268 ผลลัพธ์ สำหรับ 

*ปราย*

 ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น: ปราย, -ปราย-
Longdo Unapproved TH - TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
สก๊อย
[สะ-ก๊อย](n, slang)วัยรุ่นหญิงที่มักนั่งท้ายมอเตอร์ไซค์ของเด็กแว้น มักใส่เสื้อยืดรัดติ้ว หรือไม่ก็สายเดี่ยว เสื้อกล้าม เกาะอก ชอบใส่กางเกงขาสั้นเอวต่ำ มักผัดหน้าให้ขาววอก และจะผูกผมเป็น 2 ข้าง ส่วนริมฝีปากจะแดงระเรื่อ เครื่องประดับชิ้นสำคัญ คือ หวี และการใช้โทรศัพท์มือถือและน้ำยาอุทัยทิพย์ที่ใช้ทาปากให้แดงอยู่เสมอ ส่วนใหญ่บริเวณน่องขาของสก๊อยมักมีรอยท่อไอเสียดาด และรอยแผลเป็นประปรายตามแข้งขาเนื่องจากอุบัติเหตุ
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
(v)sowSee Also:strew, scatter, throw, scatter, disseminate, castSyn.ซัด, หว่าน, สาดExample:เมื่อคืนเป็นฝนห่าแรกที่ปรายลงมาเมื่อเดือนห้ากำลังจะสิ้น
(v)glanceSee Also:cast one's eyes, keep an eye onSyn.เหลือบมอง, ลอบมอง, ชำเลืองExample:เขาแอบปรายตามองลูกค้าของร้านหนังสือแห่งนี้ที่กำลังเลือกดูเล่มโน้นเล่มนี้
(adv)sparselySee Also:thinly, slightly, lightlySyn.ห่างๆ, เรี่ยราย, เล็กน้อย, กระจาย, นิดหน่อยExample:ขอบสระมีต้นไม้เล็กและต้นหญ้าขึ้นอยู่ประปรายThai Definition:มีกระจายอยู่ห่างๆ
(v)debateSee Also:discuss, contendExample:ถ้าครูห้ามเด็กคุยในห้องเรียน เด็กก็เลยไม่ตอบคำถามไม่อภิปรายในห้องเรียนThai Definition:พูดชี้แจงแสดงความคิดเห็นNotes:(สันสกฤต)
(v)make a general speech; speak promiscuouslySee Also:greetExample:หล่อนเป็นคนเข้าสังคมเก่ง เปรยปรายกับคนทั้งงานได้ตั้งแต่เริ่มงานจนงานเลิกThai Definition:กล่าวทักทายทั่วไป ไม่จำเพาะใคร
(v)spreadSee Also:sprinkle, scatter, strew, disseminateSyn.โปรย, โรยExample:ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นครึ้มเล็กน้อยและมีละอองฝนโปรยปรายลงมาThai Definition:ตกลงมาเป็นเม็ดๆ กระจายทั่วไป
(n)debaterExample:การอภิปรายเรื่องภาวะเศรษฐกิจไทยมีผู้อภิปราย 5 คนUnit:คนThai Definition:ผู้ที่พูดชี้แจงแสดงความคิดเห็นNotes:(สันสกฤต)
(n)panelistExample:การอภิปรายเกี่ยวกับการปฎิรูปการศึกษามีผู้ร่วมอภิปราย 4 ท่านUnit:คน, ท่านThai Definition:ผู้เข้าร่วมพูดชี้แจงแสดงความคิดเห็น
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
น. ลูกตะกั่วหรือลูกเหล็กเล็ก ๆ สำหรับยัดใส่ในลำกล้องปืนครั้งละหลายลูก เมื่อยิงไปครั้งหนึ่ง ๆ ลูกจะกระจายไป, กระสุนปืนชนิดที่มีลูกตะกั่วหรือลูกเหล็กเล็ก ๆ หลาย ๆ ลูกผสมปนอยู่กับดินปืนในนัดเดียวกัน เวลายิงจะกระจายออก, (ปาก) ลูกปราย.
น. กลไกที่ฝ่ายนิติบัญญัติใช้ควบคุมฝ่ายบริหาร เช่น การเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี หรือฝ่ายบริหารจะรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายนิติบัญญัติ เช่น การเปิดอภิปรายทั่วไปที่คณะรัฐมนตรีร้องขอให้มีขึ้นเพื่อรับฟังความคิดเห็นเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากสมาชิกสภา.
น. มาตรการสำคัญอย่างหนึ่งของระบบรัฐสภาที่ฝ่ายนิติบัญญัติใช้ควบคุมและตรวจสอบฝ่ายบริหาร และฝ่ายบริหารใช้ประโยชน์จากฝ่ายนิติบัญญัติในการรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายนิติบัญญัติ.
น. ปืนคาบศิลาอย่างโบราณ ลำกล้องทำด้วยทองเหลือง ปากบาน ยิงด้วยกระสุนลูกปราย เช่น ล้วนถือทองปรายทุกคน (รามเกียรติ์ ร. ๑).
(-ปฺราย) ว. มีกระจายอยู่ห่าง ๆ เช่น ผมหงอกประปราย ผลไม้ติดประปราย, มีห่าง ๆ เป็นระยะ ๆ, เรี่ยราย, เล็กน้อย, เช่น ยิงกันประปราย.
(ปฺราย) ก. ซัด, หว่าน, สาดให้กระจายไป, เช่น ปรายข้าวตอกดอกไม้, มักใช้เข้าคู่กับคำ โปรย เป็น โปรยปราย.
(-ปฺราย) ก. พูดทักทายทั่วไปไม่จำเพาะใคร.
(-ปฺราย, -เปฺรย) ว. อาการที่พูดว่ากระทบกระเทียบไม่เจาะจง.
(-ปฺราย) ว. หว่านล้อม (ใช้แก่กริยาพูด)
หว่านไปทั่ว ๆ.
น. กระสุนปราย.
(-ปะรายะ-, -ปะราย-, -ปะรายิกะ-) น. ภพหน้า.
(อะพิปฺราย) ก. พูดชี้แจงแสดงความคิดเห็น.
น. จุดดำ ๆ หรือจุดน้ำตาลขึ้นประปรายที่ผิวกายคน สัตว์ หรือสิ่งอื่น ๆ, ประ ก็ว่า.
น. ความเศร้าโศก. ว. น่ากรุณา, น่าสงสาร, เช่น อ่อนจิตสวามีอันพูนกระลูนนุกูลภรรยายิ่งยอดกว่าอันภิปราย (สรรพสิทธิ์), เขียนเป็น กระลู่น์ ก็มี.
น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Morulius chrysophekadion (Bleeker) ในวงศ์ Cyprinidae ปากงุ้มตํ่า ตาเล็ก ตลอดทั้งหัว ตัว และครีบมีสีม่วงเข้มถึงดำทึบ ครีบหลังเป็นแผนใหญ่ เฉพาะเกล็ดมีจุดสีเหลืองประปราย ขนาดยาวได้ถึง ๖๐ เซนติเมตร, เพี้ย ก็เรียก.
น. ชื่อปลาทะเลชนิด Trachicephalus uranoscopus (Bloch & Schneider) ในวงศ์ Scorpaenidae ตัวแบนข้างเล็กน้อย หัวสั้น ปากกว้างเชิดขึ้น ลำตัวมีรอยด่างสีนํ้าตาล มักมีจุดขาวประปราย ขอบครีบเป็นสีดำคลํ้า เงี่ยงมีพิษ ซ่อนตัวอยู่ตามซอกหินหรือหมกตัวอยู่ตามพื้นท้องทะเล ขนาดยาวได้ถึง ๑๒ เซนติเมตร, ขี้ขุย ก็เรียก.
ก. โปรยปรายลงมา ในคำว่า ฝนเชย
ก. มีเนื้อหาสาระ เช่น การอภิปรายครั้งนี้ได้น้ำได้เนื้อดี.
(ทุตะวิลำพิตะ-) น. ชื่อฉันท์วรรณพฤติ กำหนดด้วย ๔ คณะ คือ น ภ ภ ร (ตามแบบว่า ทุตวิลมฺพิตมาห นภา ภรา) ตัวอย่างว่า ชินกถาคณนา วนิดาประมาณ พฤศติเพธพิสดาร อดิเรกภิปราย.
(-ทก) น. ชื่อฉันท์วรรณพฤติ บทหนึ่งมี ๔ บาท แต่ละบาทมี ๑๑ พยางค์ กำหนดด้วย ภะคณะ ภะคณะ ภะคณะ และครุ ๒ พยางค์ ตามลำดับเหมือนกันทุกบาท (ตามแบบว่า โทธกมิจฺฉติ เจ ภภภาคา) ตัวอย่างว่า มิตรคณาทุรพาละทุพลมี นามก็กระลี หินะชาติ ประกาศภิปราย (ชุมนุมตำรากลอน).
(บัน-) ก. ปราย, โปรย, เช่น หยั่งหยาดวลาหกบรรลาย (อุเทน).
น. การประชุมปรึกษาหารือหรืออภิปราย ซึ่งจัดที่นั่งล้อมกันเป็นวงกลม ไม่มีประธาน ทุกคนมีสิทธิ์เสนอความคิดเห็นเท่าเทียมกัน.
(ปฺรึกสา) ก. หารือ, ขอความเห็นแนะนำ, พิจารณาหารือกัน, พิจารณาอภิปรายกัน เช่น ประชุมปรึกษา, พิจารณาร่างคำพิพากษา เช่น ผู้ปรึกษา (ในทางศาล).
น. เรียกต้นหมากที่เพิ่งออกดอกประปราย.
น. ฝนที่ตกเล็กน้อยประปรายในเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระยะที่มะม่วงออกช่อพอดี, ฝนชะลาน ก็เรียก.
(พฺร้อย) ว. ประไปทั่ว, ลายกระเป็นจุดประปราย, วาว, พราย, เช่น ลายพร้อย ด่างพร้อย.
(พฺลอมแพฺลม) ว. วาบแวบ, ผลุบโผล่, ประปราย, ไม่สมํ่าเสมอ, เช่น หญ้าขึ้นพลอมแพลม.
ชื่อกระสุนชนิดหนึ่ง เล็กกว่ากระสุนทั่ว ๆ ไป ปลอกทำด้วยโลหะ หัวกระสุนทำด้วยตะกั่ว มีลูกปรายและดินปืนอยู่ข้างใน มีเชื้อปะทุอยู่ก้นปลอก.
น. ชื่อปืนชนิดหนึ่ง ลูกมีปลอกทำด้วยกระดาษแข็ง ไม่มีหัวกระสุน มีลูกปรายหลายลูกอยู่ภายใน มีดินปืนอยู่ตรงกลาง และมีเชื้อปะทุอยู่ก้นปลอก.
น. ลูกตะกั่วหรือเหล็กเป็นต้นที่ยัดใส่ในลำกล้องปืนแล้วยิง, กระสุนที่บรรจุในลำกล้องปืนสำหรับยิง ประกอบด้วยปลอกโลหะ ตรงปลายด้านหนึ่งมีหัวกระสุนโลหะ ถ้าเป็นปืนลูกซอง ปลอกทำด้วยกระดาษแข็ง ไม่มีหัวกระสุน แต่มีลูกปรายหลายลูกอยู่ภายใน ทั้ง ๒ ชนิดมีดินปืนอยู่ตรงกลางและมีเชื้อปะทุอยู่ก้นปลอก, กระสุนปืน
ว. มีเหตุผลสมควร, มีเหตุผลรับกัน, เช่น คำชี้แจงของเขาสมเหตุสมผล เขาอภิปรายได้สมเหตุสมผล.
ว. อาการที่ฝนตกพรำประปราย.
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
ญัตติขอให้เปิดอภิปรายต่อไป[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. คณะผู้อภิปราย๒. องค์คณะ๓. บัญชีรายชื่อ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. คณะผู้อภิปราย๒. องค์คณะ (ผู้พิพากษาหรือลูกขุน)๓. บัญชีรายชื่อ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
มีขนประปราย[พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕]
๑. การรับรอง (รัฐ, รัฐบาลใหม่)๒. การอนุญาตให้อภิปราย[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
แท่นอภิปราย[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. สังเขปเรื่อง๒. บทอภิปราย[วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
การอภิปรายเกี่ยวกับพระราชดำรัส (อังกฤษ)[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
บทอภิปรายแบบอ้าง[วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
ญัตติขอให้เปิดอภิปรายต่อไป[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การเลื่อนการอภิปราย[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ผู้ดำเนินการอภิปราย[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ผู้ดำเนินการอภิปราย[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
สบตาประธานสภา (เพื่อขออภิปราย)[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การปิดอภิปราย[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การปิดอภิปราย[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การอภิปราย[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การอภิปรายเกี่ยวกับพระราชดำรัส (อังกฤษ)[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การเลื่อนการอภิปราย[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การเปิดอภิปรายทั่วไป[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. วิธีการจำกัดเวลาอภิปรายร่างกฎหมาย (ของสภาสามัญอังกฤษ)๒. เครื่องประหารชีวิต (ของฝรั่งเศส)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การเปิดอภิปรายทั่วไป[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การเปิดอภิปรายทั่วไป[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. สิทธิที่จะอภิปราย (ในสภา)๒. ที่อภิปราย (ในสภา)[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การอภิปรายประวิงเวลา[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. การจำกัดเวลาความรับผิด (ก. แพ่ง)๒. การเปิดอภิปรายทั่วไป (ก. รัฐธรรมนูญ)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การปิดอภิปรายอย่างรวบรัด[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การปิดอภิปรายอย่างรวบรัด[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
เอกสารเสนอหรือแถลงในการประชุม รายงานสรุปผลการอภิปราย รายงานกิจการหรือธุรกิจเกี่ยวกับการประชุมExample:<p>Proceedings คือ เอกสารหรือหนังสือที่รวบรวมบทความวิจัย บทคัดย่อ หรือเอกสารนำเสนอในการประชุมวิชาการหรือวิชาชีพ ที่จัดขึ้นทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ โดยสมาคม หน่วยงาน หรือองค์กร จัดให้มีการประชุม เพื่อเป็นการพบปะระหว่างนักวิทยาศาสตร์ นักวิชาชีพ ในสาขาวิชาเดียวกันอย่างต่อเนื่อง วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และความร่วมมือกัน มีการนำเสนอผลการค้นคว้าวิจัยใหม่ในที่ประชุม <p>รายงานการประชุมที่เผยแพร่เป็นรูปเล่ม (Proceedings) ดำเนินการตีพิมพ์ผลงานฉบับสมบูรณ์เผยแพร่หลังการประชุม แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ <p>1. การประชุมวิชาการระดับนานาชาติ (International Conference) <p>2. การประชุมวิชาการระดับชาติ (National Conference) [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
อภิปราย[TU Subject Heading]
อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล[TU Subject Heading]
ชมรมด้านความมั่นคงและความร่วมมือในเอเชียแปซิฟิก เป็นสถาบันเอกชนก่อตั้งขึ้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2536 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีสถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ (Institute of Security and International Studies : ISIS) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสถาบันก่อตั้งร่วมกับสถาบันอื่น ๆ จากประเทศอาเซียนและประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก CSCAP เป็นกลไกที่ไม่ใช่เป็นทางการ เพื่อให้นักวิชาการ เจ้าหน้าที่รัฐบาลในฐานะส่วนตัวและบุคคลอื่นได้อภิปรายปัญหาทางการเมืองและ ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก[การทูต]
นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics)[การทูต]
1. การเข้าแทรกแซง 2. การเข้าร่วมอภิปราย การเข้าร่วมกล่าวถ้อยแถลง (ใช้ในกรณีการประชุมพหุภาคี)[การทูต]
ความลำเอียงในการอภิปราย[การแพทย์]
การอภิปรายเกี่ยวกับรายตัวอย่าง[การแพทย์]
การสรุปรายงานเฉพาะกรณี[การแพทย์]
สรุปผลเมื่อผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล, สรุปรายงาน, สรุปผลเมื่อผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล[การแพทย์]
การอภิปราย, อภิปราย, วิจารณ์ผล, วิจารณ์[การแพทย์]
การใช้วิธีอภิปราย[การแพทย์]
การอภิปรายหมู่, การอภิปรายเป็นคณะ[การแพทย์]
ระบาดเป็นแห่ง, ท้องถิ่นที่มีโรค, ประจำท้องถิ่น, ประจำถิ่น, โรคเรื้อรังประจำถิ่น, เกิดประปรายประจำ, การระบาด[การแพทย์]
ลูกปรายหิมะ[อุตุนิยมวิทยา]
ลูกปรายน้ำแข็ง[อุตุนิยมวิทยา]
หินแกรนิต, หินอัคนีชนิดหนึ่งประกอบด้วยแร่ควอรตซ์และเฟลด์สปาร์เป็นส่วนใหญ่ มีแร่อื่น ๆ  เช่น แร่ไมกา ปนอยู่ด้วย ผลึกของแร่แต่ละชนิดเกาะก่ายกัน มีลักษณะเป็นดอก ๆ ประปราย และมีเนื้อหยาบ เปลือกโลกประกอบด้วยหินชนิดนี้เป็นส่วนใหญ่[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
วิธิอภิปรายกลุ่ม, [การแพทย์]
ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
นี่ ดูฝนที่โปรยปรายลงมาสิHero (1992)
คุณต้องการที่จะดำเนินการต่อไปนี้การอภิปรายเทววิทยาในรถ ... หรือในเรือนจำกับตำรวจได้หรือไม่Pulp Fiction (1994)
ดวงอาทิตย์ขึ้นประปรายจาก ทะเล และคนเก่าจะได้เห็นเรือลำอื่น ๆ ต่ำในน้ำและได้ดีในที่มีต่อThe Old Man and the Sea (1958)
การประชุมไม่มีการอภิปรายหรือเทคนิค SollozzoThe Godfather (1972)
เพลง มาดาม Vaccari จะบอก us another เรื่องราว... ...เพื่อการกระตุ้นที่เรา for another การต่อสู้กันประปรายSalò, or the 120 Days of Sodom (1975)
อัดเทปรายการใช่มั้ยครับOh, God! (1977)
การอภิปรายนี้ยังไม่จบ!Akira (1988)
พิตต์สเบิร์กเหรอ แต่พรุ่งนี้เช้า เธอต้องไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ทัณฑ์บลGoodfellas (1990)
ผมต้องไปรายงานตัวกับ คุณเจมส์ อ่ะครับMannequin: On the Move (1991)
เราต้องไปรายงานนายท่านOne Piece: Wan pîsu (1999)
-กลับบ้านแล้วไปรายงานตัวซะCrouching Tiger, Hidden Dragon (2000)
มีการอภิปรายอย่างดุเดือด ระหว่างสมาชิก... ติดตามนายกรัฐมนตรี กล่าววิพากษ์วิจารณ์... ถึงการต้อนรับเมื่อวานนี้.Visitor Q (2001)
ไปรายงานอัยการBad Guy (2001)
ฉันเดาว่านายคงเดินไปรายงานให้ พวกบอร์ดผู้บริหารของโรงเรียนรับทราบแล้วมั๊งHothead (2001)
ควรจะเข้าไปรายงานตัวกับ หัวหน้าดีกว่าInspector Gadget 2 (2003)
จงปล่อยให้หิมะโปรยปราย ห่วยแตกไปเลยใช่มั้ย?Love Actually (2003)
ปล่อยให้หิมะโปรยปรายLove Actually (2003)
เมื่อหิมะเริ่มโปรยปรายLove Actually (2003)
ทนายโทรมาเตื่อนคุณ คุณต้องไปรายงานตัววันจันทร์21 Grams (2003)
ข้อมูลในตอนแรกยังประปรายและดูเหมือนไม่สำคัญ แต่ค่อย ๆ สะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเดี๋ยวนี้เรารู้แล้วว่าสารเคมีสังเคราะห์The Corporation (2003)
- ถูกต้อง. รีบเข้าไปรายงานตัวที่พระราชวังด้วยMulan 2: The Final War (2004)
ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เดือนของการอภิปรายถึงที่สุด สรุปสัปดาห์ที่ผ่านมาถึง 10Contact (1997)
เจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานดับเพลิงทุกคน ที่ไม่ได้ประจำการอยู่ในตอนนี้ ให้กลับเข้าไปรายงานตัว ยังหน่วยงานต้นสังกัดโดยทันทีSky Captain and the World of Tomorrow (2004)
พ่อมดเจนกินส์ต้องไปรายงานตัวที่ปราสาททันที เท่านี้ละครับHowl's Moving Castle (2004)
กรุณาบอกมิสเตอร์เพนดรากอนด้วยว่า แม่มดและพ่อมดทุกคน จะต้องไปรายงานตัวที่พระราชวังครับHowl's Moving Castle (2004)
เขาบอกว่าอาจารย์ต้องไปรายงานตัวที่วังHowl's Moving Castle (2004)
เฮ้! แล้วนายไม่ไปรายงานตัวกับราชาหรือไงHowl's Moving Castle (2004)
ผมคงหนีต่อไปได้อีกไม่นาน คงต้องไปรายงานตัวที่ปราสาทแล้วHowl's Moving Castle (2004)
ผมต้องไปรายงานตัวที่ปราสาทเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการเรียกตัวHowl's Moving Castle (2004)
ทำไมคุณไม่ไปรายงานตัวที่ปราสาทแทนผมล่ะ!Howl's Moving Castle (2004)
เด็กผู้หญิงทุกคนไปรายงานตัว ที่โรงยิมเดี๋ยวนี้ !Mean Girls (2004)
เธอต้องไปรายงานตัวที่มหาลัย พรุ่งนี้แล้วไม่ใช่เหรอRice Rhapsody (2004)
วอนนางฟ้า ปรายตามอง?Nobody Knows (2004)
พบกันในวันแรกที่หิมะโปรยปรายThe Guy Was Cool (2004)
คงเป็นเพราะ... . โปสการ์ดบ้าๆที่ฉันส่งไปรายการวิทยุนั่นCrying Out Love in the Center of the World (2004)
โปรยปรายไปกับสายลมที่อูลูรู แล้วจากนั้นCrying Out Love in the Center of the World (2004)
มันบานปรายเกินกว่าจะควบคุมมันได้Mr. Monk Meets the Godfather (2004)
พร้อมกับหิมะโปรยปราย ผู้ไม่คาดหวังมาเยือนMemoirs of a Geisha (2005)
- นโยบายไม่ใช่เรื่องต้องอภิปรายÆon Flux (2005)
ผมกำลังอภิปรายมันÆon Flux (2005)
ทุกๆอย่างดูขาวโพลนไปหมดเช่นเดิม ฉันรู้ว่าหิมะจะโปรยปรายลงมาอีกในคืนนี้March of the Penguins (2005)
วาโก้คงกลับไปรายงานว่าเจ้าตายแล้วThe Chronicles of Riddick (2004)
เออ.. ผมว่าผมจะไปรายงานผลของค่ำคืนนี้ เจ้งกับเจ้งCasino Royale (2006)
ถ้าเธอรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน รีบ ๆ บอกมาซะ ไม่งั้นฉันจะไปรายงานกรมอนามัยให้มาที่นี่ แล้วตรวจดูว่าเธอเอาอะไรทำเป็น หมูผัดListen to the Rain on the Roof (2006)
เราต้องไปรายงานตัวที่สำนักงานใหญ่Otis (2006)
ใช่ค่ะท่าน ฉันต้องรักษาคุณภาพการให้บริการ ฉันต้องตรวจสอบสายปรายทางค่ะMr. Monk and the Other Detective (2005)
ไปรายงานท่านอีกครั้งEpisode #1.42 (2006)
- ไปรายงานตัวกับเบ็คแมนChuck Versus the Nemesis (2007)
ท่านประธานต้องการทราบว่าคุณเป็นยังไงบ้าง ผมต้องไปรายงานให้ท่านทราบครับFlowers for My Life (2007)
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
[aphiprāi] (n) EN: discussion  FR: débat [ m ] ; discussion [ f ]
[aphiprāi] (v) EN: debate ; discuss ; contend ; discuss ; talk over ; argue  FR: débattre ; discuter ; délibérer
[aphiprāi thūapai] (n, exp) EN: general debate  FR: débat général [ m ]
[kān aphiprāi] (n) EN: discussion  FR: discussion [ f ] ; débat [ m ]
[kān aphiprāi jǿ leuk] (n, exp) EN: in-depth discussion  FR: discussion approfondie [ f ]
[kān aphiprāi khūkhanān] (n, exp) EN: parallel discussion  FR: discussions parallèles [ fpl ]
[kān aphiprāi mai waiwāngjai] (n, exp) EN: debate of no-confidence ; censure debate
[kān aphiprāi phūchamnān phisēt] (n, exp) EN: panel discussion
[kān aphiprāi sāthārana] (n, exp) EN: forum  FR: débat public [ m ] ; forum [ m ]
[kān chumnum aphiprāi] (n, exp) EN: symposium
[kān leūoen kān aphiprāi] (n, exp) EN: adjournment of the debate
[khana aphiprāi] (n, exp) EN: colloquium
[klum aphiprāi] (n, exp) EN: discussion group  FR: groupe de discussion [ m ]
[phū ruam aphiprāi] (n, exp) EN: panelist
[pit aphiprāi] (v, exp) EN: close a debate  FR: clore un débat ; terminer un débat
[praprāi] (adj) EN: sparsely ; thinly ; slightly ; lightly ; scant ; not much ; occasional
[prōiprāi] (v) EN: rain lightly ; spread  FR: pleuvoir légèrement
[rāikān aphiprāi] (n, exp) EN: item for discussion  FR: sujet de discussion [ m ]
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
(vt)ให้เหตุผลSee Also:อ้างเหตุผล, อภิปราย
(phrv)ถกเถียงเพื่อต่อต้านSee Also:อภิปรายแย้ง, อภิปรายต่อต้าน
(phrv)ถกเถียงเรื่องSee Also:อภิปรายเรื่อง
(phrv)พิจารณาอย่างถี่ถ้วน (คำไม่เป็นทางการ)See Also:อภิปรายอย่างละเอียด
(n)หัวเรื่องของการอภิปรายSyn.subject of discussion
(phrv)อภิปรายกับSyn.debate about
(phrv)กล่าวสุนทรพจน์เรื่องSee Also:อภิปรายเรื่อง, ปราศรัยเรื่อง
(phrv)กล่าวสุนทรพจน์เรื่องSee Also:อภิปรายเรื่อง, ปราศรัยเรื่อง
(phrv)อภิปรายกับ
(n)ผู้อภิปรายSee Also:ผู้โต้แย้งSyn.arguer, talker
(adj)เกี่ยวกับการอภิปราย (ทางการเมือง)See Also:เป็นผลของการอภิปราย
(n)การอภิปรายSee Also:การสนทนา
(vi)สนทนาSee Also:อภิปราย
(n)การสนทนา (คำทางการ)See Also:การอภิปรายSyn.dialog
(vi)สนทนาSee Also:อภิปราย
(n)ฝนตกปรอยปรายSyn.mist, drip
(adj)เกี่ยวกับการโต้แย้งถกเถียงSee Also:เกี่ยวกับการเกี่ยวกับการอภิปราย
(n)ที่สำหรับอภิปรายSee Also:ที่แสดงความคิดเห็น
(phrv)ทำให้กระจายไปท่ามกลางSee Also:โปรยท่ามกลาง, โปรยปรายระหว่างSyn.intersperse between
(phrv)ทำให้กระจายไปท่ามกลางSee Also:โปรยท่ามกลาง, โปรยปรายระหว่างSyn.intersperse among
(adj)ซึ่งมีลักษณะของการสนทนาSee Also:ซึ่งมีลักษณะของการอภิปราย
(vt)เสนอความคิดหรือหัวข้อเพื่อการอภิปราย (มักใช้รูป passive voice)Syn.broach, raise, proposeAnt.repress, conceal
(n)รายการหัวข้อที่อภิปรายในรัฐสภาแต่ละวัน
(n)คณะผู้อภิปรายทางการเมืองSyn.committee, group
(n)ผู้ร่วมอภิปรายSee Also:สมาชิกในกลุ่มผู้อภิปรายSyn.discussant, participants
(vt)อภิปรายเรื่องการเมือง
(vt)อภิปรายเรื่องการเมือง
(n)ประปราย
(n)ปริมาณโปรยปรายSee Also:จำนวนที่พรมลงมา
(n)การประชุมสัมมนาSee Also:การประชุมอภิปรายSyn.conference, parley, discussion
(n)การอภิปรายSee Also:การพิจารณา, การถกเรื่องSyn.discussion
(adj)น้อยSee Also:เบาบาง, มีประปรายSyn.sparse
Hope Dictionary
(อาร์'กิว) vt., vi. ถกเถียง, เถียง, โต้คารม, อ้างเหตุผล, อภิปราย, พูดให้ยอม, โต้แย้งพิสูจน์ว่า, แสดงให้เห็นว่า-arguer n.Syn.debate
(อาร์กิวเมนเท'เชิน) n. ขบวนการโต้เถียงการให้เหตุผล, การอภิปราย, การถกเถียง, บทความเชิงอภิปราย, ข้อพิสูจน์, ข้อสรุป, ข้ออนุมานSyn.discussion
n. การอภิปรายกลุ่ม
(แคน'เวิส) { canvassed, canvassing, canvasses } vt., vi., n. (การ) ตรวจสอบอย่างละเอียด, หาเสียง, ออกเที่ยวชักชวน, อภิปรายอย่างละเอียด, วิจารณ์อย่างรุนแรงSee Also:canvasser n. ดู canvassSyn.examine, survey
(โคล'เชอะ) { clotured, cloturing, clotures } n. วิธีการปิดการอภิปรายและให้มีการลงคะแนนเสียงทันที vt., vi. ปิดการอภิปราย
(คะโล'เควียม) n. การประชุม หรือปรึกษาหารืออย่าง ๆ ไม่เป็นทางการ, การอภิปรายกลุ่ม
(คันแฟบ'บิวเลท) vi. คุยกันเล่น, สนทนา, อภิปรายSee Also:confabulator n.
(คันแฟบบิวเล'เชิน) n. การคุยกันเล่น, การสนทนา, การอภิปราย.See Also:confabulatory adj.Syn.conversation
(คอน'ทระเวิร์ท) vt. โต้เถียง, คัดค้าน, อภิปราย.See Also:controverter n. ดูcontrovert controvertible adj. ดูcontrovertSyn.oppose, deny
(ดิเบท') { debated, debating, debates } vt., n. (การ) ถกเถียง, อภิปราย, พิจารณา, ชิงชัย, ต่อสู้Syn.argue
(ดิส'คอร์ส) v., n. (การ) สนทนา, บรรยาย อภิปราย.See Also:discourser n. ดูdiscourseSyn.confer
(ดิสคัส') { discussed, discussing, discusses } vt. อภิปราย, โต้ตอบ, สาธยาย.See Also:discusser n. ดูdiscussSyn.debate, argue
(ดิสคัส'เซินทฺ) n. ผู้อภิปราย, ผู้ร่วมการอภิปราย
(ดิสคัส'เชิน) n. การอภิปราย, การโต้แย้งหาเหตุผล
(ดิสพิว'เทินทฺ) n.ผู้โต้เถียง, ผู้โต้แย้ง, ผู้อภิปราย. -adj. ซึ่งโต้เถียง, ซึ่งโต้แย้ง
n. การโต้เถียง, การอภิปราย, การทะเลาะSyn.dispute
(ดริซ'เซิล) { drizzled, drizzling, drizzles } vt., vi., n. ฝนตกประปราย, ฝนตกพรำSee Also:drizzly adv.
n. การรบอย่างประปราย
(แฟลคฺ) n. การยิงปืนต่อสู้อากาศยาน, การวิจารณ์ที่รบกวน, การต่อต้านที่รบกวน, การโต้เถียงอย่างเผ็ดร้อน, การอภิปรายอย่างเผ็ดร้อน.Syn.flack
(ฟลอร์) n. พื้น, พื้นห้อง, กัน (ทะเล, ถ้ำ, น้ำ) , ชั้นอาคาร, ชั้นต่ำสุด, ชั้นพื้นฐาน vt. ปูพื้น, ทำให้ล้มลง, ทำให้สับสน, ทำให้งง. -Phr. (take the floor อภิปราย)Syn.level, stage
(เฟลอ'รี) n. หิมะที่ตกปรอย ๆ , ฝนตกลงมาอย่างประปราย, ความตื่นเต้นหรืองงงวยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน, ความเกรียวกราว, ความหวั่นไหวของตลาดหุ้น, ลมที่พัดมาอย่างกะทันหัน. vt. ทำให้ยุ่งใจ, ทำให้ตื่นเต้นSyn.fluster
(ฟอ'รัม) n. สภา, ที่ประชุมสำหรับการอภิปราย, ศาล, ศาลกลางเมือง, วิธีการอภิปรายปัญหา, -Phr. (the Forum ตลาดหรือสนามกว้างของเมืองโบราณสมัยโบราณ)Syn.assembly, meeing -pl. forums, fora
(จีนี) ย่อมาจาก General Electric Network for Information Exchange เป็นบริการตามสายซึ่งจัดไว้สำหรับการคัดลอกโปรแกรม การเล่นเกม การอภิปรายปัญหาแบบรายการสัมนาโต๊ะกลมไว้ให้ แต่ไม่ฟรี จีนีมีขนาดหรือมีสมรรถนะต่ำกว่า Compuserve แต่ก็มีค่าบริการถูกกว่า ดู Compuserve, internet และ network ประกอบ
(มูท) adj. น่าสงสัย, ไม่จริง, เป็นสมมุติฐาน vt. ถกเถียง n. ศาลากลาง, การถกเถียง, การอภิปรายSyn.debatable, academic
(แพน'นะลิสท) n. สมาชิกของกลุ่มผู้อภิปราย
n. การอภิปรายหมู่ต่อหน้าชุมชน ในรายการโทรทัศน์ หรือวิทย
(เพล'ลิท) n. ก้อนกลมเล็ก ๆ , ลูกกลม, ลูกหิน, ลูกปืน, เม็ดขี้สัตว์, ลูกปราย, ยาเม็ดกลม vt. ปั้นเป็นลูกกลม, ยิงหรือปาด้วยลูกกลม.See Also:pelletize vt. ทำให้เป็นลูกกลมSyn.ball, sphere, drop
(เควส'เชิน) n. คำถาม, ประโยคคำถาม, ปัญหา, การถาม, การสอบถาม, กระทู้, เรื่องที่อภิปราย -v. ถาม, สอบถามSee Also:questioner n. questionable adj. questionably adv. -Phr. beyond all question ไม่ต้องสงสัย -Phr. out of the question เป็นไปไม่ได้
(เซม'มะนาร์) n. กลุ่มสัมมนา, สัมมนา, การประชุมสัมมนา, วิชาประเภทสัมมนา, การประชุมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและอภิปราย
(สเคอ'มิช) vi., n. (การ) ต่อสู้กันประปราย, ต่อสู้กันระหว่างกลุ่มเล็ก ๆ
(สพริง'เคิล) vt., vi., n. (การ) พรม, โปรย, โรย, หว่าน, (ฝน) ลงประปราย, ฉีดให้เปียก., สิ่งที่ใช้พรม (โรย, โปรย) , การหว่าน, ฝนที่ลงประปราย, จำนวนเล็กน้อย
(ธีม) n. หัวข้อการอภิปราย, หัวข้อในการสนทนา, หัวข้อหนังสือ, เรื่องของหนังสือ, ใจความ, สาระสำคัญ, แก่นสาร, หัวข้อความเรียง, แกนคำศัพท์, แนวบทเพลง.Syn.topic, subject
(ทริบ'บิวน์) n. ผู้พิทักษ์สิทธิของประชาชน, เจ้าหน้าที่คุ้มครองประชาชน, เวทีแสดงสุนทรพจน์, เวทีอภิปราย, ยกพื้นสำหรับการแสดงสุนทรพจน์See Also:tribuneship n.
(เวน'ทะเลท) vt. ระบายลม, ระบายอากาศ, ทำให้มีอากาศเข้าได้, เปิดเผย, เปิดให้ตรวจสอบ, เปิดอภิปราย, แสดงออก, แสดงข้อคิดเห็น.See Also:ventilable adj. ventilative adj.
Nontri Dictionary
(vi, vt)แย้งกัน, โต้เถียง, คัดค้าน, อภิปราย
(n)การถกเถียง, การอภิปราย, การโต้แย้ง, การโต้วาที
(vt)ถกเถียง, โต้แย้ง, ต่อต้าน, ชิงชัย, โต้วาที, อภิปราย
(n)ผู้ถกเถียง, ผู้อภิปราย, ผู้โต้วาที
(n)การสนทนา, การบรรยาย, การอภิปราย, การพูด, ปาฐกถา
(vi)สนทนา, บรรยาย, อภิปราย, พูด, ปาฐกถา
(vt)อภิปราย, สาธยาย, พิจารณา, โต้เถียง, โต้ตอบ, สนทนา
(n)การอภิปราย, การพิจารณา, การสนทนา, การโต้เถียง, การโต้ตอบ
(n)การโต้เถียง, การโต้แย้ง, การถกปัญหา, การอภิปราย
(vt)โต้เถียง, แย้ง, ค้าน, ทะเลาะ, ต่อต้าน, อภิปราย
(vt)แจกจ่าย, โปรยปราย, เผยแพร่, แพร่กระจาย
(vi)ฝนปรอย, ฝนตกพรำ, ฝนตกประปราย
(vt)ทำให้กระจายไปทั่ว, โปรยปราย
(n)ลูกปราย, ยาเม็ดเล็กๆ, ลูกปืน, ลูกหิน
(vi)โปรยปราย, ฝนตก
(vi)ตกปรอยๆ, โปรยปราย, อาบน้ำฝักบัว
(adj)ซึ่งโปรยปราย
(n)การประดาบ, การรบกันประปราย, การโต้เถียงเล็กน้อย
(vi)ประดาบ, รบกันประปราย, โต้เถียงเล็กน้อย
(adj)เป็นพักๆ, ประปราย, เป็นระยะๆ, กระจัดกระจาย
(n)การพรม, จำนวนน้อย, การโปรย, การหว่าน, ฝนโปรยปราย
(n)ผู้พิทักษ์ประชากร, เวทีอภิปราย
Longdo Unapproved EN-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
(phrase)ปรายตา, ชำเลืองมอง, มองผ่าน ๆ ก็เข้าใจ
(vi, vt)บังไค (ตราสวัสดิกะ) สัญลักษณ์ที่ใช้ในสมัยสงครามโลก ถูกคิดค้นขึ้นโดยฮิตเลอร์ หรือ คำที่ใช้ในการ ปลดปล่อยพลังของเหล่ายมฑูต ในการ์ตูนเรื่อง Bleach Ex: ปลดปล่อยสวัสดิกะ - จงโปรยปรายเซมบงซากุระคาเงโยชิ หรือ บังไค เซมบซากุระคาเงโยชิ นั่นเอง
Image:
bankai
(n)ระเบิดลูกปราย
(n)ระเบิดลูกปราย
Longdo Approved JP-TH
[ないかくふしんにんあん, naikakufushinnin'an](n)ญัตติเพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี
Longdo Unapproved JP-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
議論
[ぎろん, giron](n)การอภิปราย การโต้แย้ง การถกเถียง
言論
[げんろん, genron](n)[ N ] การสนทนา, See also: การปรึกษาหารือ, การอภิปราย, การประชุม, การแลกเปลี่ยนความเห็น, การอภิปราย, Syn. consulation, argument, conference, seminar
言論
[げんろん, genron](n)[ N ] การสนทนา, See also: การปรึกษาหารือ, การอภิปราย, การประชุม, การแลกเปลี่ยนความเห็น, การอภิปราย, Syn. consulation, argument, conference, seminar
疑問
[ぎもん, gimon](n)(เควส'เชิน) n. คำถาม, ประโยคคำถาม, ปัญหา, การถาม, การสอบถาม, กระทู้, เรื่องที่อภิปราย -v. ถาม, สอบถาม, S. . questioner n. questionable adj. questionably adv. -Phr. (beyond (all) question ไม่ต้องสงสัย) -Phr. (out of the question เป็นไปไม่ได้)
Longdo Approved DE-TH
(n)|die, pl. Aufmerksamkeiten| ความสนใจ, ความเอาใจใส่ เช่น Vielen Dank für Ihre Aufmerksamkeit! ขอบคุณมากสำหรับความสนใจของคุณ หรือ ขอบคุณมากที่คุณตั้งใจฟัง (มักใช้หลังจากผู้พูดจบการอภิปราย)
(vt)|versprach sich, hat sich versprochen| พูดผิด เช่น Der Redner war sehr nervös und hat sich dauernd versprochen. ผู้พูดอภิปรายตื่นเต้นเกินไป และพูดผิดตลอดเวลา
(n)|die, pl. Auseinandersetzungen, über eine Sache| การอภิปรายถกเถียง, การโต้แย้ง, การเถียงกันSee Also:StreitSyn.Diskussion
เพิ่มคำศัพท์
add
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ