่องสงบๆจ้ะThe One Where Monica Gets a Roommate (1994)
เผ่าวาชาติเป็นเผ่าที่รักสงบAce Ventura: When Nature Calls (1995)
เผ่าวาชาติเป็นพวกรักสงบAce Ventura: When Nature Calls (1995)
พบบางบึงเงียบสงบ ที่เธอสามารถเลือกดอกไม้ป่าSnow White and the Seven Dwarfs (1937)
**น่าขยะแขยง ที่สุดในโลก** เขามีใจที่สงบThe Great Dictator (1940)
คุณพูดถูก ความสงบพึ่งเกิดขึ้น ในชุมชนยิวไม่นานมานี้The Great Dictator (1940)
ฉันไม่เค้าใจเลย อยู่ๆชุมชนยิวก็สงบสุขThe Great Dictator (1940)
ไม่มีบทลงโทษ ฉันรักที่มันสงบสุขThe Great Dictator (1940)
มันจะดีไหมหากพวกเขา ต้องการให้เราอยู่อย่างสงบอีกครั้งThe Great Dictator (1940)
เราไม่เคยสงบสุขเลย จนบัดนี้ เราเป็นอารยันThe Great Dictator (1940)
ทําไมไม่ปล่อยให้มันนอนสงบอยู่ใต้ท้องทะเลRebecca (1940)
ไม่เว้นแม้กระทั่งบรรยากาศอันแสนสงบ ไม่เว้นแม้กระทั่งทุ่งหญ้าในฤดูกาลเก็บเกี่ยว ที่นกกา ต่างก็พากันมาหากิน ไม่เว้นแม้กระทั่งถนนใช้สัญจร ทั้งรถรา คนเดินดิน หรือ คู่รักNight and Fog (1956)
จะหลงเหลือก็แต่เพียง เลือดที่แห้งกรัง กับเสียงคร่ำครวญที่สงบไปแล้วNight and Fog (1956)
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
[Khana Raksā Khwām Rīeprøi Haengchāt] (org) EN: National Peace Keeping Council (NPKC)
[khwām mai sa-ngop] (n) EN: unrest
[khwām ngīep sa-ngop] (n, exp) FR: tranquillité [ f ]
[khwām sa-ngop] (n) FR: tranquillité [ f ] ; calme [ m ] ; apaisement [ m ] ; accoisement [ m ] (vx)
[khwām sa-ngop ngīep] (n, exp) EN: quietness ; calmness ; stillness ; tranquillity
[khwām sa-ngop rīeprøi] (n, exp) EN: peace ; harmony ; concord
[kø khwām mai sa-ngop] (v, exp) EN: cause unrest
[mai sa-ngop] (adj) EN: restive  FR: agité
[ngīep sa-ngop] (adj) EN: peaceful ; calm ; quiet ; silent  FR: calme ; paisible ; silencieux
[sa gnop] (n) EN: peace  FR: paix [ f ]
[sa-ngop] (v) EN: calm down
[sa-ngop] (adj) EN: calm ; quiet ; still ; peaceful ; tranquil ; stable  FR: calme ; tranquille ; serein ; paisible ; accoisé (vx)
[sa-ngop ārom] (v, exp) EN: calm down ; calm oneself ; control one's emotion ; suppress one's feeling ; retire to find peace
[sa-ngop dī] (adj) EN: peaceful  FR: calme
[sa-ngop jai] (v) EN: calm down ; abate ; subside
[sa-ngop jai] (adv) EN: tranquilly; calmly
[sa-ngop jit sa-ngop jai] (v, exp) EN: be calm-hearted ; be peaceful inside ; be emotionally tranquil ; find peacefulness  FR: être serein
[sa-ngop ngīep] (v, exp) EN: be calm ; be tranquil ; be peaceful ; be quiet ; be serene  FR: être calme ; être paisible
[sa-ngop ngīep] (adj) EN: calm ; tranquil ; peaceful ; quiet ; serene  FR: silencieux
[sa-ngop ngīep] (adv) EN: calmly ; tranquilly ; peacefully ; quietly ; serenely  FR: calmement ; sereinement
[sa-ngop ning] (adj) EN: still ; quietly ; calmly  FR: calme ; paisible
[sa-ngop pāk sa-ngop kham] (v, exp) EN: keep silence  FR: garder le silence
[sa-ngop rāpkhāp] (v) EN: be peaceful ; be tranquil ; be calm  FR: être calme
[sa-ngop rāpkhāp] (adv) EN: peacefully ; tranquilly ; calmly  FR: tranquillement
[sa-ngop sati ārom] (v, exp) EN: calm down ; calm oneself ; remain calm  FR: se calmer
[sa-ngop sa-ngīem] (v, exp) EN: be modest ; be reserved ; be mild ; be quiet
[sa-ngop sa-ngīem] (adj) EN: modest ; reserved ; mild  FR: discret ; réservé
[sa-ngop seuk] (n, prop) EN: armistice ; cease fighting  FR: armistice [ m ] ; cessez-le-feu [ m ] ; trêve [ f ]
[sa-ngop seuk] (v, exp) EN: cease fighting  FR: cesser les hostilités
[sa-ngop sūk] (adv) EN: peaceably ; happily ; tranquilly  FR: paisiblement
[sa-ngop yeūak yen] (v, exp) EN: play it cool ; take it esay  FR: être décontracté ; être serein
[sanyā sa-ngop seuk] (n, exp) FR: armistice [ m ]
[sūn amnūaykān raksā khwām sa-ngop rīeprøi] (org) EN: peacekeeping operation centre ; government's peace-keeping centre
[thamhai sa-ngop] (v, exp) FR: calmer ; pacifier
[Røsøchø. (Khana Raksā Khwām Rīeprøi Haengchāt)] EN: NPKC (National Peace Keeping Council)
Longdo Approved EN-TH
(vt)ปลอบใจทำให้สงบลง, ทำให้รู้สึกดีขึ้น เช่น After she had failed an examination in maths, her mother tried to reassure her.
ใจเย็นๆ, สงบสติอารมณ์ซะนะSyn.Calm down!
(n)ความสงบเรียบร้อยของประชาชน
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
(vt)ทำให้สงบSyn.soothe, mollify
(vt)ทำให้สงบSee Also:ระงับSyn.soothe, pacify
(vt)ทำให้สงบลงSyn.calm
(n)ยาที่ทำให้สงบ
(n)ความสงบ
(vt)ทำให้สงบ
(adj)ที่มีอารมณ์สงบSyn.unagitated, cool, unconcernedAnt.violent, excited, furious
(vi)อยู่ร่วมกันอย่างสงบ
(n)ความสงบสุข
(adj)สงบSyn.calm
(n)ความสงบของจิตใจSyn.equanimity, tranquillity
(n)ความชุลมุนวุ่นวายSee Also:ความไม่สงบSyn.disturbance, outbreak
(n)ความสงบเยือกเย็นSyn.calmness
(phrv)ทำให้สงบลงSyn.cool
(n)ที่สงบเงียบ
(phrv)ทำให้สงบSee Also:ทำให้นิ่งเฉย
(phrv)อยู่ร่วมกันอย่างสงบ (โดยเฉพาะกับผู้มีความคิดแตกต่างกันทางการเมือง)
(idm)ตายอย่างสงบตามธรรมชาติ
(adj)สงบเงียบSee Also:เงียบเชียบ, สงัด
(n)การรบกวนSee Also:การทำให้ไม่สงบ
(adj)ราบเรียบSee Also:สงบเงียบ, สบาย
(adj)ซึ่งทำให้สงบSyn.calm
(adj)สงบนิ่งSyn.calm, unexcitable
(n)จิตใจที่สงบแม้ว่าจะอยู่ภายใต้ความตึงเครียด (คำทางการ)Syn.unexcitability
(n)ความสงบของจิตใจSyn.calm, equanimity, poise
(vt)ทำให้ปั่นป่วนSee Also:ก่อกวน, กวน, ทำให้ไม่สงบSyn.upset, confuse, agitateAnt.calm, soothe
(phrv)อยู่นิ่งๆSee Also:อยู่สงบๆSyn.go easy, slow down, take easy
(adj)เงียบสงบSee Also:สงบสุขSyn.calm, peaceful, tranquilAnt.agitated, disturbed, unsettled
(n)นกเทพยดาที่เชื่อว่ามีอำนาจทำให้ทะเลและคลื่นสงบได้
(adj)เงียบSee Also:สงบ
(idm)ใจเย็นๆSee Also:สงบใจเอาไว้
(idm)ช่วยทำให้เรื่องสงบลงSee Also:ช่วยลดความรุนแรงของปัญหา
(idm)สงบจิตใจ
(n)ประสบการณ์หรือเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยความสุขสงบในชนบท
(adj)สงบสุขและงดงามSee Also:สุขสมบูรณ์, เงียบสงบSyn.charming, idealized
(adj)ซึ่งไม่แสดงอารมณ์See Also:เฉยๆ, ซึ่งตีหน้าตาย, ซึ่งสงบนิ่งSyn.calm, expressionless
(adj)ซึ่งไม่สามารถทำให้สงบลงได้ (คำทางการ)See Also:ซึ่งไม่สามารถทำให้โอนอ่อนได้Syn.inexorable
(adj)เกี่ยวกับการวางเพลิงSee Also:ซึ่งลอบวางเพลิง, ซึ่งก่อความไม่สงบ
Hope Dictionary
(แอจ' จิเทท) vt., vi. เขย่า, ทำให้ปั่นป่วน, ทำให้ไม่สงบ, ปลุกเร้า, ปลุกปั่น, ก่อกวน.
(อะเล') vt. ทำให้สงบ, บรรเทา, ทำให้น้อยลง. -allayer n.Syn.quiet, soothe
(อะพีซ') vt. ทำให้สงบ, ปลอบใจ, ยอมตาม, สนองความอยากรู้อยากเห็น, แก้กระหาย.
(อาร์'มิทิส) n. การสงบศึกชั่วคราว, การพักรบ, การหยุดรบSyn.cease-fire, truce
(อะสเวจฺ') vt. ทำให้บรรเทา, ทำให้สงบ, ผ่อนคลาย, ทำให้พอใจ, แก้หิว, แก้กระหายน้ำ. -assuagement n.Syn.allay, ease, moderateAnt.irritate, aggravate
(แอททะแรก'เซีย, -ซี) n. ภาวะสงบเงียบ, ภาวะไร้อารมณ์หรือความกังวล. -ataractic, ataxic adj. (tranquillity)
(อะเทม' เพอะ) vt. บรรเทา, ทำให้สงบ, ทำให้เหมาะสม, ปลอบใจ (soothe, mollify)
(บีคาล์ม') { becalmed, becalming, becalms } vt. ทำให้สงบ, ทำให้ไร้ลม, บรรเทาSyn.calm
จุดเริ่มต้นเทป <คำแปล>ใช้ตัวย่อว่า BOT หมายถึง จุดบนแถบบันทึกหรือเทป (tape) ที่กำหนดให้เป็นจุดเริ่มต้นให้มีการบันทึกข้อมูลลงได้ ปกติจะทำเป็นจุดสะท้อนแสงบนแถบบันทึก ซึ่งจะทำให้เกิดสัญญาณ บังคับให้เริ่มมีการอ่านข้อมูลบนแถบบันทึกโดยเริ่มจากจุดนั้นเป็นต้นไป
(บลิพ) n. ตำแหน่งแสงบนจอเรดาร์ที่แสดงตำแหน่งวัตถุในรัศมีเรดาร์, เสียงสั้นที่ดังชัด, สัญลักษณ์, เสียงขาดหายไประหว่างรายการโทรทัศน์, การหยุดในระยะเวลาสั้น -v. สับสวิตช์ออกและเข้าอย่างรวดเร็ว, ลบคำหรือข้อความหรือเสียงที่ไม่ต้องการออก -S...
(บอน'นี่) adj. สวยงาม, เจริญตา, สุขภาพแข็งแรง, ร่าเริง, เงียบสงบ, ดี, สบายใจSee Also:bonnily adv. bonniness n.
(บอน'นี่) adj. สวยงาม, เจริญตา, สุขภาพแข็งแรง, ร่าเริง, เงียบสงบ, ดี, สบายใจSee Also:bonnily adv. bonniness n.
(คาล์ม) { calmed, calming, calms } adj. สงบ, เงียบสงบ, ไร้ลมพัด, ใจสงบ. n. ความสงบ, ความเงียบสงบ, ภาวะนิ่งเฉย, ภาวะไร้ลมพัด, ภาวะใจสงบ. vt. ทำให้สงบ. vi. สงบSee Also:calmness n.Syn.quiet
(แคล'มะทิฟว) adj. มีฤทธิ์สงบประสาท n. ยาสงบประสาท
(แคน'นี) adj. ระมัดระวัง, ฉลาด, หลักแหลม, คล่องแคล่ว, ประหยัด, มัธยัสถ์, อ่อนโยน, สงบเงียบ, สบาย, น่ารัก, สวยงามSee Also:canniness n.
(คัมโพซดฺ) adj. เงียบ, สงบเงียบ, เกี่ยวกับจิตที่สงบ, มีอารมณ์สงบ.See Also:composedness n.Syn.calm, cool
(คัมไฟ'เ'อะ) n. ภาวะจิตที่ปกติ, ความสงบ, อารมณ์ที่สงบ, ความเงียบสงบ
(คอน'คอร์ด) n. ความสอดคล้องกัน, การปรองดองกัน, การลงรอยกัน, สัญญา, ข้อตกลง, ความสงบ, มิตรภาพ, เสียงที่กลมกลืนกันSyn.accord, agreement, treatyAnt.discord
(คูล) { cooled, cooling, cools } adj. เย็น, เย็นสบาย, เยือกเย็น, สุขุม, เฉยเมย, หน้าด้าน, หน้าหนา, ไร้ความกระตือรือร้น, ไร้อารมณ์, ดีเลิศ (แสลง) vi. เย็นลง, มีอารมณ์น้อยลง, กระตือรือร้นน้อยลง. vt. ทำให้เย็นลง, ทำให้สงบลง, ทำให้ลดน้อยลง (ความโกรธอารมณ์)See Also:co
(คอย) { coyed, coying, coys } adj. ขี้อาย, อาย, กระดาก, สงบเสงี่ยม vi. มีกิริยาที่อาย vt. สงบเสงี่ยมSee Also:coyness n.Syn.diffident, shy
(ดิเมียว') adj. อาย, กระดาก, เคร่งขรึม, สงบเสงี่ยม.See Also:demureness n.Syn.modest
(ได) { died, dying, dies } vi. ตาย, หยุด, หยุดทำงาน, อวสาน, พินาศ, สงบลง, สลายตัว, ทรมาน, ต้องการอย่างมาก. vt. ตาย.See Also:Id. die hard ดื้อรั้น n. ลูกเต๋า, สิ่งที่คล้ายลูกเต๋า, แม่พิมพ์, แบบเหล็ก, เบ้าเท vt. พิมพ์ด้วยแม่พิมพ์ -pl. dies, dice
n. ความไรักังวล, อารมณ์, ใจสงบ, ใจเย็น, ไม่มีอคติ
adj. ไร้อารมณ์, ใจสงบ, ใจเย็น, ไม่มีอคติSyn.impartial
n. ความไม่สงบ, ความกังวล, ความกระสับกระส่าย.vt. ทำให้ไม่สงบ, ทำให้กังวล, ทำให้กระสับกระส่าย.See Also:disquietedly adv. disquietly adv.Syn.uneasiness
(ดิสไคว'อิทด) n. ภาวะที่ไม่สงบ
(ดิสเทิร์บ'เบินซฺ) n. การรบกวน, การทำให้ไม่สงบ, การทำให้ยุ่ง, การทำให้ลำบาก, สิ่งที่รบกวน, ความไม่สงบSyn.row, disorder
(ดอร์'เมินทฺ) adj. อยู่เฉย ๆ , ไม่เคลื่อนที่, สงบ, ซึ่งซ่อนหรือนอนอยู่ภายใน, แฝง, ไม่เปิดเผย, ยังไม่ระเบิด (ภูเขาไฟ)See Also:dormancy n. ดูdormantSyn.quiet, inactive, static
(ดูส) adj. สงบ, เงียบ, เยือกเย็น, สุภาพเรียบร้อย.See Also:douceness n. ดูdouce
(เดา'เนอะ) n. ยากดประสาท, ยาสงบประสาท, สิ่งที่ทำให้ใจคอห่อเหี่ยว, ผู้ที่ทำให้ใจคอห่อเหี่ยว
(ดรีม'มี) adj. ชอบเพ้อฝัน, เหมือนฝัน, เลือนลาง, ไม่ชัด, เงียบสงบ, น่าอัศจรรย์, จับใจ, งดงาม.See Also:dreamily adv. dreaminess n.Syn.visionary
(อีซ) n. ความสะดวก, ความสบาย, ความง่าย, ความไร้กังวล, ความแคล่วคล่อง, ความง่ายดาย. vt., vi. พักผ่อน, ทำให้สบาย, ทำให้จิตสงบ, ทำให้ไร้กังวล, บรรเทา, ลดหย่อน, ทำให้สะดวก, ผ่อน, ปล่อย, บรรเทา, เคลื่อนอย่างแคล่วคล่องSyn.comfort
n. สงบและไร้กังวล, ตามสบาย, ไปเรื่อย ๆ , ซึ่งวิ่งเหยาะย่าง.
(อี'มู) n. จลาจล, ความไม่สงบ -pl. emeutes
(เอค'วะเบิล, อี'วะเบิล) adj. สม่ำเสมอ, เงียบสงบ, เสมอภาค.See Also:equability n. ดูequable
(อีควอนิม'มิที) n. ความใจเย็น, ความสงบใจ,
(อีควอน'นะเมิส) adj. ใจเย็น, สงบใจ, มีอารมณ์เย็น.
(อีควิลิบ'เบรียม) n. ความสมดุล, ดุลยภาพ, ความเสมอภาค, สภาพคงที่, ความสงบใจ.See Also:equilibratory adj. ดูequilibrium equilibrious adj. ดูequilibriumSyn.stability
(อี'เวิน) adj. เรียบ, ราบ, สม่ำเสมอ, ซึ่งหารด้วยเลข2ได้ลงตัว, ได้สมดุล, ยุติธรรม, พอดี, ไม่ขาดไม่เกิน, เงียบสงบ -adv. อย่างราบเรียบ, ยังคง, ยิ่งกว่านั้น, แม้ว่า n. ตอนเย็น vt. ทำให้ราบ, ทำให้เรียบ, ทำให้สมดุล, ทำให้เท่ากัน. vt. กลายเป็นเท่ากัน. -Id. (be (get) even wi
(เฟอ'เมินทฺ) n. เชื้อหมัก, เชื้อฟู, เอนไซม์ (enzyme) , การหมัก, การบูด, การเร่ง, ความไม่สงบ, ความสับสนอลหม่าน vt. (เฟอเมนทฺ') หมัก, ปลุกปั่น, กระตุ้น. vi. เกิดการหมัก, เกิดการบูด, มีอารมณ์ตื่นเต้น, เกิดความอลหม่าน.See Also:fermentability n. -fermentable adj.
n. ไม้หรือวัตถุที่กำลังติดไฟ, ผู้ก่อความไม่สงบหรือการทะเลาะวิวาท, ผู้ปลุกระดม, ผู้มีความกระฉับกระเฉงอย่างมาก
(เจน'เทิล) adj. ใจดี, ใจกว้าง, มีน้ำใจ, มีสกุลสูง, เป็นผู้ดี, สุภาพ, อ่อนโยน, น่านับถือ, ว่าง่าย, นุ่มนวล, ละมุนละไม. vt. ทำให้เชื่อง, ทำให้สงบ, ทำให้อ่อนโยน, ตบเบา ๆ , ลูบคลำ.See Also:gentleness n. gently adv.Syn.bland, placid, s
(กลา'ซี, กลาส'ซี) adj. คล้ายแก้ว, เงียบสงบตา, ตาซึม.See Also:glassily adv. glassiness n.Syn.dull
(แฮล'เซียน) n. นกเทพยดาที่เชื่อว่ามีอำนาจทำให้ทะเลและคลื่นสงบได้
(แฮท'ชิท) n.ขวานด้ามเล็ก ๆ , อาวุธ, ข้อบาดหมาง. -Id. (bury the hatcher (tomahawk) สงบศึก, ประนีประนอมกัน)
(ฮาร์ทซฺ'อีซ) n. ความสงบของจิตใจ
(ฮัช) { hushed, hushing, hushes } interj. คำอุทานขอให้เงียบ. vi., adj. เงียบ, ปิดบัง, ทำให้สงบ, บรรเทา. -n. ความเงียบ.See Also:hushedly adv. hushful adj. hushfully n.Syn.silence, quiet
(อิมแพส'ซิฟว) adj. ไม่มีอารมณ์, ใจเย็น, เมินเฉย, สงบใจ, ไม่มีความรู้สึก, ไม่รู้สึกทุกข์ร้อน.See Also:impassiveness, impassivity n.Syn.insensitive
(อิมเพอเทอเบ' เชิน) n. การปราศจากการถูกรบกวน, ความสงบ, ความเงียบ, ความใจเย็นSyn.calmness
(อินเซน' เดียรี) adj. เกี่ยวกับวัตถุระเบิดที่ลุกไหม้เมื่อระเบิด, เกี่ยวกับการลอบวางเพลิง, เกี่ยวกับการวางเพลิง, ซึ่งเป็นการก่อความไม่สงบ, เป็นการก่อกวนความสงบ. -n. ผู้ลอบวางเพลิง, วัตถุระเบิด, ผู้ก่อกวนความไม่สงบSyn.inflammatory
Nontri Dictionary
(vi)ยินยอม, ยอมรับ, สงบปากสงบคำ, นิ่งเฉย
(n)การยินยอม, การยอมรับ, การสงบปากสงบคำ, การนิ่งเฉย
(vt)ทำให้ยุ่งยาก, ทำให้ปั่นป่วน, ทำให้ไม่สงบ, ทำให้ร้อนใจ, ทำให้ตื่นเต้น
(vt)ทำให้สงบ, บรรเทา, ทำให้น้อยลง, ระงับ
(vt)ทำให้สงบ, ระงับโทสะ, ปลอบใจ, เอาใจ
(n)การสงบศึก, การหยุดรบ, การพักรบ, การหย่าศึก
(vt)ทำให้บรรเทา, ทำให้สงบลง
(adj)เงียบสงบ, ใจเย็น, ไม่ตื่นเต้น
(n)ความเงียบ, ความสงบ, ความใจเย็น
(vi)สงบเงียบ, เงียบ
(n)ความสงบ, ความเงียบ, ความเงียบสงบ
(adj)เงียบ, สงบ, สำรวม, ใจเย็น
(n)ความสงบ, อารมณ์เย็น
(adj)เคร่งขรึม, สงบเสงี่ยม, กระดากอาย
(adj)ไม่ลำเอียง, ไม่อคติ, ใจเย็น, ใจสงบ
(vt)ทำให้รำคาญ, ทำให้ไม่สงบ, รบกวน, ทำให้กระสับกระส่าย
(n)ความกังวล, ความกระสับกระส่าย, ความรำคาญ, ความไม่สงบ
(vt)รบกวน, ทำให้ยุ่ง, ทำให้ไม่สงบ
(n)การรบกวน, การทำให้ยุ่ง, การทำให้ไม่สงบ
(adj)ไม่เคลื่อนที่, นอนอยู่, คงที่, อยู่เฉยๆ, สงบเงียบ
(n)ความมีใจมั่นคง, ความใจเย็น, ความมีใจสงบ
(n)ฟืนที่กำลังติดไฟ, ผู้ปลุกระดม, ผู้ก่อความไม่สงบ
(adj)สงบเงียบ, สงบราบคาบ
(vi, vt)หยุดเงียบ, เงียบสงบ, ระงับ
(adj)ซึ่งสงบลงไม่ได้, ปลอบโยนไม่ได้, ไม่โอนอ่อน
(adj)ก่อให้เกิดเพลิง, ซึ่งก่อความไม่สงบ
(n)วัตถุระเบิด, ผู้ลอบวางเพลิง, ผู้ก่อความไม่สงบ
(adj)ไม่สะดุดตา, ไม่เด่น, สงบเสงี่ยม
(n)ความสงบ, การระงับ, การกล่อม, การหยุดนิ่ง
(vi)สงบลง, กล่อม, บรรเทา, นิ่ง
(n)การสงบใจ, ความรู้จักประมาณ, ความไม่รุนแรง
(adj)สุภาพ, ถ่อมตัว, สงบเสงี่ยม, ไม่รุนแรง, ขี้อาย, พอประมาณ
(n)ความสุภาพ, ความพอดี, ความสงบเสงี่ยม, ความถ่อมตัว
(n)การปลอบ, การระงับโทสะ, การทำให้สงบ
(vt)ทำให้เบาบางลง, ปลอบ, ระงับอารมณ์, ทำให้สงบ
(vt)ทำให้สงบเสียง, ครอบ(ปาก), จำกัด
(adj)สงบสุข, สันติภาพ, เพื่อความสงบ
(n)การปลอบ, การทำให้สงบ, ความสงบ
(vt)ปลอบ, ทำให้สงบลง, ทำให้เงียบ
(n)สันติภาพ, ความสงบ, ความสงบสุข
(adj)สงบสุข, เงียบสงบ, รักสงบ, รักสันติ
(adj)รักสินติภาพ, รักสงบ, สงบ, สงบสุข
(vt)ปลอบโยน, ปิดปาก, ทำให้สงบ
(adj)เงียบสงบ
(n)ความสงบ, ความเรียบง่าย, ความธรรมดา, ความชัดเจน
(vt)รักษาความสงบ, ตรวจตรา, พิทักษ์
(adj)เรียบร้อย, สงบเสงี่ยม, เป็นระเบียบ
(n)ความเป็นส่วนตัว, ความสันโดษ, ความสงบ, ความโดดเดี่ยว
(vt)มีชัย, ปราบ, ระงับ, กำจัด, ดับไฟ, ทำให้สงบ
(n)ความสงบ, ความนิ่ง, ความเฉยเมย
Longdo Unapproved EN-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
(n)กล้องยาสูบของอินเดียนแดง มีลำกล้องยาวมาก ใช้สูบเพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการสงบศึก
[ชิล เอ้าท์](phrase, slang)เงียบลง , สงบลงSee Also:be quiet, calm down
(vt)การุณยฆาต หรือ ปรานีฆาต การทำให้บุคคลหรือสัตว์เสียชีวิตอย่างสงบโดยเจตนา
(vt)ฝ่าไป เช่น เรือแคนูสามารถฝ่าสายน้ำนี้ไปได้เมื่อลมสงบ
[พูลยัวเซลฟทูเก๊เตอร์](vt)สงบจิตสงบใจ, สงบอารมณ์, เตรียมตัวเตรียมใจ
(n)ช่องแสงบนหลังคา
Longdo Approved JP-TH
[あんしん, anshin](n, adj)ผ่อนคลาย, สบายใจ, สงบจิตสงบใจ
[しずか, shizuka](adj)เงียบ, เงียบสงบAnt.うるさい
Longdo Unapproved JP-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
[たい, tai](n)ปลอดภัย ; สงบ ; สันติ ประเทศไทย
落ち着き払う
[おちつきはらう, ochitsukiharau]สงบนิ่ง แน่นิ่ง นิ่งไม่ตื่นตระหนก เฉยไม่มีความสะทกสะท้านอะไร
Saikam JP-TH-EN Dictionary
寝る
[ねる, neru] TH: สงบ ใช้ในสำนวน
安らぎ
[やすらぎ, yasuragi] TH: ความสงบ
安らぎ
[やすらぎ, yasuragi] EN: peace
安らぎ
[やすらぎ, yasuragi] TH: ความสงบทางใจ
Longdo Approved DE-TH
(vt)|beruhigte, hat beruhigt| สงบสติอารมณ์, ระงับจิตใจ
(vt)สงบสติตัวเองหลังอาการโกรธหรือเสียใจ
(n)|die, pl. Stätten| สถานที่, แหล่ง เช่น Der Stadtgarten ist die Stätte der Ruhe und Erholung. สวนประจำเมืองเป็นสถานที่สงบเพื่อการพักผ่อนSee Also:Stelle, PlatzSyn.Ort
(vi)|sieht ab, sah ab, hat abgesehen, von etw.| มองข้าม, ไม่ให้ความสำคัญ (ใช้ในรูปของ Partizip Perfekt คือ abgesehen von) เช่น Abgesehen von innerer Ruhe und Entspanntheit, bringt die Meditation uns dazu, die Dinge die uns umgeben zu betrachten. ถ้ามองข้ามความสงบภายในและการผ่อนคลายแล้ว การทำสมาธิทำให้เราพิจารณาสิ่งที่อยู่รอบกาย, Deshalb habe ich vom Kauf bei dieser Firma abgesehen. ดังนั้นฉันจึงไม่เคยคิดจะซื้อของจากบริษัทนี้เลย
(n)|die, pl. Unruhen| เหตุการณ์ไม่สงบ เช่น Bei Unruhen in der usbekischen Stadt Andischan hatten Militärs wahllos in eine Menschenmenge geschossen.
Longdo Unapproved DE-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
(n)กระแสสงบ
Longdo Approved FR-TH
(vi)1)นอนหลับ 2) อยู่ในสถานะที่สงบไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่มีการใช้งาน ex: Capitaux qui dorment.
Image:
dormir
เพิ่มคำศัพท์
add
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ