371 ผลลัพธ์ สำหรับ 

*ความไม่*

 ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น: ความไม่, -ความไม่-
Longdo Unapproved TH - TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
อย่าหาทำ
(slang)อย่าได้คิดจะทำ อย่าได้ทำ, ​ แสดงถึงความไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งในการที่ผู้พูดจะทำสิ่งนั้น
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
(n)ignoranceSee Also:unawarenessAnt.ความรู้Example:ภาษาย่อมเปลี่ยนแปลงได้แต่มิใช่การเปลี่ยนแปลงเอาง่ายๆ เพราะความไม่รู้
(n)dissatisfactionSee Also:displeasure, discontentAnt.ความพอใจExample:การสร้างเขื่อนของรัฐบาลสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน
(n)unbalanceSee Also:imbalanceAnt.ความสมดุลExample:รัฐบาลเร่งแก้ไขความไม่สมดุลของรายรับรายจ่ายของประเทศThai Definition:ความไม่เท่าเทียมกัน
(n)inconvenienceSee Also:troublesomeness, uncomfortablenessSyn.ความติดขัด, อุปสรรคAnt.ความสะดวก, ความไม่ติดขัดExample:การซ่อมถนนทำให้เกิดความไม่สะดวกต่อประชาชนในละแวกนั้น
(n)uncertaintySee Also:dubiousitySyn.ความไม่เที่ยงAnt.ความแน่นอนExample:สังขารคือความไม่แน่นอนของชีวิต
(n)inequalitySee Also:unfairnessSyn.ความไม่เท่าเทียมกันAnt.ความเสมอภาค, ความยุติธรรม, ความเท่าเทียมกันExample:ยังมีความไม่เสมอภาคหลงเหลืออยู่ในสังคมทุกแห่งบนโลก
(n)distrustfulnessSee Also:untrustworthiness, trustlessnessSyn.ความคลางแคลง, ความสงสัย, ความไม่ไว้ใจAnt.ความไว้วางใจExample:ลักษณะเจตนคติของผู้ที่ชอบเยาะเย้ยผู้อื่นมักจะมีพลังผลักดันมาจากความไม่ไว้วางใจ
(n)suspiciousnessSee Also:strangeness, oddness, queerness, peculiaritySyn.ความผิดปกติExample:สื่อมวลชนนำเสนอความไม่ชอบมาพากลในการประมูลอย่างครึกโครม
(n)agitatorSee Also:instigator, troublemaker, firebrand, rabble-rouser, stirrerSyn.ผู้ก่อกวนExample:แผนนี้เป็นน้ำมือของผู้ก่อความไม่สงบที่กำลังพยายามจะโค่นรัฐบาลUnit:คน, กลุ่มThai Definition:บุคคลที่ก่อให้เกิดความรำคาญหรือความวุ่นวายให้เกิดขึ้น
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ว. อาการที่กล่าวกระทบกระแทกหรือประชดเพราะความไม่พอใจ.
ว. คำแสดงความไม่แน่ใจ, คำแสดงความคาดคะเน, (ใช้ไว้ท้ายประโยค) เช่น เป็นเช่นนี้กระมัง, ในบทกลอนใช้ว่า กระหมั่ง ก็มี.
ว. อาการที่ส่งเสียงร้องเอะอะเป็นการประท้วงหรือแสดงความไม่พอใจเป็นต้น, โวยวาย ก็ว่า.
ก. หาความไม่ดีใส่ให้, หาอุบายให้ร้ายโดยวิธีต่าง ๆ, แกล้งใส่ความ.
(ขะหฺยุกขะหฺยิก) ก. ไม่อยู่นิ่ง ๆ ขยับไปขยับมา (ใช้ในอาการที่แสดงถึงความไม่เรียบร้อย) เช่น นั่งขยุกขยิก, โดยปริยายหมายถึงลักษณะที่เขียนไม่เรียบร้อย อ่านยากหรืออ่านไม่ออก เช่น เขียนลายมือขยุกขยิก.
น. หน้า (ใช้แสดงความไม่ชอบหรือรังเกียจ) เช่น เกลียดขี้หน้า เบื่อขี้หน้า.
ความไม่เชื่อมั่นว่าตนเองมีฐานะหรือความสามารถเท่าเทียมผู้อื่น.
ก. แสดงความไม่พอใจด้วยการตวัดสายตา.
ก. ทักท้วงแสดงความไม่เห็นด้วย.
น. ระบบเศรษฐกิจการเมืองและสังคมแบบหนึ่งของลัทธิสังคมนิยมที่มีอุดมการณ์ให้รวมทรัพย์สินทั้งปวงเป็นสมบัติส่วนกลางของชุมชน ไม่ให้มีกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล และให้จัดสรรรายได้แก่บุคคลอย่างเสมอภาคกัน ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาความทุกข์ยากของคนในสังคมอันเป็นผลจากความไม่เสมอภาคในทรัพย์สิน, ผู้ที่นิยมระบบคอมมิวนิสต์.
ความไม่เข้าใจกันของคนที่มีความคิด ฐานะ หรืออื่น ๆ ที่แตกต่างกัน เช่น ช่องว่างระหว่างคนมั่งมีกับคนยากจน ช่องว่างระหว่างวัย.
ว. เผื่อว่า, บางทีแสดงถึงความไม่แน่นอน, เช่น ซื้อลอตเตอรี่ไว้สักใบเถิด ชะดีชะร้ายจะถูกรางวัล, โดยปรกติมักใช้ในลักษณะเหตุการณ์ที่สังหรณ์หรือกริ่งเกรงว่าอาจจะเกิดขึ้นตามที่คาดไว้ เช่น ชะดีชะร้ายก็จะตายเสียกลางทาง.
ก. ย่ำถี่ ๆ เช่น ทหารซอยเท้าอยู่กับที่ เด็กซอยเท้าแสดงความไม่พอใจเมื่อไม่ได้ของเล่น
คำแสดงความไม่แน่ใจ, อาจได้อาจเสีย, เสี่ยงได้เสี่ยงเสีย, เช่น ดีไม่ดีเขาอาจได้เป็นอธิบดี.
คำแสดงความไม่พอใจเป็นเชิงประชดหรือแดกดัน.
อ. เสียงที่เปล่งออกมาแสดงความไม่พอใจ เช่น ดูรึเห็นคนอื่นดีกว่าลูกเมีย.
อ. เสียงที่เปล่งออกมาแสดงความไม่พอใจ เช่น ดูหรือมาเป็นไปได้.
ว. ใช้ประกอบคำอื่นแสดงความไม่เจาะจงหรือเป็นคำถาม เช่น คนใด เมื่อใด.
(-ลัก) น. ลักษณะที่เป็นสามัญทั่วไป ๓ ประการ คือ ความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความมิใช่ตัวตนที่แท้จริง.
น. จริยาวัตรที่พระเจ้าแผ่นดินทรงประพฤติเป็นหลักธรรมประจำพระองค์ หรือคุณธรรมของผู้ปกครองบ้านเมือง มี ๑๐ ประการ ได้แก่ ๑. ทาน–การให้ ๒. ศีล–การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย ๓. บริจาค–ความเสียสละ ๔. อาชชวะ–ความซื่อตรง ๕. มัททวะ–ความอ่อนโยน ๖. ตบะ–การข่มกิเลส ๗. อักโกธะ–ความไม่โกรธ ๘. อวิหิงสา–ความไม่เบียดเบียน ๙. ขันติ–ความอดทน ๑๐. อวิโรธนะ–ความไม่คลาดจากธรรม.
(ทุกขะ-) น. ความยากลำบาก, ความไม่สบายกายไม่สบายใจ, ความทนได้ยาก, ความทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้.
อ. คำที่เปล่งออกมาแสดงความไม่พอใจ ติเตียน หรือดูถูก.
น. ทูตของเทพ คือสิ่งที่เป็นสัญญาณเตือนให้ระลึกถึงคติธรรมดาของชีวิต เพื่อให้เกิดความสังเวชและรีบเร่งทำความดีด้วยความไม่ประมาท เช่น เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จประพาสอุทยานพบเทวทูต ๓ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย ทำให้เกิดความสังเวช ต่อมาได้พบเทวทูตที่ ๔ คือสมณะ ทำให้คิดออกบวช.
(โทด, โทดสะ-) น. ความไม่ดี, ความชั่ว, เช่น โทษแห่งความเกียจคร้าน, ความผิด เช่น กล่าวโทษ, ผลแห่งความผิดที่ต้องรับ เช่น ถูกลงโทษ, ผลร้าย เช่น ยาเสพติดให้โทษ.
ความมีอิสระในตัว, ความไม่เป็นทาส, เช่น เราเป็นไทไม่ใช่ทาส.
คำเปล่งแสดงความไม่พอใจ เช่น น้อยหรือทำได้, ตัดพ้อต่อว่าด้วยความเอ็นดู เช่น น้อยหรือช่างว่า.
(นิปะริยาย) น. ความไม่อ้อมค้อม, ความตรง, ตรงข้ามกับ ปริยาย คือ อย่างอ้อม.
ก. ทำหน้าย่นขมวดคิ้วแสดงความไม่พอใจหรือรู้สึกเจ็บเป็นต้น.
อ. คำที่เปล่งออกมาแสดงความไม่พอใจหรือประหลาดใจเป็นต้น, อุบ๊ะ ก็ว่า.
ก. กำลังจะร้องไห้ เช่น เด็กน้อยพอหันมาไม่พบแม่ก็เบะ, เหยียดปากแสดงความไม่ชอบใจหรือระอาใจเป็นต้น เช่น เห็นอาหารไม่ถูกใจ เขาก็เบะปาก.
ก. แกล้งทำให้เกินควรหรือพูดแดกดันเพราะความไม่พอใจ เช่น หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว พูดประชด, ประชดประชัน ก็ว่า, ในกลอนใช้ว่า ประทยด หรือ ประเทียด ก็มี.
น. บุคคลที่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลและพยายามก่อความไม่สงบขึ้นในที่ต่าง ๆ.
บางที (แสดงความไม่แน่นอน) เช่น พอดีพอร้ายไม่ได้ไป.
ก. แสร้งพูดใส่ความไม่จริงให้คนอื่น, กล่าวหาความ, บางทีก็ใช้มีสร้อยว่า พาโลโสเก หรือ พาโลโฉเก.
ก. พูดค่อย ๆ จับความไม่ได้ เช่น เขาพึมพำอยู่คนเดียว.
(มะโนสุดจะหฺริด) น. ความประพฤติชอบทางใจ มี ๓ อย่าง ได้แก่ ความไม่โลภอยากได้ของของผู้อื่น ๑ ความไม่พยาบาท ๑ ความเห็นถูกตามทำนองคลองธรรม ๑.
(มน, มนละ-) น. ความมัวหมอง, ความสกปรก, ความไม่บริสุทธิ์
(มนทิน) น. ความมัวหมอง, ความด่างพร้อย, ความไม่บริสุทธิ์.
วุ่นวาย, เกิดความไม่สงบ, เช่น บ้านเมืองระส่ำระสาย.
น. จริยาวัตรที่พระเจ้าแผ่นดินทรงประพฤติเป็นหลักธรรมประจำพระองค์ หรือคุณธรรมของผู้ปกครองบ้านเมือง เรียกว่า ทศพิธราชธรรม มี ๑๐ ประการ ได้แก่ ๑. ทาน–การให้ ๒. ศีล–การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย ๓. บริจาค–ความเสียสละ ๔. อาชชวะ–ความซื่อตรง ๕. มัททวะ–ความอ่อนโยน ๖. ตบะ–การข่มกิเลส ๗. อักโกธะ–ความไม่โกรธ ๘. อวิหิงสา–ความไม่เบียดเบียน ๙. ขันติ–ความอดทน ๑๐. อวิโรธนะ–ความไม่คลาดจากธรรม.
น. ความไม่ดี เช่น ใส่ร้าย ป้ายร้าย ให้ร้าย.
น. ความไม่สบาย, ความเสียดแทง
ก. อาการที่เดินกระแทกส้นเท้าแสดงความไม่พอใจเป็นต้น.
ว. อาการที่พูดเร็วรัวจนจับความไม่ได้.
ว. คำที่เปล่งออกมาแสดงความไม่พอใจหรือผิดหวังเป็นต้น เช่น แล้วกันกินขนมหมดไม่เหลือไว้ให้เลย แล้วกัน ไปเมื่อไรก็ไม่บอก
ก. เสร็จสิ้นไป, ช่างปะไร, (มักพูดแสดงความไม่พอใจ) เช่น ไม่ทำก็แล้วไป ให้กินแล้วไม่กินก็แล้วไป.
ว. คำบอกเสียงต่อท้ายประโยคแสดงความคุ้นเคยเป็นกันเองหรือแสดงความไม่สุภาพ เช่น ไปไหนวะ.
(-กิดฉา) น. ความสงสัย, ความเคลือบแคลง, ความลังเล, ความไม่แน่ใจ.
ความไม่มีไม่เป็น.
น. ความปรารถนาในความไม่มีไม่เป็น.
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
การมั่วสุมเพื่อก่อความไม่สงบ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่สามารถตามกฎหมาย[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. ความไม่คงตัว๒. ความกลับกลายง่าย (จิตใจ)[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความไม่รู้เจ็บเฉพาะที่[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
เหตุความไม่แน่นอนของชีวิต[ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
การกบฏ, การก่อความไม่สงบ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. สภาพแข็งเกร็ง, สภาพแข็งทื่อ, สภาพแข็งงอ [ มีความหมายเหมือนกับ rigor ๒ ]๒. (จิตเวช.) ความไม่ยืดหยุ่น[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. การเป็นผู้แทน๒. หนังสือแสดงความไม่พอใจ (เบากว่าประท้วง)๓. การแถลงในนามของรัฐ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความไม่สงบ, ความกระสับกระส่าย, ความทุรนทุราย[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความไม่สืบเนื่อง[วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่ผสาน[วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่รู้เจ็บ[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความไม่รู้เจ็บเฉพาะที่[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความไม่เจ็บ[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
การตรวจสอบความเข้ากันได้, การตรวจสอบความไม่ขัดแย้งกัน[ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
ความไม่ต้องรับผิดของนายจ้าง (ต่อความบาดเจ็บของลูกจ้างที่เกิดจากการกระทำผิดของลูกจ้างด้วยกัน)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การก่อความไม่สงบ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การก่อความไม่สงบ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การก่อความไม่สงบ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความไม่สามารถตามกฎหมาย[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่ขึ้นกับอุปกรณ์[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
ความไม่พึ่งพิงข้อมูล[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
ความไม่สมประกอบ[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความไม่สมประกอบ[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความไม่ต่อเนื่อง, การขาดความต่อเนื่อง[ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
ความไม่แน่นอนทางพันธุกรรม[ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
ความไม่รู้กฎหมายไม่เป็นข้อแก้ตัว[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่รู้กฎหมายไม่เป็นข้อแก้ตัว[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่พึ่งพิง, ความไม่ขึ้นกับ[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
ความไม่เจริญเต็มวัย[ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
ความไม่สามารถ[ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
ความไม่สามารถมีบุตร, ความเป็นหมัน[ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
ความไม่สมเหตุสมผล[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่สมประกอบ[ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่สามารถชำระหนี้, ความมีหนี้สินล้นพ้นตัว[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความไม่สามารถตั้งครรภ์ได้[ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
ความไม่รู้ข้อเท็จจริง[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่รู้กฎหมาย[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นข้อแก้ตัวได้[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่อาจตัดสินใจ[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความไม่ถูกต้อง (ตามระเบียบแบบแผน)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่ต้องกัน[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
ความไม่ต้องกัน[คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
ความไม่ยับยั้ง[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่สะดวก[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่ทน[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความไม่ชอบด้วยกฎหมาย[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่อยากอาหาร[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความไม่อาจรู้ได้[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความไม่แน่นอน, ความเคลือบคลุม[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
บทความไม่กำกับชื่อผู้เขียน[เทคโนโลยีการศึกษา]
บทความไม่กำกับชื่อผู้เขียน[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ความไม่เท่าเทียมกันทางรายได้[เศรษฐศาสตร์]
ความไม่เท่าเทียมระหว่างภูมิภาค[เศรษฐศาสตร์]
ความไม่รู้กฎหมาย[TU Subject Heading]
การก่อความไม่สงบ[TU Subject Heading]
ความตกลงอัลบา เกิดขึ้นจากแนวความคิดของประธานาธิบดี Hugo Cha'vez แห่งเวเนซุเอลาหลังประกาศถอนตัวจากการเป็นสมาชิกประชาคมแอนเดียนเพื่อแสดง ความไม่พอใจที่โคลัมเบียและเปรูจัดทำความตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐฯ ข้อตกลง ALBA จึงเป็นทางเลือกในการจัดทำความตกลงทางการค้าตามแนวสังคมนิยมแทนการจัดทำเขต การค้าเสรีแห่งทวีปอเมริกา (FTAA) ปัจจุบันมีประเทศสมาชิก 3 ประเทศ ได้แก่ เวเนซุเอลา คิวบา และโบลิเวีย[การทูต]
นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics)[การทูต]
การทูตแบบใหม่ ภายหลังสงครามโลกครั้งแรก หรือตั้งแต่ ค.ศ. 1918 เป็นต้นมา ได้เกิดการทูตแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างไปจาการทูตแบบเก่า อันได้ปฏิบัติกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี นักวิชาการบางท่านมีความเอนเอียงที่จะตำหนิว่า การที่เกิดสงครามโลกขึ้นนั้น เป็นเพราะการทูตประสบความล้มเหลวมากกว่าอย่างไรก็ดี บางท่านเห็นว่าแม้ส่วนประกอบของการทูตจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่เนื้อหาหรือสาระสำคัญของการทูตยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นการผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่างการทูตแบบเก่ากับการทูตแบบใหม่อาจกล่าวได้ ว่า มีปัจจัยสำคัญ ๆ อยู่สามประการ ที่มีอิทธิพลหรือบังเกิดผลโดยเฉพาะต่อวิธีการหรือทฤษฎีของการเจรจาระหว่าง ประเทศ กล่าวคือ ข้อแรก ชุมชนนานาชาติทั้งหลายเกิดการตื่นตัวมากขึ้น ข้อที่สอง ได้มีการเล็งเห็นความสำคัญของมติสาธารณะ ( Public Opinion) มากขึ้น และประการสุดท้าย เป็นเพราะการสื่อสารคมนาคมได้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วอดีตนักการทูตผู้มี ชื่อเสียงคนหนึ่งของอินเดีย ได้แสดงความไม่พอใจและรังเกียจความหยาบอย่างปราศจากหน่วยก้านของการดำเนิน การทูตแบบใหม่ เช่น การโฆษณาชวนเชื่อเข้าใส่กัน การใช้ถ้อยคำในเชิงผรุสวาทต่อกัน การเรียกร้องกันอย่างดื้อ ๆ ขาดความละมุนละไมและประณีต อาทิเช่น การเรียกร้องข้ามหัวรัฐบาลไปยังประชาชนโดยตรงในค่ายของฝ่ายตรงกันข้ามการ กระทำต่าง ๆ ที่จะให้รัฐบาลต้องเสียชื่อหรือขาดความน่าเชื่อถือ ตลอดจนการใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ห้ามไม่ให้ประชาชนติดต่อกันทางสังคม และอื่น ๆ เป็นต้น[การทูต]
ความผิดทางการเมือง หลักการข้อหนึ่งของการส่งตัวผู้กระทำความผิดไปให้อีก ประเทศหนึ่ง หรือที่เรียกว่าการส่งผู้ร้ายข้ามแดน คือ ผู้ที่กระทำผิดทางการเมืองจะถูกส่งข้ามแดนไปให้อีกประเทศหนึ่งไม่ได้เป็นอัน ขาด แต่อย่างไรก็ดี มีปัญหาในปฏิบัติคือว่า จะแยกความแตกต่างกันอย่างไรระหว่างความผิดทางการเมือง กับที่มิใช่ด้วยเหตุผลทางการเมือง นักวิชาการบางท่านนิยามความหมายของคำว่าความผิดทางการเมืองไว้ว่า คือ ความผิดฐานกบฏ (Treason) ซึ่งในกฎหมายของหลายประเทศหมายถึงการประทุษร้าย หรือพยายามประทุษร้ายต่อประมุขของประเทศ หรือช่วยฝ่ายศัตรูทำสงครามกับประเทศของตน ความผิดฐานปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบภายในประเทศ (Sedition) หรือการประกอบจารกรรม (Espionage) อันเป็นการคุกคามต่อความั่นคงหรือต่อระบบการปกครองของประเทศผู้ร้องขอ (หมายถึงประเทศที่ร้องขอให้ส่งตัวผู้กระทำผิดไปให้ในลักษณะผู้ร้ายข้ามแดน) ไม่ว่าจะกระทำโดยคนเดียวหรือหลายคนก็ตาม[การทูต]
การเรียกตัวนักการทูตกลับประเทศของตน คือ ผู้แทนทางการทูตอาจถูกรัฐบาลของตนริเริ่มเรียกตัวกลับประเทศได้ด้วยเหตุผล ต่าง ๆ เช่น ผู้แทนทางการทูตนั้นขอลาออก หรือลาออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญ หรือถูกโยกย้ายไปประจำอีกแห่งหนึ่ง หรือเกิดความไม่พอใจอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ถ้าหากรัฐบาลปรารถนาจะเรียกหัว หน้าคณะผู้แทนทางการทูตกลับโดยถาวรเนื่องจากไม่พอใจในตัวเขา โดยมากเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกัน คือ รัฐบาลจะเปิดโอกาสให้หัวหน้าคณะทูตผู้นั้นทำหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งเสีย มากกว่าที่จะใช้วิธีสั่งปลด อันเป็นการกระทำที่รุนแรงกว่ามากนอกจากนี้ หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตหรือเอกอัครราชทูตอาจถูกรัฐบาลเรียกตัวกลับตามคำ ขอร้องของรัฐบาลประเทศผู้รับ เนื่องจากกระทำตนไม่เป็นที่พึงปราถนาของประเทศผู้รับ (Persona non grata) ก็ได้ ตามปกติ คำขอร้องจากรัฐผู้รับขอให้เรียกตัวกลับนั้น มักได้รับการตอบสนองโดยดีในทันทีจากรัฐผู้ส่ง แต่ถ้าหากรัฐผู้ส่งปฏิเสธคำขอร้องดังกล่าวนั้น รัฐผู้รับอาจขับให้ออก (Dismiss) จากประเทศก็ได้[การทูต]
การขาดความรู้สึกเจ็บ, การระงับความปวด, ความรู้สึกหายไป, ระงับปวด, ความไม่รู้สึกเจ็บปวด, ฤทธิ์แก้ปวด[การแพทย์]
ไม่สมมาตร, ต่างกัน, ความไม่สมมาตรของรูปร่าง[การแพทย์]
ความไม่มั่นคงทางระบบประสาทเสรี[การแพทย์]
ความไม่สม่ำเสมอของความเข้มข้น[การแพทย์]
ความไม่เป็นอิสระ[การแพทย์]
ความไม่สบาย, ความรู้สึกไม่สบาย, ไม่สบาย, อึดอัด[การแพทย์]
การขาดสมดุลย์, ความไม่สมดุลย์, การทรงตัวเสีย[การแพทย์]
ความไม่พอใจ[การแพทย์]
ความไม่สมดุลย์ระหว่างโดปามีนอะเซตีลโคลีนย์[การแพทย์]
ความรู้สึกของความไม่เป็นจริง, ความรู้สึกที่ไม่เป็นความจริง[การแพทย์]
ความสับสน, สภาพการใช้สติสัมปะชัญญะ การรับรู้ หรือการคิด ที่ทำให้เกิดความลังเล ไม่แน่ใจ เกิดความไม่ชัดเจน ยุ่งเหยิง วุ่นวายของอารมณ์หรือความคิด จนแสดงออกทางกาย เช่น ประหม่้า กระวนกระวาย สั่น หรือแสดงให้เห็นถึงระดับวุฒิภาวะของบุคคลนั้น โดยเฉพาะเรื่องกาลเวลา สถานที่ แล[สุขภาพจิต]
ความไม่รู้[การแพทย์]
ความไม่สมบูรณ์[การแพทย์]
ความไม่แม่นยำ, ความไม่เที่ยงตรง[การแพทย์]
ความไม่เที่ยงตรงระหว่างวัน[การแพทย์]
ความไม่บริสุทธิ์[การแพทย์]
ความไม่แม่นยำ[การแพทย์]
ไม่เข้ากัน, เกิดปฏิกิริยาต่อกัน, ถ่ายทอดไม่ได้, ความไม่พึงผสม, ความเข้ากันไม่ได้, อสมรรถสัมพันธ์, ความไม่พึงผสมของตัวยา, ภาวะเข้ากันไม่ได้, ความไม่เข้ากัน, เข้ากันไม่ได้[การแพทย์]
ความไม่พึงผสมของตัวยาในแง่เคมี[การแพทย์]
ความไม่เข้ากันแบบเกิดช้า[การแพทย์]
ความไม่พึงผสมของตัวยาในแง่กายภาพ[การแพทย์]
ความไม่พึงผสมของตัวยาในแง่ของการรักษาโรค[การแพทย์]
ความไม่สามารถมีบุตรได้[การแพทย์]
ไม่มั่นคง, อารมณ์หวั่นไหวเปลี่ยนแปลงง่ายแบบอารมณ์เด็ก ๆ, ความไม่คงตัว[การแพทย์]
ค่าคงที่ความไม่เสถียร[การแพทย์]
ความไม่มั่นคงแข็งแรง[การแพทย์]
ความไม่สม่ำเสมอ ขรุขระ[การแพทย์]
ไม่วางใจ, ความไม่ไว้วางใจ, ขาดความไว้วางใจ[การแพทย์]
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
[khø aphai nai khwām mai sadūak] (xp) EN: we apologize for the inconvenience  FR: veuillez nous excuser pour la gêne occasionnée
[khwām mai -] (pref) EN: in- (pref.) ; im- (pref.) ; dis- (pref.)  FR: in- (préf.) ; mé- (préf.)
[khwām mai børisut] (n) EN: impurity  FR: impureté [ f ]
[khwām mai chalāt] (n, exp) FR: inintelligence [ f ]
[khwām mai chøp] (n) EN: dislike  FR: aversion [ f ]
[khwām maichøpmāphākøn] (n) EN: suspiciousness ; strangeness ; oddness ; queerness ; peculiarity
[khwām mai dī] (n, exp) EN: bad
[khwām mai hendūay] (n, exp) EN: disagreement
[khwām mai jingjai] (n) EN: insincerity
[khwām mai khaojai] (n, exp) FR: incompréhension [ f ]
[khwām mai kō] (n, exp) FR: inélégance [ f ]
[khwām mai mī mēttā prānī] (n, exp) EN: unkindness
[khwām mai naēnøn] (n, exp) EN: incertainty  FR: incertitude [ f ]
[khwām mai nāsonjai] (n) EN: aridity ; flatness
[khwām mai otthon] (n, exp) FR: impatience [ f ]
[khwām mai pen itsara] (n, exp) EN: dependence
[khwām mai pen mit] (n, exp) EN: hostility ; animosity ; resentment
[khwām mai pheungphøjai] (n) EN: dissatisfaction  FR: mécontentement [ m ]
[khwām mai phøjai] (n) EN: discontent ; dissatisfaction ; unhappiness ; discontentment ; frustration  FR: mécontement [ m ]
[khwām mai rū] (n, exp) EN: ignorance
[khwām mai rū kotmāi] (n, exp) EN: ignorance of the law  FR: ignorance de la loi [ f ]
[khwām mai rū kotmāi mai pen khø kaētūa] (xp) EN: ignorance of the law is no defence ; ignorantia juris non excusat  FR: l'ignorance de la loi n'est pas une excuse ; ignorantia juris non excusat
[khwām mai runraēng] (n, exp) EN: nonviolence ; non-violence  FR: non-violence [ f ]
[khwām mai sabāi] (n, exp) EN: malaise ; indisposition ; morbidity
[khwām mai sabāijai] (n, exp) EN: unhappiness ; sorrowfulness ; unease
[khwām mai sadūak] (n, exp) EN: inconvenience  FR: désagrément [ m ] ; gêne [ f ]
[khwām mai sāmāt] (n, exp) FR: incapacité [ f ]
[khwām mai sāmāt thī ja chamra nī dāi] (n, exp) EN: insolvency
[khwām mai samret] (n, exp) FR: non-succès [ m ]
[khwām mai sa-ngop] (n) EN: unrest
[khwām mai sāngsan] (n) EN: banality  FR: banalité [ f ]
[khwām mai santhat] (n, exp) FR: inhabileté [ f ]
[khwām mai seūsat] (n, exp) EN: disloyalty
[khwām mai sonjai] (n) EN: apathy ; indifference  FR: apathie [ f ] ; indifférence [ f ]
[khwām mai søtkhløng kan] (n, exp) EN: inconsistency
[khwām mai suphāp] (n, exp) FR: incivilité [ f ]
[khwām mai tangjai fang] (n, exp) FR: inattention [ f ]
[khwām mai thaothīem kan] (n, exp) EN: inequality
[khwām mai thon thalē] (n, exp) EN: unseaworthiness
[khwām mai yāk kin āhān] (n, exp) FR: anorexie [ f ]
[khwām mai yāk rū yāk hen] (n, exp) FR: incuriosité [ f ] (litt.)
[khwām mai yutitham] (n, exp) EN: inequity ; unfairness
[kø khwām mai sa-ngop] (v, exp) EN: cause unrest
Longdo Approved EN-TH
(abbrev)ย่อมาจากสามคำ คือ Fear, Uncertainty, Doubt หมายถึง การที่ผู้ผลิตให้ข้อมูลข่าวสารที่ทำให้ลูกค้าเกิดความกลัว ความไม่แน่ใจ และความสับสน ในสินค้าของคู่แข่ง เช่น Microsoft มักออกข่าวหรือให้ข้อมูลทำนองนี้เกี่ยวกับ Linux
(n)ความไม่ต่อเนื่อง, การแยก, การแยกออกจากกันSee Also:interruption, breakSyn.discontinuity
(colloq)|AE| โอ พระเจ้า (ใช้แสดงความประหลาดใจเล็กน้อย ความพอใจ ความไม่พึงพอใจเล็กน้อย เป็นคำย่อของ Jesus) เช่น Geez, that's cute - the output of a true intellectual. You are so smart.
(adj, slang)ตื่นตัวกับเรื่องข้อมูลหรือประเด็นปัญหาทางสังคม เช่น การเหยียดผิว, ความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม โดยอาจจะมีหรือไม่มีข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจน
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
(n)ความไม่พอใจSee Also:ความไม่ชอบ, ความเกลียด
(n)ความไม่เห็นแก่ตัวSee Also:ความเห็นแก่ผู้อื่นSyn.selflessness
(n)ความไม่มีลักษณะเฉพาะ
(n)ความไม่เชื่อว่ามีพระเจ้าSee Also:ความไม่เชื่อในพระเจ้าSyn.denial of God, agnosticism
(n)ความไม่ดีSee Also:ความชั่ว, ความเลว
(n)ความเลวทรามSee Also:ความไม่ดีSyn.brutality, wickednessAnt.kindness, mercy
(n)สิ่งที่ก่อให้เกิดความไม่สะดวกสบายSee Also:สิ่งที่น่ารำคาญSyn.nuisance
(n)ความไม่กังวลSyn.unconcernAnt.concern
(n)ความไม่ระมัดระวังSyn.heedlessnessAnt.care, caution
(n)ความไม่เป็นทางการSyn.informality, familiarity
(n)ความเรื่อยๆSee Also:ความไม่สนใจ, ความเฉยๆ
(n)ความไม่ชำนาญในการใช้See Also:ความงุ่มง่าม, ความเงอะงะSyn.maladroitness, ineptitude
(n)ความหยาบ (วัสดุ)See Also:ความไม่ประณีตSyn.stiffness, harshness, roughness, crudeness
(n)ความไม่พอใจ
(n)ความชุลมุนวุ่นวายSee Also:ความไม่สงบSyn.disturbance, outbreak
(idm)ความไม่ใส่ใจSee Also:การไม่สนใจ
(n)ความไม่เห็นด้วยSee Also:อย่างไม่เห็นชอบSyn.denouncement
(n)การวางเฉยSee Also:ความไม่สนใจ, การไม่แยแสSyn.aloofnessAnt.union
(n)ความเกลียดอย่างมากSee Also:ความรังเกียจ, ความไม่ชอบอย่างมากSyn.hate, hatred, loathingAnt.attraction
(n)การหลอกลวงSee Also:ความไม่จริงใจSyn.fishiness, shadiness, twistiness
(n)ความขัดแย้ง (คำทางการ)See Also:ความไม่เข้ากัน, ความไม่ประสานกัน
(n)ความไม่เห็นด้วยSee Also:ความไม่ชอบ, การไม่ยอมรับSyn.dismissal, refusalAnt.acceptance, welcome
(n)ความไม่เป็นระเบียบSee Also:ความยุ่งเหยิง, ความไม่เรียบร้อยSyn.disorder
(n)ความไม่พอใจSyn.dissatisfaction, unhappiness
(adv)ด้วยความไม่พอใจ
(n)ความไม่พอใจSyn.dissatisfaction, unhappiness
(n)ความไม่ลงรอยกันSee Also:ความขัดแย้งSyn.conflict, frictionAnt.agreement, feud
(n)ความไม่สุภาพSee Also:ความหยาบคายSyn.insult, affront, disgrace, shame
Hope Dictionary
(อะเบ' เอินซฺ) n. การหยุด, การยั้ง, การระงับชั่วคราว, ความไม่แน่นอนSyn.inaction
ความไม่รู้สึกหิว
(เอล' เมินทฺ) n. ความไม่สบายกาย, ความป่วยSyn.disturbance, discomfort
(แอล' เลอจี) n. โรคภูมิแพ้ (เช่น ไข้ละ-อองฟาง, หอบ, หืด, ภาวะผิวหนังเป็นผื่น) , ความไม่พอใจ -allergic adj. (hypersensitivity)
(แอมบิฟ' วะลันซฺ) n. ความไม่แน่ใจ (โดยเฉพาะในการเลือกสิ่งที่ตรงกันข้าม) ความรู้สึกรวมที่มีทั้งที่เป็นเชิงบวกและเชิงลบต่อบุคคลอื่นหรือสิ่งของ. -ambivalent adj.
(อะมอร์' ฟิสซึม) n. ภาวะหรือลักษณ์ที่ไม่มีรูปร่างที่แน่นอน, ความไม่มีจุดหมายหรือจุดประสงค์ที่แน่นอน, ลักษณะอสัณฐาน
(แอนทิพ' พะธี) n. ความไม่ลงรอย, ความไม่พอใจ, ความเกลียด, สิ่งที่ไม่ลงรอย, สิ่งที่ไม่ชอบSyn.hostility, hatred, enmity
(แอพ'พะธี) n. การไร้อารมณ์, ความไม่สนใจ, ความไม่ เป็นห่วงSyn.unconcern
(อัสเพอ'ริที) n. ความหยาบ, ความไม่ละมุนละม่อม, ความรุนแรง (อากาศ) , ความลำบากSyn.crossnessAnt.smoothness
(อะชัว'เรินซฺ) n. การรับรอง, การทำให้แน่นอน, การทำให้มั่นใจ, ความมั่นใจ, ความเชื่อถือ, ความไม่กลัวเกรง, ความบ้าบิ่น, การประกันภัย, การโอนทรัพย์สินSyn.boldness, confidenceAnt.doubt, distrust
(เอซิม'มีทรี) n. ความไม่สมส่วนกัน, ความไม่เหมือนกันบนสองข้างของเส้นกลาง
(แอธธะเน'เซีย) n. ความไม่ตาย, ชีวิตชั่วนิรันดร
(เอ'ธีอิสซึม) n. ความเชื่อที่ว่าไม่มีพระเจ้า, ความไม่มีพระเจ้า, ความชั่วร้าย
(ออแดส'ซิที) n. ความกล้า, ความไม่มีมารยาท, ความทะลุSyn.boldness, daring
(อะเวอ'เชิน) n. ความรังเกียจ, ความไม่ชอบ, คำไม่พอใจ. -aversive adj.
(แบค'เยิร์ด) n. สนามหลังบ้าน, ลานบ้าน, ด้านหลัง, ความไม่โสมมข้างใน
n. ความเป็นศัตรู, ความไม่เป็นมิตร
(เบ'ธอส) n. วิธีการลดหรือเปลี่ยนอย่างฮวบฮาบ, ความไม่จริงใจ, ความแสร้ง, ความตรงกันข้าม, ความธรรมดาหรือจืดชืดSee Also:bathetic adj.
(บูล'ชิท) n. ความไร้สาระ, การพูดความจริง. interj. คำอุทานแสดงความไม่เชื่อความไม่เห็นด้วยSyn.nonsense
(คะลอส'ซิที) n. ภาวะแข็งด้าน, ส่วนที่แข็งด้าน, ความไม่รู้สึก, ความตายด้าน
(เค'ออส) n. ความอลหม่าน, ความสับสนวุ่นวาย, ความไม่มีระเบียบSyn.disarray
(ไชดฺ) { chided, chiding, chides } vt. ติเตียน, ตำหนิ, ด่า, ดุ, ตะเพิด, พัดเสียงดัง (ลม) , คำราม, แสดงความไม่พอใจSyn.rebuke
(ชิล'ลิเนส) n. ความเมินเฉย, ความเย็นชา, ความไม่เป็นมิตร
(เคลม'เมินซี) n. ความมีใจเมตตากรุณาปรานี, ความไม่รุนแรง, การผ่อนผัน, ภาวะเย็นสบาย, ความอำนวยSyn.leniency
(คัมพังคฺ'เชิน) n. ความเสียใจต่อการกระทำ, ความไม่สบายใจหรือกระสับกระส่ายต่อสิ่งที่ได้กระทำไป.See Also:compunctious adj.Syn.guilt, regret, repentance
(คันฟิว'เชิน) n. ความยุ่งเหยิง, ความไม่ชัด, ความงงงวย, การให้ยุ่งหรือสับสน, ความพ่ายแพ้, ความเสื่อมสลายSyn.puzzlement, disorder
(คอนทระดิค'เชิน) n. การโต้แย้ง, การเถียง, ความขัดแย้ง, ความไม่ลงรอยกัน
(ครู'ซิไฟ) { crucified, crucifying, crucifies } vt. ตรึงให้ตายบนไม้กางเขน, ประหัตประหาร, ทำให้ดับสิ้นด้วยความไม่เป็นธรรมSee Also:crucifier n.Syn.torment, torture
(เดน'เจอะ) n. อันตราย, ภัย, ความไม่ปลอดภัยSyn.peril
(ดิซีท') n. การหลอกลวง, การโกง, กลอุบาย, ความไม่ซื่อSyn.cheating
(ดิคอ'รัม) n. มารยาท, สมบัติผู้ดี, ความงดงาม, ความไม่น่าเกลียด
(ดิฟิช'เชินซี) n. ภาวะที่ขาดแคลน, ความขาดแคลน, ความไม่สมบูรณ์, ความไม่เพียงพอ, ปริมาณที่ขาดแคลน, ส่วนที่ไม่พอSyn.lack
(ดิเรนจฺ'เมินทฺ) n. ความยุ่งเหยิง, ความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย, ความบ้า
(ดิแทช'เมินทฺ) n. การถอดออก, ความไม่ลำเอียง, การมีอุเบกขา, การส่งกองทหารหรือเรือไปเป็นพิเศษSyn.impartiality
(ดิฟ'ฟิเดินซฺ) n. ความประหม่า, ความไม่มั่นใจตัวเองSyn.shyness
(ดิสอะเฟค'เชิน) n. ความไม่พอใจ, ความไม่ซื่อสัตย์, ความบาดหมาง, ความเหินห่าง
(ดิสอะกรี'เมินทฺ) n. ความไม่เห็นด้วย, ความไม่ลงรอยกัน, ความไม่เห็นพ้อง, การทะเลาะ, การโต้แย้งSyn.rift
(ดิสอะพรู'เวิล) n. ความไม่เห็นด้วย, การไม่อนุญาต, ความไม่พอใจ, ความรังเกียจ, สีหน้าความรู้สึกหรือคำพูดที่ไม่เห็นด้วยSyn.blame
n. ความไม่เชื่อSyn.incredulity
(ดิสคัม'เฟิร์ท) n. ความลำบาก, ความไม่สบาย, ความไม่สะดวก vt. ทำให้ลำบาก, ทำให้ไม่สะดวกSyn.annoyance
(ดิสคะเมนดฺ') vt. แสดงความไม่พอใจ, ไม่เห็นด้วย
(ดิสคะโมด') vt. ทำให้เกิดความไม่สะดวกแก่, ก่อกวน, ทำให้ลำบาก.See Also:discommodious adj.
(ดิสคัมโพ'เชอะ) n. ความไม่เป็นสุข, ภาวะที่ถูกก่อกวน, ความร้อนใจ, ความวุ่นวายใจSyn.perturbation
(ดิสคันฟอม'มิที) n. ความไม่ลงรอยกัน, ผิวหน้าของชั้นหินที่ไม่ลงรอยกัน
(ดิสเคา'ทะเนินซฺ) vt. ทำให้หมดกำลังใจ, ทำให้ไม่สบายใจ, ไม่เห็นด้วย n. ความไม่เห็นด้วยSyn.disconcert
(ดิสคันเทนทฺ') adj. ไม่พอใจ. n. ความไม่พอใจ vt. ทำให้ไม่พอใจ
(ดิสคันทิน'นิวเอินซฺ) n. ความไม่ต่อเนื่องกัน, ความไม่สม่ำเสมอ, ความหยุดชะงัก, การเลิกล้มSyn.termination
(ดิสคอนทินิว'อิที) n. การหยุดชะงัก, การไม่ต่อเนื่องกัน, การเลิก, ความไม่สม่ำเสมอ, การขาดตอนSyn.gap
(ดิส'คอร์ด) { discorded, discording, discords } n. ความไม่ลงรอยกัน, ความบาดหมาง, ความไม่ประสานกัน, ความขัดแย้ง, การทะเลาะ, การต่อสู้, สงคราม, เสียงที่ไม่เข้ากัน. vi. ไม่เห็นด้วยSyn.disagreement, strife
(ดิสคอร์'เดินซฺ) n. ภาวะที่ไม่ลงรอยกัน, ความไม่ประสานกันSyn.conflict
Nontri Dictionary
(n)ความไร้เหตุผล, ความไร้สาระ, ความไม่สมเหตุสมผล
(n)ความเจ็บป่วย, ความไม่สบาย, โรค
(n)ความไม่แยแส, ความเฉยเมย, ความเฉื่อยชา, ความไร้อารมณ์
(n)ความมั่นใจในตนเอง, ความไม่ประหม่า
(adv)ด้วยความสงสัย, ด้วยความไม่ไว้วางใจ
(adv)ด้วยความสงสัย, ด้วยความไม่ไว้วางใจ
(n)ความรังเกียจ, ความไม่ชอบ, ความเกลียดชัง
(n)ความเป็นศัตรู, ความเกลียดชัง, ความไม่เป็นมิตร
(n)ทองเหลือง, เครื่องทองเหลือง, ความทะลึ่ง, ความไม่ละอาย
(n)ความกล้าหาญ, ความกล้า, ความอาจหาญ, ความไม่เกรงกลัว
(n)การทำตามอำเภอใจ, ความไม่แน่นอน
(n)ความประมาท, ความสะเพร่า, ความเลินเล่อ, ความไม่เอาใจใส่
(n)ความเย็นชา, ความเฉยเมย, ความเยือกเย็น, ความไม่เป็นมิตร
(n)ความกรุณา, ความไม่ถือโทษ, ความเมตตา, การผ่อนผัน
(n)ความไม่รู้สึกตัว, อาการสลบ, อาการหมดสติ, อาการโคม่า
(n)ความมั่นคง, ความเหนียวแน่น, ความคงเส้นคงวา, ความไม่เปลี่ยนแปลง
(n)ความมั่นคง, ความยึดมั่น, ความคงเส้นคงวา, ความไม่เปลี่ยนแปลง
(n)การรู้จักละเว้น, การบังคับใจตนเอง, ความไม่มักมาก
(n)ความเป็นไปได้, ความไม่แน่นอน, อุปัทวเหตุ
(n)ความขี้ขลาด, ความไม่กล้า
(n)อันตราย, ภัย, ภยันตราย, ความไม่ปลอดภัย
(n)ความอ่อนเปลี้ย, ความไม่มีแรง, ความชรา
(n)ความขาดแคลน, ข้อบกพร่อง, ความไม่สมบูรณ์
(n)การหลีกเลี่ยงหน้าที่, ความไม่รับผิดชอบ, ความเหลวไหล, การกระทำผิด
(n)การต่อต้าน, ความไม่เห็นด้วย, การคัดค้านความชิงชัง
(n)ความหมดหวัง, ภาวะล่อแหลม, ความไม่กลัวอันตราย, การกระทำด่วน, ความสิ้นคิด
(n)การถอด, การแยกจากกัน, การปลด, กองทหาร, ความไม่ลำเอียง
(n)ความชิงชัง, ความเกลียดชัง, ความไม่ชอบ
(n)ความแตกต่าง, ความไม่เหมือนกัน
(n)ความไม่เชื่อมั่นในตนเอง, ความขวยเขิน, ความประหม่า, ความขี้อาย
(n)ความไม่เป็นมิตร, ความไม่ซื่อสัตย์, ความไม่พอใจ, ความเหินห่าง, ความบาดหมาง
(n)ความไม่เห็นด้วย, ความไม่ลงรอยกัน, ความไม่เห็นพ้อง
(n)ความไม่ชอบ, ความไม่ถูกใจ, การคัดค้าน, ความไม่ลงรอยกัน
(n)การไม่อนุญาต, ความรังเกียจ, ความไม่ชอบ
(n)ความไม่เชื่อ, การไม่ยอมรับ
(n)ความไม่สบายใจ, ความกระอักกระอ่วน, ความลำบากใจ, ความไม่สะดวก
(n)ความไม่พอใจ, ความไม่ถูกใจ, ความไม่สบอารมณ์
(n)ความบาดหมาง, ความไม่ลงรอยกัน, ความไม่สามัคคี
(n)ความไม่สุภาพ, ความหยาบคาย, ความไม่มีมารยาท
(n)ความไม่เชื่อถือ, ความอัปยศ, ความขายหน้า, การเสียชื่อเสียง
(n)ความคลาดเคลื่อน, ความแย้งกัน, ความไม่ตรงกัน
(n)การดูถูก, การรังเกียจ, การเหยียดหยาม, ความไม่ชอบ
(n)ความไม่ชอบ, ความไม่พอใจ, ความไม่ถูกใจ, ความไม่เห็นด้วย
(n)ความไม่สุจริต, ความไม่ซื่อสัตย์, ความหลอกลวง
(n)ความไม่มีเกียรติ, ความเสียชื่อเสียงเกียรติยศ
(n)ความไม่สมัครใจ, ความไม่เต็มใจ, ความไม่ยินยอม
(n)ความไม่ชอบ, ความเกลียด, ความเบื่อหน่าย
(n)ความดื้อดึง, ความดื้อ, ความดื้อรั้น, ความไม่เชื่อฟัง
(n)ความวุ่นวาย, ความยุ่งเหยิง, ความสับสน, ความไม่เป็นระเบียบ, ความอลหม่าน
(n)ความต่าง, ความไม่เสมอกัน, ความไม่เหมือนกัน
Longdo Unapproved EN-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ขออภัยในความไม่สะดวก
(n, vi)[ Linguistics: Pragmatics ] n. คำบ่งชี้ความไม่แน่ใจ คำบ่งชี้การพูดออกตัว การพูดออกตัว โดยใช้ คำ วลี หรือประพจน์เพื่อป้องกันตัวของผู้พูดในกรณีที่พูดผิด ไม่มั่นใจ เช่น วันนี้ฝนอาจจะตก คำว่า อาจจะ คือ hedge ชนิดหนึ่งที่บ่งชี้ว่าผู้พูดมีความไม่มั่นใจ มีความกำกวม ซึ่งฝนจะตกหรือไม่ตกผู้พูดก็ไม่ได้พูดผิด เพราะคำว่า อาจจะ มีความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิด 50/50 v. พูดออกตัว พูดกำกวม พูดป้องกันตัวSee Also:softener, downtoner, understatement, weakener, tentativeness, stance mSyn.mitigator
(n, vi)คำอุทานแสดงความไม่พอใจ ดูหมิ่นหรืออื่นๆ n.คำอุทาน "tut".-vi.คำอุทานคำว่า "tut"See Also:phew!, pshaw!, fie!, tsk!, hang it all!, shucks!, phew!, pshaw!, fieSyn.shucks!
(n)ความไม่ซื่อสัตย์See Also:A. probitySyn.dishonesty
(n)ความไม่แน่นอน
[health is better than wealth](phrase)ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
Longdo Unapproved JP-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
不満
[ふまん, fuman]ความไม่พึงพอใจ
常習犯
[じょうしゅうはん, joushuuhan]ความไม่เข็ดหลาบ ทำความผิดจนเป็นเรื่องปกติ
性悪
[しょうわる, shouwaru](n)ความผันแปร ความไม่คงที่
僻む
[ひがむ, higamu](vt)(v.) น้อยใจ, รู้สึกถึงความไม่เท่าเทียม (by กิ๊ด)
失礼
[しつれい, shitsurei](n)ความไม่สุภาพ
永遠
[えいえん, eien](n)(n) ความไม่มีที่สิ้นสุด, ความไม่รู้จักตาย, ความอมตะ, ชั่วนิรันดร
不純
[ふじゅん, fujun](n)(อิมเพียว' ริที) n. ความไม่บริสุทธิ์, ความไม่สะอาด, การมีสิ่งเจือปน, สิ่งที่ไม่บริสุทธิ์
他愛
[たあい, taai](n)ความไม่เห็นแก่ตัว
Saikam JP-TH-EN Dictionary
不具
[ふぐ, fugu] TH: ความไม่ลงตัว
不具
[ふぐ, fugu] EN: deformity
Longdo Approved DE-TH
(adj, adv)ด้วยความไม่ได้ตั้งใจSee Also:ohne Absicht
(idiomatisch)สิ่งหนึ่งทำให้ความรู้สึกอึดอัด หรือความไม่สบายใจของอีกสิ่งหนึ่งลดลง
(n)|die, pl. Ewigkeiten| นิรันดร, ระยะเวลาที่ยาวนานมากไม่รู้จบ, ชั่วกัลปาวสาน, ความไม่มีที่สิ้นสุด, ความไม่รู้จักตาย, ความอมตะ,
(n)|die, pl. Ungeschicklichkeiten| การที่ไร้ทักษะ, ความงุ่มง่าม, ความไม่มีพรสวรรค์ เช่น Oft schimpft man über seine eigene Ungeschicklichkeit, wenn man beispielsweise beim Essen aufs Hemd kleckert.
Longdo Unapproved DE-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
(ซัสเพนซฺ') n. ภาวะจิตที่ไม่แน่นอน, ความใจจดใจจ่อ, ความไม่แน่นอนใจ, การไม่กล้าตัดสินใจ, ภาวะที่คาราคาซังอยู่., S. . suspenseful adj., S. anticipation, stressSee Also:stressSyn.S. . suspenseful adj., anticipation
Longdo Approved FR-TH
(phrase)fam. ฉันไม่เชื่อหรอก (เป็นคำอุทานเพื่อแสดงความไม่เชื่อถือ)
เพิ่มคำศัพท์
add
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ