486 ผลลัพธ์ สำหรับ 

*มาน*

 ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น: มาน, -มาน-
Longdo Unapproved PT - TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
manga
[มาน-ก้า](n)ผลไม้ชนิดหนึ่งในประเทศโปรตุเกส
Longdo Unapproved TH - TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ขุนกระบี่
[ขุน-กระ-บี่](name)หนุมาน
ฌาณ
(n)ฌาณ หรือ อธิจิต(supraconscious) เป็นจิตที่เป็นที่สุดของปัญญา คือความรู้ชัดธรรมชาติของมนุษย์ว่านี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา(คือความรู้มรรค 8 การคิดปฏิบัติเพื่อดับทุกข์) เป็นจิตที่อยู่เหนือและสามารถ ควบคุมหรือข่ม ได้ทั้งจิตสำนึก(consious) และจิตใต้สำนึก(subconsious) ซึ่งเป็นความรู้ที่สูดของวิญญาณคือความรู้แจ้งของธรรมชาติของมนุษย์ว่า นี้สุข นี้ทุกข์ นี้มิใช่ทุกข์ มิใช่สุข อธิจิตใช้สำหรับดับกิเลส ซึ่งสามารถทำให้เกิดนิมิตขึ้นมาได้ เพื่อดับกิเลสในเวลาที่เกิดกิเลสขึ้น พระผู้มีพระภาค(พระพุทธเจ้า)ได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ไว้ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์๑๐. วิตักกสัณฐานสูตรว่าด้วย อาการแห่งวิตก การเรียกอธิจิตของตนเอง ถ้าไม่มีพรสวรรค์หรือบารมีที่สะสมมาแต่ปางก่อน จะเรียกไม่ได้ เพราะจิตยังไม่มั่นคงพอ จะต้องเรียนรู้และทำความเพียรที่ทนได้ยาก ฝึกฝน จนเกิดความชำนาญ ซึ่งข้าพเจ้ามีความสามารถที่จะให้คนทั่วไปเรียกอธิจิตของตนเองได้ เช่นให้ผู้ป่วยเรียกอธิจิตของเขาออกมารักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งทางกายและใจของเขาที่เป็นอยู่ โดยสั่งให้จิตของเขาตกอยู่ในภาวะภวังค์ ด้วยการสั่งระงับจิตหยาบที่ทำให้เขาเกิดโรคทั้งทางกายและทางใจ เพื่อเขาจะได้มีจิตที่มั่นคงถึงอธิจิตแล้วสั่งยาหรือภูมิต้านทานในตัวของเขาออกมารักษาโรค ซึ่งได้ผลดีกว่าแพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์ทางเลือกวิธีอื่น นี่คือประโยชน์จากการเรียกหรือฝึกเรียกอธิจิตของตนเอง ซึ่งพระพุทธเจ้าสามารถเรียก Stem cell ในพระวรกายของพระองค์ออกมารักษาโรคได้นานมาแล้วหรือมากกว่า 2554 ปี ส่วนนักวิทยาศาสตร์พึ่งจะมาค้นพบวิธีใช้ Stem cell รักษาบางโรคเมื่อ 50 ปีมานี้เอง การรักษายังมีข้อบ่กพร่องและเงื่อนไขในการรักษาเพื่อจะได้ผลลัพท์จนเป็นที่น่าพอใจของแพทย์อยู่อีกมาก แต่วิธีของพระพุทธองค์ไม่มีเงื่อนไข ถ้าคนป่วยสามารถเรียกอธิจิตของตนเองได้ ข้าพเจ้าได้ใช้อธิจิตรักษา โรคปวดตามอวัยวะและโรคหวัดป่วยของข้าพเจ้าเอง และรักษาโรคปวดและอัมพาลให้กับคนป่วยแล้วหลายราย ซึ่งได้รับผลเป็นที่น่าพอใจของข้าพเจ้าและของคนป่วย
นัยประหวัด
(n)คำที่มีความหมายให้ย้อนนึกถึง เช่น ความหมายนัยตรงแปลว่า ก้อนเนื้อร้าย ความหมายโดยนัย เช่น “อย่าทำตัวเป็นมะเร็งในที่ทำงาน” มะเร็ง หมายถึง ผู้ที่ไม่มีประโยชน์ให้กับบริษัท ความหมายนัยประหวัด เช่น “ กิจกรรมในงานวันมะเร็งแห่งชาติได้รับความสนใจมาก“ มะเร็ง หมายถึง การย้อนนึกถึงความทรมานจความเจ็บปวดจากเนื้อร้าย โรคร้ายนี้คร่าชีวตผู้คนจำจวนมาก
Longdo Unapproved TH - EN**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
Faculty of Sociology and Anthropology
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
(n)heartSyn.ใจ, ดวงใจ, พระทัย, พระหทัย, กมล, แด, มน, หทัย, หฤทัยUnit:ดวงThai Definition:สิ่งที่ทำหน้าที่รู้คิดและนึกNotes:(บาลี/สันสกฤต)
(n)heartSyn.ใจ, ดวงใจ, พระทัย, พระหทัย, กมล, แด, มน, หทัย, หฤทัยUnit:ดวงThai Definition:สิ่งที่ทำหน้าที่รู้คิดและนึกNotes:(บาลี/สันสกฤต)
(n)measurementSee Also:countingSyn.การวัด, การนับ, อัตราวัดNotes:(บาลี/สันสกฤต)
(n)measurementSee Also:countingSyn.การวัด, การนับ, อัตราวัดNotes:(บาลี/สันสกฤต)
(n)dropsySee Also:edemaThai Definition:โรคที่ทำให้ท้องพองโต มีหลายชนิด
(n)dropsySee Also:edemaThai Definition:โรคที่ทำให้ท้องพองโต มีหลายชนิด
(n)humanSee Also:peopleSyn.คน, มนุษย์Example:เขาเป็นมานพน้อยที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนUnit:คนNotes:(บาลี)
(n)humanSee Also:peopleSyn.คน, มนุษย์Example:เขาเป็นมานพน้อยที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนUnit:คนNotes:(บาลี)
(v)endureSee Also:make a determined effort, be patientSyn.พยายามExample:เด็กคนนี้สมองไม่ดี แต่ก็มานะเรียนจนจบThai Definition:พยายามทำแม้จะมีอุปสรรค
(n)diligent personSee Also:industrious personUnit:คนThai Definition:คนมีมานะ, คนที่อดทน, คนที่มีความพยายามNotes:(บาลี/สันสกฤต)
(n)diligent personSee Also:industrious personUnit:คนThai Definition:คนมีมานะ, คนที่อดทน, คนที่มีความพยายามNotes:(บาลี/สันสกฤต)
(v)heal upSee Also:repair, closeSyn.สมานแผลExample:การใช้ลวดหนีบรั้งขอบบาดแผลเพื่อให้หนังสมานเป็นเนื้อเดียวกัน ทำให้เกิดแผลเป็นได้Thai Definition:ทำให้ติดกัน, ทำให้สนิท
(v)uniteSee Also:cement, connect, join, combine, incorporate, patch up, reconcileSyn.เชื่อม, ผูกพันExample:พระองค์เสด็จเยือนต่างประเทศเพื่อสมานไมตรี และแก้ไขปัญหาขัดแย้งระหว่างประเทศนั้นๆ กับประเทศไทย
(v)tortureSee Also:torment, abuse, cause anguish, harrow, ill-treat, maltreat, mishandleSyn.ทารุณ, ประทุษร้าย, ทรมาทรกรรมExample:พม่าทรมานเชลยชาวไทยอย่างโหดเหี้ยมThai Definition: ทำให้ลำบาก, ทำทารุณNotes:(บาลี/สันสกฤต)
(n)paradiseSee Also:celestial residenceSyn.สวรรค์, วิมานUnit:องค์Thai Definition:ที่อยู่หรือที่ประทับของเทวดา
(n)respectful personSee Also:honourable person, esteemed personUnit:คนThai Definition:ผู้ที่คนนับถือ, ผู้ที่คนยกย่องNotes:(บาลี/สันสกฤต)
(n)respectful personSee Also:honourable person, esteemed personUnit:คนThai Definition:ผู้ที่คนนับถือ, ผู้ที่คนยกย่องNotes:(บาลี/สันสกฤต)
(n)divine vehicleSyn.ยานทิพย์Thai Definition:รถหรือยานบนสวรรค์Notes:(บาลี/สันสกฤต)
(n)paradiseSee Also:heavenly palace, abode of the angels, celestial castleSyn.สวรรค์Example:เจ้าที่ซึ่งเคยเป็นเจ้าผีอยู่ศาลไม้ได้เลื่อนชั้นเป็นเทวดาอยู่วิมานThai Definition:ที่อยู่หรือที่ประทับของเทวดาNotes:(บาลี/สันสกฤต)
(v)work hardSee Also:be diligent, be industrious hard, be persistent, strive, make determined effortSyn.อุตสาหะ, เพียรพยายาม, พยายาม, บากบั่น, หมั่นเพียร, มานะ, ขวนขวายExample:้เขามุมานะที่จะทำงานวิจัยชิ้นนี้ให้เสร็จภายในปลายปีนี้Thai Definition:มุ่งตั้งหน้าตั้งตาทำอย่างเอาจริงเอาจัง
(v)deduceExample:เราอาจจะอนุมานอารมณ์ของคนได้จากพฤติกรรมที่คนแสดงออกมาThai Definition:คาดคะเนตามหลักเหตุผล
(n)comparisonSee Also:analogyThai Definition:การเปรียบเทียบสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันNotes:(บาลี/สันสกฤต)
(v)inferSee Also:induceThai Definition:วิธีการสรุปรวบยอดออกมาเป็นหลักจากข้อเท็จจริงหลายๆ ข้อ
(n)dropsySee Also:abdominal edemaSyn.โรคท้องมานExample:ในตำนานกล่าวว่า หากใครกล่าวเท็จจะถูกสาปให้เป็นท้องมานThai Definition:ชื่อโรคจำพวกหนึ่งมีอาการให้ท้องโตอย่างหญิงมีครรภ์
(v)heal a woundSyn.รักษาแผลExample:ยาสมุนไพรตัวนี้ช่วยสมานแผลไฟไหม้ให้หายเร็วยิ่งขึ้นThai Definition:ทำให้บาดแผลหายสนิท
(adj)viciousSee Also:evil, depravedSyn.ชั่วช้า, ต่ำทราม, เลวทราม, เลวทรามต่ำช้าAnt.ดีExample:เขาเป็นคนหยาบช้าสามานย์อย่างที่ผมไม่เคยเจอ
(n)commandoSyn.หน่วยรบเฉพาะกิจExample:พลเรือนที่ถูกสังหารไปเมื่อเดือนที่แล้ว สงสัยว่าเป็นฝีมือของคอมมานโดอินเดียUnit:หน่วยThai Definition:หน่วยกล้าตายที่ได้คัดเลือกเป็นพิเศษ เพื่อฝึกการต่อสู้ประชิดตัว การโจมตีโฉบฉวย จู่โจม และยุทธวิธีข่มขวัญNotes:(อังกฤษ)
(adj)style of wearing the scarf-cloth of Thai (started from behind passed under the armpits across the chest and tied behind the neck)See Also:way of wearing a scarf crossed over the bosom and tied at the back of the neckSyn.ตะเบ็งมานThai Definition:วิธีห่มผ้าแถบแบบหนึ่ง โดยคาดผ้าอ้อมตัวแล้วเอาชายทั้ง 2 ไขว้ไปผูกที่ต้นคอ
(adj)style of wearing the scarf-cloth of Thai (started from behind passed under the armpits across the chest and tied behind the neck)See Also:way of wearing a scarf crossed over the bosom and tied at the back of the neckSyn.ตะแบงมานExample:หญิงโบราณจะห่มผ้าแบบตะเม็งมานเวลาออกทำงานหรือเวลาบ้านเมืองคับขันThai Definition:วิธีห่มผ้าแถบแบบหนึ่ง โดยคาดผ้าอ้อมตัวแล้วเอาชายทั้ง 2 ไขว้ไปผูกที่ต้นคอ
(n)celestial humanSee Also:demi-god, half-human-half godSyn.คนทิพย์Unit:ท่านThai Definition:คนครึ่งเทวดาครึ่งมนุษย์Notes:(สันสกฤต)
(n)nomenclature dictionaryExample:การทำวิจัยเรื่องนี้จำเป็นต้องใช้นามานุกรมหลายเล่มUnit:เล่ม, ฉบับThai Definition:พจนานุกรมคำวิสามานยนาม
(v)be unitedSee Also:be harmonious, be hand in hand, hold togetherSyn.สามัคคี, สมัครสมานสามัคคีAnt.แตกแยกExample:พระองค์ทรงรวบรวมคนไทยให้สมัครสมานกันได้อีกครั้งหนึ่งThai Definition:รวมกันเป็นหนึ่งเดียว
(n)common nounSyn.สามัญนามAnt.วิสามัญนามExample:คำที่ยกตัวอย่างมาข้างต้นล้วนเป็นสามานยนามซึ่งจัดเป็นคำมโนทัศน์Unit:คำThai Definition:คำนามที่เป็นชื่อทั่วไปของคน สัตว์ และสิ่งของ
(n)pride of kingSee Also:royal honorSyn.ชาติขัตติยมานะExample:พระองค์คำนึงถึงขัตติยมานะจึงรักษาคำมั่นยิ่งชีพThai Definition:การถือตัวว่าเป็นกษัตริย์
(v)sufferSee Also:be distressed, agonize, torture, torment, acheSyn.เจ็บปวด, ทรมาน, ทุกข์ระทมExample:ตาวินทุกข์ทรมานจากโรคร้ายนานนับปี
(v)tortureSee Also:torment, abuse, cause anguish, harrow, ill-treat, maltreat, mishandleSyn.ทารุณ, ประทุษร้าย, ทรมานExample:คุณจะเอาลูกไปทรมานทรกรรมทำไมThai Definition:ทำให้ทนทุกข์ทรมานไม่รู้จักจบจักสิ้น, ทำให้ทนทุกข์ทรมานอย่างยืดเยื้อNotes:(ปาก)
(n)anthropologyExample:ท่านเป็นปราชญ์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมหลายสาขา เช่น ภาษา ประวัติศาสตร์ โบราณคดี มานุษยวิทยา ศาสนา ประเพณี เป็นต้นThai Definition:วิชาว่าด้วยเรื่องตัวคนและสิ่งที่คนสร้างขึ้น
(n)proper nounExample:ให้นักเรียนวงส่วนที่เป็นวิสามานยนามแยกออกมาThai Definition:คำนามที่เป็นชื่อเฉพาะของคน สัตว์ สิ่งของ
(v)sufferSee Also:endure sufferingSyn.ทนทุกข์Example:ผมหมดหนทางที่จะช่วยเหลือเยียวยาได้ นอกจากปล่อยให้มันทนทุกข์ทรมานอยู่ในสภาพนั้นจนกว่าจะตายไปเอง
(n)noun clauseThai Definition:อนุประโยคที่ทำหน้าที่คล้ายกับนาม อาจเป็นประธาน กรรม หรือขยายก็ได้
(n)name dictionarySee Also:name glossaryUnit:เล่มThai Definition:อภิธานคำชื่อ
(n)castles in the airSyn.วิมานบนอากาศExample:คนที่ปรับตัวได้ดีก็ยังสร้างวิมานในอากาศด้วยการฝันเฟื่องได้เช่นกันThai Definition:การฝันหวานลมๆแล้งๆ ในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
(n)quartzSyn.หินเขี้ยวหนุมานExample:เขี้ยวหนุมานเป็นชื่อหินแร่ที่มีครบทุกสีThai Definition:แร่ชนิดหนึ่งมีรูปเป็นผลึกหกเหลี่ยมหัวท้าย แต่ละเหลี่ยมมีด้านสามเหลี่ยมเอนเข้าไปบรรจบกันเป็นยอดแหลม
(n)agreementSee Also:conformitySyn.ความสามัคคี, ความพร้อมเพรียงExample:เขาเป็นคนที่สร้างความสมานฉันท์ให้กับคนกลุ่มต่างๆ ภายในชาติThai Definition:ความพอใจร่วมกัน, ความเห็นพ้องกัน
(n)sufferingSee Also:pain, distressSyn.ความทุกข์ระทม, ความเจ็บปวด, ความทุกข์Ant.ความสุขExample:การได้รักและการพลัดพรากจากความรักล้วนเป็นความทุกข์ทรมานทั้งสิ้น
(n)anthropologistExample:นักมานุษยวิทยาตระหนักว่า ท่าทางการพูดของคนเราสะท้อนให้เห็นถึงความเห็นของเขาในเรื่องนั้นๆUnit:คนThai Definition:ผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชามานุษยวิทยา
(adv)recentlySyn.เมื่อเร็วๆ นี้, ไม่นานมานี้Ant.นานมาแล้วExample:เมื่อไม่นานมานี้ เกิดไฟไหม้ที่สลัมคลองเตย
(n)righteousnessSee Also:piety, saintliness, devoutness, devotion, reverence, religiousnessThai Definition:การประพฤติความดีสมควรแก่ฐานะNotes:(บาลี, สันสกฤต)
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ดู แฉลบ ๒.
น. เครื่องมือชนิดหนึ่งใช้จับปลา ลักษณะเป็นถุงตาข่ายยาว ใช้หลักขนาดใหญ่ ๒ ต้น ปักห่างกันประมาณ ๖ เมตร เพื่อกางปากถุงไว้ใต้น้ำสำหรับดักปลาที่ว่ายตามกระแสน้ำลง มีไม้จริงขนาดเล็กหรือไม้รวกปักเป็นระยะออกจากปากถุงเป็นปีก ๒ ข้าง ให้ปีกกางเฉียงออกทำมุมประมาณ ๔๕-๙๐ องศา, ซู่กั้นรั้วไซมาน หรือ รั้วไซมาน ก็เรียก.
น. การถือตัวว่าเป็นกษัตริย์หรือเชื้อสายกษัตริย์.
น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Oryza minuta J. Presl et C. Presl ในวงศ์ Gramineae เป็นข้าวป่าชนิดหนึ่ง มักขึ้นแซมต้นข้าว, หญ้าละมาน ก็เรียก.
น. แร่ประกอบหินชนิดหนึ่ง มีรูปเป็นผลึกหกเหลี่ยม หัวท้ายแต่ละเหลี่ยมมีด้านสามเหลี่ยมเอนเข้าไปบรรจบกันเป็นยอดแหลมดูคล้ายฟันลิง แร่นี้มีแทบทุกสี ตั้งแต่ใสเหมือนกระจกจนขาวขุ่น ชมพู เขียว ม่วง ตลอดจนดำ.
น. ทหารหรือตำรวจในกลุ่มที่ได้คัดเลือกเป็นพิเศษ เพื่อฝึกการต่อสู้ประชิดตัว การโจมตีโฉบฉวย จู่โจม และยุทธวิธีข่มขวัญอื่น ๆ, หน่วยรบเฉพาะกิจ.
น. เครื่องมือชนิดหนึ่งใช้จับปลา ลักษณะเป็นถุงตาข่ายยาว ใช้หลักขนาดใหญ่ ๒ ต้น ปักห่างกันประมาณ ๖ เมตร เพื่อกางปากถุงไว้ใต้น้ำสำหรับดักปลาที่ว่ายตามกระแสน้ำลง มีไม้จริงขนาดเล็กหรือไม้รวกปักเป็นระยะออกจากปากถุงเป็นปีก ๒ ข้าง ให้ปีกกางเฉียงออกทำมุมประมาณ ๔๕-๙๐ องศา, กั้นซู่รั้วไซมาน หรือ รั้วไซมาน ก็เรียก.
น. วิธีห่มผ้าแถบแบบหนึ่ง โดยคาดผ้าอ้อมตัวจากด้านหลังไขว้ขึ้นมาด้านหน้า แล้วเอาชายทั้ง ๒ ไขว้ไปผูกที่ต้นคอ, ตะแบงมาน ก็ว่า.
น. วิธีห่มผ้าแถบแบบหนึ่ง โดยคาดผ้าอ้อมตัวจากด้านหลังไขว้ขึ้นมาด้านหน้า แล้วเอาชายทั้ง ๒ ไขว้ไปผูกที่ต้นคอ, ตะเบ็งมาน ก็ว่า.
(ทอระมาน) ก. ทำให้ลำบาก, ทำทารุณ เช่น ทรมานตัว ทรมานสัตว์
ทำให้ละพยศหรือลดทิฐิมานะลงด้วยการแผ่เมตตาเป็นต้น เช่น พระพุทธเจ้าทรงทรมานช้างนาฬาคิรี.
น. ชื่อโรคจำพวกหนึ่งที่มีสารน้ำอยู่ในท้องมาก ทำให้ท้องโตอย่างหญิงมีครรภ์ มักมีสาเหตุมาจากโรคตับ.
น. ครึ่งเทพครึ่งมนุษย์.
(ทอระมาน) ว. ยังดำรงชีวิตอยู่.
(ทำมา-) น. การประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม, การประพฤติความดีสมควรแก่ฐานะ.
(ทำมา-) น. ความถูกตามธรรม, ทางหรือวิธีแห่งความยุติธรรม, ความระลึกตามธรรม.
ดู ธรรม ๑, ธรรม-, ธรรมะ.
ดู ธรรม ๑, ธรรม-, ธรรมะ.
(-นุกฺรม) น. พจนานุกรมคำวิสามานยนาม.
น. อภิธานคำชื่อ.
ดู นาม, นาม-.
ดู นาม, นาม-.
น. การสร้าง, การแปลง, การทำ, การวัดส่วน.
(นิมมานะระดี, นิมมานอระดี) น. ชื่อสวรรค์ชั้นที่ ๕ แห่งสวรรค์ ๖ ชั้น มีท้าวสุนิมมิตมารเป็นใหญ่ในชั้นนี้, ในบทกลอนใช้ว่า นิมมานรดีต ก็มี เช่น ช่อชั้นนิมมานรดีต (อิเหนา). (ป.; ส. นิรฺมาณ + รติ). (ดู ฉกามาพจร ประกอบ).
(-ระมาน) ว. ปราศจากการถือรั้น, ไม่มีความดื้อดึง, ไม่ถือตัว.
น. กาว, แป้งเปียก.
(พดจะมาน) น. คำพูด.
น. ที่อยู่หรือที่ประทับของเทวดา.
(พะโยมัน, พะโยมาน) น. โพยม, ท้องฟ้า, อากาศ.
น. ชื่อโรคจำพวกหนึ่ง เกิดได้หลายสาเหตุ เช่น มีถุงน้ำเกิดที่เยื่อบุช่องท้อง การอุดกั้นหลอดเลือดดำหรือทางเดินของน้ำเหลือง ตับแข็ง ลิ้นหัวใจพิการ ไตอักเสบเรื้อรัง ทำให้มีน้ำสีเหลืองใสอยู่ในช่องท้อง อาจมีเพียงเล็กน้อยหรือมากถึง ๑๕-๒๐ ลิตร เป็นเหตุให้หน้าท้องโป่งพองจนเห็นได้ชัด น้ำหนักเพิ่ม แน่นท้อง ท้องผูก เบื่ออาหาร หายใจลำบาก เท้าบวม เป็นต้น.
น. โรคที่มีอาการบวมคล้ายโรคมาน แต่บวมทั่วทั้งตัว.
น. ความถือตัว
ใจ, ดวงใจ, เช่น ดวงมาน.
ก. มี เช่น มานพระบัณฑูร.
ก. ตั้งท้อง เช่น มานลูก ข้าวมาน.
(-นบ) น. คน. (ป.).
น. การวัด, การนับ, อัตราวัด.
น. ความพยายาม, ความตั้งใจจริง, ความพากเพียร, เช่น มีมานะอดทน มีมานะในการทำงาน
ความถือตัว.
น. วินัยกรรมที่สงฆ์ทำแก่ภิกษุผู้ต้องอาบัติสังฆาทิเสสให้เป็นภิกษุที่นับเข้าในหมู่สงฆ์ได้ เช่น สวดมานัต.
น. ใจ.
ว. เกี่ยวกับใจ.
(-นิด) ว. ผู้ที่คนนับถือ, ผู้ที่คนยกย่อง.
น. คนมีมานะ.
(มานุด, มานุดสะยะ-) น. คน, เพศคน.
(มานุด, มานุดสะยะ-) ว. เกี่ยวกับคน, ของคน.
(มานุดสะยะ-, มานุด-) น. วิชาว่าด้วยเรื่องตัวคน และสิ่งที่คนสร้างขึ้น.
(ยัดชะ-) น. เจ้าภาพ.
น. ชื่อเพลงไทยอัตรา ๓ ชั้น หน้าทับปรบไก่
ชื่อเพลงไทยประเภทเพลงโหมโรง.
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
ความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ท้องมาน [ มีความหมายเหมือนกับ hydroperitoneum; hydroperitonia ][แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. น้ำคร่ำมาก๒. ภาวะครรภ์มานน้ำ[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ละครมหาทรมาน[วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
นิยายวีรคติ, นิยายโรมานซ์[วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
การอนุมานเชิงสถิติ[คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
ตรรกบทสถิติ, ปรัตถานุมานสถิติ[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. ตีบ, คอด, -หดแคบ [ มีความหมายเหมือนกับ stenosal; stenosed; stenotic ]๒. ยาสมาน [ มีความหมายเหมือนกับ astringent ][แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
เนื้อเยื่อสมานแผล [ มีความหมายเหมือนกับ cicatrice; cicatrix ][พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
๑. ฤทธิ์สมาน๒. การสมาน (แผล)[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. -สมาน (แผล)๒. ยาห้ามเลือด[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ตรรกบท, ปรัตถานุมาน[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
ตรรกบทเด็ดขาด, ปรัตถานุมานเด็ดขาด[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
ตรรกบทสถิติ, ปรัตถานุมานสถิติ[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
การพิจารณาคดีโดยใช้วิธีทรมาน[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
เชิงอุปมาน, แอนะล็อก[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
เชิงอุปมาน, แอนะล็อก[เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
มานุษยประมาณนิยม[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
มานุษยวิทยา[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
มานุษยรูปนิยม[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
การบวมทั้งตัว, มานทะลุน[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ท้องมาน [ มีความหมายเหมือนกับ hydroperitoneum; hydroperitonia ][แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
มานเลือด[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
น้ำมาน[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ยาสมาน [ มีความหมายเหมือนกับ stegnotic ๒ ][แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
เชิงอุปมาน, แอนะล็อก[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
เชิงอุปมาน, แอนะล็อก[เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
คอมพิวเตอร์เชิงอุปมาน, แอนะล็อกคอมพิวเตอร์[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
คอมพิวเตอร์เชิงอุปมาน, แอนะล็อกคอมพิวเตอร์[เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ข้อมูลเชิงอุปมาน, ข้อมูลแอนะล็อก[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
ท้องมาน [ มีความหมายเหมือนกับ hydroperitoneum; hydroperitonia ][แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
อุปกรณ์แอนะล็อก, อุปกรณ์เชิงอุปมาน[เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การสังเคราะห์ภาพเชิงอุปมาน, การสังเคราะห์ภาพเชิงเส้น [ มีความหมายเหมือนกับ video synthesis ][เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
วงจรข่ายเชิงอุปมาน, วงจรข่ายแอนะล็อก[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
การบันทึกเสียงเชิงอุปมาน, การบันทึกเสียงเชิงเส้น[เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
สัญญาณเชิงอุปมาน, สัญญาณแอนะล็อก[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
สัญญาณเชิงอุปมาน, สัญญาณแอนะล็อก[เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
อุปมานิทัศน์[วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
อุปมานิทัศน์[ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ควอตซ์, แร่เขี้ยวหนุมาน[ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
กวีกลุ่มแบล็กเมาน์เทน[วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
มานเลือด[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
นิยายวีรคติร้อยกรอง, นิยายโรมานซ์ ร้อยกรอง[วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
นิยายวีรคติสมัยกลาง, นิยายโรมานซ์ สมัยกลาง[วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
ตรรกบทเด็ดขาด, ปรัตถานุมานเด็ดขาด[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
ท้องมาน [ มีความหมายเหมือนกับ hydroperitoneum; hydroperitonia ][แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ระบบซ้อมผู้ต้องหา, ระบบทรมานผู้ต้องหา[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ท้องมาน [ มีความหมายเหมือนกับ hydroperitoneum; hydroperitonia ][แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
น้ำมาน[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
อติมานะ[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
นามานุกรม, ทำเนียบนามExample:Directory หมายถึง นามานุกรม หรือ ทำเนียบนาม คือ หนังสือที่รวบรวมรายชื่อของบุคคล หน่วยงาน สมาคม มูลนิธิ องค์การ และบริษัทต่าง ๆ จัดเรียงรายชื่อตามลำดับอักษรหรือตามลำดับหมวดหมู่ โดยให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานที่อยู่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอื่นๆ ถ้าเป็นนามานุกรมที่รวบรวมรายชื่อบุคคลจะจะให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชื่อ นามสกุล สถานที่อยู่ ตำแหน่งหน้าที่การงาน หมายเลขโทรศัพท์ ถ้าเป็นนามานุกรมหน่วยงาน สมาคม มูลนิธิ องค์การจะจะระบุชื่อของผู้ที่เป็นหัวหน้าหน่วยงาน และให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานที่ตั้ง ปีที่จัดตั้ง วัตถุประสงค์และหน้าที่ของหน่วยงานนั้น ๆ พร้อมด้วยหมายเลขโทรศัพท์ ถ้าเป็นชื่อบริษัท ห้างร้าน จะบอกรายชื่อของสินค้าที่จัดจำหน่ายประเภทของผลิตผล รหัสที่ใช้ในการติดต่อทางโทรเลข รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
อาคารถาวรที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งตั้งพระบรมศพ หรือพระศพเวลาถวายพระเพลิงอัญเชิญพระบรมศพหรือพระศพจากพระเมรุพิมานไปถวายพระเพลิงที่พระเมรุ (ขนาดน้อย) อีกแห่งใกล้ ๆ หรือไม่ไกลกันมาก[ศัพท์พระราชพิธี]
การวิเคราะห์อภิมาน[วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
การหาอายุโดยเทคนิคเทอร์โมลูมิเนสเซนซ์, วิธีหาอายุโบราณวัตถุประเภทเครื่องปั้นดินเผา โบราณสถานที่ก่อสร้างด้วยอิฐและตะกอนดิน โดยอาศัยปรากฏการณ์เทอร์โมลูมิเนสเซนซ์ วิธีที่นิยมใช้มี 2 วิธี คือ Quartz and Feldspar Inclusion Method สามารถหาอายุตัวอย่างที่มีหินเขี้ยวหนุมานประกอบอยู่ได้ในช่วง 50 ถึง 100, 000 ปี และถ้ามีหินฟันม้าประกอบอยู่ สามารถหาอายุได้ในช่วง 500 ถึง 500, 000 ปี อีกวิธีหนึ่งได้แก่ Pre-dose Method สามารถหาอายุตัวอย่างที่มีหินเขี้ยวหนุมานประกอบอยู่ได้ในช่วงไม่เกิน 1, 000 ปี (ดู thermoluminescence ประกอบ)Example: [นิวเคลียร์]
เทอร์โมลูมิเนสเซนซ์, ปรากฏการณ์การเปล่งแสงของสารบางชนิดเมื่อได้รับความร้อน นำมาประยุกต์ใช้วัดปริมาณรังสีที่สารนั้นดูดกลืนไว้ เช่น การวัดปริมาณรังสีด้วยทีแอลดี การหาอายุโบราณวัตถุและโบราณสถาน เทอร์โมลูมิเนสเซนซ์เกิดเมื่อสารได้รับรังสีและดูดกลืนพลังงานจากรังสีไว้ ทำให้อิเล็กตรอนส่วนหนึ่งหลุดออกมา และบางส่วนจะถูกจับไว้ในผลึกที่มีโครงสร้างไม่สมบูรณ์ ซึ่งเมื่อนำมากระตุ้นด้วยความร้อน อิเล็กตรอนดังกล่าวจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมทั้งคายพลังงานในรูปของแสง ตัวอย่างสารเทอร์โมลูมิเนสเซนซ์ในธรรมชาติ เช่น แร่แคลไซต์ แร่โดโลไมต์ หินฟันม้า หินเขี้ยวหนุมาน เพทาย และสารที่สังเคราะห์ขึ้น เช่น แคลเซียมฟลูออไรด์ (ดู thermoluminescence dating ประกอบ)[นิวเคลียร์]
ภาษาศาสตร์มานุษยวิทยา[TU Subject Heading]
ภาษาศาสตร์มานุษยวิทยา, พิพิธภัณฑ์มานุษยวิทยา[TU Subject Heading]
นักมานุษยวิทยา[TU Subject Heading]
มานุษยวิทยา[TU Subject Heading]
มานุษยวิทยา, มานุษยวิทยาก่อนประวัติศาสตร์[TU Subject Heading]
มานุษยมิติ[TU Subject Heading]
มานุษยวิทยาประยุกต์[TU Subject Heading]
ศิลปะกับมานุษยวิทยา[TU Subject Heading]
มานน้ำ[TU Subject Heading]
สารมานน้ำ[TU Subject Heading]
การสื่อสารทางมานุษยวิทยา[TU Subject Heading]
อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (ค.ศ. 1984)[TU Subject Heading]
มานุษยวิทยาเศรษฐกิจ[TU Subject Heading]
มานุษยวิทยานอกพิภพ[TU Subject Heading]
การสมานตะกอน[TU Subject Heading]
การอนุมาน[TU Subject Heading]
มานุษยวิทยามาร์กซิสต์[TU Subject Heading]
สื่อมวลชนกับมานุษยวิทยา[TU Subject Heading]
มานุษยวิทยาการแพทย์[TU Subject Heading]
การวิเคราะห์อภิมาน[TU Subject Heading]
มานุษยวิทยากายภาพ[TU Subject Heading]
มานุษยวิทยาการเมือง[TU Subject Heading]
หินเขี้ยวหนุมาน[TU Subject Heading]
ความสมานฉันท์[TU Subject Heading]
การบริหารงานยุติธรรมเชิงสมานฉันท์[TU Subject Heading]
หนุมานประสานกาย (พืช)[TU Subject Heading]
ทรมาน[TU Subject Heading]
ทรมาน (กฎหมายระหว่างประเทศ)[TU Subject Heading]
องค์การนิรโทษกรรมสากล องค์การนี้เริ่มต้นจากเป็นขบวนการเล็ก ๆ ก่อน เพื่อทำหน้าที่ประท้วง (Protest) แต่ภายในเวลาไม่นานนัก ได้ขยายตัวออกเป็นองค์การ เพื่อให้สมกับเป้าหมายและภารกิจที่ต้องปฏิบัติเพิ่มขึ้นมากมาย คติดั้งเดิมของการรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนบรรดาบุคคลที่ต้องถูกคุม ขังอยู่ทั่วโลก ด้วยข้อหาเกี่ยวกับความเชื่อถือทางการเมืองและการศาสนานั้น ได้บังเกิดจากความคิดของบุคคลหนึ่งชื่อปีเตอร์ เบเนนสันปีเตอร์ เบเนนสัน ได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ประจำวันอาทิตย์ของอังกฤษชื่อ Sunday Observer เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1961 โดยให้หัวเรื่องบทความว่า ?นักโทษที่ถูกลืม? (The Forgotten Prisoners) บทความนี้ได้ประทับใจมติมหาชนทั่วโลกทันที และภายในปีเดียว องค์การได้รับเรื่องร้องเรียนในนามของนักโทษกว่า 200 รายองค์การนิรโทษกรรมสากลมีเป้าหมายนโยบายกว้างๆ อยู่ 3 ข้อ คือ ต้องการให้ปล่อยนักโทษผู้มีนโนธรรม (Prisoners of Conscience) ทั้งหมด ให้มีการยุติการทรมานนักโทษไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ รวมทั้งการลงโทษประหารชีวิตและให้มีการพิจารณาพิพากษาคดีนักโทษการเมืองทั้ง หมดอย่างเป็นธรรมและไม่รอช้า องค์การนี้นอกจากจะมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้ดำรงความเป็นกลางไม่เข้ากับฝ่ายใด และเป็นที่น่าเชื่อถือไว้วางใจได้อย่างแท้จริงแล้ว ยังเป็นเสมือนศูนย์ข้อมูลและข้อสนเทศที่สำคัญ ซึ่งบรรดาบุคคลสำคัญๆ ทางการเมืองทั่วโลกได้ใช้อ้างอิงอีกด้วยในปัจจุบัน องค์การนิรโทษกรรมมีสมาชิกและผู้สนับสนุนเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านคน จากประเทศต่างๆ กว่า 150 ประเทศ องค์การอยู่ภายใต้การบริหารของคณะกรรมการบริหารจำนวน 9 คน รวมทั้งตัวเลขาธิการอีกผู้หนึ่ง ทำหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อมติเกี่ยวกับนโยบาย และเป็นหัวหน้าของสำนักเลขาธิการขององค์การด้วย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ องค์การมีผู้แทนของตนประจำอยู่กับองค์การสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ. 1978 ได้รับรางวัลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ และในปี ค.ศ. 1977 ก็ได้รับรางวัลสันติภาพโนเบลมาแล้ว[การทูต]
คณะกรรมการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงแห่งภูมิภาคอาเซียน เป็นกลไกประสานด้านการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงของภูมิภาค จัดตั้งขึ้นตามหลักการของปฏิญญาความสมานฉันท์แห่งอาเซียน 2514[การทูต]
อนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการปฏิบัติ หรือการลงโทษอื่น ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี[การทูต]
คณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น[การทูต]
ถ้อยคำสำนวนที่ใช้ในวงการทูต กล่าวคือ ในวงการทูตจะมีการนิยมใช้ถ้อยคำสำนวนการทูต ถือกันว่าเป็นภาษาที่สุภาพ ซึ่งจะมีความหมายลึกซื้งเพียงใดนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะทราบกันดี อาทิเช่น?My Government views with concern หรือ with grave concern? จะแสดงถึงท่าทีที่ไม่เห็นด้วย หรือแสดงการประท้วง?My Government cannot remain indifferent to the matter? จะส่อถึงเจตนาที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปส่วนถ้อยคำสำนวนที่ว่า ?In such event my Government would feel bound to reconsider its position หรือ to consider its own interest??My Government will have to claim a free hand? หรือ ?feel obliged to formulate express reservations regarding?เหล่านี้เป็นถ้อยคำสำนวนที่เตือนให้ทราบว่า อาจเกิดการแตกร้าว หรือตัดขาดในพันธไมตรีที่มีต่อกันได้เมื่อรัฐบาลหนึ่งประกาศถือว่าการกระทำ ของอีกรัฐบาลหนึ่งเป็น ?an unfriendly act? หรือการกระทำที่ไม่เป็นมิตรเช่นนี้ ย่อมหมายถึงการเตือนให้ทราบว่า การกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามได้ถ้าหากในตอนเสร็จสิ้นการประชุมกันมีการ แถลงการณ์หรือโฆษกของที่ประชุมแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมได้ทำความตกลงกันโดยสมบูรณ์ (Full agreement) แต่ไม่มีการเปิดเผยให้ทราบว่ามีการตกลงอะไรกันบ้าง จะทำให้เป็นที่สงสัยกันว่าได้มีการตกลงกันโดยสมบูรณ์จริงละหรือ ถ้าหากคำประกาศนั้นใช้ถ้อยคำว่า มี ?substantial agreement? ก็พอจะอนุมานได้ว่าแท้ที่จริงยังมีเรื่องสำคัญ ๆ ที่ยังตกลงกันไม่ได้อีกบางเรื่อง อนึ่ง หากว่ามีการแถลงว่า ?there was a full exchange of views? ก็เท่ากับพูดว่า มิได้มีการตกลงกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น[การทูต]
ใช้กับราชการทุกคนที่ประจำทำงานในด้านทางการทูต ไม่ว่าจะประจำอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ หรือในราชการต่างประเทศ คือ ในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือในสำนักงานทางทูตอื่นๆในทรรศนะของ เซอร์แฮโรลด์ นิโคลสัน นักการทูตยอดเยี่ยมคนหนึ่งของอังกฤษ ได้ระบุไว้ว่า นักการทูตหรือ Diplomat จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ ยึดถือความเป็นจริง มีความแม่นยำ สงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น อารมณ์ดี มีความสงบเสงี่ยมและมีความจงรักภักดี ทั้งยังจะต้องเป็นผู้ที่มีสติปัญญา มีความรู้ มองเห็นการณ์ไกล มีความสุขุมรอบคอบ ใจดีกับแขกและผู้แปลกหน้า มีเสน่ห์ มีความอุตสาหะวิริยะ มีความกล้า และมีปฏิภาณในทำนองเดียวกัน Francoise de Callieres (1645-1717) นักการทูตชั้นเยี่ยมของฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นเอกอัครราชทูตประจำโปแลนด์ ซาวอย ฮอลแลนด์ บาวาเรีย และลอเรน ได้เขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่งชื่อว่า De la miniere avec les souverains เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการเจรจาทางการทูต ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังเป็นที่รับรองกันทั่วไปว่าเป็นหนังสือที่ดีเยี่ยมเล่ม หนึ่ง หรือเป็นจินตกวีนิพนธ์เรื่องการดำเนินการทูตกับเจ้าผู้ครองนคร (Princes) สมัยนั้นCallieres ได้วางมาตรฐานของนักการทูตไว้สูงมากเพราะเขาเห็นว่า ไม่มีงานราชการใด ๆ ที่จะยากยิ่งไปกว่าการเจรจา ในการเจรจานั้น ผู้เจรจาจะต้องสามารถมองเห็นเหตุการณ์ทะลุปรุโปร่ง หรือมีสติปัญญาเฉียบแหลม มีความคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง มีความละมุนละไม มีความรอบรู้และความเข้าใจอย่างกว้างขวาง ตลอดจนข้อสำคัญที่สุด ต้องเป็นผู้มีความสุขุมคัมภีรภาพ สามารถมองเห็นการณ์ไกลชนิดเจาะลึกทีเดียว นอกจากนี้ จะต้องเป็นผู้มีอารมณ์ขันอย่างสม่ำเสมอ ไม่โกรธง่าย มีจิตใจสงบเยือกเย็น มีความอดกลั้น พร้อมเสมอที่จะรับฟังทุกคนที่เขาพบด้วยความตั้งอกตั้งใจ พูดจาอย่างเปิดเผย และมีอารมณ์ร่าเริงไม่หน้าเง้าหน้างอ มีอัธยาศัยไมตรี รวมทั้งมีกิริยาท่าทางเป็นที่ต้องตาต้องใจกับทุกคน ในฐานะนักเจรจา (Negotiator) นักการทูตจะต้องมีคุณลักษณะและคุณสมบัติตามที่กล่าวมานี้เป็นอย่างน้อย เนื่องจากมีการเจรจาเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของนักการทูตนั่นเอง[การทูต]
คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ " ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2524 ปัจจุบันมีสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดี- อาระเบีย บาห์เรน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต โอมาน และกาตาร์ "[การทูต]
งานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก[การทูต]
เป็นเทคนิคการถ่ายภาพอวัยวะในร่างกายที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน โดยการตรวจวัดสารกัมมันตรังสีบางชนิด ซึ่งให้แก่ร่างกายในรูปของสารเภสัชรังสี เพื่อใช้ในการตรวจวัดเชิงปริมาณของขบวนการทางชีวเคมีในร่างกายของสิ่งมีชีวิต ไอโซโทปรังสีที่ใช้จะเป็นชนิดที่ปลดปล่อยโพซิตรอนออกมา เช่น ออกซิเจน-15 ไนโตรเจน-13 และคาร์บอน-11 โพซิตรอนที่ปล่อยออกมานี้จะเข้าทำปฏิกิริยาประลัย (annihilation) เกือบจะทันทีทันใดกับอิเล็กตรอนที่โคจรอยู่รอบนิวเคลียสในอะตอมของสาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสารเภสัชรังสีนั้น และมีรังสีแกมมาพลังงาน 511 กิโลอิเล็กตรอนโวลต์ ปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในสองทิศทางตรงกันข้าม สามารถตรวจวัดได้ด้วยหัววัดรังสีที่อยู่ตรงข้ามกัน จากหัววัดหลายๆ หัวที่ล้อมรอบคนไข้ ทำให้ทราบตำแหน่งที่ผิดปกติในร่างกายได้ โดยการแปลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ เนื่องจากส่วนใหญ่ของไอโซโทปรังสีที่ใช้กับเทคนิคนี้ เป็นไอโซโทปของธาตุที่เป็นส่วนประกอบของอินทรีย์วัตถุ จึงทำให้ PET มีประโยชน์ในการศึกษากระบวนการทางสรีรวิทยาและชีวเคมีที่ผิดปกติด้วย ในทางปฏิบัติ PET จำเป็นต้องใช้ไอโซโทปรังสีที่ผลิตขึ้นจากการระดมยิงที่เป้า ด้วยโปรตรอนพลังงานสูงภายในเครื่องไซโคลตรอน การศึกษาโดยใช้ PET จะมุ่งเน้นไปยังระบบประสาทส่วนกลางเป็นหลัก ด้วยการวัดตัวแปรเสริมอื่นๆ ประกอบ เช่น การไหลเวียนของเลือด กระบวนการสร้างและสลายน้ำตาลกลูโคส และการเผาผลาญออกซิเจน จึงมีความเป็นไปได้ที่จะหาสมุฏฐานของโรคลมบ้าหมู หรือหาขนาดที่แน่นอนของบริเวณที่พิการในสมองได้ ในการศึกษาที่เกี่ยวกับหัวใจและหน้าที่ของหัวใจ การตรวจโดยใช้ PET จะเป็นวิธีที่เฉพาะเจาะจง และให้ผลดีกว่าการตรวจสอบโดยวิธีอื่นๆ[พลังงาน]
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดหนึ่ง เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติประกอบด้วยธาตุไฮโดรเจนและคาร์บอนทีเกิดจากการทับถาม ของซากพืชและสัตว์ จำพวกจุลินทรีย์ที่อาศัยในโลกมานานนับร้อยล้านปี สามารถผลิตได้จากแหล่งใต้พื้นพิภพโดยตรงหรือติดมากับน้ำมันดิบจากหลุมน้ำมัน ดิบ โดยส่วนใหญ่จะมีก๊าซมีเทนตั้งแต่ 70% ขึ้นไป[ปิโตรเลี่ยม]
พวกชอบทรมาน[การแพทย์]
เห็ดพันธุ์อะมานิตามัสคาเรีย[การแพทย์]
เห็ดพันธุ์อะมานิตาพัลลอยดีส, อะมานิตาฟอลลอยด์[การแพทย์]
สารพิษอะมานิติน[การแพทย์]
การอุปมาน[การแพทย์]
มานุษยวิทยา, มนุษยวิทยา[การแพทย์]
มนุษยวิทยาสาขาวัฒนธรรม; มานุษยวิทยาวัฒนธรรม; มนุษยวิทยา, การเพาะเลี้ยงเนื้อ[การแพทย์]
ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ลงมานะ ลงมาLion (2016)
มานี่Prey (2007)
มานี่สิMade of Honor (2008)
แต่ ไม่มีอันตรายอะไรหรอกนะ มานี่เถอะน้องข้า ได้เวลาไปหาหมอกันแล้วAladdin (1992)
กลับมานี่นะ เจ้าขโมยตัวจ้อย!Aladdin (1992)
มานี่ อาบูAladdin (1992)
พรมวิเศษ! มานี่สิ ออกมานี่สิAladdin (1992)
ถ้าไม่เพราะความภักดีต่อราชสำนักหลายปีมานี่ละก็...Aladdin (1992)
อาลี โอ้ อาลี มานี่หน่อยสิAladdin (1992)
อาลี เจ้าไปอยู่ที่ไหนมาน่ะAladdin (1992)
โอ้ ทุกคน มานี่สิ กอดกลุ่มใหญ่ กอดยกกลุ่มAladdin (1992)
ว่าเขาจะมาหรือไม่มาน่ะหรอ?Basic Instinct (1992)
ฉันจะออกไปสูบบุหรี่ อย่าคุยเรื่อง สนุกๆก่อนที่จะฉันจะกลับมานะBasic Instinct (1992)
อยู่ที่นี่มานานเท่าไหร่?Basic Instinct (1992)
ผมรู้จักเธอมานานแล้ว เธอไม่มีทางทำอย่างนั้นได้แน่Basic Instinct (1992)
เถอะน่า ผมดีกับคุณมาตลอด ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้Basic Instinct (1992)
ความจริงแล้ว มันออกมาน่าประหลาดใจมากๆเลย ไม่ใช่เหรอ?Basic Instinct (1992)
คุณทำงานที่นี่มานานเท่าไหร่แล้ว?Basic Instinct (1992)
เอามานี่นะเจ้าหนู!Jumanji (1995)
มานี่ โบThe Bodyguard (1992)
ฟาร์เมอร์ มานี่หน่อยThe Bodyguard (1992)
มานี่ ฟอสเตอร์The Bodyguard (1992)
ลุกมานั่งกับตามะThe Bodyguard (1992)
'จนเราจะมานำเจ้าไปยัง แผ่นดินที่เหมือนแผ่นดินของเจ้าเอง'Wuthering Heights (1992)
ใครส่งเธอมาน่ะWuthering Heights (1992)
แต่ห้วงคำนึงคือทรราชย์ ที่หวนกลับมา ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อทรมานเราWuthering Heights (1992)
เดี๋ยวฉันมานะWuthering Heights (1992)
ฉันได้ยินเรื่องงานแต่งงานเธอ แคทธี เมื่อไม่นานมานี้Wuthering Heights (1992)
ฉันไม่ได้ตั้งใจทรมานเธอWuthering Heights (1992)
แล้วเธอก้อหนีไป ป่อยให้ชั้นมานั่งเขียนรายงานอยู่แบบนี้Hero (1992)
ถ้าเค้าออกมานะ ชั้นจะ ...Hero (1992)
บอกเค้าให้มานี่ มาคุยกันซึ่งๆหน้าHero (1992)
อ่า นักข่าวคัง มานี่สิ ครับHero (1992)
-มานี่เลย เอามา -เฮ้ๆๆๆๆ ก้อมันไม่มีเบาะอ่ะ ก้อเลยต้องนั่งบนนี้Hero (1992)
ทำไมต้องมานั่งบนนี้ด้วยเนี่ยHero (1992)
เงินเก็บผมมี 1000 ล้านวอน ยังขาดอีกประมาน 6-7 แสนวอนHero (1992)
มานี่เลยไอ้เวรHero (1992)
ฉันเองก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมานะThe Lawnmower Man (1992)
ย้ายก้นมานี่เลยThe Lawnmower Man (1992)
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
[anumān] (v) EN: estimate ; reckon ; expect ; deduce ; infer ; speculate  FR: estimer ; spéculer ; déduire ; inférer
[anumān jāk] (v, exp) EN: infer from ; deduce from  FR: déduire de
[dīmān] (x) EN: demand
[kān anumān] (n) EN: inference ; reasoning  FR: déduction [ f ]
[kān phitjāranā khadī dōi kān thøramān] (n, exp) EN: trial by ordeal
[kān thøramān] (n) FR: torture [ f ]
[kham sāmānyanām] (n) EN: common noun  FR: nom commun [ m ]
[kham wisāmānyanām] (n) EN: proper noun  FR: nom propre [ m ]
[khømmāndō] (n) EN: commando  FR: commando [ m ]
[khwām māna] (n) EN: effort
[khwām thøramān] (n) EN: agony  FR: souffrance [ f ] ; tourment [ m ]
[khwām thuk thøramān] (n) EN: suffering ; pain ; distress
[lāi wan mā nī] (xp) FR: ces derniers jours ; ces derniers temps
[lamān] (n) EN: wild grain
[Lutwik Bōltsmān] (n, prop) EN: Ludwig Boltzmann  FR: Ludwig Boltzmann
[mān] (n) EN: edema ; dropsy
[mān] (n) EN: heart
[mān] (n) EN: pride ; vanity
[mān] (n) EN: measurement ; measuring ; calculating ; counting
[māna] (n) EN: perseverance ; persisitence ; resolution ; grit  FR: persévérance [ f ] ; persistance [ f ] ; détermination [ f ] ; résolution [ f ]
[māna] (v) EN: endure ; make a determined effort ; be patient ; exert oneself ; be industrious  FR: persévérer ; persister ; se donner du mal
[mā nān] (x) FR: depuis longtemps
[mā nān laēo] (x) FR: depuis déjà longtemps
[mānī] (n) EN: diligent person ; industrious person
[Mānī] (n, prop) EN: Manee
[Mānit Chumsāi] (n, prop) EN: Manich Jumsai  FR: Manich Jumsai
[Māntōwā] (tm) FR: Mantoue
[mānutsayawitthayā] (n) EN: anthropology  FR: anthropologie [ f ]
[mānutsayawitthayā kān phaēt] (n, exp) EN: medical anthropology   FR: anthropologie médicale [ f ]
[meūa mai nān mā nī] (adv) EN: recently  FR: il n'y a pas longtemps ; il y a peu ; récemment
[mumāna] (v) EN: work hard ; be diligent ; be industrious hard ; be persistent ; strive ; make determined effort  FR: travailler dur ; se donner de la peine
[naēp mā nī] (x) FR: ci-joint
[nakmanutsayawitthayā] (n) EN: anthropologist  FR: anthropologiste [ m ]
[Prathēt Ōmān] (n, prop) EN: Oman ; Sultanate of Oman  FR: Oman
[samaksamān] (v) EN: be united ; be harmonious ; be hand in hand ; hold together
[samān] (v) EN: unite ; cement  FR: lier ; unir
[samānnachan = samānachan] (n) EN: unanimity ; harmony  FR: unanimité [ f ]
[sāmānyanām] (n) EN: common noun  FR: nom commun [ m ]
[thonthøramān] (v) FR: souffrir ; endurer
[thon thuk thøramān] (v) EN: suffer ; endure suffering
[thøramān] (v) EN: torture ; harass ; be cruel to ; torment ; abuse ; cause anguish ; harrow ; ill-treat ; maltreat ; mishandle  FR: opprimer ; tyranniser ; torturer ; maltraiter
[thøramān kāi] (v, exp) FR: tourmenter ; mortifier
[thøramān-thørakam] (v, exp) EN: torture ; torment ; abuse ; cause anguish ; harrow ; ill-treat ; maltreat ; mishandle
[thøramān tūa-ēng] (x) EN: self-mortification
[thūk thøramān thuk yāng] (v, exp) EN: suffer a lot
[tūa sālāmāndoē] (n) EN: salamander ; triton  FR: salamandre [ f ] ; triton [ m ]
[uppamān] (n) EN: analogue ; comparison ; analogy ; simile ; metaphor  FR: induction [ f ]
[uppamān] (v) EN: infer; induce  FR: induire ; inférer
[wimān] (n) EN: paradise ; heavenly palace ; abode of the angels ; celestial castle  FR: paradis [ m ]
[wimān] (n) EN: divine vehicle  FR: véhicule céleste [ m ]
Longdo Approved EN-TH
(vt)พกของมาน้อย, ไม่เป็นภาระ, ไม่คิดมากSee Also:be relatively free of responsibilities or deep thoughtsSyn.take little baggage
[เวท ฟอร์ เอจจ](vt, slang)รอนานมาก เช่น I've been waiting for ages. (ฉันรอมานานมากแล้ว) You wait for ages and he has never shown up. (เธอรอมานานมากแล้วและเค้าก็ไม่เคยมาโผล่มาเลย)
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
(vt)ทำให้ทรมานSee Also:ทำให้เจ็บปวดSyn.torture
(adj)ทุกข์ยาก (เนื่องจากความกังวลหรือความเจ็บปวดอย่างมาก)See Also:ทุกข์ทรมาน
(n)อนุมานหรือการอ้างอิงจากการเปรียบเทียบ
(vt)ทำให้เจ็บปวดรวดร้าวSee Also:ทำให้ทรมานSyn.distress, grieve
(n)นักมานุษยวิทยา
(adj)เกี่ยวกับสามานยนาม
(n)สามานยนามSyn.common noun
(n)ความพยายามSee Also:ความมานะ, ความอุตสาหะSyn.try, endeavor
(phrv)ทุกข์ทรมานด้วยSee Also:ทนทุกข์อยู่กับ
(adv)ไม่มีความสุขSee Also:ทรมานSyn.unhappily, unfavourablyAnt.happily, well
(vi)เรียนอย่างหนักSee Also:มุมานะ, คร่ำเคร่ง
(n)สิ่งที่มีมานานแล้ว
(phrv)กลับมานิยมอีกSyn.put back
(phrv)เริ่มทุกข์ทรมานจาก
(phrv)ทำให้ทุกข์ยากSee Also:ทำให้ทุกข์ทรมานSyn.lade with, load down, weigh down
(phrv)ทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วย
(phrv)ทำให้ยุ่งยากSee Also:ทำให้ทุกข์ทรมาน
(n)วิมานในอากาศSee Also:ฝันกลางวันSyn.castle in Spain, daydream
(vt)ทำให้เจ็บปวดSee Also:ทำให้ทุกข์ทรมาน
(idm)ทุกข์ทรมานมากกับSee Also:อยู่อย่างไม่มีความสุข
(vi)ลงความเห็น (ตามหลักเหตุผล)See Also:อนุมาน, สรุปSyn.deduce, derive, infer
(n)การหักลบSee Also:การอนุมาน
(adj)ซึ่งหักลบไปSee Also:ซึ่งอนุมานได้
(adv)แบบอนุมานSee Also:เชิงอนุมาน
(vt)ทำให้ไม่มีความสุขSee Also:ทำให้โศกเศร้า, ทำให้ทุกข์ทรมานSyn.distress, sadden
(n)ตัวอ่อนซาลามานเดอร์Syn.newt
(vt)ทำให้ผู้อื่นขมขื่นSee Also:ทำให้ผู้อื่นทุกข์ทรมานSyn.rankle, sour
(vt)พยายาม (คำทางการ)See Also:อุตสาหะ, บากบั่น, มานะSyn.attempt, strive, try
(vi)พยายาม (คำทางการ)See Also:อุตสาหะ, มานะ, บากบั่นSyn.attempt, strive, try
(adj)ซึ่งอดทนSee Also:คงทน, อดกลั้น, ทนทรมานSyn.patient, tolerant
(n)มานุษยวิทยาแขนงหนึ่งซึ่งศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมของเผ่าพันธุ์ต่างๆ
Hope Dictionary
(อะดูซมาน) fr. ระยะเก็บตัวในวัยเด็ก, การคลอด
(อะฟลิคทฺ') vt. ทำให้เจ็บปวด, ลำบาก, เสียใจ รำคาญหรือทรมาน, ถ่อมตัว -affliction n., -afflictive adj.Syn.trouble, plague
(แอก' โกไนซ) vi., vt. ทนทุกข์ทรมานอย่างที่สุดด้วยความเจ็บปวด, ทรมาน, ทำให้เจ็บปวด, ต่อสู้ดิ้นรนอย่างสุดขีด, พยายามมาก. -agonising adj. -agonisingly adv.Syn.torture, suffer, worry
(แอก' โกนี่) n., (pl. -nies) การทนทุกข์ทรมาน, ความเจ็บปวดยิ่ง, ความปวดร้าวทรมาน, อาการดิ้นรนก่อนตาย, การต่อสู้ที่รุนแรง
(เอล) vt. ทำให้ปวด, ทำให้ทุกข์ทรมาน, ทำให้กลัดกลุ้ม. -vi. ปวด, ไม่สบาย, ทุกข์Syn.disturb
(เอล' ลิง) adj. ไม่สบาย, ทุกข์ทรมาน
วิมานในอากาศ
ปัสสาวะของทารกในครรภ์ ซึ่งสามารถช่วยสมานแผลได้
(แอล' ลิมานดฺ) n., (pl. -mandes) การเต้นรำในศตวรรษที่ 17-18 ที่มีจังหวะคู่ที่ช้า, ดนตรีที่อาศัยหลักการเต้นรำดังกล่าว
(แอล' ลัมรูท) n. พืชจำพวก Heuchera ในอเมริการากของมันใช้เป็นยาฝาดสมาน
(อะเมานทฺ') n. จำนวน, ปริมาณ, รวมทั้งหมด, ค่าเต็ม, จำนวนเงิน, สรุปความ. -vi. รวมเป็น, มีค่าเท่ากับSyn.total, sum
(แอน' นะลอก) n. = analogue อะนาล็อก เชิงอุปมานหมายถึง วิธีการเก็บข้อมูลที่ได้จากการวัดในลักษณะต่อเนื่อง เช่น วัดความเร็วของรถยนต์จากการหมุนของวงล้อ ตรงข้ามกับ ดิจิตอล (digital) ซึ่งหมายถึง การเก็บข้อมูลที่เป็นตัวเลข นาฬิกามีใช้ทั้งสองแบบ ซึ่งจะบอกความแตกต่างระหว่างอะนาล็อกและดิจิตอลได้ชัดเจน กล่าวคือ แบบหนึ่งจะแสดงเวลาเป็นตัวเลข ส่วนอีกแบบหนึ่งใช้เข็มสั้นและเข็มยาวเป็นตัวบอกเวลา เรียกว่าแบบอะนาล็อก คอมพิวเตอร์นั้นมีสองชนิด คือชนิดอะนาล็อกและชนิดดิจิตอล แต่คอมพิวเตอร์ที่เรารู้จักกันนั้นจะเก็บเฉพาะข้อมูลที่เป็นดิจิตอล "เสียง" เป็นข้อมูลที่มีลักษณะเป็นอะนาล็อก เมื่อจะนำเข้าไปเก็บในคอมพิวเตอร์ จะต้องถูกนำไปเปลี่ยนเป็นดิจิตอลก่อน โดยให้ผ่านอุปกรณ์ชนิดหนึ่งเรียกว่า "โมเด็ม" ดู digital เปรียบเทียบ
(al) (แอนนะลอจ' จิค, -เคิล) adj. คล้ายกัน, เหมือนกัน, อุปมา, เปรียบเหมือน analogism (อะแนล' โลจิสซึม) n. อนุมานหรือการอ้างอิงจากการเปรียบเทียบ -analogist n., -analogistic adj. (reasoning, analogy)
(แอน' นะลอก) n. ของที่คล้ายกัน, ค่าที่มีความต่อเนื่องกันโดยตลอด, เชิงอุปมาน หมายถึง การแทนปริมาณแดสงจำนวนโดยการวัดในลักษณะต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ความเร็วของรถยนต์ ซึ่งวัดได้จากความเร็วของการหมุนของวงล้ออาจจะแทนได้ด้วยจำนวนเลข ดู digital เปรียบเทียบ
(แอง' กวิช) n. อาการปวดอย่างรุนแรง, อาการทนทุกข์ทรมานมาก, อาการกลัดกลุ้มมาก
(แอง' กวิชดฺ) adj. กลัดกลุ้ม, ทนทุกข์ทรมานSyn.agonized, suffering
(อะเพล'ละทิฟว) n. สามานยนาม, นาม, ยศศักดิ์, ฉายา. -adj. เกี่ยวกับสามานยนาม, เกี่ยว กับนามหรือฉายาSyn.designative
(อาร์กิวเมนเท'เชิน) n. ขบวนการโต้เถียงการให้เหตุผล, การอภิปราย, การถกเถียง, บทความเชิงอภิปราย, ข้อพิสูจน์, ข้อสรุป, ข้ออนุมานSyn.discussion
(อะไซ'ทีซ) n. โรคท้องมาน, ภาวะมีน้ำในโพรงเยื่อบุช่องท้อง. -ascetic (al) adj.
(แอสทริค'ทิฟว) adj. ฝาดสมาน
(แอสทริน'เจินทฺ) adj. หดตัว, รัดแน่น, สมาน, เฉียบขาด, เข้มงวด, รุนแรง -n. ยาฝาดสมาน, ยาสมานแผล, ยาห้ามเลือด. -astringency n.Syn.contractile, constrictive
(ออ'ทะมาน') n., German ซุปเปอร์ไฮเวย์ (a superhighway)
(เบล) n. ห่อใหญ่, มัดใหญ่, ม้วนใหญ่, ความชั่ว, ความหายนะ, ความเคราะห์ร้าย, ความทุกข์ทรมาน, ความเสียใจ vt. บรรจุหีบห่อSee Also:baler, n.
การสลับชิปไปมาหมายถึง การสลับไปมาของการใช้ชิปในหน่วยความจำเดิมที่ติดมากับเครื่อง กับหน่วยความจำที่เพิ่มภายหลัง ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งทำให้รู้สึกเสมือนว่า หน่วยความจำทั้งสองนั้นเป็นหน่วยความจำเดียวกัน เช่น บริษัทไอบีเอ็มผลิตไมโครคอมพิวเตอร์ออกมาขายในตลาดโดยมีหน่วยความจำติดมาภายในตัวเครื่องเพียง 640 เคไบต์ แต่เรานำไปเพิ่มหน่วยความจำเป็นถึง 16 เมกกะไบต์ การที่จะทำให้หน่วยความจำเดิมกับหน่วยความจำที่เพิ่มมาใหม่ทำงานสลับกันไปมาได้ ก็จะต้องอาศัยการสลับชิปไปมานี้ อย่างไรก็ตาม หากเราเป็นเพียงผู้ใช้เครื่อง (user) ก็ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องนี้เท่าไรนัก เป็นหน้าที่ของช่างฝ่ายเทคนิคที่จะต้องติดตั้งหรือจัดการทำให้
(บิเดฟ'เวิล) { bedeviled, bedeviling, bedevils } vt. ทำให้ผีเข้า, สาป, แช่ง, ทำให้หลง, ทรมาน, กวน, ทำทารุณ, ทำให้สิ้นสุด, ทำให้เสียการSee Also:bedevilment n.
(บิสเทอร์') { bestirred, bestirring, bestirs } vt. กระตุ้น, ทำให้มุมานะ
(บิก'กะทิด) adj. หัวดื้อ, ดื้อรั้น, มีทิฐิ, มานะSyn.narrow-minded
(บิก'กะทรี) n. ความหัวดื้อ, ความมีทิฐิมานะSyn.intolerance
(บูท) { booted, booting, boots } n. รองเท้าหุ้มข้อเท้า, รองเท้าบู๊ท, เครื่องหุ้มคล้ายปลอก, ฝาครอบป้องกัน, ปลอกหุ้มเบาะ, โครงรถ, เครื่องรัดทรมานข้อเท้า, การเตะ, การถีบ, การปลดออก vt. สวมรองเท้าบู๊ท, เตะ, ถีบ เริ่มต้นใหม่เริ่มเครื่องใหม่หมายถึง การเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เริ่มต้นทำงาน (ว่ากันว่า คำ "boot" นี้ มาจากคำว่า "bootstrap" เบื้องหลังการใช้คำ ๆ นี้ อยู่ที่การขู่ว่า ถ้าไม่ทำงานแล้วละก็ โดนรองเท้าบู๊ตแน่ ๆ เลย) การเริ่มเครื่องใหม่นั้น โดยปกติ เมื่อกดสวิตช์เปิดแล้ว คอมพิวเตอร์จะเริ่มต้นทำงานด้วยการอ่านจานบันทึกในหน่วยบันทึก A: ถ้าในหน่วยบันทึก A: ไม่มีจานบันทึก ก็จะไปอ่านจานบันทึก C: (จะไม่สนใจหน่วยบันทึก B: เลย) ถ้ามีจานบันทึกใน A: จานบันทึกนั้นจะต้องมีคำสั่งระบบ (แฟ้มข้อมูล command.com) อยู่ คอมพิวเตอร์จึงจะเริ่มต้นทำงานต่อไปได้ ถ้าจานบันทึกใน A: ไม่มีคำสั่งระบบ จะมีรายงานบนจอภาพว่าเป็น "non-system disk" ในกรณีเช่นนี้ต้องเปลี่ยน แผ่น A: หรือดึงแผ่น A: ออก แล้วเริ่มต้นใหม่จาก หน่วยบันทึก C: (ถ้ามี) อนึ่ง การเริ่มเครื่องใหม่นั้น ทำได้ 2 วิธี วิธีแรกเริ่มด้วยการเปิดสวิตช์ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ตามที่ได้อธิบายแล้ว เรียกว่า "cold boot" อีกวิธีหนึ่งที่ใช้เมื่อมีการเปิดเครื่องอยู่ก่อนแล้ว แต่ต้องการเริ่มเครื่องใหม่ หรือเครื่องเกิดขัดข้องหรือค้าง (hang) ให้ กดแป้น CTRL +ALT +DEL เรียกว่า "warm boot"
(เบรค) { braked, braking, brakes } n. เครื่องห้ามล้อ, เบรก, สิ่งที่ยับยั้งหรือทำให้ช้า, เครื่องทรมาน -v. ห้ามล้อ, ทำให้ช้า, หยุด, ใส่เบรก, อดีตกาลของ break
ตลับแถบบันทึกหมายถึง ม้วนแถบพลาสติกอาบแม่เหล็ก นำมาใช้ในการเก็บข้อมูล ใช้ทั้งกับไมโครคอมพิวเตอร์ และเครื่องขนาดใหญ่ (mainframe) ที่นำมาใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์นั้น มีลักษณะเหมือนตลับเทปเพลงธรรมดา สมัยหนึ่งเรานิยมใช้แถบบันทึกนี้เก็บข้อมูล เพราะราคาถูกกว่าสื่ออย่างอื่น แต่จะมีปัญหาตามมามากมาย เช่นในเรื่องความคลาดเคลื่อนของข้อมูล อีกทั้งยังมักจะเสียง่าย ในปัจจุบัน จึงหันมานิยมใช้จานบันทึก (diskette) จานบันทึกอัดแน่นหรือซีดี (CD) แทนกันหมดแล้ว
n. วิมานในอากาศ, การฝันหวานSyn.daydream
n. วิมานในอากาศ, การฝันหวานSyn.daydream
(คอค) { caulked, caulking, kaulks } vt. อุด, ปิด, สมานเชื่อมรู.Syn.calk
n. วิมานในฝัน
(คะมานดฺ') { commanded, commanding, commands } v. บัญชา, สั่ง, สั่งการ, ควบคุม, มีอำนาจเหนือ, ควรได้รับ -n. การออกคำสั่ง, คำสั่ง, อำนาจสั่ง, ตำแหน่งบัญชาการ, คนในบังคับบัญชา, อักษรหรือสัญลักษณ์ที่ใช้สั่งเครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานSyn.order
คอมมานด์จุดคอม (ชื่อแฟ้มระบบ) เป็นชื่อแฟ้มข้อมูลแฟ้มหนึ่งในระบบดอส ซึ่งบรรจุคำสั่งระบบต่าง ๆ เช่น dir, copy, del จานบันทึกที่นำมาจัดรูปแบบการเก็บข้อมูลด้วยคำสั่ง format A:/s แล้ว จะมีแฟ้มข้อมูลนี้อยู่ในแผ่น A: แฟ้มข้อมูลนี้ จะนำมาใช้เป็นแผ่นเริ่มต้นเปิดเครื่อง (boot) ได้ ถ้าใช้คำสั่ง Format ในระบบวินโดว์ ต้องกากบาทที่ช่องสี่เหลี่ยมหน้าคำ system disk ด้วย จึงจะมีแฟ้มข้อมูลนี้ (จานบันทึกที่ไม่มีแฟ้มข้อมูลนี้ ใช้เก็บแฟ้มข้อมูลได้อย่างเดียว จะนำมาสั่งให้เริ่มเครื่อง (boot) ไม่ได้)
(คะมาน'เดอะ) n. ผู้บังคับบัญชา, ผู้สั่งการ, ผู้นำ, นายทหารผู้บังคับบัญชา, นาวาโทSee Also:commandership n.Syn.chief, leader
(คะมาน'เดอรี) n. ตำแหน่งผู้บัญชาการ, เขตอำนาจของผู้บัญชาการ
(คะมาน'ดิง) adj. n. เกี่ยวกับการบัญชาการ, เด่น, ครอบงำ, สูงคลุม
(คะมาน'เมินทฺ) n. อำนาจ, คำสั่ง, การออกคำสั่ง, บัญญัติ, หนึ่งในบัญญัติ10ประการ (Ten Commandments)
(คะมาน'โด) n. หน่วยจู่โจมที่ได้รับการฝึกเป็นพิเศษ, หน่วยคอมมานโด, สมาชิกของหน่วยดังกล่าวนี้ -pl. commandos, commandoes
n. สามานยนาม
(คันเจค'เชอะ) n. การเดา, การทาย, การคาดคะเน, การอนุมาน, ข้อสรุปจากการอนุมาน vt. เดา, ทาย, คาดคะเน, อนุมาน.See Also:conjecturable adj. ดูconjecture conjecturer n. ดูconjecture
(คันสทรัค'ทิฟว) adj. ซึ่งสร้างสรรค์, เกี่ยวกับการก่อสร้าง, เกี่ยวกับการตีความ, เกี่ยวกับการอนุมานSee Also:constructiveness n. ดูconstructiveSyn.affirmative
(คันสทรู') { construed, construing, construes } v., n. (การ) อธิบาย, ชี้แจง, ตีความอนุมาน, แปล, วิเคราะห์, ผูกประโยค.
(เคาเทอะมานด'ฺ) vt. ยกเลิก, สั่งถอน, ออกคำสั่งแย้งคำสั่ง, เรียกตัวกลับ. n. คำสั่งยกเลิกคำสั่งเดิมSyn.revoke
n. ความทนทุกข์ทรมานหรือปวดร้าวทรมานก่อนตาย
(ดิดิวซฺ') vt. อนุมานจาก, ลงความเห็นหรือสรุปจาก.See Also:duducibility n. ดูdeduce duducibleness n. ดูdeduce deducible adj. ดูdeduce
(ดิดัคทฺ') vt. หัก, ชัก, หักลบ, หักกลบลบหนี้, อนุมานSee Also:deductible adj. ดูdeduct deductibility n. ดูdeduct deduction n. ดูv deductive adj. ดูdeduct
Nontri Dictionary
(vt)ทำให้เดือดร้อน, ทำให้ลำบาก, ทำให้เสียใจ, ทำให้ทรมาน
(vi, vt)รู้สึกเจ็บปวด, ทนทุกข์ทรมาน, ทรมาน
(n)ความเจ็บปวด, ความทรมาน, ความทุกข์ทรมาน
(vi, vt)เจ็บป่วย, ปวด, ทุกข์ทรมาน, ลำบาก
(adj)ทุกข์ทรมาน, ไม่สบาย, ป่วย
(n)พลอยสีม่วง, หินเขี้ยวหนุมาน
(n)ความเจ็บปวด, ความปวดร้าว, ความทุกข์ทรมาน, ความกลัดกลุ้ม
(n)มานุษยวิทยา
(n)มานุษยวิทยาเกี่ยวกับการวัดร่างกายของคน
(n)ยาสมานแผล, ยาห้ามเลือด
(vt)รบกวน, กวน, ทรมาน, ทำทารุณ, ทำให้ยุ่งใจ
(n)คนคลั่งศาสนา, คนหัวดื้อ, คนมีทิฐิมานะ, คนดันทุรัง
(adj)คลั่งศาสนา, หัวดื้อ, หัวรั้น, มีทิฐิมานะ, ดันทุรัง
(vt)ปิดรู, ชันยาเรือ, อุดรูรั่ว, สมาน, เชื่อมรู
(adj)เป็นมานาน, เรื้อรัง
(n)หน่วยจู่โจม, หน่วยคอมมานโด
(adj)สามัญ, ธรรมดา, ชั้นต่ำ, ไพร่, เลวทราม, สามานย์
(vt)คาดคะเน, อนุมาน, เดา, ทาย
(n)การตีความ, การวิเคราะห์ประโยค, การอนุมาน, การอธิบาย
(n)สามานยนาม
(n)การฝันกลางวัน, การฝันหวาน, ความคิดฝัน, การสร้างวิมานในอากาศ
(vt)อ้างจาก, อนุมานจาก, ลงความเห็นจาก, พิจารณาเหตุผลจาก
(vt)อนุมาน, หักออก, ชักออก
(n)การอนุมาน, การหักออก, นิรนัย, การหักกลบลบหนี้
(n)ความขยัน, ความมาดมั่น, ความมานะ, ความพยายาม
(n)ความเดือดร้อน, ความทุกข์ทรมาน, ความทุกข์ยาก, ภัยพิบัติ, ความลำบาก
(n)ความพยายาม, ความมุมานะ, ความพากเพียร, ความอุตสาหะ
(adj)เกี่ยวกับสวรรค์ชั้นสุดท้าย, เกี่ยวกับวิมานชั้นฟ้า
(n)ความพยายาม, ความอุตสาหะ, ความมุมานะ, ความบากบั่น
(vi)พยายาม, อุตสาหะ, บากบั่น, มุมานะ
(adv)เมื่อไม่ช้ามานี้, ก่อนหน้านี้, เมื่อก่อนนี้, ก่อนนี้
(n)ความยากลำบาก, ความทุกข์ทรมาน
(n)การทรมาน, การทำลาย, การรบกวน, การก่อกวน
(vt)เยียวยา, รักษา, สมาน, บำบัด, ทำให้หาย
(n)สวรรค์, ท้องฟ้า, วิมาน, แดนสุขาวดี
(n)การนำเข้ามา, การชักนำ, อุปมาน, การเกณฑ์, กระแสไฟฟ้า
(adj)นำเข้ามา, มีอิทธิพลต่อ, อุปมาน
(vt)ลงความเห็น, วินิจฉัย, สรุป, อนุมาน, แสดง
(n)การลงความเห็น, การวินิจฉัย, การสรุป, การอนุมาน, การแสดง
(adj)ทนทุกข์ทรมาน
(n)ความขะมักเขม้น, ความขยันหมั่นเพียร, ความมุมานะ
(n)ผู้ยอมพลีชีพเพื่อศาสนา, ผู้ได้รับทุกข์ทรมาน
(n)การฆ่าหรือทรมานด้วยเรื่องศาสนา, ความทุกข์ทรมาน
(adv)อย่างทนทุกข์ทรมาน, อย่างขัดสน, อย่างยากไร้, อย่างน่าสังเวช
(n)ความทุกข์ทรมาน, ความยากไร้, ความขัดสน, ความน่าสังเวช
(n)การทรมานร่างกาย, ความตกใจ, ความบัดสี
(vt)ทรมานร่างกาย, ทำให้อ่อนกำลังลง, ทำให้เสียใจ, ทำให้บัดสี
(adj)ต่ำช้า, เลวทราม, ชั่วร้าย, ร้ายกาจ, สามานย์
(adj)เจ็บปวด, ปวด, เจ็บแสบ, ทุกข์ทรมาน
(n)ความภูมิใจ, ความหยิ่ง, ความจองหอง, ความยโส, ทิฐิมานะ
Longdo Unapproved EN-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
การรู้คิดสมานกาย = embodied cognition
(n)คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
(n)คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
[เฟ็ต อัพ](adj)(informal) เบื่อ, ผิดหวัง โดยเฉพาะกับสิ่งที่เจอมานาน
นิติมานุษยวิทยา
(slang)มันช่างยาวนานเหลือเกิน มันยาวมาก มันนานมาก นานจนหงำเหงือก มาจากคำว่า 'long-in-the-tooth" (คำอุปมานี้มาจากการสังเกตผู้คนว่าพออายุมากขึ้นเหงือกของเขาก็จะร่นลงไป ทำให้เห็นว่าฟันยาวขึ้น)
(phrase)การได้รับความทรมานทางจิตใจ, การได้รับความเจ็บปวดทางจิตใจ, การได้รับความทุกข์ทรมานทางจิตใจ
(n, colloq)ในวงการเกมส์ DotA ใช้เรียกบุคคลซึ่งเล่นมานานแล้วยังไม่เก่ง แล้วยังอวดดี ชอบสั่งในขณะเล่นเกมส์ ทำตัวน่ารักเกียจ หรืออาจออกจากเกมส์เมื่อเห็นว่าตัวเองเสียเปรียบ ซึ่งจะไม่เหมือนกัน newbie ซึ่งเป็นผู้หัดเล่นใหม่เท่านั้น ดังนั้น newbie จึงไม่เหมือนกันกับ noob
(n)ความมุมานะSyn.persistence
กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์
รากของพืชจำพวก Krameria ในเปรู ใช้เป็นยาฝาดสมานและแต่งสีไวน์
[sor-ry sor-ry](n)ชื่อเพลงไตเติ้ลในอัลบั้มที่3ของศิลปินกลุ่มวงซุเปอร์จูเนียร์ ในตอนที่ปล่อยเพลงออกมานั้นได้รับความสนใจจากแฟนๆเป็นอย่างมาก และยังขึ้นชาร์ตหลายๆชาร์ตอีกด้วย
(vt)ทรมานSee Also:sufferer n.
(adj)ที่ใช้มานมนาน, ใช้บ่อยเกินไป
Longdo Unapproved JP-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
切ない
[せつない, setsunai](adj)(เพน'ฟูล) adj. เจ็บปวด, ทุกข์ทรมาน, ยาก
老舗
[ろうほ, rouho]ร้านเก่าแก่(ตั้งมานาน)
社会学と人類学の教員
[ชะไคกาคุโตะจินรุยกะคุโนะเคียวอิน](n)คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
Saikam JP-TH-EN Dictionary
苦しむ
[くるしむ, kurushimu] TH: ทุกข์ทรมาน
苦しむ
[くるしむ, kurushimu] EN: to suffer
悩ます
[なやます, nayamasu] TH: ทำให้ทรมาน
悩ます
[なやます, nayamasu] EN: to torment
Longdo Approved DE-TH
เขาเพิ่งจะมาวันนี้หลังจากที่หยุดพักร้อนมา, erst ใช้เสริมเหตุการณ์ที่ผู้พูดรู้สึกว่า เพิ่งเกิดขึ้น, ไม่นานมานี้
เมื่อไม่นานมานี้, เมื่อเร็วๆนี้ เช่น Was ist mit dir los in letzter Zeit? เกิดอะไรขึ้นกับเธอเมื่อไม่นานมานี้Syn.neulich
(n)|das, pl. Glieder| ระยางค์, อวัยวะส่วนที่ยื่นออกมานอกร่างกาย, แขน ขา หรือ ปีก
เป็นคำที่เติมลงในประโยคบ่งความประหลาดใจ เช่น Du bist ja ganz groß geworden. Ich habe dich lange nicht gesehen. เธอสูงใหญ่จริงเชียว ฉันไม่ได้เจอเธอมานานแล้วสินี่
(vi)|forschte, hat geforscht| (nach etw./jmdm.) พยายามเพื่อหาที่มาหรือสาเหตุของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น Wissenschaftler forschen seit langem nach der Ursache des Aussterbens von Dinosaurier. นักวิทยาศาสตร์พยายามศึกษาหาสาเหตุของการสูญพันธ์ของไดโนเสาร์มานานแล้วSee Also:Related: erforschen
(n)|die, pl. Qualen| ความทรมาน, ความทุกข์ทรมาน, ความเจ็บปวดSee Also:Related: Leid
(n)|das, nur. Sg, | ความทุกข์, ความทรมาน, ความเสียใจ, ความเศร้าโศกSee Also:Related: Qual
(prep)|+ คำนามหรือวลีที่บ่งช่วงเวลา| เป็นเวลา(ผ่านมานานช่วงระยะหนึ่งๆ) เช่น Wir sind seit 25 Jahren verheiratet. เราแต่งงานกันมายี่สิบห้าปีแล้ว, Sie ist seit kurzem in unserer Firma. เธอเพิ่งเข้ามาอยู่ในบริษัทของเราไม่นาน
(n)|das, pl. Luftschlösser| วิมานในอากาศ, การฝันกลางวัน
(adv)เมื่อเร็วๆนี้, เมื่อไม่นานมานี้ เช่น Ich war neulich in Paris.See Also:kürzlichSyn.vor kurzem
เพิ่มคำศัพท์
add
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ