แปลศัพท์
PopThai
dropdown
US
ads-m
480 ผลลัพธ์ สำหรับ 

*อ้า*

 ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น: อ้า, -อ้า-
Longdo TH - TH
คำที่ใช้เรียกผู้ที่มีพฤติกรรมที่มีลักษณะที่เห็นแก่ตัว ทำสิ่งต่างๆ โดยไม่สนใจว่าจะทำให้ผู้อื่นหรือสังคมเดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การแย่งที่นั่งว่างในรถโดยสาธารณะ, การแซงคิวไม่ยอมต่อแถวคอยเวลาขึ้นรถไฟฟ้า, โดยส่วนมากจะเป็นสุภาพสตรีในวัยกลางคนจนถึงสูงอายุ จึงเป็นที่มาถึงคำว่า "ป้า​" เริ่มเป็นที่ใช้กันแพร่หลายในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ในช่วงปี 2557 โดยล่าสุดมีลือกันถึงกรณีมีผู้เปิดประตูรถแท็กซี่มีผู้โดยสารอยู่ขณะที่กำลังจอดติดไฟแดง ขอขึ้นไปนั่งด้วยหน้าตาเฉยโดยอ้างว่าขอติดรถไปด้วยตามเส้นทางที่ผ่าน
Longdo Unapproved TH - TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
trade terms
[เทรด เทอมส](n)"ข้อตกลงในการส่งมอบสินค้า" ยังไม่เจาะจงลงไปว่าเป็นแหล่งอ้างอิงจากชื่อใด เข่น AFTD: American Foreign Trade Definition หรือ RWO: Rules of Warsaw and Oxford หรือ GCDM: General Conditions for Delivery of Merchandise หรือ Combiterms หรือ Incoterms ซึ่งในแต่ละแหล่งอ้างอิงมี Terms ให้ใช้คล้ายกัน เช่น Ex Works, FOB หรือ CIF เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แหล่งอ้างอิงที่เสถียรในเรื่องค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงในการส่งมอบ คือแหล่ง Incoterms ทำให้หลายแหล่ง เช่น ล่าสุดทางอเมริกา ประกาศยกเลิก ธรรมนูญการค้าหรือ UCC บางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบสินค้าของตน ซึ่ง UCC นี้เองได้เป็นฐานในการกำหนดงเป็น AFTD ล่าสุดอเมริกาและแทบทั้งโลกมาขอใช้ร่วมกับ Incoterms ของ ICC International Chamber of Commerce, Paris, France นี้ เป็นมีการกำหนดจุดรับภาระที่แน่นอนกว่า
Longdo Unapproved TH - EN**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ถั่วปากอ้า
(n)broad bean; fava bean; faba bean; field bean; bell bean; tic bean; horse bean
Image:
ถั่วปากอ้า
Longdo Unapproved TH-NE-N - TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ภาษาอีสาน
[ภา-สา-อี-สาน](n)ภาษาอีสานเป็นภาษาท้องถิ่นที่มีความหลากหลาย เนื่องจากภาคอีสานมีหลากหลายชนเผ่าจึงทำให้เกิดความหลากหลายทางภาษา อ้างอิง : https://esan108.com/dict/
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
(v)spread outSee Also:stretch outSyn.เปิด, แยก, แบะAnt.หุบExample:งูเห่าพยายามอ้าปากจะกัดพังพอน
(int)exclamation of surprise or protestExample:อ้าว! ทำไมคุณไม่ไปใช้เครื่องนั้นล่ะThai Definition:คำที่เปล่งออกมาเมื่อรู้สึกว่าไม่ตรงกับที่มุ่งหมายคาดไว้
(adv)fastSee Also:quickly, at full speed, at a fast clipExample:เขาไม่แปลกใจที่จะเห็นดวงดอมนุ่งกระโปรงวิ่งอ้าวมา เพราะเห็นมาหลายหนแล้วThai Definition:อาการแห่งเรือหรือรถแล่น หรือคนวิ่งโดยเร็ว
(adv)fully openSee Also:fully spread outExample:เขาก้าวสวบๆ ขึ้นไปนั่งถ่างขาอ้าซ่าอยู่บนบัลลังก์Thai Definition:อาการที่แบะออกไป หรือถ่างออกไปอย่างเปิดเผย
(v)acceptSee Also:welcomeExample:บรรดาลูกหลานอ้าแขนรับข่าวเรื่องบรรพบุรุษตนเกี่ยวดองกับอดีตประธานาธิบดีด้วยความปีติ
(n)excuseSee Also:justification, pretextSyn.ข้อแก้ตัว, คำกล่าวอ้างExample:คนกรุงเทพฯ ใช้ข้ออ้างว่ารถติดเสมอเมื่อไปไม่ทันเวลานัดหมายThai Definition:สิ่งที่นำมาอ้างสนับสนุนความคิดเห็นหรือการกระทำของตน
(adv)boastfullySee Also:braggingSyn.อ้าง, กล่าวอ้างExample:เขาเที่ยวคุยอวดอ้างกับประชาชนว่า จะไม่ยอมถอนตัวจากรัฐบาล
(v)claimSee Also:boast, bragSyn.กล่าวอ้าง, อ้างExample:เขาอวดอ้างว่าเขาเป็นลูกเจ้าพ่อที่มีอิทธิพลมากThai Definition:อวดโดยอ้างหลักฐานประกอบ, พูดอวดสรรพคุณหรือคุณวิเศษที่มิได้มีอยู่ให้เกินความเป็นจริง
(v)claimSee Also:cite, mentionSyn.อ้างถึง, กล่าวถึงExample:นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจยุบสภาผู้แทนราษฎรโดยอ้างว่าเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน
(adj)referableSee Also:quotable, consultative, allegedExample:ข้อมูลทั้งหมดถูกเก็บไว้ในรูปตารางอ้างอิงThai Definition:เกี่ยวกับการถือเป็นหลัก, นำมากล่าวเป็นหลัก, กล่าวถึงเพื่อเป็นหลัก
(v)referSee Also:cite, quote, consult, claim, allegeExample:ผู้ทำนายจะต้องสามารถอ้างอิงสิ่งต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลาได้Thai Definition:ถือเป็นหลัก, นำมากล่าวเป็นหลัก, กล่าวถึงเพื่อเป็นหลัก
(v)refer stealthilySee Also:claim falselyExample:เราไม่ควรขโมยความคิดของผู้อื่นมาแอบอ้างว่าเป็นความคิดของตนThai Definition:เอาไปอ้างโดยเจ้าตัวไม่รู้
(adj)clumsySee Also:be ponderousExample:งูเหลือมตัวหนึ่งนอนขดอยู่หน้าบ้าน ตรงกลางท้องนูนป่อง ท่าทางอุ้ยอ้าย ไม่มีเรี่ยวแรงเคลื่อนไหวThai Definition:ไม่คล่องแคล่ว, เคลื่อนตัวยากอย่างคนอ้วน
(adv)clumsilySee Also:ponderouslyExample:ชายร่างใหญ่กำยำเดินอุ้ยอ้ายเข้ามาในห้อง แล้วปิดประตูตรงรี่เข้ามาเขาThai Definition:ไม่คล่องแคล่ว, เคลื่อนตัวยากอย่างคนอ้วน
(v)lumberSee Also:be clumsyThai Definition:ไม่คล่องแคล่ว, เคลื่อนตัวยากอย่างคนอ้วน
(v)isolateSee Also:secludeSyn.ว้าเหว่, เปล่าเปลี่ยว, เหงาหงอย, โดดเดี่ยวExample:ชายชรารู้สึกอ้างว้างและวังเวงอย่างที่สุดที่ถูกปล่อยให้ต้องผจญกับฝูงชนที่ไม่เคยพบเจอ
(v)claimSee Also:professExample:ข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีข้อกำหนดว่า การอภิปรายจะเอ่ยอ้างถึงพระปรมาภิไธยไม่ได้
(v)citeSee Also:quote, adduce, allude to, mentionSyn.อ้าง, อ้างถึงExample:ทหารมักชอบกล่าวอ้างถึงความมั่นคงของประเทศชาติเป็นเงื่อนไขในการกำจัดสิทธิเสรีภาพทางการเมืองของประชาชน
(v)be referredSee Also:be a willing witnessExample:เขารับสมอ้างจำเลยว่า เขาอยู่กับจำเลยขณะที่เกิดฆาตกรรม
(v)quoteExample:แหล่งข่าวอ้างคำพูดของนายทหารระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้Thai Definition:กล่าวถึงคำพูดที่พูดออกไป
(n)first lunar monthSee Also:DecemberSyn.เดือนธันวาคมExample:เดือนอ้ายเป็นเดือนแรกตามปฏิทินจันทรคติThai Definition:เดือนที่หนึ่งทางจันทรคติ
(n)referenceSee Also:baseSyn.คำอ้างอิงExample:ตามหลักจิตวิทยาวิธีการนี้ไม่สามารถนำมาเป็นข้ออ้างอิงได้Thai Definition:สิ่งที่ถือเป็นหลัก, สิ่งที่นำมากล่าวเป็นหลัก
(v)claimSee Also:possessSyn.ถือสิทธิ์Example:รัฐอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้Thai Definition:ถือเอาว่าเป็นสิทธิ์ของตนในการกระทำต่างๆ
(v)be agape and tongue-tiedSee Also:be at a loss for wordsSyn.อ้าปากหวอExample:หญิงชราอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อรู้ข่าวว่าลูกถูกตำรวจจับThai Definition:อ้าปากแล้วเอาลงหรือหุบไม่ได้
(v)be agape and tongue-tiedSee Also:be at a loss for wordsSyn.อ้าปากหวอExample:หญิงชราอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อรู้ข่าวว่าลูกถูกตำรวจจับThai Definition:อ้าปากแล้วเอาลงหรือหุบไม่ได้
(n)allusionSee Also:referenceExample:สิ่งที่เขาพูดมาเป็นคำกล่าวอ้างที่ยกมาสนับสนุนพรรคพวกของตัวเองทั้งสิ้นThai Definition:คำอ้างถึงหรือระบุถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นหลัก
(v)get better in financial statusSee Also:be getting along financially, be doing all right financiallySyn.ลืมหน้าอ้าปากExample:แม้ครอบครัวของเขาจะลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้ถึงเพียงนี้ แต่เขาก็มิเคยจะลืมเลือนความทุกข์เมื่อครั้งก่อนThai Definition:มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
(v)cleanSee Also:tidy, spick-and-span, spotlessSyn.สะอาด, หมดจดAnt.สกปรก, โสโครกExample:กระดานไม้แผ่นนี้สะอาดสะอ้าน บอกถึงความเอาใจใส่ของคนดูแล
(v)cleanSee Also:tidy, spick-and-span, spotlessSyn.สะอาด, หมดจดAnt.สกปรก, โสโครกExample:กระดานไม้แผ่นนี้สะอาดสะอ้าน บอกถึงความเอาใจใส่ของคนดูแล
(n)quotationSee Also:citeExample:ีมีการกล่าวอ้างกันอย่างกว้างขวางว่าวิชัยเป็นผู้ลักลอบค้าไม้เถื่อน
(n)excuseSee Also:defenceExample:คุณสมบัติที่ไม่เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมเป็นการสร้างจุดขายอย่างหนึ่งที่ผู้บริโภคจะต้องตรวจสอบข้อกล่าวอ้างนั้น
(n)clumsinessSee Also:awkwardness, unwieldinessAnt.ความคล่องแคล่วExample:ผู้หญิงเวลาท้องไส้จะมีความอุ้ยอ้ายมากกว่าปกติThai Definition:ลักษณะการที่เคลื่อนตัวช้าอย่างคนอ้วน
(n)lonelinessSee Also:lonesomeness, solitude, desolationSyn.ความเปล่าเปลี่ยว, ความเปลี่ยวใจ, ความว้าเหว่, ความเหงาExample:เป็นเวลานานนับสิบปีที่เขาอยู่กับความหลัง อยู่กับความอ้างว้างสิ้นหวัง เฝ้าดูคนรอบข้างตายจากไปทีละคน
(v)look upSee Also:improve, be betterSyn.ลืมตาอ้าปากAnt.จนลง, แย่ลงExample:นโยบายของรัฐบาลไม่ได้ทำให้เกษตรกรผู้ยากไร้ของเราเงยหน้าอ้าปากขึ้นมาได้Thai Definition:มีฐานะดีขึ้นกว่าเดิมพอทัดเทียมเพื่อน
(n)bibliographyExample:ผู้สนใจสามารถศึกษาพื้นฐานเรื่องอัลกอริทึมและการคำนวณได้จากเอกสารอ้างอิงที่อยู่ในท้ายเล่มThai Definition:เอกสารของแหล่งข้อมูลที่นำมาใช้ในการเขียนหนังสือหรืองานวิจัย
(n)referenceSee Also:documentationSyn.เอกสารอ้างอิงExample:นักวิจัยจำเป็นต้องใช้หนังสืออ้างอิงจำนวนมากในการทำวิจัยUnit:เล่มThai Definition:เอกสารที่ใช้ในการอ้างอิง
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
น. โรคพืชชนิดหนึ่งเกิดแก่ใบยาสูบ ทำให้ใบเฉา เหี่ยวแห้งหรือตายนึ่ง.
น. สิ่งที่นำมาอ้างสนับสนุนความคิดเห็นหรือการกระทำของตน.
น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Terminalia tripteraStapf ในวงศ์ Combretaceae เปลือกชั้นในสีแสด รสฝาด ใช้เคี้ยวกับหมาก, กำจาย ก็เรียก, จันทบุรีเรียก หอมกราย.
ชื่อไม้ต้น ๓ ชนิดในสกุล Walsura วงศ์ Meliaceae คือ ชนิด W. robusta Roxb., W. trichostemon Miq. และ W. villosa Wall.
ก. ตริตรองหาทางแก้ไข.
ก. มีฐานะดีขึ้นกว่าเดิมพอทัดเทียมเพื่อน, ลืมตาอ้าปาก หรือ ลืมหน้าอ้าปาก ก็ว่า.
น. ชาดที่มาจากเมืองอ้ายมุ่ยประเทศจีน.
ว. อาการที่พูดไม่ใคร่ออกทันใจ คือกว่าจะพูดได้แต่ละคำต้องยํ้าเสียงต้นอยู่นาน จึงพูดต่อไปได้.
ดู ดอกหมาก ๒.
น. ปากของส่วนทะเลที่เว้าเข้าไปในแผ่นดิน.
ก. ใช้เรือรบหรือทุ่นระเบิดเป็นต้นปิดที่ปากอ่าวของฝ่ายตรงข้าม ไม่ให้เรือเข้าออก.
รู้ทันกัน, พอแย้มปากก็เห็นไรฟัน ก็ว่า.
ก. คิด ทำ หรือพูดวกวนกลับไปกลับมา.
ก. รับแทนผู้อื่น เช่น เขารับสมอ้างว่าเป็นเจ้าของบ่อน.
ก. ริ เช่น ริอ่านเป็นขโมย.
ก. เข้าใจคิดตริตรอง เช่น เด็กบางคนรู้คิดรู้อ่านดีกว่าผู้ใหญ่.
ก. มีฐานะดีขึ้นกว่าเดิมพอทัดเทียมเพื่อน เช่น เดี๋ยวนี้เขาลืมตาอ้าปากได้แล้ว เขาลืมหน้าอ้าปากได้แล้ว, เงยหน้าอ้าปาก ก็ว่า.
ก. รับรองถ้อยคำที่เขากล่าว.
น. รูเหนือท่อน้ำทิ้งที่อ่างล้างหน้าหรืออ่างอาบน้ำเป็นต้น สำหรับให้น้ำไหลลงสู่ท่อน้ำทิ้ง.
ว. สะอาดหมดจด เช่น เด็กคนนี้หน้าตาสะอาดสะอ้าน.
ว. หมดจด, สะอาด, มักใช้เข้าคู่กับคำ สะอาด เป็น สะอาดสะอ้าน.
ว. ร้อนไม่มีลม.
ก. พูดแสดงสรรพคุณหรือคุณวิเศษที่มิได้มีอยู่หรือให้เกินความเป็นจริง, พูดโดยยกหลักฐานซึ่งไม่มีอยู่จริงหรือที่บิดเบือนไปจากความจริงมาประกอบ.
น. วิธีแทงโปวิธีหนึ่ง โดยแทง อา เหม็ง ซั้ว กางปีก ๓ ประตู โปออกประตูใดใน ๓ ประตูนั้น เจ้ามือใช้ ๑ ต่อ ถ้าออกประตูอื่น เจ้ามือกินหมดทั้ง ๓ ประตู.
ก. ประดับ, ตกแต่ง.
ก. แต่งตัว เช่น ลูบไล้สุคนธาอ่าองค์ บรรจงทรงเครื่องวันอาทิตย์ (อิเหนา).
ก. เปิด, แยกออก, แบะออก, เช่น ปากอ้า
ทำให้เปิด, ทำให้แยกออก, ทำให้แบะออก, เช่น อ้าปาก.
ก. หาเรื่องมาเป็นภาระของตนโดยไม่จำเป็น เช่น เขามีฐานะยากจนอยู่แล้วยังจะอ้าขาผวาปีกไปขอเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมอีก งานก็มากอยู่แล้ว ทำไมจะต้องอ้าขาพวาปีกไปรับงานอื่นมาอีก.
ว. อาการที่นั่งหรือนอนถ่างขาอย่างเปิดเผย ในความว่า นั่งถ่างขาอ้าซ่า นอนถ่างขาอ้าซ่า, โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น เปิดอกอ้าซ่า, ลักษณะที่ประตูหรือหน้าต่างเปิดแบะออกเต็มที่ เช่น เปิดประตูอ้าซ่า.
ว. คำออกเสียงขึ้นต้นประโยคในคำประพันธ์ ใช้ในความรำพึงหรือพรรณนาวิงวอนอย่างเดียวกับคำ โอ้ หรือ โอ้ว่า.
น. ภาชนะสำหรับใส่น้ำเป็นต้น มักมีลักษณะกลม ปากผายก้นตื้น, โดยปริยายใช้เรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น อ่างอาบนํ้า.
น. แอ่งขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นสำหรับเก็บนํ้าเพื่อบริโภคและใช้ในการเกษตรเป็นต้น.
ว. อาการที่พูดไม่ใคร่ออกทันใจ คือกว่าจะพูดได้แต่ละคำต้องยํ้าคำต้นอยู่นานจึงพูดต่อไปได้ เป็นอาการประจำบางคน เรียกว่า เป็นอ่าง หรือ พูดติดอ่าง.
ก. ระบุ, บ่งถึง, เช่น อ้างพยาน
กล่าวถึง, ชี้เป็นหลัก, เช่น อ้างบาลี
ถือเอา เช่น อ้างสิทธิ.
ก. ระบุที่มาเพื่อเป็นหลักฐาน, ยกมากล่าวเป็นหลัก, เช่น ในการให้ความหมายของคำ เขามักอ้างอิงพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน.
ว. ที่ระบุที่มาเพื่อเป็นหลักฐาน เช่น พจนานุกรมเป็นหนังสืออ้างอิง เอกสารอ้างอิง.
ว. เปล่าเปลี่ยว, ว้าเหว่, เปลี่ยวใจ, เช่น รู้สึกอ้างว้าง.
ก. ว่าตามตัวหนังสือ, ถ้าออกเสียงด้วย เรียกว่า อ่านออกเสียง, ถ้าไม่ต้องออกเสียง เรียกว่า อ่านในใจ
สังเกตหรือพิจารณาดูเพื่อให้เข้าใจ เช่น อ่านสีหน้า อ่านริมฝีปาก อ่านใจ
ตีความ เช่น อ่านรหัส อ่านลายแทง
คิด, นับ.
ก. อ่านเพื่อความเพลิดเพลิน เช่น เอาหนังสือไปอ่านเล่นสัก ๒ เล่มซิ.
ว. ที่แต่งขึ้นให้อ่านเพื่อความเพลิดเพลิน ในคำว่า หนังสืออ่านเล่น.
ก. ประกาศในพิธีพราหมณ์เพื่อสรรเสริญและอัญเชิญเทพเจ้า.
ว. ไม่ เช่น เลี้ยงลาอามสาย, หนึ่งจงเลี้ยงม่ามอ่ามสาย (ไตรภูมิ).
น. เรียกลูกชายคนที่ ๑ ว่า ลูกอ้าย, คู่กับ ลูกหญิงคนที่ ๑ ว่า ลูกเอื้อย. (สามดวง)
โดยปริยายอนุโลมเรียกพี่ชายคนโต ว่า พี่อ้าย.
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
ผู้ถูกอ้างว่าเป็นบิดา (ของบุตรนอกกฎหมาย)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ข้ออ้าง, ข้อแก้ตัว[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การหลอกลวง, การกล่าวอ้างที่เป็นเท็จ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
สิทธิที่แอบอ้าง[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ระนาบอ้างอิง[ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
ต้องตัดบท, ห้ามอ้าง[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ส่งโดยอ้างอิง[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
มูลเหตุอันจะอ้างกฎหมายได้[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. ผู้ไต่สวนที่ศาลตั้ง๒. ผู้สมอ้าง (เกี่ยวกับตั๋วเงิน)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ผู้สมอ้างยามประสงค์ (เกี่ยวกับตั๋วเงิน)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. เอกสารอ้างอิง๒. การอ้างอิง, ข้ออ้างอิง๓. อ้างอิง[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
กรอบอ้างอิง[คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
ระนาบอ้างอิง[ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
ระดับอ้างอิง[ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
๑. ร่อง, รอยแยก, รอยผ่า๒. ส่วนเปิดอ้า[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
แกนอ้างอิง[คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
ยกขึ้นกล่าวอ้าง[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
แกนอ้า[ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
ผู้คัดค้านโดยอ้างมโนธรรม[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การอ้า[ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
แกนอ้างอิง[คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
การอ้างถึง[วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. การอ้างเหตุผล๒. อาร์กิวเมนต์[คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
๑. การนำสืบ๒. การอ้าง (พยานหลักฐาน)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การอ้างฐานที่อยู่[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. ที่รับไว้พิจารณาได้, ที่ยอมรับได้๒. ที่อ้างเป็นพยานหลักฐานได้[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. ที่รับไว้พิจารณาได้, ที่ยอมรับได้๒. ที่อ้างเป็นพยานหลักฐานได้[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
บทอภิปรายแบบอ้าง[วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. การอ้างสิทธิโดยมิชอบ๒. การรับบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้วเป็นบุตรบุญธรรม (ก.โรมัน)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ข้ออ้าง, ข้อกล่าวหา[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การให้เหตุผลว่าชอบด้วยกฎหมาย, การกล่าวอ้างที่มีเหตุผล[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การให้เหตุผลว่าชอบด้วยกฎหมาย, การกล่าวอ้างที่มีเหตุผลสมควร[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การอวดอ้าง, การแอบอ้าง, การอ้าง[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การอ้างว่าเป็นคู่สมรส[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. หมอเถื่อน, หมอกุ๒. อวดอ้าง[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. รายการขานราคา๒. ข้อกล่าวอ้าง[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. ข้อเรียกร้อง๒. การใช้สิทธิเรียกร้อง๓. การอ้างสิทธิ์[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ซีเอชอาร์พี (แพลตฟอร์มอ้างอิงร่วมของฮาร์ดแวร์)[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
ข้อความที่อ้างว่าหมิ่นประมาท[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การอ้างเรื่องความสามารถเป็นข้อต่อสู้[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การอ้างหลักหรือผู้รู้เพื่อสนับสนุน[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. ออกหมายเรียก๒. ยกเป็นข้ออ้าง[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
เรียกโดยอ้างอิง[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
แพลตฟอร์มอ้างอิงร่วมของฮาร์ดแวร์ (ซีเอชอาร์พี)[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
ผู้คัดค้านโดยอ้างมโนธรรม[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ระดับอ้างอิง[ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
ระดับอ้างอิง[ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
ระดับอ้างอิง[ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
ปมร่วมอ้างอิง[เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ระดับอ้างอิง[ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
หนังสืออ้างอิงเฉพาะวิชา[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
หนังสืออ้างอิงทั่วไป[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
หนังสืออ้างอิง[เทคโนโลยีการศึกษา]
การอ้างถึงทางบรรณานุกรม[เทคโนโลยีการศึกษา]
หนังสืออ้างอิงExample:<p><img src="http://thaiglossary.org/sites/default/files/20110328-reference-book-1.jpg" Title="Reference book" alt="Reference book"> <p>หนังสืออ้างอิง คือ หนังสือที่มุ่งเสนอเรื่องราวความรู้พื้นฐาน ข้อเท็จจริงต่างๆ ในหลายสาขาวิชาอย่างกว้างขวาง แต่กระทัดรัด ผู้อ่านไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งเล่มแต่ใช้เป็นแหล่งค้นคว้าเฉพาะเนื้อหาบางส่วนที่ต้องการเท่านั้น โดยเป็นหนังสือที่เขียนและรวบรวมขึ้นโดยผู้ทรงคุณวุฒิและเชี่ยวชาญในสาขาวิชานั้นๆ เนื้อหาจึงเป็นที่น่าเชื่อถือและใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้ ขณะที่รูปเล่มส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่ และหนากว่าหนังสือทั่วๆ ไป รวมถึงมีการพิมพ์ออกมาเป็นชุดๆ พร้อมทั้งมีการเรียบเรียงเนื้อหาอย่างเป็นระบบเพื่อความสะดวกในการเข้าถึงเนื้อหาของผู้อ่าน เช่น การเรียงตามลำดับอักษร เหตุการณ์ เขตภูมิศาสตร์ หมวดหมู่ นอกจากนี้ยังมีลักษณะพิเศษเพื่อความสะดวกในการค้นหาเนื้อหา เช่น อักษรนำเล่ม คำนำนาง ดัชนีหัวแม่มือ สารบัญ ดัชนี ส่วนโยง <p>ประเภทของหนังสืออ้างอิง แบ่งได้ 2 ประเภทหลัก คือ เนื้อหาวิชา และ หน้าที่ <p>1. เนื้อหาวิชา คือ หนังสืออ้างอิงทั่วไป ที่ให้ข้อเท็จจริงในสาขาวิชาต่างๆ อย่างกว้างขวาง ไม่จำกัดสาขาวิชา ซึ่งตรงข้ามกับหนังสืออ้างอิงเฉพาะสาขาวิชา ที่ให้ข้อเท็จจริงเฉพาะสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง <p>2. หน้าที่ คือ หนังสืออ้างอิงที่ให้ข้อเท็จจริงภายในเล่ม และ หนังสืออ้างอิงที่เป็นเครื่องชี้โยงไปหาข้อเท็จจริงในเล่มอื่น เช่น ดัชนีวารสารและบรรณานุกรม <p>หนังสืออ้างอิงประเภทต่างๆ <p>พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ เช่น ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรมศัพท์ภูมิศาสตร์ . พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2549. <p>สารานุกรม เช่น โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนโดยพระราชประสงค์ในพระบาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนโดยพระราชประสงค์ในพระบาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉบับเสริมการเรียนรู้. กรุงเทพฯ : โครงการ, 2548- <p>หนังสือรายปี เช่น สยามออลมาแนค : สารนิเทศและปูมปฎิทินการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ และข้อมูลสำคัญ. กรุงเทพฯ : บริษัทสยามบรรณ, 2527- <p>อักขรานุกรมชีวประวัติ เช่น คณะกรรมการรวบรวมและค้นคว้าเกี่ยวกับพระราชนิพนธ์ ฯลฯ ของพระบาทสม เด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว. อักขรานุกรมนามสกุลพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์, 2534. <p>นามานุกรม เช่น สีดา สอนศรี. นามานุกรมหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์การระหว่างประเทศในประเทศไทย. กรุงเทพฯ : สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย, 2528- <p>หนังสืออ้างอิงภูมิศาสตร์ เช่น Britannica Altas. Chicago : Encyclopedia Britannica, 1987. <p>หนังสือคู่มือ เช่น ทวี แก้วมณี, ธนญา ตรึงตราจิตกุล, ชัยยา ศรีอำไพ. หนังสือคู่มือมาตรฐานและการทดสอบเครื่องเรือน. กรุงเทพฯ : ส่วนอุตสาหกรรมเครื่องเรือนและคอมโพสิท สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม, 2549. <p>ดัชนีวารสาร เช่น ธำรงค์ ชูทัพ, สุดาวรรณ เครือพานิช. ดัชนีวารสารการวิจัยทางการศึกษา. กรุงเทพฯ : กองวิจัยทางการศึกษา กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ, 2535. <p>บรรณานุกรม เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. สำนักหอสมุด. บรรณานุกรม ดร.ป๋วย. [ กรุงเทพฯ ] : สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2529. <p>แหล่งข้อมูล: <p>Reitz, Joan M. ODLIS Online Dictionary for Library and Information Science. ABC-CLIO http://www.abc-clio.com/ODLIS/odlis_h.aspx (accessed MArch 27, 2011). <p>เพชรรัตน์ บริสุทธิ์. หนังสืออ้างอิง. สาขาวิชาสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี. http://human.tru.ac.th/elearning/tec_ban/tinfo04/index.html (สืบค้นเมื่อ 27 มีนาคม 2554). [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
การอ้างถึงบรรณานุกรม[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
เชิงอรรถอ้างอิง[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
การอ้างถึงทางบรรณานุกรม[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
เอแอลไอ, ขีดจำกัดการรับนิวไคลด์กัมมันตรังสีรอบปี, ปริมาณสูงสุดของนิวไคลด์กัมมันตรังสีแต่ละชนิด ที่ร่างกายได้รับโดยการหายใจ การกิน หรือ ผ่านทางผิวหนังในเวลา 1 ปี ได้จากการคำนวณปริมาณรังสีผูกพันโดยใช้แบบจำลองมนุษย์อ้างอิง (Reference Man) จะเท่ากับขีดจำกัดปริมาณรังสี[นิวเคลียร์]
ปริมาณรังสีสมมูลโดยรอบ, ปริมาณรังสีสมมูลที่อ้างอิงกับทรงกลมไอซีอาร์ยู ใช้ในการปรับเทียบปริมาณรังสียังผลของเครื่องมือตรวจวัดรังสี (ดู ICRU sphere ประกอบ)[นิวเคลียร์]
ค่ากำหนดความเข้มข้นนิวไคลด์กัมมันตรังสีในอากาศ, ดีเอซี, ขีดจำกัดความเข้มข้นของนิวไคลด์กัมมันตรังสีแต่ละชนิดในอากาศ ที่จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานในบริเวณนั้นตลอดระยะเวลาทำงานใน 1 ปี ได้รับนิวไคลด์กัมมันตรังสีเข้าสู่ร่างกายเท่ากับขีดจำกัดการรับนิวไคลด์กัมมันตรังสีรอบปี โดยคำนวณจากแบบจำลองมนุษย์อ้างอิง (Reference Man) (ดู annual limit on intake (ALI) ประกอบ)[นิวเคลียร์]
ห้องปฏิบัติการมาตรฐานการวัดรังสี, ห้องปฏิบัติการด้านการวัดรังสี ซึ่งมีต้นกำเนิดรังสี อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการ และบุคลากร ในการวัดรังสี ที่สามารถอ้างอิงได้กับมาตรฐานสากลExample: [นิวเคลียร์]
สารมาตรฐานกัมมันตรังสี, สารกัมมันตรังสี ที่รู้จำนวนและชนิดของอะตอมกัมมันตรังสี ณ เวลาอ้างอิงใดๆ ใช้เป็นสารมาตรฐานสำหรับปรับเทียบอุปกรณ์วัดรังสี หรือใช้ในการวัดเปรียบเทียบระหว่างห้องปฏิบัติการ ปกติใช้สารกัมมันตรังสีที่มีครึ่งชีวิตยาวเป็นสารมาตรฐานกัมมันตรังสีExample: [นิวเคลียร์]
เย็บกี่, การทำเล่มหนังสือโดยการเย็บด้ายวิธีหนึ่ง มักใช้สำหรับหนังสือที่มีความหนามากและต้องการความทนทานเป็นพิเศษ เช่น หนังสืออ้างอิงต่างๆExample:<p>เย็บกี่ <p>เป็นการเย็บอกของยกพิมพ์แต่ละยกด้วยเชือกเส้นเดียวกัน เย็บจากยกพิมพ์หนึ่งไปอีกยกพิมพ์หนึ่งติดต่อกันไปจนจบเล่ม การเย็บกี่นี้สามารถเย็บหนังสือที่เป็นเล่มหนาๆ มีหน้ามากให้เป็นเล่มเดียวกันได้ และสามารถเปิดเล่มหนังสือทุกหน้าให้กางออกได้เต็มที่ หนังสือเย็บกี่นี้จะต้องมีการปิดปกคือนำปกมาผนึกยึดติดกับสันหนังสือเช่นเดียวกับหนังสือเย็บสัน [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
เลขที่คำขอรับสิทธิบัตรที่ถูกอ้างการมีสิทธิก่อน[ทรัพย์สินทางปัญญา]
ข้อมูลการอ้างอิงในเอกสารสิทธิบัตร, ข้อมูลการอ้างอิงในเอกสารสิทธิบัตรExample:มี 2 แบบ คือ จากผู้ประดิษฐ์และผู้ตรวจสอบ ประกอบด้วยข้อมูลบรรณานุกรมที่เชื่อว่ามีความสำคัญในภูมิหลังของการประดิษฐ์ มาจากสิ่งพิมพ์ประเภทต่าง ๆ คือ วารสาร หนังสือ คู่มือทางวิชาการ[ทรัพย์สินทางปัญญา]
วันยื่นคำขอ ซึ่งถูกอ้างการมีสิทธิก่อนในกรณีที่ยืนคำขอมากกว่าหนึ่งประเทศ[ทรัพย์สินทางปัญญา]
ทรงกลมไอซีอาร์ยู, ทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เซนติเมตร ทำจากวัสดุที่มีการตอบสนองต่อรังสีเทียบเท่ากับเนื้อเยื่อมนุษย์ โดยมีความหนาแน่น 1 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร และมีองค์ประกอบของออกซิเจนร้อยละ 76.2 คาร์บอนร้อยละ 11.1 ไฮโดรเจนร้อยละ 10.1 และไนโตรเจนร้อยละ 2.6 เป็นทรงกลมที่ใช้อ้างอิงสำหรับการหาค่าปริมาณรังสีสมมูล[นิวเคลียร์]
ใบสำคัญแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทยExample:ตราสารทุนที่ออกโดยบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ซึ่งมีสถานะเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนโดยอัตโนมัติ และมีหลักทรัพย์อ้างอิงเป็นหุ้นสามัญ หรือหุ้นบุริมสิทธิที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้ลงทุนสมารถซื้อขายเอ็นวีดีอาร์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในลักษณะเดียวกับการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนทั่วไป ผู้ถือเอ็นวีดีอาร์จะได้รับสิทธิหรือผลตอบแทนทางการเงินเช่นเดียวกับผู้ถือหุ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิทธิ แต่จะไม่มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท เอ็นวีดีอาร์จะช่วยอำนวยความสะดวกในการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนชาวต่างชาติที่ติดขัดในเรื่องเพดานการถือครอง แต่ทั้งนี้ก็มิได้จำกัดการซื้อขายของผู้ลงทุนทั่วไปแต่อย่างใด[ตลาดทุน]
อ้าวไงล่ะ[ศัพท์วัยรุ่น]
การอ้างถึง[TU Subject Heading]
การอ้างถึงในวรรณกรรม[TU Subject Heading]
การอ้างถึงทางบรรณานุกรม[TU Subject Heading]
หนังสืออ้างอิง[TU Subject Heading]
การที่รัฐที่ผู้จะไปประจำตำแหน่งในรัฐนั้นได้ตกลง เห็นชอบกับบุคคลที่รัฐผู้ส่งเสนอชื่อให้เป็นผู้แทนทางการทูต อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้ บัญญัติไว้ว่า1. รัฐผู้ส่งไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นที่แน่นอนว่า รัฐผู้รับได้ให้ความเห็นชอบแล้ว สำหรับบุคคลที่รัฐผู้ส่งเสนอจะแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไปยังรัฐนั้น2. รัฐผู้รับไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลแก่รัฐผู้ส่งในการปฏิเสธไม่ให้ความเห็นชอบ เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตซึ่งรอการถวายสารตราตั้งจะต้องเริ่มดำเนิน การเพื่อเดินทางไปยังรัฐผู้รับในเรื่องนี้ มีตัวอย่างไม่น้อยที่รัฐผู้รับปฏิเสธไม่ให้ความเห็นชอบด้วยเหตุผลบางอย่าง นับตั้งแต่อ้างว่า การเสนอชื่อผู้รับการแต่งตั้งได้กระทำกะทันหันเกินไป และมิได้แจ้งข้อเท็จจริงมาก่อน หรือว่าผู้ที่ได้รับการเสนอให้เป็นผู้แทนทางการทูตผู้นั้นเคยกล่าวตำหนิ วิพากษ์รัฐผู้รับ หรือผู้รับการเสนอชื่อมมีภรรยาเป็นชาวยิว หรือผู้รับการเสนอชื่อถือศาสนาโรมันคาทอลิก หรือผู้นั้นเคยปฏิบัติไม่ดีต่อชนชาติของรัฐผู้รับ หรือผู้นั้นในขณะนั้นกำลังอยู่ในระหว่างถูกฟ้องร้อง ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกง เป็นต้นกล่าวโดยย่อ agr?ment คือ การให้ความเห็นชอบของรัฐผู้รับ แก่บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อจากรัฐผู้ส่งให้เป็นผู้แทนทางการทูตนั่นเอง[การทูต]
องค์การนิรโทษกรรมสากล องค์การนี้เริ่มต้นจากเป็นขบวนการเล็ก ๆ ก่อน เพื่อทำหน้าที่ประท้วง (Protest) แต่ภายในเวลาไม่นานนัก ได้ขยายตัวออกเป็นองค์การ เพื่อให้สมกับเป้าหมายและภารกิจที่ต้องปฏิบัติเพิ่มขึ้นมากมาย คติดั้งเดิมของการรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนบรรดาบุคคลที่ต้องถูกคุม ขังอยู่ทั่วโลก ด้วยข้อหาเกี่ยวกับความเชื่อถือทางการเมืองและการศาสนานั้น ได้บังเกิดจากความคิดของบุคคลหนึ่งชื่อปีเตอร์ เบเนนสันปีเตอร์ เบเนนสัน ได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ประจำวันอาทิตย์ของอังกฤษชื่อ Sunday Observer เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1961 โดยให้หัวเรื่องบทความว่า ?นักโทษที่ถูกลืม? (The Forgotten Prisoners) บทความนี้ได้ประทับใจมติมหาชนทั่วโลกทันที และภายในปีเดียว องค์การได้รับเรื่องร้องเรียนในนามของนักโทษกว่า 200 รายองค์การนิรโทษกรรมสากลมีเป้าหมายนโยบายกว้างๆ อยู่ 3 ข้อ คือ ต้องการให้ปล่อยนักโทษผู้มีนโนธรรม (Prisoners of Conscience) ทั้งหมด ให้มีการยุติการทรมานนักโทษไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ รวมทั้งการลงโทษประหารชีวิตและให้มีการพิจารณาพิพากษาคดีนักโทษการเมืองทั้ง หมดอย่างเป็นธรรมและไม่รอช้า องค์การนี้นอกจากจะมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้ดำรงความเป็นกลางไม่เข้ากับฝ่ายใด และเป็นที่น่าเชื่อถือไว้วางใจได้อย่างแท้จริงแล้ว ยังเป็นเสมือนศูนย์ข้อมูลและข้อสนเทศที่สำคัญ ซึ่งบรรดาบุคคลสำคัญๆ ทางการเมืองทั่วโลกได้ใช้อ้างอิงอีกด้วยในปัจจุบัน องค์การนิรโทษกรรมมีสมาชิกและผู้สนับสนุนเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านคน จากประเทศต่างๆ กว่า 150 ประเทศ องค์การอยู่ภายใต้การบริหารของคณะกรรมการบริหารจำนวน 9 คน รวมทั้งตัวเลขาธิการอีกผู้หนึ่ง ทำหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อมติเกี่ยวกับนโยบาย และเป็นหัวหน้าของสำนักเลขาธิการขององค์การด้วย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ องค์การมีผู้แทนของตนประจำอยู่กับองค์การสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ. 1978 ได้รับรางวัลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ และในปี ค.ศ. 1977 ก็ได้รับรางวัลสันติภาพโนเบลมาแล้ว[การทูต]
ปฏิญญากรุงเทพ : การหารือและการมีส่วนร่วมอย่างมีพลวัตของประชาคมโลก " หนึ่งในสองของเอกสารผลการประชุมอังค์ถัด ครั้งที่ 10 ที่แสดงฉันทามติของประเทศสมาชิกอังค์ถัด 190 ประเทศ เกี่ยวกับผลกระทบของกระแสโลกาภิวัตน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งแสดงเจตนารมณ์ร่วมทางการเมืองของประเทศสมาชิกอังค์ถัดที่จะร่วมมือ กันดำเนินนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศเพื่อทำให้สมาชิกทั้งหมด โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา ได้รับประโยชน์จากกระบวนการโลกาภิวัตน์ในด้านการค้า การเงิน การลงทุน และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม อีกทั้งเพื่อให้ประเทศกำลังพัฒนาสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจโลก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบของกระบวนการโลกาภิวัตน์ได้ แม้ปฏิญญากรุงเทพจะไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่ก็เป็นเอกสารที่มีผลผูกพันทางการเมือง เป็นสัญญาประชาคมที่ทุกประเทศสมาชิกอังค์ถัดมีพันธะที่จะต้องปฏิบัติตามแนว นโยบายที่ได้ร่วมกันแถลงไว้ในเอกสารดังกล่าว และเอกสารนี้สามารถใช้เป็นเอกสารอ้างอิงในการเจรจาหารือระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศในเรื่องของการเงิน การค้า การลงทุน และการพัฒนาได้ "[การทูต]
ในการปฏิบัติของคณะผู้แทนทางการทูตต่อรัฐผู้รับ นั้นหน้าที่สำคัญที่สุดอันหนึ่งของนักการทูตคือ จะต้องละเว้นจากการเข้าแทรกแซงใด ๆ ในกิจการภายในของรัฐผู้รับ อนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติเรื่องนี้ไว้ในมาตราที่ 41 ว่า1. โดยไม่เสื่อมเสียแก่เอกสิทธิ์และความคุ้มกันของตน เป็นหน้าที่ของบุคคลทั้งมวลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นนี้ ที่จะเคารพกฎหมายรวมทั้งข้อบังคับของรัฐผู้รับ บุคคลเหล่านี้มีหน้าที่ที่จะไม่แทรกสอดในกิจการภายในของรัฐนั้นด้วย2. ธุรกิจในทางการทั้งมวลกับรัฐผู้รับ ซึ่งรัฐผู้ส่งได้มอบหมายแก่คณะผู้แทนให้กระทำกัน โดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นเช่นที่อาจจะตกลงกัน3. สถานที่ของคณะผู้แทนต้องไม่ใช้ไปในทางที่ไม่ต้องด้วยกับการหน้าที่ของคณะผู้ แทน ดังที่ได้กำหนดลงไว้ในอนุสัญญานี้ หรือโดยกฎเกณฑ์อื่นของกฎหมายระหว่างประเทศทั่วไป หรือด้วยการตกลงพิเศษอื่นใดที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ ข้อ 42 ของอนุสัญญากรุงเวียนนายังได้บัญญัติด้วยว่า ตัวแทนทางการทูตจะต้องไม่ปฏิบัติกิจกรรมใดทางวิชาชีพหรือพาณิชย์เพื่อ ประโยชน์ส่วนตัวในรัฐผู้รับตามบทบัญญัติข้างต้นของอนุสัญญากรุงเวียนนา พอจะตีความหมายได้ว่า ผู้แทนทางการทูตจะต้องเคารพกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ เพื่อที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประชาชน รวมทั้งความปลอดภัยในรัฐผู้รับ การปฏิบัติใดๆ ที่ถูกต้องของผู้แทนทางการทูตนั้นย่อมเป็นเครื่องประกันอย่างดีที่สุด ที่ตัวบุคคลของผู้แทนทางการทูตนั้นจะถูกล่วงละเมิดมิได้ตามที่กล่าวอ้าง[การทูต]
ข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งอย่างถูกต้องและได้รับ มอบหมายให้ไปประจำยังต่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประเทศทั้งในด้าน พาณิชย์ การเดินเรือ คุ้มครองความเป็นอยู่อันดีของพลเมืองของประเทศตน พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่บางอย่างด้านธุรการ หรือวางระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ ตลอดจนด้านการเป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสาร เพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทางกฎหมาย (Notary) การให้การตรวจลงตรา รวมทั้งการรับรองเอกสารที่แท้จริง (มิใช่เอกสารปลอม) และจัดการการสัตย์สาบานตนหรืออีกนัยหนึ่ง ภาระหน้าที่ของกงสุลอาจแบ่งออกได้เป็น 5 ประการ ดังต่อไปนี้1 ทำหน้าที่ส่งเสริมผลประโยชน์ในทางพาณิชย์ของประเทศที่ตนเป็นผู้แทนอยู่2 ควบคุมดูแลผลประโยชน์ด้านการเดินเรือ3 คุ้มครองผลประโยชน์ของคนชาติของประเทศที่แต่งตั้งให้ตนไปประจำอยู่4 ทำหน้าที่สักขีพยานในการลงนามในเอกสารเพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทาง กฎหมาย5 ทำหน้าที่ธุรการเบ็ดเตล็ดอื่นๆ หรือระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ เช่น การออกหนังสือเดินทาง การให้การตรวจลงตรา (Visas) การจดทะเบียนคนเกิด คนตาย ฯลฯอนุสัญญากรุงเวียนนา ภาคที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลข้อที่ 5 ได้กำหนดภาระหน้าที่ของฝ่ายกงสุลไว้ดังต่อไปนี้ ก. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่ง และของคนในชาติของรัฐผู้ส่ง ทั้งเอกชนและบรรษัทในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตข. เพิ่มพูนการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านการพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาการ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกันในทางอื่น ตามบทแห่งอนุสัญญานี้ค. สืบเสาะให้แน่โดยวิถีทางทั้งปวงอันชอบด้วยกฎหมายถึงภาวะและความคลี่คลายใน ทางพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาการของรัฐผู้รับ แล้วรายงานผลของการนั้นไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่ง และให้ข้อสนเทศแก่บุคคลที่สนใจง. ออกหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทางให้แก่คนในชาติของรัฐผู้ส่ง ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือออกเอกสารที่เหมาะสมให้แก่บุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐผู้ส่งจ. ช่วยเหลือคนในชาติของรัฐผู้ส่งทั้งเอกชนและบรรษัทฉ. ทำหน้าที่นิติกรและนายทะเบียนราษฎร์ และในฐานะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ปฏิบัติการหน้าที่บางประการอันมีสภาพทางธุรการ หากว่าการหน้าที่นั้นไม่ขัดกับกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับช. พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของผู้เยาว์ และบุคคลไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง ภายในขีดจำกัดที่ได้ตั้งบังคับไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ โดยเฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องมีความปกครองหรือภาวะทรัสตีใดๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลเหล่านั้นฌ. แทนคนชาติของรัฐผู้ส่ง หรือจัดให้มีการแทนอย่างเหมาะสมในองค์กรตุลาการ และต่อเจ้าหน้าที่ที่อื่นของรัฐผู้รับ เพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มา ซึ่งมาตรการชั่วคราวสำหรับการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของคนในชาติเหล่านี้ ไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ ในกรณีที่คนในชาติเหล่านี้ไม่สามารถเข้าทำการป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของ ตนในเวลาอันเหมาะสมได้ เพราะเหตุของการไม่อยู่หรือเหตุอื่นใด ทั้งนี้ ให้อยู่ภายในข้อบังคับแห่งทางปฏิบัติ และวิธีดำเนินการซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับญ. ส่งเอกสารทางศาล หรือเอกสารที่มิใช่ทางศาล หรือปฏิบัติตาม หนังสือของศาลของรัฐผู้ส่งที่ขอให้สืบประเด็น หรือตามการมอบหมายให้สืบพยานให้แก่ศาลของรัฐผู้ส่งนั้น ตามความตกลงระหว่างประเทศที่ใช้บังคับอยู่ หรือเมื่อไม่มีความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่านั้น โดยทำนองอื่นใดที่ต้องด้วยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับด. ใช้สิทธิควบคุมดูแลและตรวจพินิจตามที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของ รัฐผู้ส่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับเรือที่มีสัญชาติของของรัฐผู้ส่ง หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐนั้น รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับลูกเรือของเรือและอากาศยานดังกล่าวต. ให้ความช่วยเหลือแก่เรือและอากาศยานที่ระบุไว้ในอนุวรรค (ด) ของข้อนี้ รวมทั้งลูกเรือของเรือและอากาศยานนั้น บันทึกถ้อยคำเกี่ยวกับการเดินทางของเรือ ตรวจดูและประทับตรากระดาษเอกสารของเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใด ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในระหว่างนายเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใดๆ ที่ได้เกิดขั้นในระหว่างนายเรือ เจ้าพนักงาน และกะลาสี ตราบเท่าที่การนี้อาจได้อนุมัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง ทั้งนี้ จะต้องไม่เป็นการเสื่อมเสียแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับถ. ปฏิบัติการหน้าที่อื่นใดที่รัฐผู้ส่งมอบหมายแก่สถานีทำการทางกงสุล ซึ่งมิได้ต้องห้ามโดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ หรือซึ่งไม่มีการแสดงข้อคัดค้านโดยรัฐผู้รับ หรือซึ่งมีอ้างถึงไว้ในความตกลงระหว่างประเทศ ที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับ[การทูต]
ค่าธรรมเนียมและค่าภาระทางกงสุล ตามข้อ 39 ของอนุสัญญากรุงเวียนนา ได้กำหนดไว้ว่า1. สถานที่ทำการทางกงสุล อาจเรียกเก็บในอาณาเขตของรัฐผู้รับ สำหรับการปฏิบัติงานทางกงสุลซึ่งค่าธรรมเนียม ค่าภาระตามที่ได้บัญญัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง2. จำนวนเงินที่เก็บได้ในรูปค่าธรรมเนียมและค่าภาระตามที่อ้างถึงในวรรค 1 ของข้อนี้ ใบรับสำหรับค่าธรรมเนียมหรือค่าภาระเช่นว่านั้น จะได้รับยกเว้นจากค่าติดพันและภาษีทั้งปวงในรัฐผู้รับ[การทูต]
การส่งผู้ร้ายข้ามแดน การที่ชาติหนึ่งยอมส่งคนในชาติของตนให้แก่อีกชาติหนึ่ง คือคนในชาติที่ถูกกล่าวหา หรือต้องโทษฐานกระทำความผิดภายนอกเขตแดนของตน และเป็นความผิดที่กระทำขึ้นในเขตอำนาจของอีกชาติหนึ่ง ซึ่งมีความสามารถที่จะตัดสินคดี รวมทั้งลงโทษบุคคลที่ถูกกล่าวหานั้นข้ออ้างว่า ในกรณีที่ชนชาติหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่าประกอบอาชญากรรมแล้วหลบหนีไปยังต่าง ประเทศนั้น รัฐของผู้ที่ประกอบอาชญากรรมมีสิทธิที่จะขอให้ต่างประเทศนั้นส่งตัวผู้กระทำ ผิดกลับคืนมา เพื่อส่งตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาลงโทษได้ แต่หลายคนยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ในข้อนี้ มีไม่น้อยที่สนับสนุนหลักการที่ว่า กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองหน้าที่ที่จะต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน กล่าวคือ นอกจากสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่มีต่อกันแล้ว กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองสิทธิที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กัน อย่างไรก็ดี ตามสนธิสัญญาที่มีต่อกัน ผู้ร้ายที่หนีความยุติธรรมจะถูกส่งไปให้อีกประเทศหนึ่งตามสนธิสัญญานั้น จักกระทำโดยวิถีทางการทูต ส่วนผู้หลบหนีเจ้าหน้าที่เพราะเหตุผลทางการเมือง จะส่งข้ามแดนอย่างผู้ร้ายไม่ได้ และเมื่อหลบหนีไปยังอีกประเทศหนึ่งได้สำเร็จ ประเทศนั้นๆ มักจะให้อาศัยพักพิงในประเทศของตนเป็นในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง[การทูต]
การปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลในรัฐที่สาม (A Third State) ในเรื่องนี้ข้อ 7 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้ระบุว่า?เมื่อได้บอกกล่าวให้รัฐที่เกี่ยวข้องทราบ แล้ว รัฐูผู้ส่งอาจมอบหมายให้สถานีที่ทำการทางกงสุลที่ได้ตั้งอยู่ในรัฐหนึ่งโดย เฉพาะปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลในอีกรัฐหนึ่งได้ นอกจากจะมีการคัดค้านอย่างชัดเจนโดยรัฐหนึ่งในบรรดารัฐที่เกี่ยวข้อง?นอกจาก นี้ สถานที่ทำการทางกงสุลยังอาจปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลแทนรัฐที่สามได้ เรื่องนี้ข้อ 8 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้กำหนดว่า เมื่อบอกกล่าวอย่างเหมาะสมแก่รัฐผู้รับแล้ว สถานที่ทำการทางกงสุลของรัฐผู้ส่งอาจปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลในรัฐผู้รับ แทนรัฐที่สามได้ นอกจากรัฐผู้รับนั้นจะคัดค้าน และพนักงานฝ่ายกงสุลอาจปฏิบัติการหน้าที่ของตนนอกเขตกงสุลได้ในพฤติการณ์ พิเศษ และด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ ทั้งนี้เป็นไปตามข้อ 6 แห่งอนุสัญญากรุงเวียนนา อย่างไรก็ดี ยังไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ที่จะให้พนักงานฝ่ายกงสุลปฏิบัติการหน้าที่ทาง กงสุลนอกเขตกงสุล ฝ่ายที่เห็นด้วยว่าควรปฏิบัติการนอกเขตกงสุลได้ อ้างว่า การใช้เอกสิทธิ์เช่นนั้นเป็นการชอบแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า อาจจะมีภาวะฉุกเฉินเกิดขึ้นในสถานที่นอกเขตกงสุล ซึ่งเป็นความจำเป็นที่พนักงานฝ่ายกงสุลจะได้ให้บริการในทันที่ที่มีการแจ้ง โดยกะทันหัน[การทูต]
การปฏิบัติหน้าที่กงสุลโดยคณะผู้แทนทางการทูต ตามข้อ 70 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ได้บัญญัติไว้ว่า1. บทของอนุสัญญานี้ใช้แก่ปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลโดยคณะผู้แทนทางการทูตด้วย เท่าที่บริบทจะอำนวยให้2. ชื่อของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติงานในแผนกกงสุล หรือมิฉะนั้นได้รับภาระให้ปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุลของคณะผู้แทนนั้น จะต้องแจ้งไปยังกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่กระทรวงนั้นที่แต่งตั้งไว้3. ในการปฏิบัติการหน้าที่ทางกงสุล คณะผู้แทนทางการทูตอาจติดต่อกับก. เจ้าหน้าที่ท้องที่ของเขตกงสุลนั้นข. เจ้าหน้าที่ส่วนกลางของรัฐผู้รับ ถ้าหากกระทำได้ตามกฎหมาย ข้อบังคับ และจารีตประเพณีของรัฐผู้รับ หรือตามความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง4. เอกสิทธิ์และความคุ้มกันของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูตที่อ้างถึงในวรรค 2 ของข้อนี้ จะยังคงอยู่ในบังคับแห่งกฎเกณฑ์ของกฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับความ สัมพันธ์ทางการทูต[การทูต]
คือรัฐบุรุษและปรัชญาเมธีทางการเมืองของสาธารณรัฐ ฟลอเรนส์ (Florence) ระหว่างรับราชการ ท่านดำรงตำแหน่งฝ่ายธุรการหลายตำแหน่งซึ่งไม่สู้มีความสำคัญเท่าใด แต่สิ่งที่ท่านสนใจมากที่สุดได้แก่ศิลปะของการเมือง หนังสือสำคัญ ๆ ที่ท่านประพันธ์ขึ้นไว้คือ The Prince เล่มหนึ่ง อีกเล่มหนึ่งชื่อ The Art of War และอีกเล่มหนึ่งคือ Discourses on the First Ten Books of Livyมีนักเขียนหลายคนวิพากษ์ Machiavelli ที่แสดงความเห็นสนับสนุนว่า รัฐบาลใดก็ตมที่ต้องการรักษาอำนาจการปกครองตนให้เข้มแข็งไว้ ย่อมจะใช้วิถีทางใด ๆ ก็ได้ ถึงแม้หนทางเช่นนั้นจะผิดกฎหมายหรือไร้ศีลธรรมก็ตาม และก็มีนักเขียนอีกหลายคนสนับสนุนท่าน โดยชี้ให้เห็นว่า ท่านเป็นแต่เพียงตีแผ่ให้เห็นพฤติกรรมที่แท้จริงของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่มากกว่าอย่างอื่น อาทิเช่น ในหนังสือ The Prince ของท่านตอนหนึ่งอ้างว่า การต่อสู้นั้นมีอยู่สองวิธี วิธีแรกเป็นการต่อสู้โดยวิถีทางกฎหมาย อีกวิธีหนึ่งคือการต่อสู้โดยใช้กำลัง (Force) วิธีแรกนั้นเป็นวิธีที่มนุษย์พึงใช้ ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีเยี่ยงสัตว์ป่า แต่การใช้วิธีแรกมักจะไม่ค่อยได้ผลเสมอไป เพราะไม่เพียงพอ ก็ย่อมจะหันเข้าใช้วิธีที่สองได้ ฉะนั้น ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้น ซึ่ง Machiavelli เรียกว่า Prince จึงจำเป็นต้องรู้ดีว่าจะใช้ทั้งวิธีที่มนุษย์จะพึงใช้ และวิธีเยี่ยงสัตว์ป่าอย่างไร ด้วยเหตุนี้ ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้นไม่จำเป็นต้องมีสัจธรรม หากการกระทำนั้น ๆ จะทำความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของประเทศ ท่านเห็นว่า หากมนุษย์ทุกคนเป็นคนดี กฎเช่นนี้ก็เป็นกฎที่ไม่ถูกต้อง แต่โดยที่มนุษย์ไม่ใช่คนดีทั้งหมด ในเมื่อเขาไม่ยอมให้ความศรัทธาความไว้วางใจในตัวท่าน ก็ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามมิให้ท่านเลิกศรัทธากับเขาเหล่านั้นได้[การทูต]
คือการทูตแบบเปิดเผย อดีตประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน แห่งสหรัฐอเมริกา เป็นบุคคลที่สนับสนุนและเผยแพร่วิธีการทูตแบบเปิดเผยอย่างเต็มที่ หวังจะให้ชุมชนนานาชาติพร้อมใจกันสนับสนุนการทูตนี้เช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1918 วูดโรว์ วิลสัน ได้ประกาศให้โลกทราบนโยบายของท่าน 14 ข้อ ข้อหนึ่งในจำนวนนั้นท่านปรารถนาว่า ในอนาคตประเทศต่าง ๆ ควรจะทำความตกลงกันเกี่ยวกับเรื่องสันติภาพอย่างเปิดเผย และต่อไปไม่ควรจะมีการเจรจาทำความตกลงระหว่างประเทศแบบลับเฉพาะอย่างใดทั้ง สิ้นแม้ว่าโดยทั่วไปจะเห็นพ้องด้วยกับนโยบายข้อแรกของ วูดโรว์ วิลสัน คือ ความตกลงหรือสนธิสัญญาใด ๆ เมื่อตกลงเสร็จสิ้นแล้ว ให้ประกาศเปิดเผยให้โลกทราบ แต่สำหรับข้องสองคือการเจรจาในระหว่างทำสนธิสัญญาให้กระทำกันอย่างเปิดเผย นั้น ส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเห็นว่าลำพังการเจรจานั้น โดยสารัตถะสำคัญแล้วควรจะถือเป็นความลับไว้ก่อนจนกว่าจะเสร็จการเจรจา ทั้งนี้ เซอร์เดวิด เคลลี่ อดีตนักการทูตอังกฤษเคยให้ทรรศนะว่า การทูตแบบเปิดเผยนั้นเป็นถ้อยคำที่ขัดกันในตัว คือหากกระทำกันอย่างเปิดเผยเสียแล้วก็ไม่ใช่การทูตเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาตรา 102 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติว่า ?1. สนธิสัญญาทุกฉบับ และความตกลงระหว่างประเทศทุกฉบับ ซึ่งสมาชิกใด ๆ แห่งสหประชาชาติได้เข้าเป็นภาคี ภายหลังที่กฎบัตรปัจจุบันได้ใช้บังคับ จักต้องจดทะเบียนไว้กับสำนักเลขาธิการโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจักได้พิมพ์ขึ้นโดยสำนักงานนี้ 2. ภาคีแห่งสนธิสัญญา หรือความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่าใด ซึ่งมิได้จดทะเบียนไว้ตามบทบัญญัติในวรรคหนึ่งข้อนี้ ไม่อาจยกเอาสนธิสัญญาหรือความตกลงนั้น ๆ ขึ้นกล่าวอ้างต่อองค์กรใด ๆ ของสหประชาชาติ?[การทูต]
กองกำลังฉุกเฉินของสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1956 สมัชชาแห่งสหประชาชาติได้ขอรัองให้เลขาธิการสหประชาชาติเสนอแผนการภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อจัดตั้งกองกำลังระหว่างชาติของสหประชาชาติ โดยได้รับอนุมัติจากชาติที่เกี่ยวข้อง ให้ทำหน้าที่ยุติและควบคุมดูแลการหยุดรบในประเทศอียิปต์ วันรุ่งขึ้น คือ วันที่ 5 พฤศจิกายน สมัชชาก็ได้ลงมติให้จัดตั้งกองบัญชาการแห่งสหประชาชาติขึ้นปรากฏว่า ผู้แทนของสหภาพโซเวียตได้กล่าวอ้างว่า การจัดตั้งกองกำลังดังกล่าวเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ โดยยกบทที่ 7 ของกฎบัตรขึ้นมาอ้างว่า คณะมนตรีความมั่นคงองค์กรเดียวเท่านั้น ที่กฎบัตรให้อำนาจจัดตั้งกองกำลังระหว่างชาติได้ ด้วยเหตุนี้ สหภาพโซเวียตและอีกบางประเทศจึงแถลงว่า จะไม่ยอมมีส่วนร่วมในการออกเงินค่าใช้จ่ายสำหรับกองกำลังดังกล่าวโดยเด็ดขาด พึงสังเกตว่า การที่สหภาพโซเวียตอ้างยืนยันว่า คณะมนตรีความมั่นคงเท่านั้นที่กฎบัตรสหประชาชาติให้อำนาจตั้งกองกำลังสห ประชาชาติได้ ก็เพราะหากยินยอมตามข้ออ้างของสหภาพโซเวียตดังกล่าว จะไม่มีทางจัดตั้งกองกำลังขึ้นได้เลย เพราะสหภาพโซเวียตจะใช้สิทธิยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคงอย่างไม่ต้องสงสัย[การทูต]
การสละความคุ้มกันทางการทูต ในเรื่องนี้บางประเทศออกกฎไว้ว่า ความคุ้มกันจากอำนาจทั้งทางแพ่งหรืออาญาของผู้แทนทางการทูตที่ประจำอยู่ใน ประเทศผู้รับ ตามที่กฎหมายระหว่างประเทศได้มอบให้ รวมทั้งคณะเจ้าหน้าที่ทางการทูตและบุคคลในครอบครัวของเขานั้น ย่อมสละมิได้ นอกจากจะได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าง ประเทศของผู้นั้น เหตุผลของการออกกฎข้อนี้เป็นเพราะเขาถือว่า ความคุ้มกันนั้นมิได้เกี่ยวกับตัวเจ้าหน้าที่โดยตรงหากแต่เกี่ยวกับตำแหน่ง หน้าที่ของเขามากกว่าเรื่องการสละความคุ้มกันข้างต้น อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตรา 32 ว่า?1. ความคุ้มกันจากอำนาจศาลของตัวแทนทางการทูตและของบุคคลที่อุปโภคความคุ้มกัน ภายใต้ขอ้ 37 อาจสละได้โดรัฐผู้ส่ง 2. การสละต้องเป็นที่ชัดแจ้งเสมอ 3. การริเริ่มคดีโดยตัวแทนทางการทูต หรือโดยบุคคลที่อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลภายใต้ข้อ 37 จะกันตัวแทนทางการทูตหรือบุคคลนั้นจากการอ้างความคุ้มกันของอำนาจศาล ในส่วนที่เกี่ยวกับการฟ้องแย้งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเรียกร้องสิทธิ สำคัญนั้น 4. การสละความคุ้มกันจากอำนาจศาลในส่วนที่เกี่ยวกับคดีแพ่งหรือคดีปกครอง ไม่ให้ถือว่ามีนัยเป็นการสละความคุ้มกันในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับคดีตาม คำพิพากษา ซึ่งจำเป็นต้องมีการสละต่างหากอีก?[การทูต]
ค่าวัดความถี่ของการอ้างอิงบทความวารสารในแต่ละปีExample:Impact factor คือ ค่าวัดความถี่ของการอ้างอิงบทความวารสารในแต่ละปี โดยเปรียบเทียบกับจำนวนบทความทั้งหมดที่ตีพิมพ์ในวารสารดังกล่าวในรอบ 2 ปี ที่ผ่านมา หรือหมายถึง ความถี่ที่บทความในวารสารนั้นจะได้รับการอ้างถึง หรือถูกนำไปใช้ <p> วิธีคำนวณหาค่า Impact Factor ในรอบ 2 ปี มีดังนี้ <p> A= จำนวนรายการอ้างอิงในปี 2003 ที่อ้างอิงถึงบทความปี 2001-2002 <p> B= จำนวนบทความทั้งหมดที่ตีพิมพ์ในปี 2001-2002 โดยวารสารนั้น <p> C= A/B = Impact factor ปี 2003 ของวาสารชื่อนั้น หรือจำนวนครั้งโดยเฉลี่ย ที่บทความซึ่งตีพิมพ์ในวารสารนั้นในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา (2001-2002) และได้รับการอ้างอิงในปี 2003 <p> ตัวอย่างเช่น ค่า Impact factor ปี 2003 ของวารสาร Science หมายความว่า มีการตีพิมพ์บทความในวารสาร Science ในปี 2001-2002 และถูกนำมาอ้างอิงในปี 2003 มีจำนวนครั้งโดยเฉลี่ยเกิดขึ้นเท่าไร พบว่าวารสารที่ดีจะมีค่า Impact factor สูง ดังนั้น Impact factor เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินคุณภาพ เปรียบเทียบ และ จัดอันดับวารสาร (Journal Ranking) ช่วยประกอบการพิจารณาตัดสินใจในการจัดหาและบอกรับวารสารของห้องสมุด และยังสามารถใช้ประเมินคุณภาพของสถาบันการศึกษาได้ด้วย เนื่องจากค่า Impact Factor สามารถบอกถึงคุณภาพของผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารของนักวิจัยจากแต่ละสถาบันได้เป็นอย่างดี Impact factor นี้คิดขึ้นโดย ยูจีน การ์ฟิลด์ (Eugene Garfield) ผู้ก่อตั้ง Institute for Scientific Information (ISI) แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา <p> การจัดอันดับวารสารของวารสารจากทั่วโลก มีการใช้ค่า Impact Factor รวมทั้งค่าอื่นๆ เช่น Cited Half-Life และ Immediacy Index มาพิจารณาประกอบกัน โดยได้รวบรวมและสรุป ไว้ใน Journal Citation Report (JCR) เป็นประจำทุกปี ซึ่งจัดทำโดย Institute Scientific Information (ISI) ตั้งแต่ปี 1975 จนถึงปัจจุบัน [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
การแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง[การบัญชี]
การอ้างอิงระหว่างกัน[การบัญชี]
กลอกไปทางด้านข้าง, การอ้าแขนขึ้น[การแพทย์]
การกำหนดค่าอ้างอิงสารเคมีด้วยวิธีการที่ถูกต้อง[การแพทย์]
อ้างถึง[การแพทย์]
ความสัมพันธ์กับวิธีวิเคราะห์อ้างอิง[การแพทย์]
คิวเวตต์อ้างอิง[การแพทย์]
อีเลคโตรดอ้างอิง, อิเล็กโตรดอ้างอิง, อีเล็คโตรดอ้างอิง, ขั้วไฟฟ้าอ้างอิง[การแพทย์]
วัตถุมาตรฐานอ้างอิงของเอนไซม์[การแพทย์]
ถั่วปากอ้า, ถั่วบางชนิด[การแพทย์]
gauge datum, ระดับอ้างอิงของเสาวัดระดับ[เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ]
ระบบพิกัดฉาก, ระบบที่ประกอบด้วยแกนอ้างอิง 2 แกน ตั้งได้ฉากกันซึ่งเรียกว่า แกน X และแกน Y (หรือ ประกอบด้วยแกนอ้างอิง 3 แกน ตั้งได้ฉากซึ่งกันและกัน เรียกแกน X แกน Y และแกน Z)  จุดที่ตัดกันของแกน X แกน Y (และแกน Z) เรียกจุดกำเนิด และ ตำแหน่งของจุดในระนาบ คือ ตำแหน่งของจุด[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
อ้า...Allen (2005)
อ้าาาา?Ratatouille (2007)
อ้าาาIlsa Pucci (2010)
อ้าาาาาFear (2013)
อ้าง มาใน!Creed (2015)
เอ้านี่Innocents of Ryloth (2009)
- เอ้านี่Copper Bullet (2015)
เอ้านี่ เอาไปกินซะสิAladdin (1992)
ถ้าเจ้าช่วย อ้าา เจ็บนะAladdin (1992)
ขอเรียกท่านว่า อัล แล้วกัน หรือ ดิน แล้ว ลาดินล่ะ ฟังดูดีนะ เอ้าล่ะ ลาดินAladdin (1992)
2, 500 เอ้าThe Bodyguard (1992)
"เราอ้างสิทธิ์Wuthering Heights (1992)
อ้า เย้ โอเค ไปกันเถอะ เดี๋ยวๆๆ แปปนึงHero (1992)
นี่ดูไรอ่ะ อ้าว แล้วนี่นายจะไปนั่งทับมันทำไมล่ะเนี่ยHero (1992)
เอ้า ผมปล่อยคุณแล้ว แล้วตอนนี้เราต้องทำอะไรกันต่อ?Jumanji (1995)
อ้าปากซะ!Hocus Pocus (1993)
ฉันบอกให้, อ้าปากไงล่ะ!Hocus Pocus (1993)
ตอนนี้ทั้งหมดของจำเลยที่อ้าง ... รวมทั้งหนุ่มแพทริก Maguire, อายุแค่ 14 ...In the Name of the Father (1993)
ขอบคุณ ทั้งหมดของจำเลยที่อ้าง ...In the Name of the Father (1993)
ตำรวจอ้างว่าคุณอยู่ใน Guildford ในคืนของระเบิดIn the Name of the Father (1993)
ด้วยมือทั้งสองข้างอ้ารับThe Joy Luck Club (1993)
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
[ā] (v) EN: decorate
[ā] (v) EN: open ; be ajar ; spread out ; stretch out  FR: ouvrir ; entrouvrir
[aēp-āng] (v) EN: claim, pretend that something is true  FR: affirmer ; prétendre ; soutenir (que)
[āi] (adj) EN: first ; initial  FR: premier
[āi-] (pref, (adj)) EN: damned ; bastard ; dirty  FR: maudit ; sale
[āi nan] (n, exp) FR: ce machin [ m ] ; ce truc [ m ]
[ān] (v) EN: read  FR: lire ; bouquiner (fam.)
[ān] (v) EN: pronounce  FR: prononcer
[ān dai ngāi] (x) EN: legible ; readable  FR: lisible
[āng] (n) EN: basin ; bowl ; tub ; shallow bowl  FR: bassine [ f ] ; bac [ m ] ; baquet [ m ] ; cuve [ f ] ; bassinet [ m ] ; auge [ f ] ; bassin [ m ] ; cuvette [ f ]
[āng] (v) EN: claim ; pretend that something is true ; quote ; cite  FR: affirmer ; prétendre ; prétexter ; alléguer ; soutenir (que)
[āng āpnām] (n) EN: that tub ; tub  FR: baignoire [ f ]
[āng būan pāk] (n) EN: basin  FR: crachoir [ m ] ; bassinet [ m ]
[āng-ing] (n) EN: reference  FR: référence [ f ] ; note [ f ]
[āng-ing] (v) EN: refer (to) ; cite ; quote ; consult ; claim ; allege  FR: citer ; se référer (à)
[āng-ing] (adj) EN: referable ; quotable ; consultative ; alleged
[āng-ing ēkkasān] (v, exp) EN: refer to a document
[āng-ing jāk …] (v, exp) EN: quote from …
[āng-ing rākhā seūkhāi] (v, exp) EN: quote a price
[āng-ing theung …] (v, exp) EN: refer to …
[āng-ing theung jotmāi] (v, exp) EN: refer to a letter
[āngkepnām] (n) EN: reservoir ; water tower  FR: réservoir [ m ]
[āng lāng chām] (n, exp) EN: sink  FR: évier [ m ]
[āng lāng meū] (n, exp) EN: washbasin
[āng lāng nā] (n) EN: washbasin ; sink  FR: lavabo [ m ]
[āng-nām] (n) EN: basin  FR: bassine [ f ]
[āng phayān] (v, exp) EN: name a witness
[āng plā] (n, exp) EN: aquarium  FR: aquarium [ m ]
[Āngsilā] (n, prop) EN: Angsila  FR: Angsila
[āng sit] (v, exp) EN: claim
[āng sit nai …] (v, exp) EN: lay claim to ; vindicate for
[āng theung] (v) EN: refer to ; cite  FR: se référer à ; citer
[āng theung] (adj) FR: allégué
[Āng Thøng] (n, prop) EN: Ang Thong (Central)  FR: Ang Thong (Centre)
[āng wā] (v) EN: claim ; claim something is true ; pretend that something is true  FR: affirmer que ; prétendre que ; soutenir que
[ānjai] (v) EN: read one's mind
[ānjai khao øk] (v, exp) EN: read sb's mind ; get an insight into sb's mind  FR: lire dans les pensées de qqn
[ān khamphiphāksā khadī] (v, exp) EN: pronounce a judgement/judgment (Am.)
[ān len] (v, exp) EN: read for entertain; read for pleasure  FR: lire pour le plaisir
[ān mai øk] (v, exp) EN: be illiterate  FR: ne pas savoir lire ; être illettré
[ān mai øk] (v, exp) EN: be illegible  FR: être illisible
[ān nā ...] (v, exp) FR: lire à la page ...
[ān nā hā/5] (xp) FR: lire en page 5
[ān nangseū] (v, exp) EN: read ; study  FR: lire ; étudier
[ān nangseūphim] (v, exp) EN: read a newspaper  FR: lire un journal
[ān nawaniyāi] (v, exp) EN: read a novel  FR: lire un roman
[ān øk] (v, exp) EN: be literate ; read aloud  FR: savoir lire ; être lettré (Belg.)
[ān øk] (adj) EN: legible ; understandable ; discernible  FR: lisible ; déchiffrable
[ān øk khīen dāi] (v, exp) EN: be literate  FR: savoir lire et écrire
[ān øksīeng] (v, exp) EN: read aloud  FR: lire à voix haute
Longdo Approved EN-TH
(vt)เข้าใจ เช่น Do you get it? คุณเข้าใจ (เรื่องนี้) หรือเปล่า, Oh, I got it now. อ้า ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว
(n)การพบปะพูดคุยกันหลังจากที่มีเหตุการณ์ที่สำคัญผ่านไป โดยมากหมายถึง การไปชุมนุมกันที่บ้านของผู้ที่เสียชีวิตก่อนจะมีพิธีฝังศพ (โดยมักถูกอ้างว่ามีที่มาจาก การปลุกให้ผู้ตายมีชีวิตขึ้นมาอีก) เช่น A wake usually lasts 3 full days, afterwards on the 4th day the funeral takes place.
(adj, adv)เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนการเกิดเหตุการณ์ที่อ้างถึง ปัจจุบันพบคำนี้บ่อยในวงการการท่องเที่ยว เช่น last-minute trip หรือ last-minute flightSee Also:last minute
(n)ช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนการเกิดเหตุการณ์ที่อ้างถึง เช่น He always waits until the last minute, before he decides to buy a stock. ปัจจุบันพบคำนี้บ่อยในวงการการท่องเที่ยว ตัวอย่างเช่น last-minute trip หรือ last-minute flightSee Also:last-minute
(n)ถั่วปากอ้า
(n, name, org, uniq)ศาลล้มละลายกลาง เป็นศาลชั้นต้นตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ซึ่งมีลักษณะเป็นศาลชำนัญพิเศษ จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คดีล้มละลายซึ่งมีลักษณะพิเศษแต่กต่างจากคดีแพ่ง ทั่วไป ได้รับการพิจารณาพิพากษาจากผู้พิพากษาที่มีความรู้ความชำนาญเป็นพิเศษ - อ้างอิงจากhttp://www.judiciary.go.th/bkcc/history.html
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
(vt)อ้างอิงSee Also:อ้างหลักฐาน
(adv)อ้าปากค้างด้วยความตกใจ
(adj)อ้าปากค้างด้วยความตกใจ
(n)คำกล่าวอ้างที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างว่าได้อยู่ที่อื่นขณะเกิดเหตุSyn.proof of absence, defense, defense of being elsewhere
(n)อนุมานหรือการอ้างอิงจากการเปรียบเทียบ
(vi)ให้เหตุผลSee Also:อ้างเหตุผลSyn.claim, explain
(vt)ให้เหตุผลSee Also:อ้างเหตุผล, อภิปราย
(vt)ถือสิทธิ์See Also:แอบอ้างสิทธิ์
(vt)ถือสิทธิ์See Also:อ้าง, แสดงสิทธิ์
(phrv)แอบอ้างตนSee Also:แอบอ้างสิทธิ
(n)รหัสที่ใช้อ้างถึงตัวผู้พูดในการสื่อสารทางวิทยุ
(n)รหัสที่ใช้อ้างถึงตัวผู้พูดในการสื่อสารทางวิทยุ
(n)คนที่อ้างเหตุผลเพื่อทำให้เชื่ออย่างผิดๆ
(n)การกล่าวอ้างSyn.mention, citing, reference
(vt)อ้างSee Also:กล่าวอ้าง
(n)ข้ออ้างSee Also:คำกล่าวอ้างSyn.pretext, excuse
(n)ข้ออ้างSee Also:คำกล่าวอ้างSyn.pretext, excuse
(adj)อุ้ยอ้ายSee Also:เทอะทะSyn.burdensome, unwieldy, heavy
(phrv)เรียกร้องให้จ่ายSee Also:อ้างสิทธิ์ให้จ่าย
(phrv)อ้างในสิทธิ์ของ
(phrv)ทุบให้เปิดหรืออ้า
(phrv)ตัดให้เปิดSee Also:ตัดให้อ้า
(adj)อ้างว้างSee Also:โดดเดี่ยว, เหงา
(vt)ทำให้เป็นทาสและอ้างสิทธิการเป็นเจ้าของSyn.capture, subjugate
(n)คำอ้างอิงในตอนต้นของหนังสือ, บท, ตอน ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับแก่นของเรื่อง
(n)ตัวหนังสือที่แกะสลักไว้See Also:คำอ้างอิงในตอนต้นของหนังสือSyn.inscription
(n)ข้ออ้างSee Also:ข้อบ่ายเบี่ยงSyn.subterfuge
(n)ข้อแก้ตัวSee Also:ข้ออ้าง, คำกล่าวอ้างSyn.justification
(vt)อ้างเหตุผลSee Also:แก้ตัวSyn.justify
(phrv)จ้องมองอ้าปากค้างSyn.gawk at, gaxe at, goggle at, stare at
(phrv)อ้าปากค้างกับ
(phrv)อ้าปากหายใจเพื่อให้ได้อากาศSee Also:อ้าปากหอบSyn.pant for
(phrv)จ้องมองด้วยท่าทางโง่ๆ (มักมีอาการอ้าปากค้าง)See Also:จ้องมองอ้าปากค้าง, จ้องมองด้วยความสงสัยSyn.gawp at, gape at, gaze at, goggle at, stare at
(phrv)ประกาศSee Also:อ้างตัวว่าเป็นSyn.make out
(phrv)เปิดทิ้งไว้See Also:ปล่อยค้างไว้, เปิดอ้าไว้Syn.leave open
(vi)อ้าปากค้างSee Also:หาวSyn.yawn
(vi)อ้าปากค้าง (เพราะตกใจหรือเจ็บปวด)Syn.choke, gag
(vt)พูดกระหืดกระหอบSee Also:อ้าปากหายใจหอบSyn.heave, snort
(adv)อย่างอ้าปากหายใจหอบSee Also:อย่างกระหืดกระหอบ
(idm)ถูกบันทึกไว้เป็นสถิติ (อ้างอิงในอนาคต)
(adv)ในที่เดียวกัน (อ้างถึงหนังสือ บท หรือหน้าหนังสือที่อ้างไปแล้ว)
(pron)เหมือนเดิม (ใช้ในการอ้างถึงเรื่อง บท ตอนที่กล่าวมาแล้ว)
(adv)ในที่ๆ อ้างถึง (loc. cit มาจาก loco citato)See Also:ตามที่กล่าวถึงSyn.loc. cit.
(vt)ีอ้าง (กฎหมาย)
(phrv)เปิดอ้าไว้See Also:เปิดไว้, อ้าไว้Syn.leave open
(phrv)เรียกร้องSee Also:อ้างสิทธิ
Hope Dictionary
เครื่องหมาย asterisk (ดอกจัน) เป็นอักขระตัวหนึ่ง มีอยู่บนแผงแป้นอักขระ เมื่อนำมาใช้ในคำสั่งระบบดอส สัญลักษณ์ * จะใช้แทนตัวอักษรใด ๆ ก็ได้ กี่ตัวก็ได้ (wildcards) ใช้เมื่อต้องการอ้างถึงชื่อแฟ้มข้อมูล เช่นถ้าใช้ A*.* หมายความถึง แฟ้มข้อมูลทุกแฟ้มที่มีชื่อขึ้นต้นด้วยอักษร A และจะมีนามสกุลอะไรก็ได้ หรือถ้าใช้ *.COM ก็หมายความ ถึงแฟ้มข้อมูลทุกแฟ้มที่มีนามสกุล COM ถ้าใช้ *.* ก็จะหมายถึงทุกแฟ้มข้อมูลที่มีอยู่ในสารบบ หรือในจานบันทึก ดู wildcards ประกอบ
(อะดูสซฺ') vt. อ้างอิง, อ้าง. -adduc- able, adducibel adj., -adducer n.
(แอดวานซ'ฺ) vt., vi., n. นำหรือส่งไปข้างหน้า, ก้าวหน้า, เสนอความเห็น, เจริญ, เลื่อน (ตำแหน่ง) , เพิ่ม (อัตรา) , เร่ง, จัดให้, ยก (ธง) , ล่วงหน้า, อ้าง, ทาบทาม, เกี้ยวSyn.forward
(อะเกพ') adv., adj. อ้าปากค้าง (และตกใจ) (with the mouth wide open)
(แอลลิเก' เชิน) n. การกล่าวหา, การยืนยัน, การอ้าง, ข้อกล่าวหา, ข้ออ้าง, ข้อยืนยัน, กล่าวหาSyn.accusation, assertion
(อะเลจฺ') vt. กล่าวหา, อ้าง, ยืนยัน, แถลง. -allegeable adj. -alleger n.
(อะลู' ซิฟว) adj. ซึ่งพาดพิงถึงบางอย่าง, ซึ่งอ้างอิง, ซึ่งพูดเป็นนัย, อุปมาอุปไมย.
(al) (แอนนะลอจ' จิค, -เคิล) adj. คล้ายกัน, เหมือนกัน, อุปมา, เปรียบเหมือน analogism (อะแนล' โลจิสซึม) n. อนุมานหรือการอ้างอิงจากการเปรียบเทียบ -analogist n., -analogistic adj. (reasoning, analogy)
(แอน' ทิโพพ) n. ผู้ที่อ้างเป็นสันตะปาปา, การเลือกสันตะปาปาที่ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์
(อาร์'กิว) vt., vi. ถกเถียง, เถียง, โต้คารม, อ้างเหตุผล, อภิปราย, พูดให้ยอม, โต้แย้งพิสูจน์ว่า, แสดงให้เห็นว่า-arguer n.Syn.debate
(อาร์'กิวเมินทฺ) n. การโต้เถียง, การโต้คารม, การอ้างเหตุผล, ขบวนการให้เหตุผล, ข้อโต้เถียง, เรื่อง, ข้อสรุป, หลักฐาน, ข้อพิสูจน์
(แอร'โรเกท) vt. อวดดี, แอบอ้างสิทธิปัดไปให้คนอื่น, เหมาเอาว่า. -arrogation n.
(อะเซิร์ทฺ') vt. ยืนยัน, ถือ (สิทธิ์) , อ้าง, แสดงสิทธิ์, วินิจฉัย, พิทักษ์, รักษา. -asserter, assertor n. -assertory adj. (declare)
(อะเซิร์ท'เชิน) n. การกล่าวยืนยัน, การอ้าง, การถือสิทธิ์, การวินิจฉัย, การพิทักษ์, การรักษา, ข้อเสนอ, ข้อวินิจฉัยSyn.statement
(อะไซนฺ') vt. กำหนด, มอบหมาย, นัด, ระบุ, จัดให้, มอบหมายให้, อ้างว่า, โอนสิทธิให้แก่. -vi. โอนทรัพย์สิน. -assigner, assignor n.Syn.designate, appoint, attribute
(แอส'เทอริสคฺ) n. เครื่องหมายดอกจันทร์ (*) , สิ่งที่มีลักษณะคล้ายดาว. -vt. ใส่เครื่องหมายดอกจันทร์หรือดาว ดอกจัน <คำแปล>* <เครื่องหมาย>เป็นอักขระตัวหนึ่ง มีอยู่บนแผงแป้นอักขระ เมื่อนำมาใช้ในคำสั่งระบบดอส สัญลักษณ์ * จะใช้แทนตัวอักษรใด ๆ ก็ได้ กี่ตัวก็ได้ (wildcards) ใช้เมื่อต้องการอ้างถึงชื่อแฟ้มข้อมูล เช่นถ้าใช้ A*.* หมายความถึง แฟ้มข้อมูลทุกแฟ้มที่มีชื่อขึ้นต้นด้วยอักษร A และจะมีนามสกุลอะไรก็ได้ หรือถ้าใช้ *.COM ก็หมายความ ถึงแฟ้มข้อมูลทุกแฟ้มที่มีนามสกุล COM ถ้าใช้ *.* ก็จะหมายถึงทุกแฟ้มข้อมูลที่มีอยู่ในสารบบ หรือในจานบันทึก ดู wildcards ประกอบ
(อะทริบ'บิวทฺ) vt. ให้เหตุผลว่า, ถือเอา, อ้างเหตุผล. -n. คุณลักษณะ. -attributer, attributor n. -attribution n.Syn.assign, consider, quality ลักษณะประจำหมายถึง คุณสมบัติของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่มีลักษณะพิเศษ มีการเน้นความแตกต่างจากของอื่นในประเภทเดียวกัน เช่น ถ้าเป็นแฟ้มข้อมูลในระบบดอส จะมีลักษณะประจำต่างกันเป็น 4 อย่าง คือ แฟ้มข้อมูลที่มีการจัดเก็บเป็นระเบียบ archive แฟ้มที่อ่านได้อย่างเดียว แก้ไขไม่ได้ read only แฟ้มที่ไม่แสดงตัว hidden และแฟ้มระบบ system หรือถ้าต้องการหาคำใดคำหนึ่ง เช่น ในโปรแกรมประมวลผลคำ นอกจากจะบอกคอมพิวเตอร์ว่าสะกดอย่างไรแล้ว อาจบอกเพิ่มเติมว่า ...เป็นคำที่ใช้แบบอักษร Times New Roman ขนาด 14 จุด ข้อความที่บ่งบอกคุณสมบัติเพิ่มเติมไปนี้ก็เรียกว่า " attribute " ทั้งสิ้น
(แบส'เทิร์ด) n. ลูกไม่มีพ่อ, ลูกนอกกฎหมาย, พันทาง, สิ่งสารเลว, สิ่งปลอมแปลง, วายร้าย, อ้ายชั่ว adj. เกิดแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย, ผิดปกติ, พิกล, เลว, ปลอม, เชื่อถือไม่ได้, ทำให้ผิดกฎหมาย)See Also:bastardly adj. ดูbastard bastardy n. ดูbastard
(แบ'ริง) n. ความอดทน, ที่รองรับ, ตำแหน่ง, ทิศทาง, การออกผล, การอ้างอิง, ความสัมพันธ์, ความสามารถ, การให้ผล, ผล, ผลผลิตSyn.endurance, yield
(ไบล'เทอะ) คนไร้ค่า, คนน่าเหยียดหยาม, คนวายร้าย, อ้ายหมอ, เจ้าหมอนั่น
(โบลค) n. คน, มนุษย์, อ้ายหมอนี่, คนโง่, ขี้เมาSyn.guy
(โบสทฺ) { boasted, boasting, boasts } vt. คุยโต, คุยโว, อวดอ้าง, โม้ -n. เรื่องคุยโม้, สิ่งที่คุยโม้See Also:boaster n.
ที่ค้ำหนังสือที่เปิดอ้า
(บูฮู') { boohooed, boohooing, boohoos } vi. ร้องสะอึกสะอื้น -n. เสียงร้องสะอึกสะอื้น book (บุค) n. หนังสือ, ตำรา, หนังสืออ้างอิง, คัมภีร์, ภาค, เล่ม, แบบ, สมุดบัญชี, เนื้อเพลง, บทละคร, ถ้อยคำ, สมุดเช็ค, สมุดแสตมป์, สมุดรายชื่อ, สมุดบันทึก, บัญชี, บันทึก, บัญชีพนัน vt. ลงบัญช
ที่ค้ำหนังสือที่เปิดอ้า
(บับ) n. อ้ายน้องชาย, น้อง, เพื่อน
n. อ้ายหนุ่ม, อ้ายน้องชาย, อันธพาล.adj. ทารุณ, โหดเหี้ยม vt. ใช้ผ้าแข็งเสริมหรือหนุน -S.bully
(บัก'เกอะ) n. อ้ายหนุ่ม, หนู, อ้ายหนู, ผู้กระทำการสังวาสทางทวารหนัก, ผู้ร่วมเพศกับสัตว์
(แคมพฺ) { camped, camping, camps } n.ค่ายที่พัก, เต้นท์, ท่าทางทีหลอกลวง, มายา, การอ้างสิทธิ v. ตั้งค่าย, พัก, หลับนอน, ปักหลักอยู่อย่างดื้อรั้น
(คาร์ล) n. บุคคลธรรมดา, คน, อ้ายหมอนี่ .See Also:carlish adj. ดูcarl carlishness n. ดูcarl
(คาร์ล) n. บุคคลธรรมดา, คน, อ้ายหมอนี่ .See Also:carlish adj. ดูcarl carlishness n. ดูcarl
n. คำอ้างอิง, คำขวัญ, คำหัวข้อของพจนานุกรม, คำนำหน้า
(แชพ) vt., vi. ทำให้แตก, ทำให้แดง, กะเทาะ -n.รอยแตก, รอยกระเทาะ, อ้ายหมอนี่, เจ้าเพื่อนยาก, เพื่อนผู้ชาย, เด็กผู้ชายSyn.lad
n. (การอ้าง) ถ้อยคำในบท, หลักฐาน
n. การโต้เถียงที่อ้างเหตุผลผิด ๆ
(เซอคัมสแทน'ชิเอท) vt. ยืนยัน, เสนอข้ออ้างอิงเพื่อยืนยัน, อธิบายอย่างละเอียดทุกแง่ทุกมุมSee Also:circumstantiation n. ดูcircumstantiate
(ไซ'ทะเบิล) adj. อ้างอิงได้, อ้างถึงได้
(ไซเท'เชิน) n. การอ้างอิง, ประโยคหรือสิ่งที่อ้างถึง, หมายเรียก, หมายศาล, รางวัลหรือคำชมเชย, จดหมายชมเชย, คำสดุดีSee Also:citatory adj. ดูcitationSyn.summons
(ไซทฺ) { cited, citing, cites } vt. อ้างอิง, กล่าวอ้าง, กล่าวสนับสนุน, ออกหมายเรียกตัวมาศาล, สดุดี, ชมเชย, กระตุ้นเรียกหา.See Also:citable adj. ดู citatory adj. ดูcitation citeable adj. ดู citatory adj. ดูcitation citer n. ดู citatory adj.
(เคลม) vt., n. (การ) เรียกร้อง, อ้างสิทธิ, อ้าง, สิทธิเรียกร้อง, สิทธิ, สิทธิเรียกร้อง, สิ่งที่เรียกร้อง
(เคล'เมินทฺ) n. ผู้เรียกร้อง, ผู้อ้างสิทธิ
(เคา'เทอะเคลม) vt., vi., n. (การ) เรียกร้องแย้ง, อ้างสิทธิแย้ง, แย้งสิทธิ.See Also:counterclaimant n. ดูcounterclaim
(คริเดิน'เชิล) n. หลักฐานอ้างอิง, หนังสือรับรอง, หนังสือแนะนำตัว, สาสน์ตราตั้งทูต, ประกาศนียบัตร. adj. ซึ่งเป็นหลักฐานอ้างอิง หรือรับรองSee Also:credentialed adj.
(คัม'เบอเซิม) adj. ยุ่งยาก, ทำให้ลำบาก, เป็นภาระ, อุ้ยอ้าย, หนัก, ไม่สะดวกSyn.clumsy
(แดก'เกอะ) { daggered, daggering, daggers } n. กริช, ดาบสั้นสองคม, เครื่องหมายดาบ (คล้ายกางเขน) ซึ่งใช้เป็นเครื่องหมายอ้างอิง vt. แทงด้วยกริช, ทำเครื่องหมายดังกล่าวSyn.dirk, obelisk
(ดาร์คฺ'คี) n. อ้ายมืด, คนนิโกรSyn.Negro
(ดาร์คฺ'คี) n. อ้ายมืด, คนนิโกรSyn.Negro
(เด'ทัม, ดา'ทัม) n. ข้อมูลตัวเลข, ข้อเท็จจริงในการอ้างอิง, ฐานSyn.fact -pl. data
(ดิบังคฺ') vt. ขจัดหรือลบล้างคำกล่าวอ้างที่ผิดหรือเกินความจริง, ทำลายชื่อเสียงSee Also:debunker n. ดูdebunk
(ดิฮิส') { dehisced, dehiscing, dehisces } vi. แตกออก, เปิดออก, อ้าออก
Nontri Dictionary
(vt)อ้างอิง, อ้างเหตุผล, ยกตัวอย่าง
(adj)อ้าปากกว้าง, ตกใจ, เปิดกว้าง
(adv)เปิดอยู่, แง้ม, อ้า
(n)การพูดพล่อย, การกล่าวหา, ข้อกล่าวหา, ข้ออ้าง
(vt)พูดพล่อย, อ้าง, กล่าวหา
(vi)พูดถึง, หมายถึง, พาดพิงถึง, อ้างถึง
(vt)ยึดครอง, ถือสิทธิ์, แอบอ้างสิทธิ์, เหมาเอาว่า, ทึกทัก
(vt)อ้าง, ให้เหตุผล, สันนิษฐาน, ลงความเห็น
(n)การอ้าง, การให้เหตุผล, การสันนิษฐาน, การลงความเห็น
(vt)ยืนยัน, ถือสิทธิ์, แสดงสิทธิ์, อ้างสิทธิ์
(n)การยืนยัน, การอ้างสิทธิ์, การถือสิทธิ์, การแสดงสิทธิ์
(vt)เชื่อว่ามี, อ้างว่า
(n)บรรณานุกรม, รายชื่อเอกสารอ้างอิง
(n)การอ้าง, การอ้างอิง, การกล่าวถึง, การส่งหมาย, หมายศาล
(vt)อ้างถึง, อ้างอิง, กล่าวถึง, ส่งหมาย, ออกหมายเรียก
(n)สิทธิ, คำร้อง, การเรียกร้องสิทธิ์, การอ้างสิทธิ
(vt)อ้างสิทธิ, เรียกร้องสิทธิ์, ยืนยัน
(n)ผู้อ้างสิทธิ, ผู้เรียกร้องสิทธิ์, โจทก์
(n)ความใกล้ชิด, ความสนิทสนม, ความทึบ, ความอบอ้าว, ความลับ
(n)ประกาศนียบัตร, ใบสุทธิ, หนังสือรับรอง, หลักฐานอ้างอิง, สาสน์ตราตั้ง
(vt)กีดกั้น, หนัก, อุ้ยอ้าย, ทำให้ยุ่งยาก, ทำให้ลำบาก
(vt)อ้างจาก, อนุมานจาก, ลงความเห็นจาก, พิจารณาเหตุผลจาก
(adj)อ้างว้าง, โดดเดี่ยว, เปล่าเปลี่ยว, ไร้ผู้คน, ว่างเปล่า, แห้งแล้ง
(vt)ทำให้ไม่สบายใจ, ทำให้เศร้าสลด, ทำให้หดหู่ใจ, ทำให้อ้างว้าง
(n)ความอ้างว้าง, ความเปล่าเปลี่ยว, ความว้าเหว่, ความแห้งแล้ง, ความเศร้าใจ
(adj)เหมือนช้าง, ใหญ่โต, อืดอาด, ของช้าง, อุ้ยอ้าย, งุ่มง่าม
(vt)สวมกอด, รัด, อ้าแขนรับ, โอบกอด, ล้อมรอบ
(n)คำขอโทษ, การให้อภัย, คำแก้ตัว, ข้ออ้าง
(n)อาการอ้าปากค้าง, การหาว
(vi)อ้าปากค้าง, หาว
(n)การหอบ, การอ้าปากค้าง, การหายใจไม่ออก
(vi)หอบ, อ้าปากค้าง
(n)คนอุ้ยอ้าย, คนงุ่มง่าม, ซากเรือเก่าๆ
(adj)อุ้ยอ้าย, งุ่มง่าม, ใหญ่, เทอะทะ
(adj)แก้ตัวได้, อ้างเหตุผลได้
(n)การให้เหตุผล, การแสดงความบริสุทธิ์, การอ้างเหตุผล
(adj)โดดเดี่ยว, สันโดษ, โดด, โทน, อ้างว้าง
(n)ความโดดเดี่ยว, ความสันโดษ, ความอ้างว้าง, ความวังเวง
(adj)โดดเดี่ยว, สันโดษ, อ้างว้าง, วังเวง
(adj)เปลี่ยวใจ, สันโดษ, อ้างว้าง, วังเวง, เปล่าเปลี่ยว
(n)คนอุ้ยอ้าย, คนทึ่ม, คนซื่อ, คนซุ่มซ่าม
(vi)อุ้ยอ้าย, โซเซ, งุ่มง่าม
(adj)โง่เขลา, อุ้ยอ้าย, เป็นก้อน
(vt)ขยายภาพ, ขยายความ, เพิ่มขนาด, อวดอ้าง
(adj)โว, อวดอ้าง, โอ้อวด
(n)การกล่าวถึง, การพาดพิงถึง, การอ้างถึง, คำอ้าง, คำชมเชย
(vt)กล่าวถึง, พาดพิงถึง, อ้างถึง, เอ่ยถึง
(vt)กล่าวอ้างผิด, คัดมาผิด
(adj)ชื้น, อบอ้าว, เปียก
(adj)กะทัดรัด, สะอาดสะอ้าน, เรียบร้อย
Longdo Unapproved EN-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
[อ่อธ้อเหรอะทิ](n)(1) อำนาจ (權柄) (2) บุคคลหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น MEA, PEA (3) แหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ (權威)
(n)เป็นการโฆษณารูปแบบหนึ่งที่บอกขายสินค้าหรือการให้บริการในราคาที่ถูก แต่เมื่อมีผู้ต้องการซื้อสินค้าหรือการบริการชนิดนั้น ผู้ขายอ้างว่าสินค้าหมดและเสนอขายสินค้าทดแทนที่มีราคาสูงกว่าแทนอย่างตั้งใจ
[เคอะแพ้เซอะทิ](n)วิสัย (อ้างอิง: พจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน 2542 หน้า 1082)
[คันไซ้นี่](n)ผู้รับมอบกรรมสิทธิ์ในสินค้า หากระบุในใบตราส่งจะอยู่ในช่องที่ 2 อ้านซ้ายริมบน ซึ่งมีเรียงกัน 3 ช่องเป็นมาตรฐานเดียวกันหมด คือ ช่อง 1 Shipper คือ ผู้ส่งสินค้าซึ่งจะเป็นใครก็ได้ ช่อง 2 Consignee คือ ผู้รับมอบกรรมสิทธิ์ในสินค้า จะระบุต้นทาง หรือปลายทางก็ได้ตามบริบทแวดล้อม ช่อง 3 คือ Notify Party คือ ผู้รับแจ้งเมื่อมีการส่งสินค้าออกไปจากต้นทางแล้ว
(n)ศาลาพักผ่อนในสวน, ศาลาในสวน อ้างอิง: http://www.dictionaryofconstruction.com/definition/garden-house.html
(n)เลขที่อ้างอิง
ผู้ประกอบอุตสาหกรรม อ้างจาก Excise Act.2560
[เคิน-นิ่ง](n)การกำหนดระยะห่างเฉพาะตัว "อักษรสองตัว" ให้มากขึ้นจากระยะปกติที่กำหนดไว้ในมาตรฐานของรูปแบบตัวอักษรนั้นๆ ส่วนใหญ่พบได้ในโปรแกรมพิมพ์งานต่างๆ เช่น Microsoft Word เป็นต้น เช่น การกำหนดระยะห่างเฉพาะตัวอักษร "ก" กับ "า" ในคำว่า "การ" จะได้ผลเป็น "ก าร" (มีช่องว่างหนึ่งช่องระหว่าง ก ไก่ กับสระอา //อ้างอิงจาก http://en.wikipedia.org/wiki/KerningSee Also:trackingSyn.kern
Image:
kerning
[คำอ่าน :: ชีบ-พะ-บาน](n)lifeguard [ 1 ] - (N) - ชีพบาล คำอ่าน :: ชีบ-พะ-บาน คำหมาย :: ผู้ประกอบวิชาชีพดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ให้แก่ผู้ทำกิจกรรมนันทนาการทางน้ำ เช่น สระว่ายน้ำ , สวนน้ำ, ชายหาด, ชายทะเล ที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างเข็มข้น ทั้งทักษะการว่ายน้ำ ปฐมพยาบาล การกู้ชีพ กู้ภัยทางน้ำ รวมทั้งการใช้อุปกรณ์หลากหลายที่เกี่ยวข้องการทำงาน บางพื้นที่ในต่างประเทศ ยังต้องทำงานเกี่ยวข้องกับการงานฉุกเฉิน เช่น การกู้ภัยบนภูเขา การนำส่งผู้ประสพภัยฉุกเฉิน จากภัยพิบัติต่างๆ อ้างอิง :: life = ชีวิต, ชีพ guard = ยาม, ผู้ดูแล ในที่นี้ ขอใช้คำว่า บาล ซึ่งหมายถึงผู้ดูแล เช่น รัฐบาล, คชบาล, โคบาล, ทวารบาล, พยาบาล, อภิบาล, อนุบาล lifeguard [ 2 ] - (N) – ทหารรักษาพระองค์ (ทหารมหาดเล็ก) ในกองทัพ สหราชอาณาจักร (ประเทศอังกฤษ)See Also:Lifesaving, Lifesaver
(n)ผู้ชายแท้ที่มีบุคลิกลักษณะสะอาดสะอ้านแกมสำอาง ชอบดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอSee Also:Thumbnail gallery post
(vi)การอ้างถึงชื่อผู้อื่นในทำนองว่ารู้จักกับผู้นั้น เพื่อสร้างมูลค่าให้ตนเอง​, โดยทั่วไปมีความหมายในเชิงลบ. ตัวอย่าง เช่น I know Lisa of Blackpink and she often comes to my house for dinner. ฉันรู้จักลิซ่าแห่งวง Blackpink นะ เขามาทานอาหารเย็นที่บ้านฉันบ่อยๆ
(n)ใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย เป็นตราสารที่ออกโดยบริษัทย่อยที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดตั้งขึ้น ซึ่งคือ "บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด" (Thai NVDR Company Limited) โดยมีลักษณะเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนโดยอัตโนมัติ (Automatic List) วัตถุประสงค์หลักของ NVDR คือเพื่อกระตุ้นการลงทุนและเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งช่วยให้ชาวต่างประเทศลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนได้ โดยไม่ติดเรื่องเพดานการถือครองหลักทรัพย์ของชาวต่างชาติ (Foreign Limit) พร้อมทั้งสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงิน
(n)พื้นที่ทับซ้อน, พื้นที่ทางบกหรือทางทะเลซึ่งมีประเทศมากกว่า ๑ ประเทศ อ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ สงคราม ความเชื่อทางศาสนา ที่ตั้งของชุมชนทางชาติพันธุ์หรือชนกลุ่มน้อย หรือผลประโยชน์แห่งรัฐ เช่น พื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหารที่มีปัญหาการอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ดังกล่าว ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา. หมู่เกาะสแปรตลีที่เป็นพื้นที่ทับซ้อน มีหลายประเทศต่างอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะทั้งหมดหรือบางส่วนของหมู่เกาะ ได้แก่ จีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน บูรไน และ มาเลเซีย
(adj)ตามที่, ดังที่, อ้างถึงSee Also:reference made toSyn.reference to
(n, phrase)หมายเลขอ้างอิง
(n)เอกสาร ที่ใช้เป็นมาตราฐาน เพื่อการอ้างอิง ของ Internet
(vt)แถลง, กล่าวหา, อ้าง, บรรยายข้อเท็จจริง
Longdo Approved JP-TH
[もとづく, motoduku](vt)มีพื้นฐานจาก, อ้างอิงจาก
[りゆう, riyuu](n)เหตุผล, ข้ออ้าง
Longdo Unapproved JP-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
参考書類
[さんこうしょるい, sankoushorui](n)เอกสารอ้างอิง
成り済まし
[なりすまし, narisumashi](n)การแอบอ้าง (การแอบอ้าง หรือ ใช้สิทธิคนอื่น เพื่อกระทำการบางอย่าง ในความหมายที่ไม่ค่อยดี)
成り済ます
[なりすます, narisumasu](vt)แอบอ้างSee Also:S. なりすまし
参照
[さんしょう, sanshou]การอ้างอิง การดูประกอบ
Saikam JP-TH-EN Dictionary
名乗る
[なのる, nanoru] TH: อ้างชื่อ
名乗る
[なのる, nanoru] EN: to call oneself (name, label, etc)
蒸す
[むす, musu] TH: ร้อนอบอ้าว
蒸す
[むす, musu] EN: to be sultry
Longdo Approved DE-TH
อ้างถึง, ชี้ถึง
พิง, วางอยู่บน, อ้างบน | lag, gelegen |
(vt)|wies hin, hat hingewiesen| บ่งถึง, ชี้ถึง, อ้างถึง เช่น auf einen Fehler hinweisen
ที่นั่น (ใช้อ้างถึงสถานที่ที่ถูกกล่าวก่อนหน้านั้น) เช่น In der Nähe gibt es ein gutes Restaurant. Da können wir miteinander reden.See Also:dort
(phrase)ในกรณีนี้ เช่นนี้ (ใช้อ้างถึงสิ่งที่เพิ่งเอ่ยถึง) เช่น Hoffentlich besucht er mich in diesem Sommer. Wenn das der Fall ist, fahren wir in die Schweiz zusammen. หวังว่าเขาจะมาเยี่ยมฉันหน้าร้อนนี้ ถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะขับรถไปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์
(n)|der, pl. Rückschlüsse| ข้อสรุป (จากเหตุผลที่อ้าง) เช่น Die Formulierung der Frage lässt keinen Rückschluss darauf. zu, ob eine oder mehrere Antworten richtig sind.
Longdo Unapproved FR-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ぽっかり
(adv)(อ้าปาก)หวอ, โหว่, อุ่นสบาย, ลอย
เพิ่มคำศัพท์
add
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ