cta
210 ผลลัพธ์ สำหรับ 

*เคร่ง*

 ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น: เคร่ง, -เคร่ง-
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
(v)be strictSee Also:be severe, be austere, be rigorous, be serious, be stringentSyn.เคร่งครัด, เข้มงวด, กวดขัน, เอาจริงExample:เจ้านายที่มารับตำแหน่งใหม่เคร่งในเรื่องศีลธรรมมากThai Definition:ถือปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ, ระเบียบจัด
(adj)strictSee Also:severe, austere, rigorous, serious, stringent, earnest, stern, tenseExample:พ่อหันไปมองหน้าเคร่งดื้อดึงของลูกก็รู้ว่าขืนห้ามปรามไปลูกก็คงไม่เชื่อ
(v)respectSee Also:observeThai Definition:นับถือและปฏิบัติตามอย่างจริงจัง
(v)be strictSee Also:be austere, be rigorous, be serious, be severe, be stern, be tense, be strenuous, be strinSyn.เคร่งครัดAnt.ปล่อยปละละเลย, เพิกเฉยExample:เธอครัดเคร่งในเรื่องการไหว้พระก่อนนอนมาก ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่อื่นๆThai Definition:ปฏิบัติอย่างจริงจัง
(adj)strictSee Also:austere, rigorous, serious, severe, stern, tense, strenuous, stringentSyn.เคร่งครัดAnt.ปล่อยปละละเลย, เพิกเฉยExample:หลักการนี้เป็นข้อกำหนดอันครัดเคร่งของที่นี่Thai Definition:ที่ปฏิบัติอย่างจริงจัง
(adv)seriouslySyn.เคร่งครัดAnt.ปล่อยปละละเลย, เพิกเฉยExample:เขาเป็นนายทหารที่ทำงานครัดเคร่งเกินไปไม่ใช้วิธีผ่อนสั้นผ่อนยาวThai Definition:ที่ปฏิบัติอย่างจริงจัง
(v)be engrossed inSee Also:immerse oneself, be absorbed in, be concentrated in, be up to the eyes in, work hardSyn.หมกมุ่น, มุ่งมั่น, ตั้งใจExample:ลูกชายคนเล็กกำลังคร่ำเคร่งอยู่กับการอ่านหนังสือเตรียมสอบThai Definition:หมกมุ่นในการทำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำ
(v)be strictSee Also:be severeSyn.เอาจริงเอาจัง, เข้มงวด, เคร่งExample:ที่นี่เขาคร่ำเคร่งในเรื่องกฎระเบียบมาก
(adj)solemnSee Also:serious, stern, grave, austereExample:เขาเป็นคนเคร่งขรึมตั้งแต่เป็นหนุ่มน้อยจนถึงเป็นหนุ่มใหญ่
(adv)solemnlySee Also:seriously, sternly, gravely, austerelyExample:อาจารย์ใหญ่พูดจาเคร่งขรึม
(v)be solemnSee Also:be serious, be stern, be grave, be austereSyn.ขรึม, เยือกเย็น, สงบเสงี่ยมExample:เดี๋ยวนี้เขามักจะเคร่งขรึม และมีท่าทางหม่นหมองThai Definition:ไม่เบิกบาน, ไม่เล่นหัว, เอาจริงเอาจัง
(v)be strictSee Also:be serious, be stiff, be rigorous, be stringent, be austereSyn.เคร่ง, เข้มงวด, กวดขัน, เอาจริงExample:วัดแต่ละวัดมีแนวทางในการปฏิบัติศาสนกิจแตกต่างกัน บางวัดเคร่งครัด บางวัดไม่เคร่งครัดThai Definition:ถือปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับโดยไม่ให้ขาดตกบกพร่อง
(adj)strictSee Also:serious, stiff, rigorous, stringent, austereExample:เราต้องมีมาตรการอันเคร่งครัดในการรักษาแหล่งน้ำทั้งใต้ดินและผิวดินให้สะอาด
(adv)strictlySee Also:seriously, stiffly, rigorously, stringently, austerelyExample:นายทหารใหม่ทำงานเคร่งครัดเกินไปไม่ใช้วิธีผ่อนสั้นผ่อนยาวจึงกลายเป็นเข้ากับเพื่อนฝูงไม่ได้
(v)be seriousSee Also:be strict, tense, strain, be stern, be earnestSyn.เครียด, คร่ำเคร่งAnt.ผ่อนคลายExample:บรรยากาศของพิพิธภัณฑ์ไม่เคร่งเครียดแต่ในทางกลับกันจะมีชีวิตชีวามากขึ้นThai Definition:เคร่งมากไม่หย่อนคลาย, อาการที่สมองไม่ได้พักผ่อนเพราะคร่ำเคร่งอยู่กับงานจนเกินไป
(adv)seriouslySee Also:strictly, tensely, strainedly, sternly, earnestlyExample:ในภาวะเช่นนี้เราอาจจะเห็นบางคนหัวเราะอย่างขมขื่นหรือหัวเราะอย่างเคร่งเครียด
(adj)seriousSee Also:strict, tense, strained, stern, earnestExample:สีหน้าของเขาหดหู่เหมือนกำลังคุยเรื่องเคร่งเครียดมากกว่าจะเป็นการพูดคุยเรื่องการแต่งงาน
(n)strictnessSee Also:restrictivenessSyn.ความเข้มงวด, ความเคร่งAnt.ความปล่อยปละละเลย, ความเพิกเฉยExample:ในกรมแห่งนี้ยึดถือความเคร่งครัดของกฎระเบียบเป็นสำคัญThai Definition:การถือปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับโดยไม่ให้ขาดตกบกพร่อง
(adv)strictlySee Also:rigidly, conscientiouslyExample:ทุกคนควรปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
(n)seriousnessSee Also:tension, earnestnessSyn.ความตึงเครียด, ความเครียดAnt.ความผ่อนคลาย, ความสบายExample:ความเคร่งเครียดปรากฏอยู่ในสีหน้าของพวกเขาทุกคนThai Definition:ความไม่ผ่อนคลาย
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
(คฺรัดเคฺร่ง) ก. แน่น, ตึง, เช่น แก้มทั้งสองข้างดังปรางทอง เต้านมทั้งสองก็ครัดเคร่ง (ขุนช้างขุนแผน), เคร่งครัด ก็ว่า.
(คฺรัดเคฺร่ง) ว. เข้มงวด, กวดขัน
ถูกต้องครบถ้วน.
ว. หมกมุ่นในการทำงานเป็นต้นอย่างหามรุ่งหามคํ่า.
(เคฺร่ง) ก. ถือปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ เช่น พระเคร่งวินัย.
ว. ไม่เบิกบาน, ไม่เล่นหัว, เอาจริงเอาจัง.
(-คฺรัด) ก. เข้มงวด, กวดขัน, เช่น อย่าเคร่งครัดนักเลย
แน่น, ตึง, เช่น สองเต้าตูมเต่งเคร่งครัด ดอกไม้ทัดทั้งห่อผ้าห่มหวง (ขุนช้างขุนแผน), ครัดเคร่ง ก็ว่า.
(-คฺรัด) ว. เข้มงวด, กวดขัน, เช่น รักษาระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด
ถูกต้องครบถ้วน เช่น ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ข้อยกเว้นต้องตีความอย่างเคร่งครัด
ใช้ว่า ครัดเคร่ง ก็มี.
ก. เคร่งมากไม่หย่อนคลาย, อาการที่สมองไม่ได้พักผ่อนเพราะคร่ำเคร่งอยู่กับงานจนเกินไป.
(โคฺร่ง, -คฺร่าง, -เคฺร่ง) ว. ใหญ่โต, เร่อร่า, ไม่กะทัดรัด.
น. ป่าไม้เล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งไม่ใช่ป่าสำคัญ.
ว. เลว, ไม่ดี, ไม่มีค่า, ไม่มีราคา, เช่น ของเส็งเคร็งไม่มีใครต้องการ ป่านี้ไม้ดี ๆ ถูกตัดไปหมดแล้ว เหลือแต่ไม้เส็งเคร็ง.
น. กลอนที่ว่าปากเปล่าโดยไม่เคร่งครัดตามหลักสัมผัส.
ก. กวดขัน, เคร่งครัด.
ลักษณะอาการที่สมองไม่ได้ผ่อนคลายเพราะคร่ำเคร่งอยู่กับงานจนเกินไป, ลักษณะอาการที่จิตใจมีอารมณ์บางอย่างมากดดันความรู้สึกอย่างรุนแรง.
(เคฺรียด) ว. จัด เช่น ตึงเครียด, อาการที่สมองไม่ได้ผ่อนคลายเพราะครํ่าเคร่งอยู่กับงานจนเกินไป เช่น หน้าเครียด อารมณ์เครียด.
(โคดตฺระพู) น. บุคคลผู้ตั้งอยู่ในญาณซึ่งเป็นลำดับอริยมรรค, พระสงฆ์ที่ไม่เคร่งครัดในศาสนา มีขนบธรรมเนียมห่างจากธรรมวินัย แต่ยังถือตนว่าเป็นภิกษุสงฆ์อยู่ เรียกว่า โคตรภูสงฆ์.
ว. ที่ถือระเบียบอย่างเคร่งครัด, ระเบียบจัด.
ว่ากลอนปากเปล่าโดยไม่เคร่งครัดตามหลักสัมผัส เรียกว่า ด้นกลอน.
น. เรียกกลอนที่ว่าปากเปล่าโดยไม่เคร่งครัดตามหลักสัมผัส ว่า กลอนด้น
ก. ว่ากลอนปากเปล่าโดยไม่เคร่งครัดตามหลักสัมผัส.
ก. พักผ่อนเพื่อคลายความเคร่งเครียดโดยไปอยู่ในที่สงบหรือที่มีอากาศปลอดโปร่ง.
ว. เรียกคนที่เคร่งครัดในศาสนา ว่า คนธรรมะธัมโม.
น. องค์ประกอบเครื่องกำจัดกิเลส, ชื่อวัตรปฏิบัติอย่างเคร่งครัดของภิกษุซึ่งเป็นเครื่องกำจัดกิเลส มี ๑๓ อย่าง เช่น การอยู่ในป่า การอยู่โคนไม้.
ทำให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์การใช้ภาษา เช่น บังคับให้ใช้เครื่องหมายอัญประกาศเมื่ออ้างถึงคำพูดของผู้อื่น ภาษาไทยไม่บังคับการใช้เครื่องหมายมหัพภาคเคร่งครัดนัก
น. “สิ่งที่ทรงไว้ซึ่งนํ้านม” คือ ถัน เช่น หนึ่งถันปโยธราเต็มเคร่งครัด เพราะเจ้าพลัดอดนม (ม. คำหลวง มัทรี), ปโยธร ก็ว่า.
ก. หยุดใช้สายตาอย่างคร่ำเคร่งชั่วคราว.
ว. ไม่เคร่งครัด เช่น ระเบียบวินัยย่อหย่อน, ลดน้อยถอยลง เช่น กำลังย่อหย่อน.
ว. เจ้าระเบียบ, ที่ถือระเบียบอย่างเคร่งครัด.
(-กามะ-) ว. ผู้ใคร่ต่อการศึกษา, ผู้นับถือข้อบัญญัติโดยเคร่งครัด, สิกขกาม ก็ว่า เช่น สิกขกามบุคคล หมายถึง บุคคลที่ใคร่ต่อการศึกษา.
ก. เข้มงวดกวดขัน, เคร่งครัด, เจ้าระเบียบ.
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
[khreng = khrēng] (v) EN: be strict ; be severe ; be austere ; be rigorous ; be serious ; be stringent  FR: être sérieux
[khreng = khrēng] (adj) EN: strict ; serious ; strenuous ; rigid ; rigorous ; severe ; stringent  FR: strict ; rigoureux
[khrengkhrat] (adj) EN: strict ; serious ; stiff ; rigorous ; stringent ; austere  FR: strict ; exigeant ; rigoureux ; austère
[khrengkhrat nai winai] (v, exp) EN: be strict in discipline ; enforce rigid discipline
[khrengkhreum] (adj) EN: solemn ; serious ; stern ; grave ; austere ; seriouslooking  FR: sérieux ; austère ; solennel
[khrengkhrīet] (v) EN: be serious ; be strict ; tense ; strain ; be stern ; be earnest
[khrengkhrīet] (adj) EN: strict ; serious ; strenuous  FR: tendu ; crispé
[pā sengkhreng] (n, exp) EN: degraded forest
[sengkhreng] (adj) EN: bad ; inferior ; low ; mean
[sengkhreng] (adv) EN: scoundrelly
[theū khreng] (v, exp) EN: observe strictly ; be strict  FR: observer strictement
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
การพิสูจน์อย่างเคร่งครัด[คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
การตีความอย่างเคร่งครัด[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การตีความโดยเคร่งครัด[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ผู้เคร่งหลักการ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
การรวมตัวของชาติต่าง ๆ เข้าเป็นสมาคมทางการเมือง ประกอบด้วยประเทศสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย แคนาดา ลังกา ไซปรัส แกมเบีย กาน่า อินเดีย จาไมก้า คีเนีย มาเลเซีย มาลาวี มอลต้า นิวซีเแลนด์ ไนจีเรีย ปากีสถาน ซิเอร่าเลโอน แทนเซียเนีย ทรินิแดด-โทเบโก ยูแกนดา และแซมเบียตามทรรศนะของ Oppenheim ศาสตราจารย์นักกฎหมายระหว่างประเทศในระดับโลก สมาคมทางการเมืองแห่งนี้ก็คือกลุ่มของรัฐที่รวมกันโดยไม่มีพื้นฐานการรวมตัว ทางกฎหมายที่เคร่งครัดแต่อย่างใด หากแต่มีความผูกพันร่วมกันในด้านประวัติศาสตร์ จารีตประเพณี กฎหมาย และมีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างแน่นแฟ้นมากกว่า[การทูต]
นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics)[การทูต]
หมายถึง สนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งในบรรยากาศ ในอวกาศ และใต้น้ำ สนธิสัญญาฉบับนี้ได้มีผลบังคับเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1963 ประเทศที่ลงนามเริ่มแรกในสนธิสัญญาได้แก่ อังกฤษ สหภาพโซเวียต และ สหรัฐอเมริกา รวมสามประเทศจุดมุ่งหมายสำคัญของสนธิสัญญาคือ รัฐบาลของประเทศทั้งสาม ต้องการให้มีการทำความตกลงกันเป็นผลสำเร็จเกี่ยวกับการลดอาวุธ หรือปลดกำลังอาวุธทั้งหมดโดยสิ้นเชิง ภายใต้การควบคุมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ตามความมุ่งประสงค์ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งต้องการให้ยุติหรือเลิกการแข่งขันกันสะสมอาวุธ และกำจัดมิให้มีเหตุจูงใจที่จะผลิตและทดสอบอาวุธไม่ว่าชนิดใดทั้งหมด รวมทั้งอาวุธนิวเคลียร์ด้วย นอกจากนี้ ยังเสาะแสวงหาที่จะให้หยุดการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ไปตลอดชั่วกาลนานสนธิ สัญญานี้มีข้อความอยู่ 5 มาตรา และไม่จำกัดอายุเวลา ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประเทศอื่น ๆ ทั้งหลายเข้าร่วมลงนามเป็นภาคีได้ ในทางตรงกันข้าม ประเทศภาคีก็มีสิทธิใช้อธิปไตยแห่งชาติได้เพื่อถอนตัวจากสนธิสัญญา ถ้าหากประเทศนั้น ๆ เห็นว่า ประโยชน์อันสูงสุดของประเทศตนต้องตกอยู่ในอันตราย และแจ้งล่วงหน้าสามเดือนให้ประเทศภาคีอื่น ๆ ทั้งหมดทราบการตกลงใจนั้น[การทูต]
การทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ[การทูต]
หมายถึง การยื่นสารตราตั้ง เป็นธรรมเนียมปฏิบัติทางการทูตว่า ผู้ใดได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศใดประเทศหนึ่ง ก่อนที่จะปฏิบัติงานในหน้าที่ จะต้องนำสารตราตั้ง (Credentials) ไปยื่นต่อประมุขของรัฐนั้น ๆ พิธียื่นสารตราตั้งจะกระทำไม่เหมือนกันในแต่ละประเทศ แล้วแต่จะพิจารณาเห็นความเหมาะสม และความเคร่งต่อธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติติดต่อกันมาเป็นสำคัญ เช่น อังกฤษเป็นประเทศหนึ่งที่พิธียื่นสารตราตั้งของเอกอัครราชทูตต่อองค์ประมุข ของประเทศค่อนข้างวิจิตรพิสดารมาก ส่วนบางประเทศมีพิธียื่นสารอย่างง่าย ๆ แทบจะไม่มีพิธีรีตองอย่างใดในสหรัฐอเมริกา ณ กรุงวอชิงตันดีซี พิธียื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดีของสหรัฐฯ กระทำอย่างเรียบง่าย กล่าวคือ พอถึงเวลาที่กำหนดในวันยื่นสารตราตั้ง อธิบดีกรมพิธีการทูตหรือผู้แทนของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะนำรถยนต์ลีมูซีนสีดำไปยังทำเนียบของเอกอัครราชทูต เพื่อรับเอกอัครราชทูตและครอบครัวไปยื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดี ณ ตึกทำเนียบขาว ( White House)มีข้อน่าสนใจอันหนึ่งคือ ทางฝ่ายสหรัฐฯ จะสนับสนุนให้เอกอัครราชทูตพาภรรยาและบุตรทั้งชายหญิงไปร่วมในการยื่นสารตรา ตั้งนั้นด้วย การแต่งกายของเอกอัครราชทูตก็สวมชุดสากลผูกเน็คไทตามธรรมดา ระหว่างที่ยื่นสารมีการปฏิสันถารกันพอสมควรระหว่างเอกอัครราชทูตกับ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีช่างภาพของทางราชการถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก และมอบภาพถ่ายให้แก่เอกอัครราชทูตในวันหลัง (ต่างกับพิธีของอังกฤษมาก) เอกอัครราชทูตไม่ต้องพาคณะเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตติดตามไปด้วย หลังจากพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว อธิบดีกรมพิธีการทูตจะนำเอกอัครราชทูตและครอบครัวกลับไปยังทำเนียบที่พักโดย รถยนต์คันเดิม เป็นอันเสร็จพิธียื่นสารตราตั้ง โดยที่ประเทศต่าง ๆ ในโลกต่างมีสถานเอกอัครราชทูตของตนตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตันดีซี ดังนั้น ในวันไหนที่มีการยื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดี ทางการทำเนียบขาวมักจะกำหนดให้เอกอัครราชทูตใหม่จากประเทศต่าง ๆ เข้ายื่นสารในวันนั้นราว 4-5 ประเทศติดต่อกัน มิใช่วันละคนอย่างที่ปฏิบัติในบางประเทศทันทีที่เอกอัครราชทูตยื่นสารตรา ตั้งต่อประธานาธิบดีเรียบร้อยแล้ว เอกอัครราชทูตจะมีหนังสือเวียนไปยังหัวหน้าคณะทูตทุกแห่งในกรุงวอชิงตันดีซี แจ้งให้ทราบว่าในวันนั้น ๆ เขาได้ยื่นสารตราตั้งต่อประมุขของรัฐ ในฐานะเอกอัครราชทูตเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับแสดงความหวังในหนังสือว่าความสัมพันธ์อันดีที่มีอยู่ระหว่างคณะผู้ แทนทางการทูตทั้งสอง ทั้งในทางราชการและทางส่วนตัว จะมั่นคงเป็นปึกแผ่นยิ่งขึ้นอีก จากนั้น เอกอัครราชทูตใหม่ก็จะหาเวลาไปเยี่ยมคารวะเอกอัครราชทูตของประเทศต่าง ๆ ที่ประจำอยู่ในกรุงวอชิงตันดีซีทีละราย กว่าจะเยี่ยมหมดทุกคนก็กินเวลานานอยู่หลายเดือนทีเดียว[การทูต]
ภรรยาของนักการทูต ในประเทศที่มีกษัตริย์ และเอกอัครราชทูตจัดถวายพระราชสาส์นตราตั้งต่อกษัตริย์หรือราชินีในฐานะ ประมุขของรัฐนั้น มักจะให้ภรรยาเข้าเฝ้าด้วยต่างหาก แต่การเข้าเฝ้านั้นจะมีพิธีรีตองน้อยกว่าของเอกอัครราชทูตในอดีตกาล ภรรยาของเอกอัครราชทูตมักจะไม่ได้รับการพิจารณารับรองและยกย่องเหมือนกับที่ เป็นอยู่ในปัจจุบัน อาทิเช่น ที่กรุงเวนิส ตามกฎหมายปี ค.ศ. 1268 ไม่อนุญาตให้ภรรยาของเอกอัครราชทูตติดตามไปด้วย ไม่ว่าจะไปประจำแห่งไหน เพราะเกรงว่าภรรยาอาจจะปากโป้งเกี่ยวกับการงานของสามี แต่กฎหมายได้กำหนดให้เอกอัครราชทูตนำพ่อครัวของตนเองติดตามไปด้วย เพื่อกันมิให้เอกอัครราชทูตต้องถูกวางยาพิษในอาหารที่รับประทานกล่าวโดยทั่ว ไปแล้ว ทุกวันนี้ภรรยาของเอกอัครราชทูตได้อุปโภคเอกสิทธิ เกียรติ ลำดับอาวุโส และความคุ้มกันต่าง ๆ เหมือนกับสามี ถึงแม้ในบางกรณีเอกอัครราชทูตกับภรรยาอาจแยกกันอยู่ก็ตาม ภรรยาของเอกอัครราชทูตที่เพิ่งยื่นสารตราตั้ง มักจะหาโอกาสไปเยี่ยมคารวะภรรยาของเอกอัครราชทูตอื่น ๆ ด้วย แม้ว่าในทุกวันนี้ธรรมเนียมปฏิบัติดังกล่าวอาจจะไม่เคร่งครัดเหมือนกับสมัย ก่อน อนึ่ง ในบางประเทศได้มีระเบียบข้อบังคับ ห้ามมิให้ผู้แทนทางการทูตและทางการกงสุลที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ แต่งงานกับคนต่างชาติโดยมิได้รับอนุมัติจากรัฐบาลของตนก่อน[การทูต]
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
(adj)เกี่ยวกับการบำเพ็ญตนอย่างเคร่งครัดSyn.self-denying
(adj)เข้มงวดSee Also:เคร่งครัดSyn.severe
(adj)เคร่งครัดSee Also:เคร่งครัด, เคร่ง, เข้มงวดSyn.severe
(n)ความเคร่งครัดSyn.strictness, sternness, severity
(adj)เคร่งครัดSee Also:เคร่ง
(vi)เรียนอย่างหนักSee Also:มุมานะ, คร่ำเคร่ง
(vi)คร่ำเคร่ง (เรียน)
(vt)คร่ำเคร่ง (เรียน)
(adj)ซึ่งมีใจจดจ่อSee Also:หมกมุ่น, คร่ำเคร่งSyn.absorbed, engrossed, immersed, philosophical, profound, wise
(adj)เคร่งขรึม (โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิง)See Also:ขี้อายSyn.modest, quietAnt.showy, pretentious
(adv)อย่างเคร่งขรึมSee Also:อย่างสุขุมSyn.modestly
(n)ผู้ยึดถือระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัดSee Also:ผู้เคร่งครัดSyn.martinet
(adj)ซึ่งยึดถือระเบียบวินัยSee Also:ซึ่งเคร่งครัดในกฎระเบียบ
(n)การบรรยายที่เคร่งเครียดSee Also:การสนทนา, การปาฐกถา, การกล่าวสุนทรพจน์Syn.speech, verbalization, address, monoloque
(adj)ที่เคร่งศาสนา
(idm)กฎระเบียบที่เคร่งครัด
(idm)เคร่งครัดเกินไป
(adj)เคร่งครัดSee Also:เด็ดขาด, เข้มงวด
(phrv)เข้มงวดกับSee Also:กวดขันกับ, เคร่งครัดกับ
(adj)ไม่เคร่งเครียดSee Also:ผ่อนคลายSyn.amusing
(adv)ไม่เคร่งครัดSee Also:ไม่เข้มงวด
(n)นายทหารผู้เคร่งครัดSyn.perfectionist
(n)ผู้เคร่งครัดในระเบียบวินัยSyn.disciplinarian, moralist
(vi)เคร่งเครียดเกินไป
(vt)ทำให้เคร่งเครียดเกินไป
(adj)เคร่งระเบียบSee Also:เคร่งศาสนา
(adj)เคร่งระเบียบSee Also:เคร่งศาสนา
(n)ความมีศรัทธาแก่กล้าSee Also:ความเคร่งศาสนา, ความศรัทธาในศาสนาSyn.respect, veneration
(adj)เคร่งครัดในทางศาสนาSee Also:มีศรัทธาต่อศาสนาอย่างแรงกล้าSyn.devout, religious, reverentAnt.impious, irreligious, profane
(adj)ที่เคร่งSee Also:ที่จริงจัง
(n)คนเคร่งครัดเกินไปSyn.prig, puritan, old maid
(n)ความเคร่งครัดเกินไปSyn.priggishness, strictness
(adj)ซึ่งเคร่งครัดSee Also:ซึ่งเจ้าระเบียบเกินไปSyn.precise, prissy, priggish
(n)ความเคร่งครัดเกินไปSyn.priggishness, puritanism
(n)ผู้เคร่งครัดในหลักศีลธรรมจรรยา
(adj)เคร่งศาสนามาก
(n)สมาชิกสมาคมเคร่งศาสนาชื่อ Society of Friends ในอังกฤษ
(adj)ซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมเคร่งศาสนาชื่อ Society of Friends ในอังกฤษ
(n)การเป็นสมาชิกสมาคมเคร่งศาสนาชื่อ Society of Friends ในอังกฤษ
(adv)เป็นสมาชิกสมาคมเคร่งศาสนาชื่อ Society of Friends ในอังกฤษ
(vt)บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัดSyn.discipline, subjugate
(adj)ซึ่งจัดเป็นหมวดหมู่See Also:ซึ่งมีระเบียบวินัยเคร่งครัดSyn.disciplined, controlled
(n)ความเข้มงวดSee Also:ความเคร่งครัดSyn.inflexibily, stiffness
(adj)อย่างเข้มงวดSee Also:อย่างเคร่งครัดSyn.harsh, strict
(n)ความเข้มงวดSee Also:ความเคร่งครัดSyn.inflexibily, stiffness
(adj)ละเอียดรอบคอบSee Also:เคร่งครัดSyn.strict, punctilious
Hope Dictionary
(แอโรนิวโร'ซิส) n. โรคประสาทที่เป็นกับนักขับเครื่องบิน เนื่องจากจิตเคร่งเครียดเกินไป (a psychoneurotic condition)
(บลู'โนส) n. ผุ้เคร่งครัดในหลักคือธรรม
n. คริสต์ศาสนานิกายหนึ่งที่เคร่งครัดมีระเบียบวินัยมากและอยู่กันเป็นชุมชน
(เชิร์ช'อิสซึม) n. ความเคร่งครัดในพิธีศาสนา
(ดิเมียว') adj. อาย, กระดาก, เคร่งขรึม, สงบเสงี่ยม.See Also:demureness n.Syn.modest
(ดิเวาทฺ') adj. มีใจศรัทธา, เคร่งศาสนา, ใจจริง, ซื่อสัตย์.See Also:devoutness n.Syn.pious
(ดิไววนฺ') adj. เกี่ยวกับพระเจ้า, ศักดิ์สิทธิ์, เคร่งศาสนา, เกี่ยวกับเทววิทยาดีเลิศ, ยอดเยี่ยม, เหนือมนุษย์, เป็นพรสวรรค์n. นักศาสนศาสตร์, ผู้ศึกษาเกี่ยวกับศาสนา, พระSee Also:the Divine พระเจ้า, เทพเจ้า, จิตวิญญาณ vi., vt. ทำนาย, คาดการณ์, พยากรณ์. divin
คอมพิวเตอร์ยุคที่หนึ่งนับตั้งแต่เริ่มมีเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้ มนุษย์ได้พัฒนาเครื่องมือนี้ติดต่อกันมาตลอด ทำให้มีการแบ่งวิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ออกเป็นยุค (generation) พัฒนาการของคอมพิวเตอร์ยุคแรกถือว่าเริ่มตั้งแต่ ค.ศ.1951 ถึงต้น ค.ศ.1960 คอมพิวเตอร์สมัยนั้นสามารถเก็บโปรแกรมได้ ใช้หลอดสุญญากาศเป็นหน่วยความจำ ทำให้มีขนาดใหญ่ กินเนื้อที่มาก ระหว่างทำงาน จะทำให้เกิดความร้อนสูงตลอดเวลา การทำงานจะทำได้ทีละอย่าง และจะเรียงกันไปตามลำดับคำสั่งอย่างเคร่งครัด ภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมก็มีแต่ภาษาแอสเซมบลี (assembly language) ดู generation ประกอบ
(ฟอร์แมล'ลิที) n. ระเบียบ, ระเบียบแบบแผน, พิธีรีตอง, ความเคร่งครัดในระเบียบ, ความเข้มงวด, ธรรมเนียมปฏิบัติSyn.orthodoxy
abbr. government issue, ทหารที่กองทัพสหรัฐอเมริกา adj. เคร่งครัดต่อระเบียบวินัย
(แกรฟ'วิที) n. แรงดึงดูดของโลก, แรงศูนย์ถ่วงของโลก, น้ำหนัก, แรงดึงดูด, ลักษณะที่รุนแรง, ความจริงจัง, ความเคร่งขรึมSyn.attraction, seriousness
(กรีม) adj. เคร่งขรึม, เข้มงวด, น่ากลัว, ดุร้าย, ร้ายกาจ.See Also:grimly adv. grimness n.
adj. เคร่งศาสนา, ธัมมะธัมโม
(โฮ'ลิลี่) adj. ศักดิ์สิทธิ์, น่าเคารพ, เคร่งศาสนาSyn.self-righteous
(โฮ'ลี) adj. ศักดิ์สิทธิ์, เป็นที่เคารพบูชา, เคร่งศาสนา, ใจบุญอย่างยิ่ง, อย่ายิ่ง, เหลือเกิน, น่ากลัว. n. สถานที่ศักดิ์สิทธิ์, สิ่งศักดิ์สิทธิ์, สิ่งศักดิ์สิทธิ์Syn.pious, consecrated
(ไอดีออล'ละจิสทฺ) n. นักคิด, ผู้เคร่งลัทธิ, นักลัทธิ, บุคคลที่ชอบคิดชอบฝัน
(อินฟอร์'เมิล) adj. ไม่มีพิธีรีตอง, ไม่เป็นทางการ, กันเอง, ไม่เคร่งครัด.See Also:informally adv.Syn.unceremoniousAnt.formal
(อินฟอร์แมล'ลิที) n. การไม่มีพิธีรีตรอง, ความไม่เป็นทางการ, ความกันเอง, ความไม่เคร่งครัดSyn.familliarity, laxity, ease
(อินเทน'ซิฟว) adj. เข้มข้น, ละเอียด, คร่ำเคร่ง, รุนแรง, หนาแน่น (การเพาะปลูก)
(แมน'ฮันทฺ) n. การตามล่าอาชญากรนักโทษแหกคุกหรืออื่น ๆ โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ, การตามหาคนอย่างคร่ำเคร่ง.See Also:manhunter n.
(มาร์'เชิน) n., adj. เกี่ยวกับดาวอังคาร, ชาวดาวอังคาร n. ผู้เคร่งครัดในกฎเกณฑ์หรือวินัย
(มาร์'ทิเนท) n. ผู้เคร่งครัดในระเบียบวินัยSee Also:martinetish, adj. martinetism n.Syn.disciplinarian
(อับเซอ'เวินทฺ) adj. ระวัง, เอาใจใส่เคร่งครัด, ตาไว, คอยดู, ช่างสังเกต, ซึ่งรักษาวินัย, ซึ่งปฏิบัติตามกฎหรือระเบียบหรือหน้าที่.n. ผู้ปฏิบัติตาม, ผู้รักษาวินัยSyn.attentive
(โอ'เวอะรอท) adj. เหน็ดเหนื่อยเกินไป, พิถีพิถันเกินไป, ประณีตเกินไป, เคร่งเครียดเกินไป, ตกใจง่าย, ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ vi. กริยาช่อง 3 ของ overwork
(เฟริเซ'อิค) adj. เกี่ยวกับPharisees (ดู) , เจ้าระเบียบ, เคร่งในรูปแบบ, เคร่งในวินัยศาสนา แต่รูปแบบภายนอก, เคร่งในพิธีการทางศาสนา, แสร้งทำ, จอมปลอม, ปากกับใจไม่ตรงกัน.Syn.pharisaical
(แฟ'ริซี) n. ผู้ที่มีปากกับใจไม่ตรงกัน, เจ้าระเบียบ, พวกมือถือสากปากถือศีล, สมาชิกยิวโบราณที่เคร่งครัดในวินัยศาสนาแต่รูปแบบภายนอก, ผู้ที่หลอกลวง, สุภาพบุรุษจอมปลอมSee Also:phariseeism n.
(ไพ'อิที) n. ความเคร่งครัดในทางศาสนา, ความเลื่อมใสบูชา, ความมีศรัทธาอันแก่กล้า, คำพูดความเชื่อหรือพฤติการณ์ที่มีศรัทธาอันแก่กล้า
(ไพ'เอิส) เคร่งครัดในศาสนา, มีศรัทธามาก, นับถือพระ, แสดงความเคารพนับถือSee Also:piousness n.Syn.devout, religious
(พรอพ'เพอะ) adj. เหมาะสม, เหมาะ, สมควร, ถูกต้อง, ถูกกาลเทศะ, ถูกมารยาท, เกี่ยวกับบุคคลใดหรือสิ่งใดโดยเฉพาะ, อันแท้จริง, ดั้งเดิม, กับตา, โดยตัวของมันเอง, เคร่งครัด, สมบูรณ์, เต็มที่, ดี. n. พิธีการ, มารยาท, ความประพฤติSyn.fit, suitable
(เพียว'ริเทิน) n. สมาชิกโปรเตสแตนต์นิกายหนึ่งยืดถือหลักความเคร่งครัดในศาสนา. adj. เกี่ยวกับบุคคลดังกล่าวSee Also:Puritanism n. - puritan n. ผู้เคร่งครัดในหลักศีลธรรมจรรยา.Syn.pride
(เพียวริแทน'นิเคิล) adj. เคร่งครัดมากในหลักศีลธรรมจรรยา, เคร่งครัดในศาสนามาก, เคร่งครัดมากเกินไป, เจ้าระเบียบเกินไป, เกี่ยวกับPuritanหรือPuritanismSee Also:puritanically adv. puritanicalness n.
(เพียวริแทน'นิเคิล) adj. เคร่งครัดมากในหลักศีลธรรมจรรยา, เคร่งครัดในศาสนามาก, เคร่งครัดมากเกินไป, เจ้าระเบียบเกินไป, เกี่ยวกับPuritanหรือPuritanismSee Also:puritanically adv. puritanicalness n.
(เคว'เคอะ) n. สมาชิกสมาคมReligious Society of Friendsในอังกฤษเป็นสมาคมที่เคร่งศาสนา. -Quakerish adj. -Quakerism n. -Quakerly adj., adv.
?gime (ระจีม') n. ระบบการปกครอง, ระบบสังคม, กฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดSyn.system of rule
(เรจ'จะเมน) n. กฎเกณฑ์, หลัก, กฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดเกี่ยวกับการกิน การออกกำลังกายหรือกิจกรรมอื่น ๆ , การปกครอง, ระบบการเมือง, รัฐบาลSyn.rule, government
(เรจ'จะเมินทฺ) n. กรมทหาร, กองทหาร, รัฐบาล vt. จัดเป็นกรมหรือกองทหาร, บริหารอย่างเคร่งครัดโดยไม่เลือกหน้าSee Also:regimentation n.
(รีลิจ'เจิน) n. ศาสนา, ลัทธิ, ความเลื่อมใสในศาสนา, เรื่องศาสนา, กลุ่มนักบวช, ความเลื่อมใส, ชีวิตในศาสนา, ธรรมะ, หลักธรรมSee Also:religions n. พิธีศาสนา, ความเคร่งครัดในศาสนา
(รีลิจ'เจิส) adj. เคร่งศาสนา, เลื่อมใสในศาสนา, ออกบวช, n. นักบวช, นักพรต, สมาชิกของนิกายศาสนาหนึ่งSee Also:religiousness n.Syn.devout, pious, faithful
(ระจีม') n. ระบบการปกครอง, ระบบสังคม, กฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดSyn.system of rule
(เซีย'เรียส) adj. เคร่งขรึม, ขรึม, จริงจัง, เอาจริงเอาจัง, ไม่เหลาะแหละ, ไม่ล้อเล่น, ขึงขัง, สำคัญ, สาหัส, ร้ายแรงSee Also:seriousness n.Syn.grave, solemn, earnest, important, severe
(ซีเวียร์') adj. รุนแรง, เข้มงวด, กวดขัน, เคร่ง, เคร่งขรึม, เคร่งครัด, เอาจริงเอาจัง, เหน็บแนม, เสียดสี, หนาวจัด, ร้ายแรง, สาหัส, ดุเดือด, ยากลำบาก, แม่นยำ.See Also:severely adv. severeness n.Syn.cruel, harsh
(ซีเวีย'ริที) n. ความรุนแรง, ความเข้มงวด, ความกวดขัน, ความเคร่ง, การเอาจริงเอาจัง, ความยากลำบาก, ความแม่นยำ, การลงโทษอย่างรุนแรง, การเหน็บแนม, การเสียดสี
(โซ'เบอะ) adj. ไม่เมา, มีสติ, ปกติ, สุขุม, เยือกเย็น, เคร่งขาม, สงบเสงี่ยม, ไม่คุยโว, ไม่จินตนาการ, มีเหตุผล vt., vi. ทำให้หรือกลายเป็นไม่เมา (มีสติ, ปกติ...)See Also:soberingly adv. soberly adv.Syn.moderate
(ซอล'เลิม) adj. เคร่งขรึม, ขึงขัง, ถมึงทึง, น่าขนลุก, เอาจริงเอาจัง, เกี่ยวกับพิธีทางศาสนา, ตามพิธี.See Also:solemnly adv. solemnness n.Syn.awesome, grave
(สทาร์ค) adj., adv. ตายตัว, โทนโท, สิ้นเชิง, เคร่งครัด, เต็มตัว, ที่สุด, แข็ง, แข็งทื่อ, แข็ง (ตาย)See Also:starkly adv. starkness n.Syn.bleak
(สเทิร์น) adj. เข้มงวด, กวดขัน, พิถีพิถัน, เคร่งครัด, รุนแรง, ไม่ผ่อนผัน, บูดบึ้ง n. ส่วนหลังของเรือ, ท้ายเรือ, ส่วนหลัง, ส่วนท้าย, บั้นท้าย, ตะโพก, ก้น, หางSee Also:sternly adv. sternness n.Syn.austere, severe
(สเทรท) n. ช่องแคบ, ทางผ่านที่แคบ, ที่คับแคบ, สภาพที่ลำบาก, ความเคร่งเครียด, ภาวะจนตรอก, ความคับแค้น. adj. แคบ, คับ-แค้น, เคร่งครัดในระเบียบ.See Also:straitness n.
(สเทรท'เทิน) vt. ทำให้ลำบาก, ทำให้เคร่งเครียด, จำกัด, ทำให้คับแคบ, เคร่งครัดในระเบียบSyn.restrict
(สทริคทฺ) adj. เข้มงวด, เคร่งครัด, กวดขัน, แม่นยำ, แน่นอน, สมบูรณ์, ถ้วนทั่ว, ถูกต้อง, รอบคอบ.See Also:strictness n.Syn.close, exacting, stern
(สทริน'เจนซี่) n. ความเข้มงวด, ความเคร่งระเบียบ, ความแน่นหนา, ความตึง, ความรีบด่วน, ความฉุกละหุกSyn.strictness, severity
Nontri Dictionary
(adj)เข้มงวด, เคร่งครัด, กวดขัน
(adv)อย่างเข้มงวด, อย่างเคร่งครัด, อย่างกวดขัน
(adj)เคร่งขรึม, สงบเสงี่ยม, กระดากอาย
(n)ความเลื่อมใสในศาสนา, ความเคร่งศาสนา
(adj)มีศาสนา, เลื่อมใส, เคร่งศาสนา, เคร่งศีลธรรม
(adj)เคร่งขรึม, ถมึงทึง, เข้มงวด, น่ากลัว, น่าสยดสยอง, น่าขนลุก
(n)ความไม่มีพิธี, ความเป็นกันเอง, ความไม่เคร่งครัด
(adj)แรง, ละเอียด, คร่ำเคร่ง, หมกมุ่น, หนาแน่น, เข้ม
(n)ผู้เคร่งครัดในวินัย
(n)คนเคร่งขรึม, คนเซื่องซึม
(vi)เคร่งขรึม, เซื่องซึม
(adj)ใจบุญ, ใจกุศล, มีศรัทธาแก่กล้า, เคร่งศาสนา
(n)คนเคร่งคัดในศีลธรรม, คนเจ้าระเบียบ
(adj)เคร่งคัดในศีลธรรม, เจ้าระเบียบ
(adj)เคร่งศาสนา, เกี่ยวกับศาสนา, เลื่อมใส
(adj)เซื่องซึม, เคร่งขรึม, ซึม
(adj)สำคัญ, จริงจัง, เคร่งเครียด, เอาจริงเอาจัง, สาหัส, ร้ายแรง
(n)ความเครียด, ความเคร่งเครียด, ความร้ายแรง, ความสาหัส, ความสำคัญ
(adj)รุนแรง, สาหัส, เคร่งครัด, กวดขัน, เอาจริงเอาจัง, เข้มงวด
(n)ความเคร่งครัด, ความเข้มงวด, ความรุนแรง
(adj)ขึงขัง, เคร่งขรึม, เอาจริงเอาจัง, ตามพิธี
(n)ความเคร่งขรึม, ความเอาจริงเอาจัง, ความขึงขัง, พิธี
(vt)ทำให้เคร่งขรึม, ทำให้ขนลุก, ทำให้ขึงขัง, ทำพิธี
(adj)เคร่งครัด, แคบ, เคร่งเครียด, คับแค้น
(n)ความเคร่งเครียด, ช่องแคบ, ความคับแค้น
(vt)ทำให้แคบ, จำกัด, ทำให้เคร่งเครียด
(adj)กวดขัน, เข้มงวด, เคร่งครัด, ถูกต้อง, สมบูรณ์
(n)ความกวดขัน, ความเข้มงวด, ความเคร่งครัด
(n)ความเคร่งครัด, ความเข้มงวด, ความกวดขัน, ความฉุกละหุก
(adj)กวดขัน, เข้มงวด, เคร่งครัด, รีบด่วน, ฉุกละหุก
(adj)เรียบร้อย, เคร่งครัด, ตึงเครียด, เข้มงวด
(adj)จริง, ซื่อสัตย์, ตรง, แท้, ถูกต้อง, เคร่งครัด
Longdo Unapproved EN-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
[ดฺ แร็ดสฺ โขดฺ - เน้นเสียงที่คำแรก]dress code คือ กฎระเบียบการแต่งกายตามจารึตประเพณีนิมยมของสังคมหนึ่งๆ เช่น การใส่ชุดฟอร์มนักเรียนนักศึกษาไทย ชุดข้าราชการไทย การแต่งกายเวลาเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์ไทย การแต่งกายไปร่วมพระราชพิธีต่างๆ การแต่งกายแบบสากลนิยมตามงานราตรีสโมสร หรือตามที่เจ้าภาพได้กำหนดไว้ เป็นต้น ตัวอย่าง 1. To attend a gala dinner at the Oriental Hotel, the dress code is strict - black tie only. การไปรับประทานอาหารเย็นที่โรงแรมโอแรนเต็ลนั้น กฎระเบียบการแต่งตัวนั้นเข้มงวดมาก คือ ต้องชุดราตรีสโมสรเท่านั้น 2. Thai students have a very strict dress code when they go to school. นักเรียนไทยต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบการแต่งกายตอนไปเรียนอย่างเคร่งครัด
Longdo Unapproved JP-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
公式
[こうしき, koushiki, koushiki , koushiki](n, adj)สูตร, กฎ, เกณฑ์, หลัก, มาตรฐาน, รูปแบบ, แผ่น, ตำรับ, ตำรา , ข้าราชการ, เจ้าพนักงาน adj. เป็นทางการ, ระเบียบ, ระเบียบแบบแผน, พิธีรีตอง, ความเคร่งครัดในระเบียบ, ความเข้มงวด, ธรรมเนียมปฏิบัติ
渋い
[しぶい, shibui](adj)ฝาด(รสชาติ), บูดเบี้ยว(หน้าบูด), สุขุม เคร่งขรึม(น้ำเสียง), เรียบ ดูดี มีรสนิยม
เพิ่มคำศัพท์
add
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ