248 ผลลัพธ์ สำหรับ 

*แคลน*

 ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น: แคลน, -แคลน-
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
(v)lack ofSee Also:be short of, be deficientSyn.ขัดสน, อัตคัด, ขาดAnt.สมบูรณ์Example:ในฤดูแล้งภาคอีสานจะขาดแคลนน้ำมากThai Definition:ไม่มีเพียงพอ, มีไม่เต็มที่เพราะขัดสน
(v)be unstableSee Also:be unsteady, be infirmSyn.ง่อนแง่น, สั่นคลอนAnt.หนักแน่น, มั่นคงExample:เสถียรภาพของรัฐบาลกำลังคลอนแคลนThai Definition:ไม่มั่นคง
(adj)unstableSee Also:unsteady, infirmSyn.ง่อนแง่น, สั่นคลอน, วอกแว่กAnt.หนักแน่น, มั่นคงExample:คนที่มีสภาพจิตใจคลอนแคลนและขาดความมั่นคงอยู่แล้วตั้งแต่วัยเด็กอาจปรับตัวเข้ากับสังคมยากเมื่อโตขึ้นThai Definition:ไม่มั่นคง
(n)lackSee Also:shortage, deficiencySyn.ความขัดสน, ความอัตคัดAnt.ความอุดมสมบูรณ์Example:ชาวนาต้องพบกับความขาดแคลนน้ำในหน้าแล้งอยู่เสมอ
(v)look down uponSee Also:underestimate, disparage, disdain, slight, insult, snub, affrontSyn.ดูถูก, เหยียดหยามExample:เมื่อไหร่พวกเขาถึงจะเลิกดูถูกดูแคลนความคิดความอ่านของเราสักทีThai Definition:แสดงอาการเป็นเชิงดูหมิ่นหรือเหยียดหยามเขาว่าไม่มีความสามารถหรือไม่มีคุณสมบัติที่ดี
(v)insultSee Also:underestimate, disparage, disdain, slight, snub, affront, look down upon, scorn, hold in cSyn.ดูถูกExample:คนในหมู่บ้านดูหมิ่นดูแคลนครอบครัวที่ขายลูกกินอย่างเขาThai Definition:แสดงอาการเป็นเชิงดูหมิ่นหรือเหยียดหยามเขาว่าไม่มีความสามารถหรือไม่มีคุณสมบัติที่ดี
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ก. ขัดสน, อัตคัด.
(-แคฺลน) ว. ง่อนแง่น, ไม่มั่นคง, เช่น ฐานะคลอนแคลน.
(แคฺลน) ว. ขัดสน, อัตคัด, มักใช้ประกอบคำอื่น เช่น ขาดแคลน = ทั้งขาดทั้งแคลน หมายความว่า อัตคัด, ขัดสน ดูแคลน = ดูหมิ่นเพราะเห็นเขาขัดสน ดูหมิ่นถิ่นแคลน = ดูถูกว่ามีฐานะตํ่าต้อย.
ก. พูดหรือแสดงอาการเป็นเชิงดูหมิ่นหรือเหยียดหยามผู้อื่นที่ขัดสนหรือยากจนกว่า.
ก. แสดงกิริยาท่าทาง พูด หรือเขียน เป็นเชิงดูถูกว่ามีฐานะตํ่าต้อยหรือไม่ดีจริงไม่เก่งจริงเป็นต้น, หมิ่น ก็ว่า.
ก. รู้สึกลำบาก.
ว. คลอนแคลน, ไม่แน่น, ไม่มั่นคง, ง่อนแง่น ก็ว่า.
ก. เก็บหรือกักไว้เพื่อกันขาดแคลนหรือหวังกำไรในการค้า, ตุน ก็ว่า.
ว. ฝืดเคือง, อัตคัด, ขาดแคลน
น. ภาวะขาดแคลนอาหาร, ทุพภิกขภัย.
น. คนพวกนั้น (มักใช้ในทางดูหมิ่นดูแคลน).
สะดวก, ไม่ขาดแคลน, เช่น เขามีเงินใช้คล่องมืออยู่เสมอ.
ว. คลอนแคลน, ไม่แน่น, ไม่มั่นคง, กระง่อนกระแง่น ก็ว่า.
ก. ดูแคลน, ดูถูก, เช่น ตูจะให้สูทั้งหลายฆ่า ว่าผู้ดูชาดูแคลน แหนความเราจงมิด (ลอ).
ก. เก็บหรือกักไว้เพื่อกันขาดแคลนหรือหวังกำไรในการค้า เช่น ตุนสินค้า
น. การขาดแคลนอาหาร, ข้าวยากหมากแพง.
(ทุบพิกขะไพ) น. ภัยอันเกิดจากข้าวยากหมากแพงหรือการขาดแคลนอาหารในบ้านเมือง.
(ทุบพิกขันดอน, ทุบพิกขันดะระกับ) น. ระยะเวลาที่กำหนดไว้ว่าเป็นตอนที่ขาดแคลนอาหาร เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์มีโลภะหนา. (ป.). (ดู อันตรกัป ประกอบ).
น. บริเวณที่ดินของรัฐที่มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเป็นนิคมสร้างตนเอง เพื่อให้ราษฎรที่ขาดแคลนที่ดินทำกินได้มีที่ตั้งเคหสถานและประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักแหล่งในที่ดินนั้น.
น. บริเวณที่ดินของรัฐที่มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเป็นนิคมสหกรณ์ เพื่อให้ราษฎรที่ขาดแคลนที่ดินทำกินได้มีที่ตั้งเคหสถานและประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักแห่งในที่ดินนั้น โดยให้มีการก่อตั้งสหกรณ์ขึ้น.
น. ชื่อผึ้งชนิด Apis florea Fabricius ในวงศ์ Apidae เป็นผึ้งขนาดเล็ก ผึ้งงานลำตัวยาวประมาณ ๘ มิลลิเมตร อาศัยอยู่รวมเป็นฝูง ทำรังเป็นแผ่นเดี่ยว ๆ ตามกิ่งไม้ มักทิ้งรังเมื่อขาดแคลนอาหาร, มิ่ม นิ่ม หรือ นิ้ม ก็เรียก.
ว. ยากจน, ขาดแคลนไปทุกสิ่งทุกอย่าง เช่น คนยากไร้.
ว. มีสำรองไว้เผื่อขาดแคลน, มีสำรองไว้ไม่ให้ขาด, เช่น อาหารรองรัง.
ว. ฝืดเคือง, ขัดสน, ขาดแคลน, เช่น เขามีชีวิตอยู่อย่างแร้นแค้นขาดแคลนไปเสียทุกสิ่งทุกอย่าง.
ภิกษุตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไปร่วมกันทำสังฆกรรม แต่จำนวนภิกษุที่เข้าร่วมสังฆกรรมแต่ละอย่างไม่เท่ากัน คือในสังฆกรรมทั่ว ๆ ไป เช่น ในการสวดพิธีธรรม สวดอภิธัมมัตถสังคหะ ประกอบด้วยภิกษุ ๔ รูป เรียกว่า สงฆ์จตุรวรรค ในการรับกฐิน สวดพระปาติโมกข์ ปวารณากรรม และอุปสมบทในถิ่นที่ขาดแคลนภิกษุ ต้องประกอบด้วยภิกษุ ๕ รูป เรียกว่า สงฆ์ปัญจวรรค ในการอุปสมบทในถิ่นที่มีภิกษุมาก ต้องประกอบด้วยภิกษุ ๑๐ รูป เรียกว่า สงฆ์ทสวรรค และในการสวดอัพภานระงับอาบัติสังฆาทิเสส ต้องประกอบด้วยภิกษุ ๒๐ รูป เรียกว่า สงฆ์วีสติวรรค, ภิกษุที่เข้าร่วมสังฆกรรมดังกล่าว ถ้ามากกว่าจำนวนที่กำหนดจึงจะใช้ได้ ถ้าขาดจำนวนใช้ไม่ได้.
ก. เสียชั้นเชิงที่ผู้ชายพึงมีให้ผู้หญิงดูแคลน เช่น ถูกผู้หญิงหลอกจนขายหน้าอย่างนี้ เสียเชิงชายหมด.
(สะแหฺยะ) ก. อาการของปากที่แบะออก แสดงให้รู้ว่า เกลียด เกลียดกลัว เยาะเย้ย หรือ ดูแคลน.
ก. แสดงกิริยาท่าทาง พูด หรือเขียน เป็นเชิงดูถูกว่ามีฐานะต่ำต้อยหรือไม่ดีจริงไม่เก่งจริงเป็นต้น, ดูหมิ่น หรือ ดูหมิ่นถิ่นแคลน ก็ว่า.
(แหนฺ) ก. ปิด เช่น ตูจะให้สูงทั้งหลายฆ่า ว่าผู้ดูชาดูแคลน แหนความเราจงมิด ปิดความเราจงทั่ว (ลอ).
ว. ไร้, ไม่มี, เช่น นกไร้ไม้โหด, ยากไร้ เช่น เพราะเห็นกูโหดหืน แลดูแคลนกูกลใด ด่งงนี้ (ม. คำหลวง มัทรี).
(อะจะละ-) ว. ไม่หวั่นไหว, ไม่คลอนแคลน, เช่น อจลศรัทธา.
ก. ไม่มีจะกิน, ขาดแคลนอาหาร, มีไม่พอกิน.
(อัดตะ-) ก. มีน้อย, ขาดแคลน, เช่น อัตคัดผม อัตคัดน้ำ.
อ. คำที่เปล่งออกมาแสดงความดูแคลนหรือไม่เชื่อถือ.
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
การขาดแคลนExample:การลดลงอย่างต่อเนื่องของน้ำในลำธารหรือน้ำใต้ ดิน หรือแอ่งน้ำ ในอัตรามากกว่าการเติมเข้า การที่มีสิ่งนั้นไม่พอเพียง เช่น การขาดออกซิเจนหรือสารอาหาร [สิ่งแวดล้อม]
สภาพที่ปลอดจากความขาดแคลน[การทูต]
นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics)[การทูต]
หมายถึง ลำดับอาวุโสทางการทูต โดยถือยศหรือตำแหน่งเป็นบรรทัดฐาน โดยเฉพาะในโอกาสที่ไปร่วมพิธีต่าง ๆ ตลอดจนการเลี้ยงอาหารอย่างเป็นทางการ นักการทูตทั่วโลกต่างถือลำดับอาวุโสเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิถีพิถันกันไม่ น้อย เพราะในฐานะที่เป็นตัวแทนของประเทศ หากมีการจัดลำดับอาวุโสไม่ถูกต้อง เขาผู้นั้นซึ่งคำนึงถึงศักดิ์ศรีในฐานะตัวแทนของประเทศย่อมต้องรู้สึกว่า นอกจากจะไม่ได้รับความถูกต้องแล้ว ยังเป็นการดูแคลนประเทศของตนด้วยในสมัยก่อน ผู้ที่ทำหน้าที่ชี้ขาดในเรื่องลำดับอาวุโสของบรรดาประมุขของรัฐทั้งหลาย คือสมเด็จพระสันตะปาปา ต่อมาในการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาเมื่อปี ค.ศ. 1815 ที่ประชุมได้ตกลงกันให้ถือวันที่เดินทางมาถึงประเทศผู้รับ และได้แจ้งให้ทราบเป็นทางการว่าเป็นเรื่องลำดับอาวุโส ผู้ที่มาถึงก่อนย่อมมีอาวุโสกว่าผู้ทีมาทีหลัง อย่างไรก็ดี มาในทุกวันนี้มีหลายประเทศถือหลักว่า ผู้แทนทางการทูตที่ยื่นสารตราตั้งก่อนจะมีอาวุโสกว่าผู้ยื่นสารตราตั้งที หลัง และในกรณีที่เกิดความเห็นไม่ลงรอยกันระหว่างบุคคลในคณะทูตเรื่องลำดับอาวุโส ประเทศเจ้าภาพหรือประเทศผู้รับจะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดอนุสัญญากรุงเวียนนาว่า ด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติเกี่ยวกับลำดับอาวุโสของผู้แทนทางการ ทูตไว้ดังนี้ ?ข้อ 16 1. ให้หัวหน้าคณะผู้แทนมีลำดับอาวุโสในแต่ละชั้นของตนตามลำดับวันและเวลาที่ เข้ารับการหน้าที่ของตนในรัฐผู้รับ เมื่อตนได้ยื่นสารตราตั้ง หรือเมื่อได้บอกกล่าวการมาถึงของตนและได้เสนอสำเนาที่ถูกต้องของสารตราตั้ง ต่อกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงตามแนวปฏิบัติที่มีอยู่ในรัฐผู้รับ ซึ่งจะต้องใช้ในทำนองอันเป็นเอกรูป 2. การเปลี่ยนแปลงในสารตราตั้งของหัวหน้าคณะผู้แทน ซึ่งไม่เกี่ยวพันกับการเปลี่ยนแปลงชั้นใด ๆ จะไม่กระทบกระเทือนลำดับอาวุโสของหัวหน้าคณะผู้แทน 3. ข้อนี้ไม่เป็นที่เสื่อมเสียแก่ทางปฏิบัติใด ซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับ ในเรื่องลำดับอาวุโสของผู้แทนของโฮลี่ซี ข้อ 17 ลำดับอาวุโสของสมาชิกคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายทูตของคณะผู้แทนนั้น ให้หัวหน้าคณะผู้แทนเป็นผู้บอกกล่าวแก่กระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน?[การทูต]
การขาดแคลนแคลเซี่ยม[การแพทย์]
อาการขาดแคลน[การแพทย์]
การขาดแคลน[การแพทย์]
การขาดแคลนไอโอดีนในอาหารอันทำให้ต่อมธัยรอยด์โต[การแพทย์]
กล้ามเนื้อตาย, กล้ามเนื้อหัวใจตาย, ตาย, การขาดแคลนเลือดมาเลี้ยง, การตาย, ขาดเลือดเลี้ยง, ขาดเลือดมาเลี้ยง, การขาดเลือดเลี้ยง, เนื้อเยื่อตายจากการขาดเลือด[การแพทย์]
ขาดเลือดมาเลี้ยง; การขาดเลือด; การขาดเลือดเฉพาะแห่ง; การขาดเลือดมาเลี้ยง; โลหิตมาเลี้ยงไม่เพียงพอ; ขาดแคลนเลือดไปเลี้ยง; เลือด, ภาวะขาด; ภาวะขาดเลือด[การแพทย์]
โรคขาดอาหาร, ทุโภชนาการ, ทุพโภชนาการ, การขาดอาหาร, การขาดสารอาหาร, การขาดแคลนอาหารแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ, ภาวะทุพโภชนาการ, ขาดอาหาร[การแพทย์]
ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
อย่าเพิ่งดูแคลนลักษณะดาดๆของมันAladdin (1992)
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ที่หายไปเมื่อเวลาล่วงเลย นามสกุลในเวลส์ขาดแคลนอย่างมากThe Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain (1995)
ฉันไม่ต้องการที่จะมีส่วน ร่วมดูแคลน ดึอาโนท ของ ... แต่เขาก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ของการเดินทางGreystoke: The Legend of Tarzan, Lord of the Apes (1984)
-ผมเข้าใจดี ว่าคุณกับเพื่อน กำลังขาดแคลนเพื่อนเล่นลงทุกวันDay of the Dead (1985)
ผมยิ่งขาดแคลนกำลังพล ห้ามคุณเที่ยวฉีดยาคนของผมDay of the Dead (1985)
นึกถึงตอนช่วงสงคราม ตอนที่เราขาดแคลนเนื้อสัตว์Dirty Dancing (1987)
ข้าวสาลีก็ขาดแคลน.Mannequin (1987)
มันเป็นความขาดแคลนนโยบาย ที่จะเริ่มความยุ่งยากในที่แรกAkira (1988)
ผมทำเพราะว่าพวกเขาขาดแคลนปัจจัยRambo III (1988)
เราควรบอกแม่กับแคลนะTitanic (1997)
ไม่เอาน่า เขาไม่สอน ทอม แคลนซีย์ ในโรงเรียนหรอกAmerican History X (1998)
ต่อไปเป็นข่าวจากแนวหน้า น้ำมันและอาหารเริ่มจะขาดแคลนหนักขึ้นMalèna (2000)
อาจเกิดปัญหา อาหารขาดแคลนและโรคระบาดMalèna (2000)
ความเป็นไปได้ที่ประชากร 2 ใน 3 ของโลก จะขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดภายในปี ค.ศ. 2025 กระตุ้นให้เกิดการเผชิญหน้าขั้นต้นThe Corporation (2003)
3 ปี ก่อน เหตุการณ์ 11 กันยา , ทอม แคลนซี่ เขียนหนังสือเกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายYankee White (2003)
เค้าเข้าได้ดีกับแคลนะ, นั่นไงเค้าล่ะRice Rhapsody (2004)
นี่ไม่ได้หมายความว่าผมดูหมิ่นดูแคลนคุณนะSaw (2004)
ดูเหมือนว่าที่นั่น จะขาดแคลนหญ้าหรืออะไรสักอย่างMatch Point (2005)
นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าน้ำขาดแคลน เป็นเพราะฝนแล้งมากว่า2ปีV for Vendetta (2005)
นอกรีต เหยียดผิว กลุ่มคูคลักซ์แคลนThe Da Vinci Code (2006)
ใขขณะที่การย้อมผ้าเป็นที่ขาดแคลน ไม่มีช่างใน โชซอน และการนำเข้าผ้าย้อม มีราคาสูงอยู่ นั่นจึงทำให้ช่วงหนึ่ง คนทั้งประเทศต้องใส่แต่สีขาวDasepo Naughty Girls (2006)
และภายในครึ่งศตวรรษต่อไป ประชากร 40% บนโลก กำลังจะต้องเผชิญหน้ากับการขาดแคลนอย่างรุนแรง เพราะการละลายนี้An Inconvenient Truth (2006)
ยังไม่ขาดแคลนน้ำตาล เราขายขนม อัมพัน และ คาซึตเทระ ด้วยLetters from Iwo Jima (2006)
เราขาดแคลนข้าวของทำกิน แม้เสื้อผ้าที่เราใส่ก็ไม่เว้นLetters from Iwo Jima (2006)
เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเกลือ และทำให้เขาได้เกลือกลับมาEpisode #1.43 (2006)
ภรรยาคุณดูแคลนฉันนะBlair Waldorf Must Pie! (2007)
เนื่องจากตอนนี้เรากำลังขาดแคลนคนไข้ที่น่าศึกษาคนนีง เราควรที่จะมาช่วยกันหาสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับบัดดี้ แอปเซ่น ปี 1938The Right Stuff (2007)
ตอนนี้เมืองอยู่ในสภาวะขาดแคลนเสบียง น้ำมัน และโบท็อกThe Simpsons Movie (2007)
อัลม่าเลยได้รู้ว่า เธอได้แต่งงานกับ ผู้ชายคนที่ดูแคลนเธอตลอดเวลาNo Fits, No Fights, No Feuds (2007)
ไอ้บ้าเอ๊ย นั่นกองไฟพวก KKK ใช่มั้ย (KKK คูคลักซ์แคลน องค์การต่อต้านคนผิวดำ)Harold (2008)
แต่พวกแคลนก็รู้วิธีที่จะปาร์ตี้กันHarold (2008)
พวกแคลนก็รู้วิธีที่จะปาร์ตี้กัน - แก เราต้องออกไปจากที่นี่ - เอาล่ะ เพื่อน ใจเย็นHarold (2008)
คงไม่มั้ง พวกแคลนวิ่งช้าจะตายHarold (2008)
ชีวิตน่ะเล็กนิดเดียว ขาดแคลน วุ่นวายMonster Movie (2008)
U.N.O.S.ขาดแคลนอวัยวะอยู่There's No 'I' in Team (2008)
คุณอาจต้องประกาศ ขาดแคลนพยาบาลThe Itch (2008)
อาหารและน้ำ ขาดแคลน พวกเราปันส่วนอาหารให้แต่พวกเขาก็ยังขาดแคลนThe Labyrinth of Gedref (2008)
สาธารณรัฐ คงขาดแคลนเจไดซินะDuel of the Droids (2008)
ฉันเคยดูแคลนพวกเมอรี่เวธเธอร์ แต่เมื่อได้พบเธอ ทุกสิ่งมันเปลี่ยนไป...The Secret of Moonacre (2008)
ไอ้บ้าเอ๊ย นั่นกองไฟพวก KKK ใช่มั้ย (KKK คูคลักซ์แคลน องค์การต่อต้านคนผิวดำ)Harold & Kumar Escape from Guantanamo Bay (2008)
โรลดี้ ฉันไม่เคยคิดว่า ฉันจะพูดแบบนี้ในล้านปีนี้ แต่พวกแคลนก็รู้วิธีที่จะปาร์ตี้กันHarold & Kumar Escape from Guantanamo Bay (2008)
พวกแคลนก็รู้วิธีที่จะปาร์ตี้กันHarold & Kumar Escape from Guantanamo Bay (2008)
คงไม่มั้ง พวกแคลนวิ่งช้าจะตายHarold & Kumar Escape from Guantanamo Bay (2008)
แต่ที่ขาดแคลนคือผู้ที่กล้าพลีชีพBody of Lies (2008)
ก็เป็นการยากที่จะไม่ให้ถูกดูแคลนต่อเรื่องนี้Frost/Nixon (2008)
การขาดแคลน ไม่เลวร้าย อย่างที่ทุกคนคิดCity of Ember (2008)
ลอนดอน และชิคาโก้ เนื่องจากขาดแคลนปัจจัย ในการปะทังชีพ อาทิ เชื้อเพลิง อาหาร และน้ำดื่มสะอาด หลายฝ่ายชี้ประเด็นไปที่The Day the Earth Stood Still (2008)
อาจทำให้เกิดการประท้วงเนื่องจากภาวะขาดแคลนอาหารSafe and Sound (2008)
เราลืมไปว่าทรัพยากรขาดแคลนHome (2009)
อินเดียเป็นประเทศที่เสี่ยงที่สุด ต่อการขาดแคลนน้ำในศตวรรษหน้าHome (2009)
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
[dūkhlaēn] (v) EN: insult
[dūmindūkhlaēn] (v) EN: insult
[dūthūkdūkhlaēn] (v) EN: look down upon ; underestimate ; disparage ; disdain ; slight ; insult ; snub ; affront
[kān khātkhlaēn] (n) EN: shortage ; lack  FR: pénurie [ f ]
[khātkhlaēn] (v) EN: lack of ; be short of ; be deficient  FR: manquer ; faire défaut
[khwām khātkhlaēn] (n) EN: lack ; shortage  FR: manque [ m ] ; pénurie [ f ]
[khwām khātkhlaēn khrū] (n, exp) FR: manque de professeurs [ m ] ; pénurie d'enseignants [ f ]
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
(n)คำปรามาสSee Also:คำดูแคลนSyn.insult, indignity, offense
(adj)ปราศจากพืชผลSee Also:แห้งแล้ง, ขาดแคลน
(phrv)ขาดแคลนSee Also:ขาด, อดอยากSyn.be started of
(idm)ขาดแคลนสิ่งที่จำเป็นSyn.take short
(phrv)ขาดแคลนSee Also:ขาด
(n)ความขาดแคลนSee Also:ความอัตคัดSyn.poverty, scantiness
(n)ความขาดแคลนSyn.insufficiency, scantnessAnt.abundance, surplus
(adj)ปราศจากสิ่งจำเป็น (เช่น อาหาร เงิน และ อื่นๆ)See Also:ขาดแคลนSyn.dispossed, stripped
(vt)เหยียดหยามSee Also:ดูหมิ่น, ดูถูก, ดูแคลนSyn.abhor, contemn, detestAnt.love, like
(adj)ซึ่งขาดแคลนมากSee Also:ปราศจากบางอย่างโดยสิ้นเชิงSyn.bare, void
(n)ความแห้งแล้งSee Also:ความขาดแคลนSyn.rainlessness, scarcity
(n)ภาวะข้าวยากหมากแพงSee Also:ความขาดแคลนอาหาร, ความอดอยากSyn.scarcity, starvation
(phrv)ขาดแคลนSee Also:ไม่เพียงพอ
(n)สภาวะที่ขาดแคลนบุคลากรหรือเงินอย่างรุนแรง
(n)สภาวะที่ขาดแคลนบุคลากรหรือเงินอย่างรุนแรง
(idm)หายากSee Also:ขาดแคลน
(idm)ถ้าเราไม่ใช้ฟุ่มเฟื่อย เราก็จะไม่ขาดแคลนในสิ่งนั้น
(n)ความขาดแคลนSee Also:ความไม่เพียงพอSyn.deficiency, inadequacyAnt.adequacy, sufficiency
(adj)ขาดแคลนSee Also:ไม่เพียงพอSyn.deficient, inadequateAnt.adequate, sufficient
(phrv)ต้องการSee Also:ขาด, ขาดแคลนSyn.want for
(adj)ขาดแคลนSee Also:ไม่เพียงพอ
(vt)จัดการ (โดยเฉพาะกับสถานการณยุ่งยากเพราะขาดแคลนบางสิ่งเช่น ทรัพย์สมบัติ, เงิน)Syn.conduct, carry on
(adv)อย่างขาดแคลนSyn.scantly, skimpily
(n)ความขาดแคลนSyn.scarcity, need, poverty
(adj)ขาดแคลนSyn.meager, scanty, deficient, insufficient
(adj)ขาดแคลนSyn.lacking, starved
(n)ความต้องการSee Also:ความจำเป็น, ความขาดแคลนSyn.poverty, indigence
(n)โรคขาดแคลนสารไนอาซินSyn.malnutrition, bulimia nervosa
(n)ความยากจนSee Also:ความขาดแคลนSyn.need, poverty, starvation
(n)การขาดแคลนซึ่งสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตSyn.want, poverty
(adj)คลอนแคลนSee Also:โยกเยก, โคลงเคลงSyn.crambling, rickety
(phrv)ไม่มีสำรองSee Also:ขาดแคลนSyn.be out of, give out
(phrv)ขาดแคลนSee Also:มีไม่พอSyn.run low
Hope Dictionary
(แอบ' เซินซฺ') n. การไม่อยู่, ระยะเวลาที่ไม่อยู่, การไม่ปรากฏตัว, การไม่มีตัวตน, การขาด, การขาดแคลนSyn.inexistence, nonexistenceAnt.presence, adequacy
(adj. แอบ'เซินทฺ vt. แอบเซนทฺ') ไม่อยู่, ขาด, ลาหยุด, ไม่ได้มาร่วมด้วย, ไม่สนใจ, ใจลอย, ขาดแคลน -vt. ทำให้ขาด -absentation, absentness n.Syn.missingAnt.present
(คำเสริมหน้า) ซึ่งหมายถึง ไม่, ปราศจาก, ขาดแคลนSyn.not, without
(แอฟ'วิดิน) n. โปรตีนชนิดหนึ่งในไข่ขาวเป็นตัวยับยั้งฤทธิของ biotin ทำให้เกิดการขาดแคลน biotin; vitamin H (Cf. egg-white)
(อะเว'โซ) n. ข่าว, คำแนะนำ (dispatch) แคลนวิตามิน -avitaminotic, adj.
(เอไวทะมิโน'ซิส) n. ภาวะขาดแคลนวิตามิน -avitaminotic, adj.
(บาร์'เริน) adj. แห้งแล้ง, ปราศจากพืชผล, ไม่ได้ผล, ไม่มีบุตร, เป็นหมัน, ขาดแคลน, ไม่น่าสนใจ, ไร้ความคิด, จืดชืดSyn.sterileAnt.fertile, creative
(บิลิท'เทิล) { belittled, belittling, belittles } vt. ดูถูก, ดูแคลน, ทำให้ความสำคัญลดน้อยลงSee Also:belittler n. ดูbelittleSyn.derideAnt.promote
(เบอ'รีเบอ'รี) n. โรคเหน็บชา เนื่องจากขาดแคลนวิตามินบี1See Also:beriberic adj. ดูberiberi
(แคลน) n. เผ่า, เผ่าพันธุ์, วงศ์, วงศ์ตะกูล, ชาติวงศ์, ครอบครัว, กลุ่มคน, พวก, พ้อง
(แคลนเดส'ทิน) adj. ลับ ๆ , ลี้ลับ, ส่วนตัว, ไม่เปิดเผย.See Also:clandestineness n.Syn.hidden
(ครีท'เทิน, ครี'ทิน) n. คนแคระ (เนื่องจากขาดแคลนน้ำคัดหลั่งจากต่อมไธรอยด์แต่กำเนิด) , โง่, จิตบกพร่องSee Also:cretinoid adj. ดูcretin cretinous adj. ดูcretin
(เครท'ทินิสซึม) n. โรคเรื้อรังที่เป็นภาวะการขาดแคลนน้ำคัดหลั่งจากต่อมไธรอยด์แต่กำเนิด ทำให้มีร่างแคระและผิดส่วน จิตบกพร่องและโง่
(เดิร์ธ) n. ความขาดแคลน, ความอดหยากSyn.scarcityAnt.abundance
(ดิฟิช'เชินซี) n. ภาวะที่ขาดแคลน, ความขาดแคลน, ความไม่สมบูรณ์, ความไม่เพียงพอ, ปริมาณที่ขาดแคลน, ส่วนที่ไม่พอSyn.lack
โรคขาดแคลนธาตุอาหาร
(ดิฟิช'เชินทฺ) adj. ขาดแคลน, ไม่เพียงพอ, บกพร่องSyn.scarce
(เดฟ'ฟิซิท) n. ปริมาณที่ขาด, จำนวนที่ขาด, การขาดแคลน, การขาดดุล, การขาดทุน
(เดสทิทิว'เชิน) n. การขาดแคลน, ความอดอยาก, ความยากจน.See Also:destitute adj.
(ดิวอยดฺ') adj. ขาดแคลนSyn.lacking
(เดราทฺ, เดราธฺ) n. ฤดูแล้ง, การขาดแคลนที่ยาวนาน, ความกระหายน้ำ
(เดราทฺ, เดราธฺ) n. ฤดูแล้ง, การขาดแคลนที่ยาวนาน, ความกระหายน้ำ
(เฟล) { failed, failing, fails } vi. ส้มเหลว, ไม่สามารถ, ได้ต่ำกว่ากำหนด, สอบตก, ขาดแคลน, ล้ม, อ่อนกำลัง, เสื่อมถอย, ไม่สามารถชำระหนี้ได้, แตก, หยุด, ใช้การไม่ได้. vt. ไม่สามารถ, ทำให้ผิดหวัง, ได้น้อยกว่าที่กำหนด. -n. ความล้มเหลว. -without fail แน่นอน คำที่มีความหมายเห
(เฟ'เลียร์) n. ความล้มเหลว, การสอบตก, การได้ต่ำกว่าที่กำหนด, การขาดแคลน, ความเสื่อมถอย, ภาวะล้มละลาย, ผู้ที่ล้มเหลว, สิ่งที่ล้มเหลว
(อินอะนิซ' เชิน) n. ความขาดแคลน, การขาดอาหาร, การบำรุงเลี้ยงไม่เพียงพอ, ภาวะอ่อนจิต, การด้อยศีลธรรม, ความว่างเปล่า
(อินซัฟฟีช'เชินซี) n. ความไม่เพียงพอ, ความขาดแคลน.
(จิจูน') adj. ขาดแคลนคุณค่าทางอาหาร, ไม่น่าสนใจ, น่าเบื่อ, ยังไม่เจริญ, เติบโตเต็มที่.
(คู'คลัคซฺ'แคลน) n. องค์การลับในอเมริกาที่มีจุดประสงค์ส่งเสริมความรักชาติอเมริกัน
(แลค) { lacked, lacking, lacks } n. การขาดแคลน, ความไม่มี, ความบกพร่อง. v. ขาดแคลน, ขาด, ไม่มี, มีน้อย
(ลีน) { leaned/leant, leaned/leant, leaning, leans } vi. เอียง, เอน, ลาด, โน้มเอียง, พาดพิง, พึ่งพา. vt. เอียง, เอน, ทำให้เอียง, ทำให้เอน n. การเอียง, การเอน, ส่วนของเนื้อที่มีเนื้อมากกว่ามัน, ส่วนที่ผอม, ส่วนที่ไม่ค่อยมีเนื้อ adj. ผอม, ไม่ค่อยมีเนื้อ, ไม่ค่อยเต็ม, ไม่อุดมสมบูรณ์, ขาดแคลน, ซึ่งมีสารมีสีมากกว่าน้ำมัน
(แมลนิวทริช'เชิน) n. การขาดแคลนโภชนาการ, ภาวะการขาดแคลนอาหาร
(มี'เกอะ) adj. ขาดแคลน, น้อย, ไม่พอเพียง, ยากจน, ผอมSee Also:meagerness n. meagreness n.Syn.poor, scanty
(มี'เกอะ) adj. ขาดแคลน, น้อย, ไม่พอเพียง, ยากจน, ผอมSee Also:meagerness n. meagreness n.Syn.poor, scanty
(ไม'นัส) prep., adj. ลบ, ลบออก, ปราศจาก, ไร้, เป็นลบ. n. เครื่องหมาย"-", จำนวนลบ, การขาดแคลน, การสูญเสีย
(มิส'ซิง) adj. ขาดแคลน, ไม่มา, ไม่พบ, หายไปSyn.lost, absent, away, gone
(นีด) { needed, needing, needs } n. ความจำเป็น, ความต้องการ, สิ่งที่ต้องการ, สิ่งที่ขาดแคลน, ความคับขัน, ความขัดสน if need be ในกรณีจำเป็น vt., vi. มีความจำเป็น, จำเป็น, ต้องการ, ประสงค์.See Also:needer n.
(ออลลิจี'เมีย) n. ภาวะการขาดแคลนโลหิต
(พะเล'กระ, พะแลก'กระ) n. โรคที่เนื่องจากการขาดแคลนniacinในอาหารการกิน, ทำให้ผิวหนังเป็นจ้ำ ๆ มีสีม่วงและอาการท้องร่วง.See Also:pellagrose adj. pellagrous adj.
(พัวร์) adj. ยากจน, ขาดแคลน, ขัดสน, เลว, น่าสงสาร, น่าสังเวช, ไม่มีรสชาติ, ไม่ดีพอ, ไม่สมบูรณ์, ไม่สำคัญ. n. คนจนSee Also:poorly adv.Syn.needy, indigent, penniless
(พอฟ'เวอที) n. ความยากจน, ความขาดแคลน, ความขัดสน, ความไม่พอเพียงSyn.indigence, lack
(ไพรเว'เชิน) n. การขาดแคลนสิ่งจำเป็นในการดำรงชีพ, การขาดแคลน, ความคับแค้น, การเพิกถอนSyn.want, need
(ไพรเว'ทิฟว) adj. ขาดแคลน, ขัดสน, คับแค้น, ซึ่งถูกถอดถอน.Syn.causing
(ริค'คิทซฺ) n. โรคกระดูกอ่อนมักเป็นกับเด็กเนื่องจากการขาดแคลนวิตามิน-ดีและแคลเซียม
(สแคนทฺ) adj. ขาดแคลน, ไม่พอเพียง, มีน้อย, เกือบไม่มี. vt. ทำให้ขาดแคลน, ทำให้ลดน้อยลง, ทำให้ไม่เพียงพอ, กระทำอย่างไม่เพียงพอSee Also:scantly adv. scantness n.Syn.scanty, meager, sparse, restrict
(สแคน'ที) adj. ขาดแคลน, ไม่พอเพียง, มีน้อย, เกือบไม่พอ.See Also:scantily adv. scantiness n.Syn.few, scarce
(สแคสฺ) adj. ขาดแคลน, ไม่เพียงพอ, หายาก, ไม่ค่อยพบ -Phr. (make oneself scarce จากไป (โดยเฉพาะอย่างกะทันหัน)) . adv. อย่างขาดแคลน, อย่างไม่เพียงพอ.See Also:scarceness n.
(สแคสฺ'ลี) adv. อย่างขาดแคลน, อย่างไม่เพียงพอ, หายาก, ไม่ค่อยพบ, บอบบาง, เกือบจะไม่, แทบจะไม่, ไม่สู้จะSyn.just, barely
(สแคส'ซิที) n. ความขาดแคลน, ความไม่เพียงพอ, การมีน้อย, การหายาก
(ชอร์ท) adj. สั้น, เตี้ย, ต่ำ, ย่อ, ตื้น, ลุ่น, ห้วน, ระยะสั้น, สังเขป, ใกล้, ไม่นาน, ขาดแคลน, ขาด, ไม่ถึง, ไม่พอ, ไม่ดีพอ, อ่อน, น้อย, เปราะ, บอบบาง (เสียง) , ไม่เน้น, short of น้อยกว่า, เลวกว่า, ไม่เพียงพอ adv. กะทันหัน, ทันใดนั้นเอง, ฉับพลัน, สั้น ๆ , ย่อ ๆ , โดยสังเขป, ใกล้, ย่น, ไม่ถึง
(ชอร์ท'ทิจฺ) n. ความขาดแคลน, ความไม่เพียงพอ, จำนวนที่ไม่เพียงพอ, จำนวนที่ขาดSyn.deficiency, shortfall, deficit
Nontri Dictionary
(n)ความแห้งแล้ง, ความขาดแคลน, ความเป็นหมัน
(vt)ดูถูก, ดูแคลน, เหยียดหยาม
(n)ความขาดแคลน, ภาวะข้าวยากหมากแพง, ความอดอยาก
(n)การผิดสัญญา, การไม่ทำตาม, การละเลย, ความขาดแคลน
(vt)ผิดสัญญา, ผิดนัด, ไม่ปฏิบัติตาม, ละเลย, เพิกเฉย, ขาดแคลน
(n)ความขาดแคลน, ข้อบกพร่อง, ความไม่สมบูรณ์
(adj)ขาดแคลน, บกพร่อง, ไม่พอ
(n)ความขาดทุน, จำนวนที่ขาด, การขาดแคลน
(adj)อัตคัด, ขาดแคลน, ยากจน, อดอยาก, ไม่เพียงพอ, สิ้นเนื้อประดาตัว
(n)ความอัตคัด, ความขาดแคลน, ความยากจน, ความอดอยาก
(adj)ขาด, ว่างเปล่า, ไม่มี, ขาดแคลน
(vi, vt)อดอยาก, ขาดแคลน, อดตาย
(n)ความว่างเปล่า, ความขาดแคลน, ความอิดโรย
(adj)ยากจน, ขัดสน, ไม่พอใช้, ขาดแคลน
(n)ความไม่เพียงพอ, ความไม่พอเพียง, ความขาดแคลน
(adj)ไม่เพียงพอ, ไม่พอเพียง, ขาดแคลน
(n)ความขาดแคลน, ความไม่มี, ความไม่เพียงพอ, ความบกพร่อง
(vt)ไม่มี, ขาดแคลน, บกพร่อง, ไม่พอ
(adj)ไม่มี, บกพร่อง, ขาดแคลน, ไม่เพียงพอ
(adj)ผอม, น้อย, ซูบซีด, พร่อง, ขาดแคลน, ฝืดเคือง, ไม่บริบูรณ์
(n)ความผอม, ความขาดแคลน, ความซูบซีด, ความไม่อุดมสมบูรณ์
(n)การขาดแคลนอาหาร
(adj)น้อย, ผอม, ขาดแคลน, ไม่พอเพียง
(adj)ยากจน, ขาดแคลน, จำเป็น, ซึ่งต้องการมาก
(adj)ขัดสน, อัตคัด, ขาดแคลน, แห้งแล้ง
(n)ความขัดสน, ความอัตคัด, ความขาดแคลน, ความแห้งแล้ง
(adj)ไม่เพียงพอ, ขาดแคลน, มีน้อย
(vt)ตัดทอน, จำกัด, ทำให้ขาดแคลน
(adv)อย่างมีน้อย, อย่างขาดแคลน, อย่างจำกัด
(n)ความไม่เพียงพอ, ความขาดแคลน, ความจำกัด
(adj)น้อยมาก, ขาดแคลน, ไม่เพียงพอ, จำกัด
(adj)หายาก, ไม่เพียงพอ, ไม่ค่อยมี, ขาดแคลน
(n)การหายาก, ความไม่เพียงพอ, ความขาดแคลน
(n)ความขาดแคลน, ความไม่เพียงพอ, จำนวนที่ขาด
(vt)ดูหมิ่น, ดูถูก, ดูแคลน, มองข้าม
(adv)อย่างดูแคลน, อย่างดูถูก
(n)สิ่งขาดแคลน, สิ่งชดเชย
(n)ความต้องการ, ความปรารถนา, ความอยาก, ความขาดแคลน
(adj)บกพร่อง, ขาดแคลน, ไม่มี
Longdo Approved DE-TH
(n)|der, pl. Mängel, an + D| การขาดแคลน(สิ่งที่จำเป็น) เช่น Der Patient leidet unter Mangel an weissen Blutkörperchen. คนไข้ป่วยเนื่องจากขาดเม็ดเลือดขาว
เพิ่มคำศัพท์
add
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ