น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Trigonella foenumgraecumL. ในวงศ์ Leguminosae เมล็ดใช้ทำยาได้ และใช้ต้มชุบผ้าให้มีกลิ่นหอม เรียกว่า ลูกซัด.
ก. สาดโดยแรง เช่น ซัดทราย, สาดไปทั่ว ๆ เช่น ซัดปูนก่อนจะแต่งผิวให้เป็นมัน, เหวี่ยงไปโดยแรง เช่น ซัดหอก ซัดเชือกบาศ, ปล่อยลง, ทิ้งลง, เช่น ซัดลูกบาศก์, อาการที่คลื่นเหวี่ยงตัวเข้ากระทบโดยแรง เช่น คลื่นซัดฝั่ง คลื่นซัดเรือจนเรือโคลง, โยนความผิดไปให้คนอื่น เช่น นายดำซัดนายขาวว่าเป็นคนทำผิด, รำทิ้งแขนออกไปข้างหน้าหรือด้านข้าง เช่น ซัดแขน
วิถีดวงอาทิตย์จากเหนือไปใต้ เช่น พระอาทิตย์ซัดไปซัดมา (ศริพจน์)
คำค่อนว่าหมายความว่า แต่งตัวเกินพอดี เช่น ไปงานแค่นี้ไม่ต้องซัดชุดหรูก็ได้.
ก. สาดข้าวสารในการขับไล่ผีเป็นต้น.
น. การรำไหว้ครูก่อนที่จะแสดงละครชาตรี.
ก. ไปอย่างไม่มีจุดหมาย, มักใช้เข้าคู่กับคำ พเนจร เป็น ซัดเซพเนจร.
ก. สาดทรายที่คั่วจนร้อนเทลงมาจากกำแพงให้ถูกข้าศึก, สาดทรายที่ปลุกเสกแล้วไปรอบ ๆ บริเวณ เพื่อให้เป็นสิริมงคล.
ให้การพาดพิงถึงบุคคลอื่นว่าได้ร่วมหรือมีส่วนในการกระทำความผิดหรือเป็นผู้กระทำความผิด.
ก. สาดนํ้าในพิธีแต่งงานบ่าวสาว.
ก. ใส่ยาลงในเบ้าที่หลอมโลหะในการเล่นแร่แปรธาตุ.
ก. กิน เช่น ซัดก๋วยเตี๋ยวไป ๓ ชาม
ทำร้าย โดยการชก ตบ ตี เป็นต้น เช่น พูดไม่ดีระวังจะถูกซัดปาก.
ก. ละ, ทิ้ง, หลบหนี, เช่น แม้นซัดพลัดหนีไปตายแห่งอื่นเปนพับทังสองข้าง ต่างคนต่างจะเอาเงินอันยังเหลืออยู่แก่กันนั้นมิได้เลย (สามดวง).
ก. ไปหรือมาอย่างอ่อนแรงอ่อนกำลัง เช่น โซซัดโซเซกลับบ้าน, ไปอย่างไม่มีจุดหมาย เช่น ตั้งแต่ตกงานเขาก็เที่ยวโซซัดโซเซอยู่นาน.
น. เรียกสิ่งที่ใส่ลงในเบ้าที่หลอมโลหะในการเล่นแร่แปรธาตุ เช่น กำมะถัน ว่า ยาซัด, เรียกอาการเช่นนั้น ว่า ซัดยา.
น. เมล็ดของต้นซัด (Trigonella foenumgraecum L.) ในวงศ์ Leguminosae ใช้ทำยาได้ โบราณนิยมใช้ต้มชุบผ้าให้มีกลิ่นหอม.
น. หอกด้ามสั้น สำหรับใช้พุ่งหรือซัดไป.
(กัน-) ก. กระทบ เช่น ฟองฟัดซัดดลกรรทบนาวี (สรรพสิทธิ์).
ว. อาการที่ซัดเซไปโดยไม่มีจุดหมายว่าจะไปแห่งใด.
ว. อาการที่ของลอยในน้ำเช่นเรือโอนไปโอนมาหรือยกขึ้นยกลง เนื่องจากแรงกระเพื่อมของน้ำ เช่น เรือกระโดกเพราะถูกคลื่นซัด.
ตากอยู่กลางแดดกลางลม. ว. ซัดส่ายไปโดยไม่เจาะจง เช่น ยิงกราด, สาดไป เช่น ด่ากราด.
น. กล้องที่ใช้ใส่อาวุธซัดไป. (พิชัยสงคราม)
ก. แล่นหรือเสือกขึ้นไปค้างอยู่พาดอยู่, ถูกซัดหรือลากขึ้นไปติดอยู่ค้างอยู่ เช่น เรือเกยฝั่ง, พาดทับเฉพาะชายหรือริม เช่น ปูเสื่อเกยกัน.
(ขฺว้าง) ก. เอี้ยวตัวเบี่ยงแขนไปทางหลังแล้วซัดสิ่งที่อยู่ในมือออกไปโดยแรง.
ว. เกี่ยวโยงกันจากหัวถึงหางโดยซัดกันไปเป็นทอด ๆ.
(ชะรัด) ก. ซัด เช่น หมู่หนึ่งชรัดด้วยทองแดง (ม. คำหลวง มหาราช).
น. คำว่าคนตํ่าช้าไม่มีตระกูล เช่น ทั้งนี้ก็เพราะใครเล่า เพราะอีสาวซ้ำสามซัดเซบ้าน (ม. ร่ายยาว ชูชก).
ก. โยกเยก เช่น หลักแพสั่นโดกเดกไปมา, ยวบขึ้นยวบลง เช่น เรือโดกเดกเพราะถูกคลื่นซัด, กระโดกกระเดก ก็ว่า.
จังหวัดพัทลุง เช่น ชาตรีมีแต่ล้วนชาวตะลุง ซัดกันนุงตามถนนแห่กรวดลาว (อิเหนา).
(-มอน, โตมะระ-) น. อาวุธสำหรับซัด, หอกซัด.
(ทะ-) ว. เคลื่อนตามกันไปไม่ขาดระยะ เช่น คลื่นทยอยซัดฝั่ง, ไปหรือมาทีละน้อย เช่น ทยอยกันมาเที่ยวงาน ทยอยกันกลับบ้าน.
ชื่อการพนันชนิดหนึ่ง เล่นโดยเจ้ามือจะเป็นผู้ซัดหรือฝัดลูกบาศก์ซึ่งมี ๖ หน้า เขียนเป็นรูปนํ้าเต้า ปู ปลา เสือ ไก่ และกุ้ง ให้ลูกค้าแทง.
(เนระนาด) ก. ไม่มีที่พึ่ง, ซัดเซพเนจร, เช่น ก็เนรนาถประพาสพรตยังเขาสิงขรบวรวงกต (ม. ร่ายยาว ชูชก).
ซัดความผิดให้ผู้อื่น ในความว่า บ้ายความผิดให้ผู้อื่น.
(ปฺราย) ก. ซัด, หว่าน, สาดให้กระจายไป, เช่น ปรายข้าวตอกดอกไม้, มักใช้เข้าคู่กับคำ โปรย เป็น โปรยปราย.
ก. ซัดไปด้วยอาการยกแขนขึ้นสูงแล้วเอี้ยวตัว
ก. เอาสิ่งที่มีลักษณะข้นเหลวเป็นต้นซัดลงไป เช่น เอาโคลนมาเปะที่กำแพง, โดยปริยายหมายถึง ทิ้งไว้ให้เป็นภาระของผู้อื่น เช่น เอาลูกมาเปะให้พี่สาวเลี้ยง.
น. ผ้าซึ่งเจ้าบ่าวนุ่งในพิธีซัดนํ้าแต่งงานแล้วผลัดพาดไว้ที่เรือนหอ มีของมีค่าอยู่ในนั้นเพื่อเป็นรางวัลผู้เอาไปซัก.
น. คลื่น เช่น ฟองฟัดซัดดลกรรทบนาวี (สรรพสิทธิ์).
(เมกคะ-) น. ชื่อโลหะที่เกิดจากการเอาแร่มาหุงเข้าด้วยกัน แล้วซัดด้วยกำมะถัน มีสีดำเป็นมัน แววเป็นสีคราม, เรียกพระเครื่องที่ทำด้วยโลหะชนิดนี้ ว่า พระเมฆพัด หรือ พระเนื้อเมฆพัด.
ก. เอี้ยว, ย้ายไป, เดินอย่างไว้ท่าทาง, เช่น เดินเยื้องตัวแล้วซัดแขนอย่างละครรำ.
ก. ซัดให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งพ้นไปจากตัวโดยวิธีหงายมือ เช่น โยนสตางค์ โยนของ, เคลื่อนไหวหรือทำให้เคลื่อนไหวอย่างแรงจากที่เดิม เช่น คลื่นซัดจนเรือโยน คลื่นโยนเรือ, ไหวอย่างแรง แต่ไม่เคลื่อนจากที่เดิม เช่น ลมพัดกิ่งไม้โยนไปโยนมา หอบจนตัวโยน
ว. ซัดเซไป, โซเซไป, หนีซุกซ่อนไป.
ก. ซัดเซไปตามบุญตามกรรม, เร่ร่อนไป, อยู่ไม่เป็นที่, อยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง, เช่น ผู้ลี้ภัยสงครามต้องระเหระหนไปเรื่อย ๆ, ระเหเร่ร่อน ก็ว่า, ในบทกลอนใช้ว่า ระเหหน ก็มี.
ก. ซัดเซไปตามบุญตามกรรม, เร่ร่อนไป, อยู่ไม่เป็นที่, อยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง, ระเหระหน ก็ว่า.