292 ผลลัพธ์ สำหรับ 

*ทูต*

 ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น: ทูต, -ทูต-
Longdo Unapproved TH - EN**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
อัครราชทูตที่ปรึกษา
(n)Minister Counsellor
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
(n)ambassadorSee Also:diplomat, envoy, representative, ministerSyn.นักการทูต, ราชทูต, ทูตาExample:ประเทศไทยส่งทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศUnit:คน, ท่านThai Definition:ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนไปยังต่างประเทศ เพื่อเจรจาหรือเจริญสันถวไมตรีเป็นทางราชการNotes:(บาลี)
(n)messenger of deathSee Also:angels, seraph, God's messenger, Angel of Death, Example:คนโบราณเชื่อกันว่านกฮูกหรือนกแสกเป็นยมทูตที่จะมาคร่าชีวิตคนThai Definition:ผู้นำคนตายไปยังบัลลังก์พระยมเพื่อรอคำตัดสิน
(n)diplomacySee Also:statecraft, statesmanship, foreign affairs, external affairsExample:เขาชอบใช้วิธีการทูตในการเจรจาหว่านล้อมและสร้างพันธมิตรทางการค้า
(n)diplomatic corpsSee Also:diplomatic missionExample:นายดิเรก ชัยนาม เป็นหัวหน้าคณะทูตทหารที่เดินทางไปพบกับฝ่ายทหารอังกฤษที่ศรีลังกา
(n)diplomatic corpsSee Also:diplomatic missionExample:นายดิเรก ชัยนาม เป็นหัวหน้าคณะทูตทหารที่เดินทางไปพบกับฝ่ายทหารอังกฤษที่ศรีลังกา
(n)diplomatic corpsSee Also:diplomatic missionExample:นายดิเรก ชัยนาม เป็นหัวหน้าคณะทูตทหารที่เดินทางไปพบกับฝ่ายทหารอังกฤษที่ศรีลังกา
(n)the third ministerExample:เบื้องบนส่งตรีทูตลงมาปกปักรักษาหมู่บ้านแห่งนี้Thai Definition:ทูตคนที่สาม, ผู้แทนคนที่สาม
(n)disorder of the three humours of the body, vitiation of the blood, bile, and phlegmSee Also:in great dander, in jeopardy, hazardous, critical ill, dying, on the verge of deathSyn.ตรีโทษExample:อาการของเขาเข้าขั้นตรีทูตคงจะไม่รอดแน่ๆThai Definition:ลักษณะบอกอาการสามอย่างที่แสดงว่าใกล้จะตาย
(n)envoySee Also:emissaryUnit:คนThai Definition:ทูตที่ประมุขของรัฐหนึ่งแต่งตั้งไปประจำสำนักประมุขของอีกรัฐหนึ่ง เพื่อไปปฏิบัติภารกิจทางการทูต มีฐานะต่ำกว่าเอกอัครราชทูตแต่สูงกว่าอุปทูตNotes:(อังกฤษ)
(n)envoySee Also:embassy, envoy extraordinary, minister plenipotentiaryExample:พระยามนตรีสุริยวงศ์เป็นราชทูตอัญเชิญพระราชสาสน ์และเครื่องราชบรรณาการของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวไปถวายสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งอังกฤษThai Definition:ผู้นำพระราชสาสน์ไปประเทศอื่น, ผู้แทนชาติในประเทศอื่น, ตำแหน่งผู้แทนรัฐถัดจากอัครราชทูตNotes:(บาลี)
(n)charge d'affairesExample:วิกฤตการณ์ทางการเมืองได้ผันแปรวิถีชีวิตให้ท่านต้องไปรับตำแหน่งอุปทูตไทยที่ประเทศอาร์เจนตินาUnit:คนThai Definition:ผู้รักษาการในตำแหน่งหรือรักษาการแทนหัวหน้าสถานเอกอัครราชทูต หรือหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต
(n)stages of lifeNotes:(บาลี/สันสกฤต)
(n)deityExample:เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จเห็นเทวทูตข้างนอกวังThai Definition:ชื่อคติแห่งธรรมดา 3 ประการ คือ ชรา, พยาธิ, มรณะNotes:(บาลี/สันสกฤต)
(n)a divine messengerSee Also:angel, God's messenger, Angel of Death, archangel, guardian angelSyn.สื่อสวรรค์Notes:(บาลี/สันสกฤต)
(n)legationUnit:แห่ง
(n)embassySee Also:legationExample:คนต่างด้าวที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ไม่กล้ามาแจ้งที่อยู่กับสถานทูตUnit:แห่ง, ที่Thai Definition:อาคารที่ทำการของทูตต่างประเทศ
(v)present an envoy to the kingExample:นายกฯ เบิกทูตจากเดนมาร์กเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเทพเพื่อถวายรายได้จากการจัดงานThai Definition:นำฑูตเข้าเฝ้า
(n)diplomatic circlesSyn.แวดวงทูตExample:แขกที่มาอวยพรคู่บ่าวสาวมีแต่ผู้ที่อยู่ในวงการทูตทั้งนั้นUnit:วงการThai Definition:หน่วยงานและกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทูต
(n)angelThai Definition:ผู้สื่อสารจากพระผู้เป็นเจ้า
(n)diplomatSee Also:envoy, representative, minister, ambassador, diplomatic body, diplomatic corpsSyn.ตัวแทนUnit:ท่าน, คน , กลุ่ม, คณะThai Definition:ทูตใหญ่น้อย, คณะทูตNotes:(บาลี)
(n)diplomatSee Also:ambassador, emissary, envoy, consul, minister, statesmanExample:พ่อของฉวีวรรณเป็นนักการทูตที่มีความสามารถมานานมากUnit:คนThai Definition:ผู้ชำนาญการทูต
(n)ministerExample:เมื่อสมัยกรมขุนเพชรบูรณ์อินทราชัยยังทรงพระเยาว์อยู่นั้น ทรงถูกอัครราชทูตอังกฤษบริภาษใส่พระพักตร์Unit:คนThai Definition:ผู้แทนรัฐบาลไปราชการชั่วคราว หรือประจำอยู่ในสำนักแห่งรัฐบาลอื่นNotes:(โบราณ)
(n)internuncioUnit:องค์Thai Definition:ทูตที่สันตะปาปาทรงแต่งตั้งไปประจำรัฐหนึ่ง
(v)be nearly deadSee Also:approach to deathExample:คนไข้รายนั้นเข้าขั้นตรีทูตแล้ว คงช่วยต่อไปไม่ได้Thai Definition:มีอาการสามอย่างเมื่อใกล้จะตาย, อาการหนักปางตาย
(n)goodwill ambassadorExample:เรากำลังจะส่งทูตสันถวไมตรีไปยังเวียดนามใต้Unit:คนThai Definition:ทูตที่ทำหน้าที่เชื่อมสัมพันธไมตรี
(n)nuncioUnit:คนThai Definition:สมณทูตอันดับหนึ่งที่สันตะปาปาทรงแต่งตั้งไปประจำสำนักของประมุขของอีกรัฐหนึ่ง เพื่อเป็นตัวแทนทางการทูต รวมทั้งทำหน้าที่ดูแล และประสานงานกับคาทอลิกในส่วนที่เกี่ยวกับศาสนาNotes:(อังกฤษ)
(n)embassyExample:เขาเดินหนังสือไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงลอนดอนThai Definition:สถานที่ทำการของเอกอัครราชทูต
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ว. มีอาการหมดความรู้สึกเมื่อใกล้จะตาย, อาการหนักปางตาย.
น. ทูตลำดับที่ ๓ ในคณะทูต รองจาก ราชทูต และ อุปทูต.
น. ลักษณะบอกอาการของคนเจ็บหนักใกล้จะตาย.
น. ผู้นำข้อความไปแจ้งทั้ง ๒ ฝ่าย, ผู้รับใช้ไปเจรจาแทน, ผู้สื่อสาร, ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนไปยังต่างประเทศ เพื่อเจรจาหรือเจริญสัมพันธไมตรีเป็นทางราชการ.
น. ทูตใหญ่น้อย, คณะทูต.
น. ทูตของเทพ คือสิ่งที่เป็นสัญญาณเตือนให้ระลึกถึงคติธรรมดาของชีวิต เพื่อให้เกิดความสังเวชและรีบเร่งทำความดีด้วยความไม่ประมาท เช่น เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จประพาสอุทยานพบเทวทูต ๓ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย ทำให้เกิดความสังเวช ต่อมาได้พบเทวทูตที่ ๔ คือสมณะ ทำให้คิดออกบวช.
น. ผู้นำคนตายไปยังบัลลังก์พระยมเพื่อรอคำตัดสิน.
(รัดถะทูด) น. ทูตที่ประมุขของรัฐหนึ่งแต่งตั้งไปประจำสำนักประมุขของอีกรัฐหนึ่ง เพื่อไปปฏิบัติภารกิจทางการทูต มีฐานะตํ่ากว่าเอกอัครราชทูตแต่สูงกว่าอุปทูต.
น. ผู้นำพระราชสาส์นไปประเทศอื่น, ผู้แทนชาติในประเทศอื่น, ตำแหน่งผู้แทนรัฐถัดจากอัครราชทูต.
ว. มีศิลปะในการเจรจาให้สำเร็จประโยชน์และเป็นที่พอใจด้วยกันทุกฝ่าย.
น. ที่ทำการของทูต.
น. ผู้แทนรัฐบาลไปราชการชั่วคราวหรือประจำอยู่ในสำนักแห่งรัฐบาลอื่น.
(-สะมะนะทูด) น. ทูตที่สันตะปาปาทรงแต่งตั้งไปประจำสำนักประมุขของอีกรัฐหนึ่งในกรณีที่ไม่มีการแต่งตั้งเอกอัครสมณทูต มีฐานะระดับเดียวกับรัฐทูต.
(อุปะทูด, อุบปะทูด) น. ผู้รักษาการในตำแหน่งหรือรักษาการแทนหัวหน้าสถานเอกอัครราชทูตหรือหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต
ตำแหน่งรองจากราชทูต.
(เอกอักคฺระ-) น. ทูตอันดับหนึ่งซึ่งประมุขของรัฐแต่งตั้งไปประจำยังสำนักของประมุขของอีกรัฐหนึ่ง เพื่อให้เป็นตัวแทนในการเจรจากิจการต่าง ๆ และดูแลผลประโยชน์คนในชาติของตนในรัฐนั้น ๆ.
(เอกอักคฺระ-) น. สมณทูตอันดับหนึ่งที่สันตะปาปาทรงแต่งตั้งไปประจำสำนักของประมุขของอีกรัฐหนึ่ง เพื่อเป็นตัวแทนทางการทูต รวมทั้งทำหน้าที่ดูแลและประสานงานกับคริสต์ศาสนิกชนนิกายโรมันคาทอลิกในส่วนที่เกี่ยวกับศาสนา มีฐานะระดับเดียวกับเอกอัครราชทูต.
ก. เจริญทางพระราชไมตรีเฉพาะกับประเทศจีน โดยนำพระราชสาส์นและเครื่องราชบรรณาการไปถวายจักรพรรดิตามเวลาที่กำหนด ปรกติ ๓ ปี ต่อครั้ง เช่น แต่งทูตออกไปจิ้มก้อง (พงศ. ร. ๓), (ปาก) โดยปริยายหมายถึงนำสิ่งของเป็นต้นไปกำนัลเพื่อเอาใจ.
จัดตั้ง เช่น แต่งทนาย แต่งราชทูต
เจ้าหน้าที่การทูตชั้นผู้น้อยในสถานกงสุล.
นำเข้าเฝ้า เช่น เบิกตัว เบิกทูต.
(พะนะท่าน) น. คำนำหน้าชื่อหรือตำแหน่งข้าราชการผู้ใหญ่ชั้นรัฐมนตรี เอกอัครราชทูต เป็นต้น.
น. การที่เกี่ยวกับพิธีและแบบหนังสือทางทูต เช่น กรมพิธีการทูต.
น. ความเป็นมิตรสนิทสนมกัน เช่น ต้อนรับด้วยสันถวไมตรี ทูตสันถวไมตรี.
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
บุคคลที่พึงปรารถนา (ทางการทูต)[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
บุคคลที่ไม่พึงปรารถนา (ทางการทูต)[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ผู้มีอำนาจเต็ม (ทางการทูต)[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
อัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็ม[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
เอกอัครสมณทูต[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
พิธีการทูต, พิธีสาร[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. พิธีสาร๒. พิธีการทูต[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
เอกสิทธิ์ทางทูต[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
สถานอัครราชทูต[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
สถานอัครราชทูต[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
สิทธิที่จะส่งและรับผู้แทนทางทูต[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. หนังสือเรียกทูตกลับ๒. พระราชสาสน์ถอน, สาสน์ถอน (ทูต)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
สิทธิที่จะส่งและรับผู้แทนทางทูต[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
อัครราชทูตประจำ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ปฏิสาสน์ (การทูต)[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การทูตอย่างไม่เป็นทางการ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ระยะสุดท้าย, ระยะตรีทูต[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ระยะสุดท้าย, ระยะตรีทูต[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ทูตสวรรค์, เทวทูต, นางฟ้า[ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ตัวแทนทางทูต[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. ส่งทูตไปประจำ๒. รับทูต[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ส่งผู้แทนทางการทูตไปประจำประเทศอื่น[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ส่งผู้แทนทางการทูตไปประจำประเทศอื่น[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบก[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งทูต[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบก[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ผู้ช่วยทูตฝ่ายพาณิชย์[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ผู้ช่วยทูตฝ่ายวัฒนธรรม[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเหล่าทัพ (ไทย)[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การทาบทามก่อนแต่งตั้งทูต[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การทาบทามก่อนแต่งตั้งทูต[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
เอกอัครสมณทูต[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
เอกอัครราชทูต[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
เอกอัครราชทูต[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. ผู้ช่วยทูต๒. ผู้ช่วยเลขานุการ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การทูตแบบใช้แสนยานุภาพ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. ภาระหน้าที่, ภารกิจพิเศษ๒. คณะทูต, คณะผู้แทน[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. ภาระหน้าที่, ภารกิจพิเศษ (ก. ทั่วไป)๒. คณะทูต, คณะผู้แทน (ก. ระหว่างประเทศ)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ในขั้นตรีทูต, ร่อแร่[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. รัฐมนตรี๒. อัครราชทูต๓. ศาสนาจารย์ (คริสต์ศาสนานิกายโปรเตสแตนต์)[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. รัฐมนตรี (ก. รัฐธรรมนูญ)๒. อัครราชทูต (ก. ระหว่างประเทศ)๓. ศาสนาจารย์ (ก. ปกครอง)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
อัครราชทูตที่ปรึกษา[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
อัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็ม[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
อัครราชทูตประจำ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
เอกอัครราชทูต[TU Subject Heading]
พระธรรมทูต[TU Subject Heading]
การทูต[TU Subject Heading]
สถานทูตและสถานกงสุล[TU Subject Heading]
สถานทูตและสถานกงสุลอเมริกัน[TU Subject Heading]
สถานทูตและสถานกงสุลไทย[TU Subject Heading]
พิธีการทูต[TU Subject Heading]
เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูต[TU Subject Heading]
ความคุ้มครองทางการทูต[TU Subject Heading]
เอกสารทางการทูต[TU Subject Heading]
ทูต[TU Subject Heading]
การยึดสถานทูต[TU Subject Heading]
ผู้ช่วยทูตทหาร[TU Subject Heading]
คณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงปักกิ่ง " ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียนประจำกรุง ปักกิ่ง มีหน้าที่ในการประสานผลประโยชน์และเป็นกลไกกลางของ อาเซียนในการมีปฏิสัมพันธ์กับสาธารณรัฐประชาชนจีนที่กรุงปักกิ่ง[การทูต]
การภาคยานุวัติ คือการที่รัฐหนึ่งเข้าไปเป็นภาคีสนธิสัญญา ซึ่งรัฐอื่น ๆ ได้วินิจฉัยตกลงก่อนแล้วและสนธิสัญญานั้นได้มีผลใช้บังคับก่อนแล้วด้วย บางที่ใช้คำ ?accession? ซึ่งตรงกับคำในภาษาฝรั่งเศสว่า ?adhésion? รัฐจะเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาไม่ได้ นอกจากว่าในสนธิสัญญานั้นมีบทบัญญัติยอมให้รัฐอื่นเข้ามาเป็นภาคีด้วยได้ เช่น มาตรา 4 ของกฎบัตรแห่งสหประชาชาติบัญญัติไว้ว่า?(1) สมาชิกภาพในสหประชาชาติ เปิดรับบรรดารัฐอื่นๆ ทั้งหลายที่ยอมรับพันธกรณีที่ระบุไว้ในกฎบัตรปัจจุบันและองค์การสหประชาชาติ พิจารณาวินิจฉัยแล้วว่า รัฐนั้น ๆ สามารถและเต็มใจที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีเหล่านั้น??(2) การรับรัฐใดๆ ดังกล่าวเข้าเป็นสมาชิกในสหประชาชาติจะเป็นผลสำเร็จก็ต่อเมื่อสมัชชาสหประชา ชาติได้ลงมติรับรองตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง? คือ เอกสิทธิ์ทางการทูตในการที่จะได้มีถิ่นพำนัก[การทูต]
แต่งตั้งให้ไปประจำ หมายถึง การแต่งตั้งมอบหมายให้หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตไปประจำยังประเทศอื่น และมีอำนาจดูแลประเทศนั้นหรือเขตอาณาต่าง ๆ ซึ่งในกรณีนี้เรียกว่า Accredited Ambassador[การทูต]
คณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงโซล ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียนประจำ กรุงโซล มีหน้าที่ในการประสานผลประโยชน์และเป็นกลไกกลางของอาเซียนในการมีปฏิ สัมพันธ์กับสาธารณรัฐเกาหลีที่กรุงโซล[การทูต]
คณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงโตเกียว ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตอาเซียน 10 ประเทศซึ่งประจำที่กรุง โตเกียว มีการหารือเป็นประจำทุก 1-2 เดือน หรือตามความจำเป็น[การทูต]
พระราชบัญญัติว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางทูต พ.ศ. 2527[การทูต]
ความเห็นชอบ ในการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตไปประจำในประเทศใด กำหนดให้ประเทศผู้ส่งขอความเห็นชอบจากประเทศผู้รับก่อน[การทูต]
การที่รัฐที่ผู้จะไปประจำตำแหน่งในรัฐนั้นได้ตกลง เห็นชอบกับบุคคลที่รัฐผู้ส่งเสนอชื่อให้เป็นผู้แทนทางการทูต อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้ บัญญัติไว้ว่า1. รัฐผู้ส่งไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นที่แน่นอนว่า รัฐผู้รับได้ให้ความเห็นชอบแล้ว สำหรับบุคคลที่รัฐผู้ส่งเสนอจะแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไปยังรัฐนั้น2. รัฐผู้รับไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลแก่รัฐผู้ส่งในการปฏิเสธไม่ให้ความเห็นชอบ เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตซึ่งรอการถวายสารตราตั้งจะต้องเริ่มดำเนิน การเพื่อเดินทางไปยังรัฐผู้รับในเรื่องนี้ มีตัวอย่างไม่น้อยที่รัฐผู้รับปฏิเสธไม่ให้ความเห็นชอบด้วยเหตุผลบางอย่าง นับตั้งแต่อ้างว่า การเสนอชื่อผู้รับการแต่งตั้งได้กระทำกะทันหันเกินไป และมิได้แจ้งข้อเท็จจริงมาก่อน หรือว่าผู้ที่ได้รับการเสนอให้เป็นผู้แทนทางการทูตผู้นั้นเคยกล่าวตำหนิ วิพากษ์รัฐผู้รับ หรือผู้รับการเสนอชื่อมมีภรรยาเป็นชาวยิว หรือผู้รับการเสนอชื่อถือศาสนาโรมันคาทอลิก หรือผู้นั้นเคยปฏิบัติไม่ดีต่อชนชาติของรัฐผู้รับ หรือผู้นั้นในขณะนั้นกำลังอยู่ในระหว่างถูกฟ้องร้อง ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกง เป็นต้นกล่าวโดยย่อ agr?ment คือ การให้ความเห็นชอบของรัฐผู้รับ แก่บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อจากรัฐผู้ส่งให้เป็นผู้แทนทางการทูตนั่นเอง[การทูต]
แปลตามตัวอักษรว่า ช่วยความจำ เป็นหนังสือโต้ตอบทางการทูตประเภทหนึ่ง คือ บันทึกสังเขปของการเจรจาที่ได้กระทำกันเสร็จสิ้นแล้ว บันทึกช่วยจำเช่นนี้ไม่มีการกล่าวนำเป็นทางการและไม่มีการลงชื่อ ซึ่งจะมอบให้แก่กันเมื่อเสร็จการเจรจากันแล้ว ความมุ่งหมายของบันทึกนี้คือ เพื่อบันทึกข้อเท็จจริงไว้เป็นหลักฐานซึ่งผู้รับบันทึกทราบดีแล้วบันทึกช่วย จำก็คือ บันทึกสรุปการสนทนาทางการทูตอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างผู้แทนหรือพนักงานทางการทูตกับหัวหน้าหรือพนักงานของกระทรวงการต่าง ประเทศ จุดประสงค์ตามที่ชื่อบ่งอยู่แล้วว่า เป็นการสรุปประเด็นต่าง ๆ ในการสนทนาเพื่อเตือนความจำนั้นเอง ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะมอบบันทึกนี้ไว้กับกระทรวงการต่างประเทศ ในบันทึกนั้นบรรทัดแรกจะระบุว่าใครเป็นผู้ส่งและใครเป็นผู้รับบันทึก ผู้ส่งบันทึกจะต้องลงชื่อย่อกำกับบันทึกไว้ด้วยบันทึกช่วยจำอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่า pro memoria โดยปกติภาษาที่ใช้ใน pro memoria จะมีลักษณะถ้อยคำเป็นทางการมากกว่า aide-memoire[การทูต]
เอกอัครราชทูต - Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary : เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม หมายถึง เอกอัครราชทูตที่รัฐผู้ส่งแต่งตั้งไปยังรัฐผู้รับ โดยมอบหมายอำนาจให้ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนของรัฐผู้ส่ง ในกรณีที่เอกอัครราชทูตมิได้มีถิ่นพำนักอยู่ในรัฐผู้รับ เรียกว่า Non-resident Ambassador - Ambassador-Designate : ว่าที่เอกอัครราชทูตประจำรัฐผู้รับ หมายถึง บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต แต่ยังมิได้ยื่นสาส์นตราตั้งต่อประมุขแห่งรัฐผู้รับ - Ambassador-at-Large : เอกอัครราชทูตผู้แทนพิเศษ หมายถึง ผู้แทนพิเศษของกระทรวงการต่างประเทศที่มีสิทธิและสถานะเทียบเท่าเอกอัคร ราชทูตผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลงานและกิจการเฉพาะกิจ หรือเฉพาะเรื่องในต่างประเทศเป็นครั้งคราว - Ambassador attached to the Ministry of Foreign Affairs : เอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ หมายถึง บุคคล ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต มีภารกิจดูแลกิจการภายในของกระทรวงการต่างประเทศ ตามที่ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงการต่างประเทศ - Resident Ambassador : เอกอัครราชทูตผู้มีถิ่นพำนักในประเทศไทย หมายถึง เอกอัครราชทูตของไทยที่ได้รับการแต่งตั้งให้ประจำต่อประมุขแห่งรัฐผู้รับ แต่ยังคงมีถิ่นพำนักอยู่ในรัฐผู้ส่ง เอกอัครราชทูตผู้มีถิ่นพำนักในประเทศไทยนี้ จะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในรัฐผู้รับเป็นครั้งคราว[การทูต]
ผู้แทนทางการทูตในอันดับแรก หรือ หัวหน้าของสถานเอกอัครราชทูตExample:ตามปกตินั้นจะเรียกกันง่าย ๆ ว่า ?Ambassador? (เอกอัครราชทูต) ในสมัยก่อนเอกอัครราชทูตที่ประจำอยู่ในประเทศผู้รับจะมีตำแหน่งต่อท้ายว่า ?Ordinary? (สามัญ) ส่วนเอกอัครราชทูตที่ถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจพิเศษ จะต่อท้ายว่า ?Extraordinary? (วิสามัญ) ต่อมาความแตกต่างดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปหมดแล้ว ทุกวันนี้บรรดาเอกอัครราชทูตทั้งหลายจะมีตำแหน่งห้อยท้ายว่า ?Extraordinary? (วิสามัญ) ทั้งสิ้น การที่ได้รับพ่วงคำว่า ?Plenipotentiary? (ผู้มีอำนาจเต็ม) เข้าไปกับตำแหน่งอีกคำหนึ่งนั้น ย่อมหมายความว่า เอกอัครราชทูตมีอำนาจเต็มที่จะทำการเจรจาทางการทูตตามปกติใดๆ ได้ แต่การที่จะทำการเจรจาและลงนามในสนธิสัญญาได้นั้น จำเป็นที่เขาจะต้องมีอำนาจเต็มเป็นพิเศษตามปกติหรือในหลักการ เอกอัครราชทูตจะติดต่อพบปะกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประจำ เซอร์เออร์เนสท์ ซาทาว ได้เขียนไว้ในหนังสือของท่านชื่อ Guide to Diplomatic Practice ซึ่งเซอร์เนวิล แบลนด์ (Sir Neville Bland) ได้เรียบเรียงและปรับปรุงแก้ไขใหม่เป็นครั้งที่ 4 (ดู น.167) มีความตอนหนึ่งว่า?บางคราวเป็นที่เข้าใจกันว่า เอกอัครราชทูตสามารถเรียกร้องขอพบกับตัวประมุขของรัฐได้ไม่ว่าเวลาใด แต่อันที่จริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เนื่องจากราชสำนักหรือรัฐบาลที่เอกอัครราชทูตไปประจำอยู่นั้น จะวางระเบียบหรือกำหนดธรรมเนียมเข้มงวด ทำให้มีโอกาสน้อยเหลือเกินที่จะอนุญาตให้เอกอัครราชทูตไปประจำอยู่นั้น จะวางระเบียบหรือกำหนดธรรมเนียมเข้มงวด ทำให้มีโอกาสน้อยเหลือเกินที่จะอนุญาตให้เอกอัครราชทูตได้มีโอกาสเข้าพบปะ พูดจากับประมุขของรัฐ อนึ่ง ในอดีตกาลมีประเทศใหญ่ ๆ เพียงไม่กี่แห่งทำการแลกเปลี่ยนเอกอัครราชทูตระหว่างกัน จึงเหลือหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตอื่น ๆ เป็นจำนวนมากที่มีตำแหน่งเรียกว่า อัครราชทูต (Ministers) เท่านั้น อย่างไรก็ดีการที่รัฐผู้ส่งจะส่งผู้แทนทางการทูตในระดับเอกอัครราชทูต (Ambassador) ไปยังรัฐผู้รับนั้นจะถือเป็นการให้เกียรติกันอย่างยิ่ง แต่ในสมัยนี้ การที่มีสถานเอกอัครราชทูตแพร่กระจายไปทั่ว ทำให้ตำแหน่งเอกอัครราชทูตถูกลดศักดิ์ศรีและความขลังลงไปมากเมื่อเทียบกับ สมัยอดีตกาลเกี่ยวกับเอกอัครราชทูตนี้ ได้มีการนำเอาคำจำกัดความของตำแหน่งเอกอัครราชทูตมาพูดคุยกันบ่อยๆ เป็นคำจำกัดความของ เซอร์เฮนรี่ วอตตัน (Sir Henry Wotton) เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำเวนิส ในรัชสมียของกษัตริย์เจมส์ที่ 1 ว่า?เอกอัครราชทูต คือ บุคคลผู้ซื่อสัตย์ที่ถูกส่งไปกล่าวเท็จในต่างประเทศ เพื่อผลประโยชน์ของประเทศเขา? (?An ambassador is an honest man sent to lie abroad for the good of his country?)เล่ากันว่า เมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1904 ระหว่างที่เซอร์เฮนรี่ วอตตัน เดินทางจากกรุงลอนดอนเพื่อไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตที่กรุงเวนิส ท่านได้แวะพักที่เมืองอ๊อกสเบิร์ก (Augsburg) ณ ที่นั้นท่านได้เขียนเป็นที่ระลึกไว้ในสมุดเยี่ยมของเจ้าของโรงแรมซึ่งเป็น สหายกับท่านในเชิงหยอกล้อ แต่แทนที่จะเขียนเป็นภาษาอังกฤษ กลับเขียนเป็นภาษาละตินว่า ?Legatus est vir bonus peregre missus ad mentiendum Republicae causa? ข้อความภาษาอังกฤษนั้น มีการเล่นคำว่า ?lie? ซึ่งนอกจากจะหมายความว่ากล่าวเท็จแล้ว ยังมีความหมายว่า ?พักอยู่? (Reside หรือ sojourn) ก็ได้ แต่บังเอิญคำละตินว่า ?admentiendum? มีความหมายเพียงอย่างเดียว คือ ?กล่าวเท็จ? ในไม่กี่ปีต่อมาคู่อริทางการเมืองของเซอร์เฮนรี่ได้ไปพบคำจำกัดความนี้เข้า จึงกราบทูลกษัตริย์เจมส์ให้ทรงทราบ หลักฐานประการหนึ่งอ้างว่ากษัตริย์เจมส์ทรงพิโรธอย่างยิ่ง ถึงกับให้เซอร์เฮนรี่ยุติการปฏิบัติราชการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา[การทูต]
เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำองค์การสหประชาชาติ (ณ นครนิวยอร์ก/นครเจนีวา)[การทูต]
คณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงนิวเดลี " ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียนประจำกรุง นิวเดลี มีหน้าที่ในการประสานผลประโยชน์และเป็นกลไกกลางของอาเซียนในการมีปฏิ สัมพันธ์กับอินเดียที่กรุงนิวเดลี "[การทูต]
การประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก " เป็นการประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับรัฐมนตรี ต่างประเทศของประเทศคู่เจรจาของอาเซียน (Dialogue Partners) ได้แก่ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย จีน รัสเซีย และสหภาพยุโรป ผู้สังเกตการณ์ (Observers) ของอาเซียน ได้แก่ ปาปัวนิวกินี และประเทศอื่น ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น มองโกเลียและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) โดย ARF ได้ใช้ ""geographical footprint"" หรือขอบเขตทางภูมิศาสตร์ เป็นปัจจัยสำคัญเพื่อประกอบการพิจารณารับสมาชิกใหม่ ปัจจุบัน ARF มีประเทศสมาชิก 22 ประเทศ กับ 1 กลุ่ม (สหภาพยุโรป) โดยมีการประชุมเป็นประจำทุกปีในช่วงต่อเนื่องกับการประชุมรัฐมนตรี ต่างประเทศอาเซียน (ASEAN Ministerial Meeting - AMM) เป็นเวทีปรึกษาหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ระดับพหุภาคีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และพัฒนาแนวทางการ ดำเนินการทางการทูตเชิงป้องกัน (Preventive Diplomacy) ที่มุ่ง ป้องกันการเกิดและขยายตัวของความขัดแย้ง โดยใช้มาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ (Confidence Building Measures - CBMs) ระหว่างกัน ทั้งนี้ ARF มีการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2537 และไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ARF ระดับรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่ 7 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2543 นอกจากการประชุม ARF ประจำปีแล้วยังมีการดำเนินกิจกรรมระหว่างปี (Inter-sessional Activities) ในสองระดับ คือ กิจกรรมที่เป็นทางการ (Track I) และกิจกรรมที่ไม่เป็นทางการ (Track II) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับสถาบันวิชาการของ ประเทศผู้เข้าร่วม ARF ได้แก่ (1) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมกลุ่มสนับสนุนว่าด้วยมาตรการสร้างความไว้เนื้อ เชื่อใจของ ARF (ARF Inter-sessional Support Group on Confidence Building Measures - ARF ISG on CBMs) (2) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการบรรเทาภัยพิบัติของ ARF (ARF Inter-sessional Meeting on Disaster Relief - ARF ISM on DR) (3) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการรักษาสันติภาพของ ARF (Inter-sessional Meeting on Peace-keeping Operations - ARF ISM on PKO) และ (4) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการประสานและร่วมมือด้านการค้นหาและกู้ภัย ของ ARF (ARF Inter-sessional Meeting on Search and Rescue Coordination - ARF ISM on SAR) "[การทูต]
คณะกรรมการอาเซียนในประเทศที่สาม เป็นกลไกประสานงานของอาเซียนที่จัดตั้งขึ้นในเมืองหลวงของประเทศที่สาม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประเทศคู่เจรจาของอาเซียน คณะกรรมการดังกล่าว ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียนประจำประเทศนั้น ๆ[การทูต]
ยุวทูตความดี " เป็นโครงการของกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับกระทรวงศึกษา- ธิการ เริ่มโครงการตั้งวันที่ 5 ธันวาคม 2542 เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม จริยธรรมและคุณธรรมในบรรดาเยาวชนไทย อันเป็นการเสริมคุณภาพของเยาวชนไทยให้มีครบทั้งความเก่ง ความดี และมีความสุข โดยหวังผลในที่สุดว่าคุณภาพของเยาวชนรุ่นใหม่ของไทยจะเป็นการเสริมสร้างพื้น ฐานความแข็งแกร่งแก่สังคมไทยและส่งเสริมให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยใน โลกอนาคตมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในยุคโลกา- ภิวัฒน์ นอกจากการส่งเสริมให้เยาวชนไทยมีความรู้คู่คุณธรรมแล้ว โครงการยุวทูตความดียังส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเยาวชนไทยและเยาวชนของ ประเทศต่าง ๆ โดยผ่านทางโรงเรียนพี่โรงเรียนน้อง (Sister schools - โรงเรียนในประเทศที่ต่างกันที่มีความสัมพันธ์ระหว่างกัน) "[การทูต]
กรอบความร่วมมือสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ประกอบด้วย ไทย พม่า ลาว และจีน (มณฑลยูนนาน) ที่มา : หนังสือคำศัพท์-คำย่อทางการทูต สถาบันการต่างประเทศ กต. (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2)[การทูต]
การตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้[การทูต]
มาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เป็นมาตรการเพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างรัฐ/เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง และการทหาร เพื่อลดความหวาดระแวง ลดความขัดแย้ง และสร้างความมั่นใจระหว่างสองฝ่ายหรือหลาย ๆ ฝ่าย อันจะเป็นการส่งเสริมการทูตเชิงป้องกัน ทั้งนี้ CBMs เป็นกระบวนการที่สำคัญในกรอบการประชุม ARF[การทูต]
อาคารที่ทำการ " เช่น ที่ทำการสถานทูต สถานกงสุล ซึ่งมีหัวหน้าสำนักงานและ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน "[การทูต]
อุปทูต เดิมเรียกว่า อุปทูตประจำ ซึ่งในสมัยก่อนเรียกว่า Chargé d' Affaires ad hoc บ้าง Chargé d' Affaires en pied หรือ Chargé d' Affaires avec lettres บ้าง ปัจจุบันเรียกเพียง อุปทูต (Chargé d' Affaires) เท่านั้น รัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับอาจจะตกลงกันให้มีหัวหน้าคณะผู้แทนเพียงระดับอุปทูตก็ ได้ (ต่างกันกับตำแหน่งอุปทูตชั่วคราว)[การทูต]
อุปทูตรักษาราชการสถานเอกอัครราชทูต หรือ อุปทูตชั่วคราว " ในกรณีที่ตำแหน่งของหัวหน้าคณะผู้แทนว่างลง หรือหัวหน้าคณะ ผู้แทนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนได้ อุปทูตชั่วคราวจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนเป็นการชั่วคราวได้ โดยหัวหน้าคณะผู้แทนจะแจ้งนามอุปทูตชั่วคราวให้กระทรวงการต่างประเทศของรัฐ ผู้รับทราบ หรือหากหัวหน้าคณะผู้แทนไม่สามารถแจ้งได้ กระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้ส่งจะแจ้งนามอุปทูตชั่วคราวไปยังกระทรวงการ ต่างประเทศของรัฐผู้รับ "[การทูต]
การเริ่มต้นรับหน้าที่ของหัวหน้าคณะผู้แทนทางการ ทูต กล่าวคือ เมื่อหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตเดินทางไปถึงนครหลวงของประเทศผู้รับแล้ว ควรรีบแจ้งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทราบว่า ตนได้เดินทางมาถึงแล้วและขอนัดเยี่ยมคารวะ ตามปกติกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมพิธีการทูตจะดำเนินการตระเตรียมให้หัวหน้าคณะ ผู้แทนทางการทูตได้เข้ายื่นสารตราตั้งต่อไประหว่างนั้น หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตจะต้องไม่ไปพบเยี่ยมผู้ใดเป็นทางการ จนกว่าจะได้ยื่นสารตราตั้งเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดี หัวหน้าคณะผู้แทนอาจขอพบเป็นการภายในกับหัวหน้าของคณะทูตานุทูต (Dean หรือ Doyen of the Diplomatic Corps) ได้ เพื่อขอทราบพิธีการปฏิบัติในการเข้ายื่นสารตราตั้งต่อประมุขของประเทศผู้รับ เกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนา ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 13 ว่า1. พึงถือได้ว่าหัวหน้าคณะผู้แทนได้เข้ารับภารกิจหน้าที่ของตนในรัฐผู้รับ เมื่อตนได้ยื่นสารตราตั้งหรือเมื่อตนได้บอกกล่าวการมาถึงของตน พร้อมทั้งได้เสนอสำเนาที่ถูกต้องของสารตราตั้งต่อกระทรวงการต่างประเทศของ รัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกันในแนวปฏิบัติที่มีอยู่ในรัฐผู้รับ ซึ่งจะต้องใช้ในทำนองอันเป็นเอกรูป2. ลำดับของการยื่นสารตราตั้ง หรือสำเนาที่ถูกต้องของสารตราตั้ง จะได้พิจารณากำหนดตามวันและเวลาของการมาถึงของหัวหน้าคณะผู้แทน[การทูต]
คำประกาศทางการหรือแถลงการณ์ทางการ ซึ่งรายงานให้ทราบผลของการประชุม หรือการเจรจาเป็นทางการระหว่างเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ในรัฐบาล เช่น ประมุขของรัฐ หัวหน้ารัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เอกอัครราชทูต หรือบุคคลอื่นในระดับนั้น คำแถลงการณ์ที่เรียกว่า Communiqué นี้ไม่มีรูปแบบโดยเฉพาะแต่อย่างใด โดยปกติอะไรที่ได้ตกลงกันไว้ในการเจรจาจะบรรจุไว้ด้วยถ้อยคำกว้างๆ ส่วนอะไรที่มิได้ระบุไว้ในแถลงการณ์มักจะมีความสำคัญยิ่งกว่าถ้อยคำที่เขียน ไว้เสียด้วย[การทูต]
เมื่อใดที่ประมุขของรัฐผู้รับ หรือบุคคลในครอบครัวของประมุขนั้นถึงแก่กรรม เป็นธรรมเนียมที่ผู้แทนทางการทูตซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ ประจำอยู่ในรัฐนั้น หลังจากที่ได้รายงานให้กระทรวงการต่างประเทศของผู้แทนทางการทูตนั้นก่อนทาง โทรเลขหรือโทรสารจะไปเยี่ยมหรือพบกับเจ้าหน้าที่ที่เหมาะสมของรัฐนั้นเพื่อ แสดงความเสียใจในนามของประมุขของรัฐของตน โดยมิต้องรอรับคำสั่งเป็นพิเศษจากกระทรวงการต่างประเทศก่อนตามปกติ โทรเลขหรือโทรสารแสดงความเสียใจนั้นจะส่งจากประมุขของรัฐ ไปยังบุคคลที่เหมาะสมในครอบครัวที่ประสบความทุกข์โศกนั้นโดยตรง[การทูต]
ในการปฏิบัติของคณะผู้แทนทางการทูตต่อรัฐผู้รับ นั้นหน้าที่สำคัญที่สุดอันหนึ่งของนักการทูตคือ จะต้องละเว้นจากการเข้าแทรกแซงใด ๆ ในกิจการภายในของรัฐผู้รับ อนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติเรื่องนี้ไว้ในมาตราที่ 41 ว่า1. โดยไม่เสื่อมเสียแก่เอกสิทธิ์และความคุ้มกันของตน เป็นหน้าที่ของบุคคลทั้งมวลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นนี้ ที่จะเคารพกฎหมายรวมทั้งข้อบังคับของรัฐผู้รับ บุคคลเหล่านี้มีหน้าที่ที่จะไม่แทรกสอดในกิจการภายในของรัฐนั้นด้วย2. ธุรกิจในทางการทั้งมวลกับรัฐผู้รับ ซึ่งรัฐผู้ส่งได้มอบหมายแก่คณะผู้แทนให้กระทำกัน โดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นเช่นที่อาจจะตกลงกัน3. สถานที่ของคณะผู้แทนต้องไม่ใช้ไปในทางที่ไม่ต้องด้วยกับการหน้าที่ของคณะผู้ แทน ดังที่ได้กำหนดลงไว้ในอนุสัญญานี้ หรือโดยกฎเกณฑ์อื่นของกฎหมายระหว่างประเทศทั่วไป หรือด้วยการตกลงพิเศษอื่นใดที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ ข้อ 42 ของอนุสัญญากรุงเวียนนายังได้บัญญัติด้วยว่า ตัวแทนทางการทูตจะต้องไม่ปฏิบัติกิจกรรมใดทางวิชาชีพหรือพาณิชย์เพื่อ ประโยชน์ส่วนตัวในรัฐผู้รับตามบทบัญญัติข้างต้นของอนุสัญญากรุงเวียนนา พอจะตีความหมายได้ว่า ผู้แทนทางการทูตจะต้องเคารพกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ เพื่อที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประชาชน รวมทั้งความปลอดภัยในรัฐผู้รับ การปฏิบัติใดๆ ที่ถูกต้องของผู้แทนทางการทูตนั้นย่อมเป็นเครื่องประกันอย่างดีที่สุด ที่ตัวบุคคลของผู้แทนทางการทูตนั้นจะถูกล่วงละเมิดมิได้ตามที่กล่าวอ้าง[การทูต]
กระบวนการเจรจาระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลในรูปของการ ประชุม แทนที่จะกระทำโดยวิถีทางการทูตตามปกติ คือ โดยทางเอกอัครราชทูต หรือผู้แทนทางการทูตถาวร การประชุมแบบหนึ่งซึ่งเรียกว่า การประชุมโต๊ะกลม เพื่อทำหน้าที่ระงับปัญหาระหว่างประเทศนั้น เริ่มนิยมกระทำกันหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 การประชุมระหว่างประเทศนี้จะประกอบด้วยคณะผู้แทน ซึ่งมีหัวหน้าคณะที่ได้รับมอบอำนาจเต็ม และรัฐบาลของประเทศที่ร่วมประชุมเป็นผู้ส่งไป ในเรื่องนี้มีความเห็นแตกต่างกันอยู่บ้าง บ้างเห็นว่า ควรเป็นการประชุมทางการทูตตามประเพณีที่กระทำกันโดยใช้ผู้เชี่ยวชาญโดยอาชีพ ซึ่งเป็นไปตามวิถีทางการทูตตามปกติมากกว่า[การทูต]
การประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ของไทยทั่วโลก[การทูต]
เป็นการประชุมระหว่างประเทศที่สำคัญในยุโรป ได้จัดให้มีขึ้นหลังจากเสร็จสงครามนโปเลียน (กันยายน ค.ศ. 1814 ? มิถุนายน ค.ศ. 1815) ประเทศที่ร่วมการประชุมมี ออสเตรีย อังกฤษ ฝรั่งเศส รัฐสันตะปาปา ปรัสเซีย และรัสเซีย ภาระหน้าที่สำคัญของการประชุม คือ การปักปันเขตแดนกันใหม่ และจัดให้ราชวงศ์เก่าแก่กลับฟื้นคืนมาใหม่ ทั้งในประเทศฝรั่งเศส สเปน อิตาลี และเยอรมนี สหภาพแห่งนอร์เวย์ และสวีเดน สหภาพแห่งเบลเยี่ยม และฮอลแลนด์ พร้อมทั้งกำหนดให้สวิตเซอร์แลนด์ มีฐานะเป็นประเทศเป็นกลางถ้ามองในแง่การทูต ผลสำเร็จสำคัญที่สุดจากการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาคือ ข้อมติกำหนดลำดับอาวุโสของคณะผู้แทนทางการทูต โดยถือหลักอาวุโสไม่ว่าในตำแหน่งใด แทนที่จะถือตามสถานภาพและความสำคัญของกษัตริย์อย่างแต่ก่อน รวมทั้งจัดประเภทของนักการทูต ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภท (ตามระเบียบที่วางขึ้นใหม่ต่อมาในการประชุม ณ Aix-la-Chapelle ได้แก่1) เอกอัครราชทูต (Ambassadors) ตัวแทนขององค์สมเด็จพระสันตะปาปา (Papal legates) และหัวหน้าคณะทูตของสมเด็จพระสันตะปาปา (Papal Nuncios)2) ผู้แทนทางการทูตผู้มีอำนาจพิเศษ (Envoys Extra-ordinary) และเอกอัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็ม (Ministers Plenipotentiary) อินเตอร์นันสิโอของสมเด็จพระสันตะปาปา3) อัครราชทูตผู้มีถิ่นประจำ (Ministers Resident)4) อุปทูต (Chargé d?affaires)คองเกรสแห่งเวียนนายังวางระเบียบเกี่ยวกับเรื่องการจัดลำดับ อาวุโสของบุคคลในคณะทูต ซึ่งชาติต่าง ๆ ได้ลงนามรับรองในสนธิสัญญาพาหุภาคีเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว[การทูต]
ตัวอาคารสถานที่ทำการของกงสุล และคณะเจ้าหน้าที่ทางกงสุล คำนี้อย่าเข้าใจปะปนกับคำว่า ?Chancery? ซึ่งหมายถึงอาคารสถานที่ทำการของเอกอัครราชทูตและคณะเจ้าหน้าที่ทางการทูต ของตน[การทูต]
ในภาษาไทยแปลว่า อนุสัญญา แต่คำนี้ใช้แทนคำว่า สนธิสัญญา (Treaty) บ่อย ๆ ผู้เขียนหลายท่านเห็นว่า ทั้งสองคำนี้ไม่ค่อยจะมีความหมายแตกต่างกันมากนัก แม้ว่าคำ Convention มักจะใช้กันเป็นประจำ โดยหมายถึงความตกลงที่กระทำกันในการประชุมระหว่างประเทศ ตัวอย่างเช่น อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งได้รับการรับรองจากการประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์และความคุ้มกันทางการทูตที่กระทำกัน ณ กรุงเวียนนา เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ถึง 14 เมษายน ค.ศ. 1961 (The Vienna Convention on Diplomatic Relations)[การทูต]
คณะทูตานุทูตที่ประจำอยู่ในนครหลวง (Capital) ของประเทศ ซึ่งจะมีหัวหน้าคณะทูตพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทางการทูตใน คณะทูต เจ้าหน้าที่ทางการทูตในคณะทูตนั้นจะประกอบไปด้วย อัครราชทูต (Minister) อัครราชทูตที่ปรึกษา (Minister Counselor) และที่ปรึกษา (Counselor) ซึ่งอาจจะมีคนเดียวหรือหลายคน นอกจากนี้ มีเลขานุการทางการทูตอีกหลายคน คือ เลขานุการเอก โท ตรี และตามปกติยังมีผู้ช่วยทูต (Attaché) อีกหลายคนซึ่งมีฐานะทางการทูต (Diplomatic status) คือผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร (บก เรือ และอากาศ) ผู้ช่วยทูตฝ่ายพาณิชย์ (Commercial Attaché) ผู้ช่วยทูตฝ่ายการแถลงข่าว (Press Attaché) และผู้ช่วยฝ่ายอื่น ๆ ซึ่งกระทรวงทบวงกรมของรัฐบาล (นอกจากกระทรวงการต่างประเทศ) เป็นฝ่ายแต่งตั้งข้าราชการของตนไปประจำในคณะทูต รวมทั้งเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ซึ่งมีฐานะทางการทูตด้วยในนครหลวงของประเทศใดก็ตาม ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะทูตานุทูต (Head หรือ Dean of the Diplomatic Corps) จะได้แก่ผู้แทนทางการทูตอาวุโสที่ได้ประจำการอยู่ในประเทศนั้นเป็นเวลานาน ที่สุด ยกเว้นแต่ในบางประเทศ จะถือเอกอัครราชทูตผู้แทนองค์สมเด็จพระสันตะปาปา (Papal Nuncio) เป็นหัวหน้าคณะทูตานุทูตตลอดไป โดยไม่คำนึงถึงเรื่องอาวุโสแต่อย่างใด เช่น ฟิลิปปินส์[การทูต]
การเยี่ยมคารวะ เป็นการเข้าพบเพื่อทำความรู้จักกันของบุคคลสำคัญหรือนักการทูต เช่น การเข้าพบระหว่างนักการทูตด้วยกัน หรือนักการทูตเข้าพบรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีของประเทศอื่นเข้าพบนายกรัฐมนตรี ฯลฯ[การทูต]
คณะกรรมการผู้แทนถาวรประจำอาเซียน ประกอบด้วยผู้แทนถาวร (ระดับเอกอัครราชทูต) ประจำอาเซียนของประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ ทำหน้าที่ในการติดต่อประสานงานกับสำนัก เลขาธิการอาเซียนสนับสนุนการทำงานของคณะมนตรีประชาคมอาเซียนรวมทั้งองค์กร ระดับรัฐมนตรีอาเซียนเฉพาะสาขาต่าง ๆ[การทูต]
เอกสารทางราชการที่ประมุขของประเทศเป็นผู้ลงนาม ในเอกสารนั้น ประมุขของประเทศจะกล่าวยกย่องตัวทูตต่อประมุขของรัฐที่ผู้ที่เป็นทูตไปประจำ อยู่ (รัฐผู้รับ) ภาษาที่ใช้ในเอกสารจะเขียนด้วยถ้อยคำสำนวนหรูหรา และกล่าวถึงคุณสมบัติของทูตอย่างสูงส่ง แล้วลงท้ายด้วยการขอให้ความเชื่อถือแก่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทูตอาจจะกล่าวใน นามของรัฐบาลของตน[การทูต]
" 1. อักษรสาส์นตราตั้ง พระราชสาส์นตราตั้ง (การทูต) หมายถึง หนังสือแต่งตั้งเอกอัครราชทูตจากประมุขของรัฐผู้ส่ง ถึงประมุขของรัฐผู้รับ 2. ตราสารแต่งตั้ง (ผู้แทนในการประชุมระหว่างประเทศ) "[การทูต]
ผู้ช่วยทูตด้านวัฒนธรรม[การทูต]
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
[akkharātchathūt] (n) EN: minister ; ambassador  FR: ministre [ m ]
[dōi withīthāng kānthūt] (xp) EN: through the diplomatic channel  FR: par voie diplomatique
[ēk-akkharātchathūt] (n) EN: ambassador  FR: ambassadeur [ m ] ; ambassadrice [ f ]
[kān patibat nāthī thāng kānthūt] (n, exp) EN: performance of diplomatic acts
[kān patibat nāthī thāng thūt] (n, exp) EN: performance of diplomatic acts
[kān prachum thāng kānthūt] (n, exp) EN: diplomatic conference  FR: conférence diplomatique [ f ]
[kānthūt] (n) EN: diplomacy ; statecraft ; statesmanship ; foreign affairs ; external affairs  FR: diplomatie [ f ]
[khana phūthaēn thāng thūt] (n, exp) EN: diplomatic mission  FR: mission diplomatique [ f ]
[khanathūt] (n) EN: diplomatic corps  FR: mission diplomatique [ f ] ; légation [ f ] ; corps diplomatique [ m ]
[khārātchakān sathānthūt] (n) EN: diplomat  FR: diplomate [ m, f ]
[khwām samphan thāng kānthūt] (n, exp) EN: diplomatic relations  FR: relations diplomatiques [ fpl ]
[lin thūt] (adj) EN: diplomatic
[nakkānthūt] (n) EN: diplomat ; ambassador ; emissary ; envoy ; consul ; minister ; statesman  FR: diplomate [ m, f ]
[phithīkān thāng kānthūt] (n, exp) EN: diplomatic protocol  FR: protocole diplomatique [ m ]
[phithīkān thūt] (n) EN: diplomatic protocol  FR: protocole diplomatique [ m ]
[phūchūay thūt] (n, exp) EN: attaché  FR: attaché [ m ] ; délégué [ m ]
[phūthaēn thāng thūt] (n, exp) FR: agent diplomatique [ m ]
[praphēnī kān thūt] (n, exp) EN: diplomatic etiquette  FR: règle diplomatique [ f ]
[rātchathūt] (n) EN: King's envoy ; diplomatic representative ; envoy
[rot jaonāthī sathānthūt] (n, exp) FR: voiture consulaire [ f ]
[samphan thāng kānthūt] (n, exp) EN: diplomatic relations  FR: relations diplomatiques [ fpl ]
[sathān akkharātchathūt] (n, exp) EN: legation  FR: légation [ f ]
[Sathān Ēk-akkharātchathūt Thai] (n, prop) EN: Royal Thai Embassy  FR: Ambassade Royale de Thaïlande [ f ]
[Sathān Ēk-akkharātchathūt Thai na Krung Brassēl] (n, prop) EN: royal Thai Embassy in Brussels  FR: Ambassade Royale de Thaïlande à Bruxelles [ f ]
[Sathān Ēk-akkharātchathūt Thai na Krung Kūalā Lampoē] (n, prop) EN: Royal Thai Embassy in Kuala Lumpur  FR: Ambassade Royale de Thaïlande à Kuala Lumpur [ f ]
[Sathān Ēk-akkharātchathūt Thai na Krung Løndøn] (n, prop) EN: Royal Thai Embassy in London  FR: Ambassade Royale de Thaïlande à Londres [ f ]
[Sathān Ēk-akkharātchathūt Thai na Krung Manilā] (n, prop) EN: Royal Thai Embassy in Manila  FR: Ambassade Royale de Thaïlande à Manille [ f ]
[Sathān Ēk-akkharātchathūt Thai na Krung Møskō] (n, prop) EN: Royal Thai Embassy in Moskow  FR: Ambassade Royale de Thaïlande à Moscou [ f ]
[Sathān Ēk-akkharātchathūt Thai na Krung Pārit] (n, prop) EN: Royal Thai Embassy in Paris  FR: Ambassade Royale de Thaïlande à Paris [ f ]
[Sathān Ēk-akkharātchathūt Thai na Krung Tōkīo] (n, prop) EN: Royal Thai Embassy in Tokyo  FR: Ambassade Royale de Thaïlande à Tokyo [ f ]
[Sathān Ēk-akkharātchathūt Thai na Krung Wīennā] (n, prop) EN: Royal thai Embassy in Vienna  FR: Ambassade Royale de Thaïlande à Vienne [ f ]
[Sathān Ēk-akkharātchathūt Thai na Krung Wøchingtan Dī.Sī.] (n, prop) EN: Royal Thai Embassy in Washington, D.C.,   FR: Ambassade Royale de Thaïlande à Washington [ f ]
[sathānthūt] (n) EN: embassy ; legation  FR: ambassade [ f ] ; légation [ f ]
[Sathānthūt … Prajam …] (n, prop) EN: Embassy of … in …  FR: Ambassade de … en/à …
[Sathānthūt … Prajam Prathēt Thai] (n, prop) EN: Embassy of … in Thailand  FR: Ambassade de … en Thaïlande [ f ]
[Sathānthūt Amērikā] (n, prop) EN: Embassy of the United States  FR: Ambassade des États-Unis [ f ]
[Sathānthūt Amērikā Prajam Prathēt Thai] (n, prop) EN: Embassy of the United States in Thailand  FR: Ambassade des États-Unis en Thaïlande [ f ]
[Sathānthūt Angkrit Prajam Krungthēp] (n, prop) EN: British Embassy in Bangkok  FR: Ambassade de Grande-Bretagne à Bangkpk [ f ]
[Sathānthūt Angkrit Prajam Prathēt Thai] (n, prop) EN: British Embassy in Thailand   FR: Ambassade de Grande-Bretagne en Thaïlande [ f ]
[Sathānthūt Farangsēt] (n, prop) EN: Embassy of France  FR: Ambassade de France [ f ]
[Sathānthūt Farangsēt Prajam Prathēt Thai] (n, prop) EN: Embassy of France in Thailand  FR: Ambassade de France en Thaïlande [ f ]
[Sathānthūt Thai] (n, prop) EN: Embassy of Thailand  FR: Ambassade de Thaïlande [ f ]
[Sathānthūt Thai nai tāngprathēt] (n, exp) FR: Ambassades de Thaïlande à l'étranger [ fpl ]
[Sathānthūt Yīpun] (n, prop) EN: Embassy of Japan  FR: Ambassade du Japon [ f ]
[Sathānthūt Yīpun Prajam Prathēt Thai] (n, prop) EN: Embassy of Japan in Thailand  FR: Ambassade du Japon en Thaïlande [ f ]
[sātsanathūt] (n) FR: prophète [ m ]
[taeng thūt] (v, exp) EN: send an envoy
[tat samphan thāng kānthūt] (xp) EN: sever diplomatic relations  FR: rompre les relations diplomatiques
[thāng kānthūt] (adj) EN: diplomatic  FR: diplomatique
[thāng thūt] (adj) EN: diplomatic  FR: diplomatique
Longdo Approved EN-TH
(n)การแต่งตั้ง (ทูต)
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
(n)เอกอัครราชทูตSee Also:ทูต, นักการทูต, ราชทูต
(n)นักการทูตSee Also:ผู้ช่วยทูต
(adj)เกี่ยวกับการทูตSee Also:เกี่ยวกับการเจรจาต่อรองSyn.polite, statesmanlike, wiseAnt.direct, blunt
(n)ทูต
(n)คณะทูตSee Also:ราชทูต
(n)สถานเอกอัครราชทูตSyn.consular office
(n)คำเรียกอย่างยกย่องสำหรับผู้มีตำแหน่งทางราชการสูง เช่น รัฐมนตรี เอกอัครราชทูต
(n)ผู้สนับสนุนนโยบายทางการทหารเพื่อแก้ปัญหาระหว่างประเทศมากกว่านโยบายทางการทูตSee Also:ผู้ใฝ่สงคราม
(adj)ซึ่งชอบที่จะใช้นโยบายทางการทหารเข้าแก้ปัญหาระหว่างประเทศมากกว่านโยบายทางการทูตSee Also:ซึ่งกระหายสงครามAnt.dovish
(n)ข้าหลวงใหญ่See Also:เอกอัคราชทูตSyn.ambassador, envoy, legate
(n)อัครสมณทูตขององค์สันตะปาปา
(n)คณะทูต
(n)เทศกาลฉลองทูตสวรรค์ในศาสนาคริสต์
(n)คณะผู้แทนSee Also:ผู้แทน, คณะทูตSyn.deputation, embassy
(n)ทูตสวรรค์ตามคัมภีร์ไบเบิล มี6ปีกและชอบบินบริเวณบังลังก์พระเจ้าSyn.angel, cherub
(n)ลำดับที่ห้าถึงเก้าของทูตสวรรค์
Hope Dictionary
(แอมแบส' ซะดอร์) n. เอกอัครราชทูต. ambassadorial adj. ambassadorship n.Syn.embassdor, envoy, minister
(แอมแบส' ซะดริส) n. เอกอัครราชฑูตหญิง, ภรรยาเอกอัครราชทูต (female)
(เอนเจลลอล' โลจี) n. ทูตสวรรค์วิทยา, ทฤษฎีเกี่ยวกับทูตสวรรค์
(อาร์ค'เอนเจิล) n. ทูตสวรรค์ชั้นหัวหน้า, ประมุขทูตสวรรค์, สมุนไพรชนิดหนึ่ง. -archangelic (al) adj.
(ชาน'ชะเลอรี) n. ตำแหน่งเสนาบดี, สำนักงานเสนาบดี, รัฐมนตรี, ตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีของบางประเทศ, สถานเอกอัครราชฑูต, สถานกงสุลใหญ่, เจ้าหน้าที่ทั้งหมดของสถานเอกอัครราชฑูต (หรือกงสุล) , เลขานุการเอกอัครราชทูต (หรือกงสุล) , นายกรัฐมนตรี (ของบางประเทศ) , ตุลาการใหญ่ของบางประเ
(ชาน'ซะเลอ) n. เสนาบดี, อัครมหาเสนาบดี, นายกรัฐมนตรี, เอกอัครราชทูต, ตุลาการใหญ่See Also:chancellorship n.
(ชาร์เย'ดะแฟร์) n. อุปทูต, ผู้ทำการแทน, ผู้รักษาการแทนSyn.charge
(เชอ'รับ) n. เทวดาเด็ก, เด็กทูตสวรรค์ที่มีปีก, เด็กที่น่ารัก, เด็กที่ไร้เดียงสาSee Also:cherubic, cherubical adj.
(คอดิพลอยมะทิค) n., Fr. คณะทูต
(เคา'เซิลเลอะ) n. ที่ปรึกษา, ผู้แนะนำ, อุปทูต, ตำแหน่งอุปทูต, ทนายความ, ที่ปรึกษากฎหมาย.See Also:counselorship n. ดูcounselor counsellorship n. ดูcounselorSyn.counsel
(เคา'เซิลเลอะ) n. ที่ปรึกษา, ผู้แนะนำ, อุปทูต, ตำแหน่งอุปทูต, ทนายความ, ที่ปรึกษากฎหมาย.See Also:counselorship n. ดูcounselor counsellorship n. ดูcounselorSyn.counsel
(คริเดิน'เชิล) n. หลักฐานอ้างอิง, หนังสือรับรอง, หนังสือแนะนำตัว, สาสน์ตราตั้งทูต, ประกาศนียบัตร. adj. ซึ่งเป็นหลักฐานอ้างอิง หรือรับรองSee Also:credentialed adj.
(ดิพโพล'มะซี) n. การทูต, ศิลปะการทูต
(ดิพ'ละแมท) n. นักการทูต
(ดิพละแมท'ทิค) adj. เกี่ยวกับการทูตSyn.adep
n. ทูต
n. คณะทูตานุทูต
(เอม'มิเซอรี) n. ทูต, ผู้แทน, จารชน, จารบุรุษ, สายลับ.
(เอน'วอย) n. พูด, ตัวแทน, ผู้แทน, อุปทูตSyn.agent
(อินเทอนัน'ซิโอ) n. ทูตผู้แทนขององค์สันตะปาปา
(เลก'กิท) n. ทูต, ทูตขององค์สันตะปาปา, ตำแหน่งหรือที่ทำการของทูต, ตำแหน่งหรือที่ทำการของทูตขององค์สันตะปาปาSee Also:legationary adj.
(ลีเก'เชิน) n. ทูต, คณะทูต, สถานทูต
(เมส'เซินเจอะ) n. ผู้ส่งสาร, ผู้ถือจดหมาย, ผู้นำข่าว, ทูตสวรรค์, เครื่องชี้บ่ง, ลาง
(ไม'เคิล) n, ประมุขทูตสวรรค์
(มิช'เชิน) n. คณะผู้แทน, ภาระหน้าที่ของคณะผู้แทน, คณะทูต, สถานทูต, งานปฏิบัติงานทางทหาร (มักได้รับมอบหมายจากสำนักงานใหญ่) , การเคลื่อนที่หรือการวิ่งสู่เป้าหมายของจรวดขีปนาวุธ, โบสถ์ที่ไม่มีพระอยู่ประจำ, งานมอบหมาย
(พรินซฺ'เดิม) n. ตำแหน่งเจ้าชาย, เขตปกครองของเจ้าชาย, ลำดับเทพยดาหรือทูตสวรรค์Syn.principalities
(พรินซิแพล'ลิที) n. รัฐหรืออาณาเขตที่ปกครองโดยเจ้าชายดยุค-เอิร์ลหรือขุนนางสำคัญอื่น ๆ , รัฐนคร, ตำแหน่งหรืออำนาจของprince (ดู) , ลำดับทูตสวรรค์หรือเทพยดา
(พรอฟ'ฟิท) n. ผู้ทำนาย, ผู้พยากรณ์, ผู้ที่พระเจ้าดลใจมาสอนมนุษย์, ผู้เผยแพร่, ผู้รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า. -Phr. (the Prophet โมฮัมมัด) (ทูตสวรรค์หรือศาสดาของศาสนาอิสลาม)See Also:prophethood n.Syn.seer, predictor
(โพร'ทะคอล) n.พิธีสาร, สนธิสัญญาเบื้องต้น, ต้นร่าง, พิธีทูต, พิธีการทูต, โปรโตคอล, บันทึกความทรงจำของการสนทนา.vi. ร่างต้นร่าง, ร่างพิธีสาร, ร่างพิธีการทูต.See Also:protocolar adj. protocolary adj. protocolic adj.
(แรงค'ชุเออรี) n. สถานที่ศักดิ์สิทธิ์, ปูชนียสถาน, ที่ลี้ภัย, ที่หลบภัย, สิทธิในการให้ที่หลบภัย (เช่นในสถานทูต) และมิอาจถูกจับกุมได้, ถ้ำสัตว์, ที่ที่สัตว์ป่าสามารถผสมพันธุ์และหลบภัยจากการถูกล่า โดยนายพรานSyn.shrine
(เซอ'รัฟ) n. ทูตสวรรค์ที่มี6ปีกที่บินอยู่เหนือบัลลังก์ของพระเจ้า (ในพระคัมภีร์ไบเบิล) , ทูตสวรรค์ชั้นสูงสุด pl. saraphs, seraphim
(ซิแรฟ'ฟิค) adj. เหมือนทูตสวรรค์, สวยงามและมีความสุขเหมือนทูตสวรรค์.See Also:seraphically adv. seraphicalness n.
(ซิแรฟ'ฟิค) adj. เหมือนทูตสวรรค์, สวยงามและมีความสุขเหมือนทูตสวรรค์.See Also:seraphically adv. seraphicalness n.
Nontri Dictionary
(n)ทูต, เอกอัครราชทูต
(n)เทวทูต, เทวดา, เทพธิดา, ผู้ที่น่ารัก, คนดี
(adj)เกี่ยวกับเทวทูต, เกี่ยวกับเทพธิดา, ดีงาม
(n)หัวหน้าเทวทูต, หัวหน้าทูตสวรรค์, ประมุขทูตสวรรค์
(n)เจ้าหน้าที่สถานทูต, ผู้ช่วยทูต
(n)ตำแหน่ง, สถานกงสุล, สถานทูต
(n)อธิการบดี, อัครมหาเสนาบดี, นายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรี, เลขานุการสถานทูตน
(n)สถานกงสุล, สถานทูต
(n)การทูต, ศิลปะการทูต
(n)ทูต, นักการทูต, ทูตานุทูต
(adj)เกี่ยวกับการทูต, ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการทูต
(n)คณะทูต, สถานเอกอัครราชทูต
(n)ทูต, ผู้แทน, จารชน, สายลับ
(n)อุปทูต, ทูต, ผู้แทน
(n)ทูต, ผู้แทน
(n)สถานทูต, คณะทูต
(n)ผู้ส่งข่าว, ทูตสวรรค์, ผู้ส่งสาร, เครื่องบ่งชี้, ลาง
(n)ทูต, พระ, รัฐมนตรี, ผู้รับใช้
(adj)เกี่ยวกับทูต, เกี่ยวกับรัฐมนตรี, เป็นเครื่องมือ
(n)ภาระ, ธุระ, คณะผู้แทน, คณะผู้สอนศาสนา, คณะทูต
(n)ทูตของสันตะปาปา
(n)ทูตผู้มีอำนาจเต็ม
(n)พิธีการทูต, พิธีสาร, สนธิสัญญาชั้นต้น, ต้นร่าง
(n)เทพยดา, เทวดา, ทูตสวรรค์
Longdo Unapproved EN-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
(n)เทวดา, เทวทูต, ทูตสวรรค์, เทพธิดา, เทพบุตร, นางฟ้า
(n)อัครทูตในศาสนาคริสต์ มีอยู่ทั้งหมด 12 คน
(n)อัครทูตสวรรค์See Also:angel
(n)สถานข้าหลวงใหญ่ (หน่วยงานเทียบเท่าสถานเอกอัครราชทูต)
อัครราชทูตที่ปรึกษา
อัครราชทูตที่ปรึกษา
[พัท มอส](n)Patmos เป็นชื่อเกาะขนาดเล็กใน(เป็นภาษากริก) Aegean ทะเลและสามารถพบได้ระหว่างเกาะ Leros และ Ikaria. ... ประมงประวัติของพิพิธภัณฑ์เป็นนักท่องเที่ยว Philoproodos กล่าวกันว่านักบุญจอห์นอีแวนเจลลิสเป็นคนคนเดียวกับ “นักบุญอัครสาวก” ... (ดูเพิ่ม นักบุญจอห์นเพรสไบเตอร์ (John the Presbyter) และ นักบุญจอห์นแห่งพัทโมส (John of Patmos) ...ได้เห็นนิมิตที่พระเจ้าททรงประทานให้พ่านทูตสวรรค์ และยอห์นเขียนขึ้นมาเป็นเล่มเรียกชื่อว่า "พระธรรมวิวรณ์"
Longdo Approved JP-TH
[たいしかん, taishikan](n)สถานทูต
[しにがみ](n)ยมทูต
Longdo Unapproved JP-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
代表
[だいひょう, daihyou]ผู้เเทน, ตัวเเทน, เป็นตัวเเทน, ทูต, กลุ่มผู้เเทน, คณะผู้เเทน, การเเทนที่
Saikam JP-TH-EN Dictionary
外交官
[がいこうかん, gaikoukan] TH: ผู้เจรจาทางการทูต
外交官
[がいこうかん, gaikoukan] EN: diplomat
เพิ่มคำศัพท์
add
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ