367 ผลลัพธ์ สำหรับ 

*มั่นคง*

 ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น: มั่นคง, -มั่นคง-
Longdo Unapproved TH - EN**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
(org)Ministry of Social Development and Human Security
Longdo Unapproved TH - TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ฌาณ
(n)ฌาณ หรือ อธิจิต(supraconscious) เป็นจิตที่เป็นที่สุดของปัญญา คือความรู้ชัดธรรมชาติของมนุษย์ว่านี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา(คือความรู้มรรค 8 การคิดปฏิบัติเพื่อดับทุกข์) เป็นจิตที่อยู่เหนือและสามารถ ควบคุมหรือข่ม ได้ทั้งจิตสำนึก(consious) และจิตใต้สำนึก(subconsious) ซึ่งเป็นความรู้ที่สูดของวิญญาณคือความรู้แจ้งของธรรมชาติของมนุษย์ว่า นี้สุข นี้ทุกข์ นี้มิใช่ทุกข์ มิใช่สุข อธิจิตใช้สำหรับดับกิเลส ซึ่งสามารถทำให้เกิดนิมิตขึ้นมาได้ เพื่อดับกิเลสในเวลาที่เกิดกิเลสขึ้น พระผู้มีพระภาค(พระพุทธเจ้า)ได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ไว้ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์๑๐. วิตักกสัณฐานสูตรว่าด้วย อาการแห่งวิตก การเรียกอธิจิตของตนเอง ถ้าไม่มีพรสวรรค์หรือบารมีที่สะสมมาแต่ปางก่อน จะเรียกไม่ได้ เพราะจิตยังไม่มั่นคงพอ จะต้องเรียนรู้และทำความเพียรที่ทนได้ยาก ฝึกฝน จนเกิดความชำนาญ ซึ่งข้าพเจ้ามีความสามารถที่จะให้คนทั่วไปเรียกอธิจิตของตนเองได้ เช่นให้ผู้ป่วยเรียกอธิจิตของเขาออกมารักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งทางกายและใจของเขาที่เป็นอยู่ โดยสั่งให้จิตของเขาตกอยู่ในภาวะภวังค์ ด้วยการสั่งระงับจิตหยาบที่ทำให้เขาเกิดโรคทั้งทางกายและทางใจ เพื่อเขาจะได้มีจิตที่มั่นคงถึงอธิจิตแล้วสั่งยาหรือภูมิต้านทานในตัวของเขาออกมารักษาโรค ซึ่งได้ผลดีกว่าแพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์ทางเลือกวิธีอื่น นี่คือประโยชน์จากการเรียกหรือฝึกเรียกอธิจิตของตนเอง ซึ่งพระพุทธเจ้าสามารถเรียก Stem cell ในพระวรกายของพระองค์ออกมารักษาโรคได้นานมาแล้วหรือมากกว่า 2554 ปี ส่วนนักวิทยาศาสตร์พึ่งจะมาค้นพบวิธีใช้ Stem cell รักษาบางโรคเมื่อ 50 ปีมานี้เอง การรักษายังมีข้อบ่กพร่องและเงื่อนไขในการรักษาเพื่อจะได้ผลลัพท์จนเป็นที่น่าพอใจของแพทย์อยู่อีกมาก แต่วิธีของพระพุทธองค์ไม่มีเงื่อนไข ถ้าคนป่วยสามารถเรียกอธิจิตของตนเองได้ ข้าพเจ้าได้ใช้อธิจิตรักษา โรคปวดตามอวัยวะและโรคหวัดป่วยของข้าพเจ้าเอง และรักษาโรคปวดและอัมพาลให้กับคนป่วยแล้วหลายราย ซึ่งได้รับผลเป็นที่น่าพอใจของข้าพเจ้าและของคนป่วย
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
(v)be secureSee Also:be stable, be firm, be strong, be sturdy, be steadfastSyn.ปลอดภัย, เสถียร, ปึกแผ่น, หนักแน่น, สถิรAnt.โลเล, ไม่เที่ยง, โอนเอน, ผันแปร, คลอนแคลนExample:หลายๆ คนในหน่วยงาน พยายามดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ฐานะของตนมั่นคงThai Definition:ไม่เปลี่ยนแปลงโดยง่าย
(v)be secureSee Also:be stable, be firm, be strong, be sturdy, be steadfastSyn.ปลอดภัย, เสถียร, ปึกแผ่น, หนักแน่น, สถิรAnt.โลเล, ไม่เที่ยง, โอนเอน, ผันแปร, คลอนแคลนExample:หลายๆ คนในหน่วยงาน พยายามดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ฐานะของตนมั่นคงThai Definition:ไม่เปลี่ยนแปลงโดยง่าย
(v)be unsteadySee Also:be unstable, be changeable, be variable, be inconstantAnt.มั่นคงExample:ความวิตกกังวลใจเป็นผลจากความรู้สึกไม่มั่นคงอย่างใดอย่างหนึ่งในชีวิต
(n)stabilitySee Also:durability, enduranceExample:ความขัดแย้งในตัวบุคคลอาจจะกระทบกระเทือนถึงความมั่นคงทางจิตใจได้
(adv)permanentlySee Also:constantly, enduringlySyn.คงทนถาวรAnt.ชั่วครั้งชั่วคราวExample:พระสงฆ์ ทำพิธีสวดเบิกพระธาตุ เพื่อขอให้พระธาตุดำรงอยู่อย่างมั่นคงถาวรThai Definition:อย่างอยู่ได้นาน
(adv)stablySee Also:steadilySyn.อย่างถาวร, อย่างมั่นคงถาวรExample:มหาตมะคานธียึดถือแนวทางอหิงสาอย่างมั่นคงThai Definition:อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
(v)strengthenSee Also:solidify, firmExample:บ้านโดยทั่วไปต้องฝังโครงสร้างส่วนหนึ่งลงใต้ดิน เพื่อให้มั่นคงแข็งแรงThai Definition:แน่นและทนทาน
(n)The Security CouncilExample:กรณีที่กองทัพเกาหลีเหนือเข้าไปในเกาหลีใต้ได้ถูกนำเข้าที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงขององค์การสหประชาชาติUnit:คณะThai Definition:กลุ่มบุคคลชั้นผู้ใหญ่ที่มาร่วมกันพื่อให้คำปรึกษาทางด้านความมั่นคงปลอดภัยขององค์กรหรือหน่วยงานนั้น
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ว. แน่นหนาและทนทาน เช่น เก็บของไว้ในห้องนั้นมั่นคงดี
ไม่กลับกลายเป็นอย่างอื่น เช่น ใจคอมั่นคง.
ว. คลอนแคลน, ไม่แน่น, ไม่มั่นคง, ง่อนแง่น ก็ว่า.
ชื่อกระทรวงที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันและรักษาความมั่นคงของราชอาณาจักรจากภัยคุกคามทั้งภายนอกและภายในประเทศ
น. การกระทำใด ๆ อันเป็นการมุ่งทำลายทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐ หรือสิ่งอันเป็นสาธารณูปโภค หรือการรบกวนขัดขวางหน่วงเหนี่ยวระบบการปฏิบัติงานใด ๆ ตลอดจนการประทุษร้ายต่อบุคคลอันเป็นการก่อให้เกิดความปั่นป่วนทางการเมืองการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมุ่งหมายที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของรัฐ.
ว. แบบบาง, ไม่มั่นคง
ว. โกรงเกรง, ไม่มั่นคง, เช่น กระท่อมโกโรโกโส
แข็งแรง, เข้าที, เช่น เนื้อหนังขยันมั่นคงนัก (อิเหนา), พอกํ้ากึ่งกลางนั้นขยันนัก (เพลงยาวถวายโอวาท).
สิ่งที่ไม่มีตัวตน เชื่อกันว่ามีอยู่ประจำชีวิตของคนตั้งแต่เกิดมา ถ้าขวัญอยู่กับตัวก็เป็นสิริมงคล เป็นสุขสบายจิตใจมั่นคง ถ้าคนตกใจหรือเสียขวัญ ขวัญก็ออกจากร่างไป ซึ่งเรียกว่า ขวัญหาย ขวัญหนี ขวัญบิน เป็นต้น ทำให้คนนั้นได้รับผลร้ายต่าง ๆ, เรียกผู้ตกใจง่ายคือ เด็กหรือหญิงซึ่งมักจะขวัญหายบ่อย ๆ ว่า ขวัญอ่อน , และอนุโลมใช้ไปถึงสัตว์หรือสิ่งของบางอย่าง เช่น ช้าง ม้า ข้าว เรือน ฯลฯ ว่ามีขวัญเช่นเดียวกับคนเหมือนกัน, โดยปริยายหมายความว่า ยอดกำลังใจ เช่น ขวัญเมือง ว่า ยอดกำลังใจของเมือง
น. ขั้นตอนหนึ่งในการหล่อโลหะ โดยยกหุ่นขี้ผึ้งที่เข้าดินเป็นพิมพ์สำเร็จแล้วขึ้นตั้งบนฐานอิฐที่วางซ้อนเป็นรูปสี่เหลี่ยม โดยกลับเอาหัวของหุ่นไว้ข้างล่าง ปักท่อนเหล็กค้ำยันตัวพิมพ์ที่พอกหุ่นให้ตั้งตรงและมั่นคง.
ว. มีกำลังมาก, ลํ่าสัน, มั่นคง, คงทน, อย่างเต็มกำลัง เช่น ทำงานแข็งแรง.
(-แคฺลน) ว. ง่อนแง่น, ไม่มั่นคง, เช่น ฐานะคลอนแคลน.
(คะหะกำมะสาด) น. วิชาที่เกี่ยวข้องกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปะ โดยมุ่งพัฒนาครอบครัวด้วยการจัดการทรัพยากรบุคคล วัสดุและสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาอาชีพและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต ความมั่นคงของสถาบันครอบครัวและสังคม.
ว. โยกคลอนไปมา, ไม่แน่น, ไม่มั่นคง.
ว. คลอนแคลน, ไม่แน่น, ไม่มั่นคง, กระง่อนกระแง่น ก็ว่า.
ก. โคลง, ไหว, ตั้งไม่ตรง, โยกโคลง, ตั้งอยู่ด้วยอาการไม่มั่นคง.
ก. ตั้งขึ้น, แต่งตั้งให้มั่นคง.
ก. ทำให้ได้โดยมั่นคง.
น. ความคิดแน่วแน่, ความมั่นคงในหลักการตามความคิดความเชื่อของตน.
ว. ที่เป็นไปโดยปัจจุบันทันด่วนและจะต้องรีบแก้ไขโดยฉับพลัน เช่น เหตุฉุกเฉิน, ที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือความปลอดภัยแห่งราชอาณาจักร เช่น ภาวะฉุกเฉิน สถานการณ์ฉุกเฉิน.
ความมั่นคง, ความอดทน
ว. ตรง, เที่ยง, มั่นคง, เช่น ไผทของไทยทุกส่วน อยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล. (แผลงมาจาก ตรง).
ก. ตั้งกองทัพไว้ในที่ใดที่หนึ่งอย่างมั่นคง
น. ตัวแทนที่ให้อยู่เป็นประกันในความซื่อตรงมั่นคงของผู้เป็นหัวหน้าหรือประมุข.
(-วอน, -วอระ-) ว. มั่นคง, ยั่งยืน, คงทน.
(ถาวอระวัดถุ, ถาวอนวัดถุ) น. สิ่งที่ก่อสร้างเพื่อให้มั่นคงยั่งยืน เช่น โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ปราสาท พระราชวัง.
(ถิระ-) ว. มั่นคง, แข็งแรง.
ว. มั่นคง, แข็ง, แข็งแรง.
ว. แข็งแรง, มั่นคง, เช่น ฟันทน, อึด เช่น วิ่งทน ดำนํ้าทน.
ว. มั่นคง, ไม่เสียหายง่าย.
(ทนละ-) ก. ตั้งมั่น, มั่นคง.
ทหารหรือบุคคลซึ่งทำการป้องกันหรือปราบปรามการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือความปลอดภัยแห่งราชอาณาจักร ตามที่กระทรวงกลาโหมหรือสำนักนายกรัฐมนตรีกำหนด.
(ทันหะ, ทันหิ, ทันฮี) ว. มั่นคง, แข็งแรง, แน่นหนา, จัด.
(ทันฮีกำ) น. การกระทำให้มั่นคงขึ้น ได้แก่การที่ทำซํ้าลงไปเพื่อให้มั่นคงในกรณีที่การกระทำครั้งแรกไม่สมบูรณ์ มักใช้ในพิธีสงฆ์ เช่น พระภิกษุที่บวชในฝ่ายมหานิกาย เมื่อไปอยู่ในวัดที่เป็นธรรมยุติกนิกายบางวัดก็ต้องให้ทำทัฬหีกรรม.
น. ความทรงไว้, ความมั่นคง
มั่นคง, แข็งแรง.
น. ความมั่นคง, ความแน่นหนา.
ว. ฉลาด, มั่นคง. (แผลงมาจาก ธีร).
ว. อาการที่แออัดยัดเยียดหรือเบียดเสียดจนแทบไม่มีที่ว่าง เช่น คนแน่น ต้นไม้ขึ้นแน่น, อยู่กับที่หรือทำให้อยู่กับที่อย่างมั่นคงไม่ให้หลุดไม่ให้คลอน เช่น เกาะแน่น ปักเสาแน่น, ลักษณะของเสียงดังแบบหนึ่งที่เนื่องมาจากมีการอัดแน่นเป็นพิเศษอย่างเสียงพลุเสียงระเบิด.
ว. มั่นคง เช่น รักกันแน่นแฟ้น.
ว. มั่นคง เช่น ใส่กุญแจแน่นหนา, แข็งแรง เช่น ประตูหน้าต่างแน่นหนา, บางทีก็ใช้เข้าคู่กับ ปึกแผ่น เป็น เป็นปึกแผ่นแน่นหนา.
(เบ็นยะ-) น. ตัวไม้ที่คุมกันเข้าเป็นเครื่องคํ้ายันเสาตะลุงให้มั่นคง.
บำรุงให้เจริญมั่นคง.
ว. ที่ตั้งอยู่ด้วยความมั่นคง, มีหลักฐานมั่นคง.
ว. เป็นหลักฐานมั่นคง, เป็นชิ้นเป็นอัน, เป็นลํ่าเป็นสัน.
ก. มีหลักฐานมั่นคง.
ว. มั่นคง, แข็งขัน, หนักแน่น.
ว. เป็นหลักฐานมั่นคง, เป็นชิ้นเป็นอัน, เป็นจริงเป็นจัง.
ว. มีฐานะมั่นคง เช่น เขาตั้งตัวเป็นหลักเป็นฐานแล้ว.
น. รูปแบบของกฎหมายที่พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นให้มีผลใช้บังคับไปพลางก่อนตามคำแนะนำของฝ่ายบริหาร เนื่องจากเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ ตามเงื่อนไขที่กำหนดให้รัฐธรรมนูญ พระราชกำหนดเมื่อได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้วมีผลใช้บังคับเป็นพระราชบัญญัติ.
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
ความมั่นคงของประเทศ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความมั่นคงของรัฐ, ความมั่นคงสาธารณะ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความมั่นคงร่วมกัน[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความมั่นคงแห่งชาติ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความมั่นคงของประเทศ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความมั่นคงทางสังคม[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความมั่นคงทางสังคม[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความมั่นคง[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
ความมั่นคง[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. ความมั่นคง (ก. ปกครอง)๒. หลักประกัน, หลักทรัพย์ (ก. แพ่ง)[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความมั่นคง[เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ชุมชนที่มั่นคง, ประชาคมที่มั่นคง[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
คณะมนตรีความมั่นคง[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความมั่นคงร่วมกัน[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความมั่นคงของข้อมูล[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
คณะทำงานตอบสนองอุบัติการณ์และรักษาความมั่นคง (เฟิสต์)[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
เฟิสต์ (คณะทำงานตอบสนองอุบัติการณ์และรักษาความมั่นคง)[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
การขาดความมั่นคง[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความมั่นคงแห่งชาติ[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความมั่นคงแห่งชาติ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคง[วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ[เศรษฐศาสตร์]
ความมั่นคงในการทำงาน[เศรษฐศาสตร์]
ความมั่นคงปลอดภัยExample:การป้องกันไม่ให้ผู้อื่นอ่าน หรือก๊อปปี้แฟ้มข้อมูลหรือโปรแกรมไป วิธีการป้องกันมีได้หลายอย่าง เช่น ป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้าไปถึงตัวเครื่องด้วยการล็อกประตูห้อง ป้องกันไม่ให้ผู้อื่นใช้คอมพิวเตอร์ได้ด้วยการกำหนดว่าผู้ใช้จะต้องระบุรหัสผ่าน ป้งอกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าถึงแฟ้มข้อมูลที่มีความลับด้วยการใช้รหัสผ่าน หรือนำข้อมูลนั้นมาเข้ารหัสลับก่อน[คอมพิวเตอร์]
ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ, ไอเออีเอ, หน่วยงานสากลด้านความร่วมมือทางนิวเคลียร์ ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2500 ภายใต้องค์การสหประชาชาติ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสันติภาพของโลก ป้องกันการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ ให้ความช่วยเหลือด้านการใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ในทางสันติเพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของมนุษยชาติ[นิวเคลียร์]
ความมั่นคงชายแดน[TU Subject Heading]
ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ[TU Subject Heading]
ความมั่นคงในการทำงาน[TU Subject Heading]
ความมั่นคงแห่งชาติ[TU Subject Heading]
ความมั่นคงระหว่างประเทศ[TU Subject Heading]
สหประชาชาติ. คณะมนตรีความมั่นคง[TU Subject Heading]
การภาคยานุวัติ คือการที่รัฐหนึ่งเข้าไปเป็นภาคีสนธิสัญญา ซึ่งรัฐอื่น ๆ ได้วินิจฉัยตกลงก่อนแล้วและสนธิสัญญานั้นได้มีผลใช้บังคับก่อนแล้วด้วย บางที่ใช้คำ ?accession? ซึ่งตรงกับคำในภาษาฝรั่งเศสว่า ?adhésion? รัฐจะเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาไม่ได้ นอกจากว่าในสนธิสัญญานั้นมีบทบัญญัติยอมให้รัฐอื่นเข้ามาเป็นภาคีด้วยได้ เช่น มาตรา 4 ของกฎบัตรแห่งสหประชาชาติบัญญัติไว้ว่า?(1) สมาชิกภาพในสหประชาชาติ เปิดรับบรรดารัฐอื่นๆ ทั้งหลายที่ยอมรับพันธกรณีที่ระบุไว้ในกฎบัตรปัจจุบันและองค์การสหประชาชาติ พิจารณาวินิจฉัยแล้วว่า รัฐนั้น ๆ สามารถและเต็มใจที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีเหล่านั้น??(2) การรับรัฐใดๆ ดังกล่าวเข้าเป็นสมาชิกในสหประชาชาติจะเป็นผลสำเร็จก็ต่อเมื่อสมัชชาสหประชา ชาติได้ลงมติรับรองตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง? คือ เอกสิทธิ์ทางการทูตในการที่จะได้มีถิ่นพำนัก[การทูต]
ความร่วมมือเอเชีย เวทีความร่วมมือในระดับทวีปเอเชีย โดยเป็นความคิดริเริ่มของไทยในการสร้างกรอบความร่วมมือที่ครอบคลุมทุกอนุ ภูมิภาคของเอเชีย มีวัตถุประสงค์ที่จะเชื่อมโยงจุดแข็งและต่อยอดความร่วมมือต่าง ๆ ของประเทศเอเชีย โดยอาศัยความแตกต่างหลากหลายและทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งเอเชียมีอยู่มา ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมุ่งสร้างความร่วมมือในวงกว้างทั้งทวีปเอเชีย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ซึ่งจะทำให้ภูมิภาคเอเชียแข็งแกร่งและเป็นหุ้นส่วนที่เข้มแข็งสำหรับภูมิภาค อื่น ๆ เอซีดีได้มีการประชุมครั้งแรกเมื่อ 18-19 มิถุนายน 2545 โดยมีผู้แทนระดับรัฐมนตรีจาก 18 ประเทศเข้าร่วม ที่ประชุมได้แบ่งกรอบความร่วมมือเป็น 2 มิติ ได้แก่ มิติการหารือ (dialogue dimension) และมิติโครงการความร่วมมือ (project dimension) เช่น การท่องเที่ยว ความมั่นคงทางพลังงาน และการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bond Market)[การทูต]
การแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรของสหประชาชาตินั้น เปิดโอกาสให้มีการแก้ไขได้โดยสมัชชาสหประชาชาติหรือโดยที่ประชุมใหญ่ (General Conference) ของสมาชิกสหประชาชาติ ซึ่งอาจจะประชุมกัน ณ วันเวลาและสถานที่ตามแต่จะมีการตกลงกัน โดยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ส่วนของสมัชชาใหญ่ และโดยคะแนนเสียงของสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงใด ๆ 7 เสียง ในที่ประชุมใหญ่นั้น สมาชิกแต่ละประเทศของสหประชาชาติจะมีเสียงลงคะแนน 1 เสียงการที่จะแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติให้เป็นผลสำเร็จ จะต้องได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกเป็นจำนวน 2 ใน 3 ส่วนของสมาชิกทั้งหมดในสมัชชาหรือจากที่ประชุมใหญ่ เมื่อการแก้ไขกฎบัตรเป็นที่รับรองแล้ว จะมีผลบังคับต่อสมาชิกทั้งหมดของสหประชาชาติ ก็ต่อเมื่อได้รับการสัตยาบันจากสมาชิก 2 ใน 3 ส่วนของจำนวนทั้งหมด รวมทั้งการรับรองจากสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงด้วยอาทิเช่น ในสมัยประชุมที่ 18 ของสมัชชาใหญ่ การแก้ไขกฎบัตรได้รับการรับรองเห็นชอบด้วย โดยผ่านข้อมติที่ 1991 (XVII) ในการแก้ไขครั้งนี้ได้เพิ่มจำนวนสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงจาก 11 เป็น 15 คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมจาก 18 เป็น 27 ประเทศ การแก้ไขดังกล่าวได้รับการลงมติรับรองเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1963 ในปัจจุบันนี้ ประเทศสมาชิกเป็นจำนวนมากกำลังเรียกร้องให้มีการปรับจำนวนสมาชิกถาวรของคณะ มนตรีความมั่นคงเสียใหม่[การทูต]
แผนงานการจัดตั้งประชาคมการเมืองและความมั่นคงอา เซียน เป็นเอกสารที่รวบรวมรายการกิจกรรมต่างๆ ที่รัฐสมาชิกอาเซียนจะทำร่วมกันเพื่อสร้างประชาคมการเมืองและความมั่นคงอา เซียนภายในปี 2558 แผนงานฯ ได้รับการรับรองโดยผู้นำในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 ที่ชะอำ หัวหิน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2552 โดยแผนงาน มีวิสัยทัศน์ 3 ประการ ให้อาเซียนเป็น(1) ประชาคมที่มีกฎเกณฑ์และค่านิยมร่วมกัน (2)เป็นประชาคมที่สงบสุขและรับผิดชอบร่วมกันในการรักษาความมั่นคงสำหรับ ประชาชนที่ครอบคลุมในทุกด้าน และ (3)เป็นประชาคมที่มีพลวัตรและร่วมมือปฎิสัมพันธ์กับโลกภายนอก[การทูต]
การประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก " เป็นการประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับรัฐมนตรี ต่างประเทศของประเทศคู่เจรจาของอาเซียน (Dialogue Partners) ได้แก่ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย จีน รัสเซีย และสหภาพยุโรป ผู้สังเกตการณ์ (Observers) ของอาเซียน ได้แก่ ปาปัวนิวกินี และประเทศอื่น ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น มองโกเลียและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) โดย ARF ได้ใช้ ""geographical footprint"" หรือขอบเขตทางภูมิศาสตร์ เป็นปัจจัยสำคัญเพื่อประกอบการพิจารณารับสมาชิกใหม่ ปัจจุบัน ARF มีประเทศสมาชิก 22 ประเทศ กับ 1 กลุ่ม (สหภาพยุโรป) โดยมีการประชุมเป็นประจำทุกปีในช่วงต่อเนื่องกับการประชุมรัฐมนตรี ต่างประเทศอาเซียน (ASEAN Ministerial Meeting - AMM) เป็นเวทีปรึกษาหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ระดับพหุภาคีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และพัฒนาแนวทางการ ดำเนินการทางการทูตเชิงป้องกัน (Preventive Diplomacy) ที่มุ่ง ป้องกันการเกิดและขยายตัวของความขัดแย้ง โดยใช้มาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ (Confidence Building Measures - CBMs) ระหว่างกัน ทั้งนี้ ARF มีการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2537 และไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ARF ระดับรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่ 7 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2543 นอกจากการประชุม ARF ประจำปีแล้วยังมีการดำเนินกิจกรรมระหว่างปี (Inter-sessional Activities) ในสองระดับ คือ กิจกรรมที่เป็นทางการ (Track I) และกิจกรรมที่ไม่เป็นทางการ (Track II) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับสถาบันวิชาการของ ประเทศผู้เข้าร่วม ARF ได้แก่ (1) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมกลุ่มสนับสนุนว่าด้วยมาตรการสร้างความไว้เนื้อ เชื่อใจของ ARF (ARF Inter-sessional Support Group on Confidence Building Measures - ARF ISG on CBMs) (2) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการบรรเทาภัยพิบัติของ ARF (ARF Inter-sessional Meeting on Disaster Relief - ARF ISM on DR) (3) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการรักษาสันติภาพของ ARF (Inter-sessional Meeting on Peace-keeping Operations - ARF ISM on PKO) และ (4) การประชุมระหว่างปีกิจกรรมเรื่องการประสานและร่วมมือด้านการค้นหาและกู้ภัย ของ ARF (ARF Inter-sessional Meeting on Search and Rescue Coordination - ARF ISM on SAR) "[การทูต]
แผนปฏิบัติการประชาคมความมั่นคงอาเซียน[การทูต]
ประชาคมอาเซียน ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 9 เมื่อเดือนตุลาคม 2547 เกาะบาหลี ได้ลงนามในปฏิญญาว่าด้วยความร่วมมือในอาเซียน ฉบับที่ 2 เห็นชอบให้มีการจัดตั้งประชาคมอาเซียนในสามด้านหลักภายในปี พ.ศ. 2563 ได้แก่ ประชาคมความมั่นคงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคม-วัฒนธรรมอาเซียน[การทูต]
เวทีการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายทหารในกรอบ การประชุม อาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก[การทูต]
การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน เป็นการประชุมระดับปลัดกระทรวงการต่างประเทศของประเทศสมาชิก เพื่อติดตามและเสนอนโยบายด้านการเมือง ความมั่นคง และเรื่องอื่น ๆ ต่อรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน[การทูต]
คณะกรรมการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงแห่งภูมิภาคอาเซียน เป็นกลไกประสานด้านการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงของภูมิภาค จัดตั้งขึ้นตามหลักการของปฏิญญาความสมานฉันท์แห่งอาเซียน 2514[การทูต]
มาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เป็นมาตรการเพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างรัฐ/เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง และการทหาร เพื่อลดความหวาดระแวง ลดความขัดแย้ง และสร้างความมั่นใจระหว่างสองฝ่ายหรือหลาย ๆ ฝ่าย อันจะเป็นการส่งเสริมการทูตเชิงป้องกัน ทั้งนี้ CBMs เป็นกระบวนการที่สำคัญในกรอบการประชุม ARF[การทูต]
นโยบายร่วมต่างประเทศและความมั่นคง (ของสหภาพยุโรป) " ผู้ที่ได้รับการมอบหมายให้ดูแลในเรื่องนี้ คือ ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายร่วมต่างประเทศและความมั่นคง (High Representative) หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า Mr. CFSP "[การทูต]
การประชุมว่าด้วยการแสวงหามาตรการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ (ด้านความมั่นคง) ในเอเชีย " CICA ได้รับการจัดตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2536 โดยความริเริ่มของคาซัคสถาน และมีสมาชิกเข้าร่วม 16 ประเทศ ได้แก่ คาซัคสถาน อินเดีย ปากีสถาน ปาเลสไตน์ รัสเซีย ตุรกี จีน อิสราเอล อิหร่าน อัฟกานิสถาน อียิปต์ อาเซอร์ไบจาน มองโกเลีย คีร์กิซสถาน ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน และประเทศผู้สังเกตการณ์อีก 10 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ยูเครน เวียดนาม อินโดนีเซีย ไทย ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และเลบานอน "[การทูต]
ความมั่นคงโดยการร่วมมือกัน[การทูต]
ชมรมด้านความมั่นคงและความร่วมมือในเอเชียแปซิฟิก เป็นสถาบันเอกชนก่อตั้งขึ้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2536 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีสถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ (Institute of Security and International Studies : ISIS) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสถาบันก่อตั้งร่วมกับสถาบันอื่น ๆ จากประเทศอาเซียนและประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก CSCAP เป็นกลไกที่ไม่ใช่เป็นทางการ เพื่อให้นักวิชาการ เจ้าหน้าที่รัฐบาลในฐานะส่วนตัวและบุคคลอื่นได้อภิปรายปัญหาทางการเมืองและ ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก[การทูต]
ลัทธิไอเซนฮาวร์ เมื่อวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1957 ประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความวิตกห่วงใยในสถานการณ์ที่ล่อแหลมต่ออันตรายในภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้อ่านสารพิเศษต่อที่ประชุมร่วมระหว่างสภาผู้แทนกับวุฒิสภาขอร้องให้รัฐสภา สหรัฐฯ ลงมติรับรองโครงการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและทางทหาร เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งเอกราชแห่งชาติของบรรดาประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น ดังนั้น ในการสนองตอบสารพิเศษดังกล่าว รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านข้อมติร่วมกันเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 1957 มอบให้ประธานาธิบดีมีอำนาจให้ความร่วมมือและอำนวยความช่วยเหลือแก่ชาติหรือ กลุ่มชาติต่างๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งต้องการความช่วยเหลือเช่นนั้น ในการที่จะพัฒนาพลังทางเศรษฐกิจเพื่อรักษาไว้ซึ่งเอกราชแห่งชาติตน และให้จัดโครงการช่วยเหลือทางทหารแก่ชาติต่างๆ ในภาคนั้นซึ่งต้องการความช่วยเหลือดังกล่าว ทั้งได้มอบอำนาจให้ประธานาธิบดีสามารถใช้กองทัพสหรัฐฯ เข้าช่วยเหลือชาติเหล่านั้นที่แสดงเจตนาขอความช่วยเหลือ เพื่อต่อต้านการรุกรานจากประเทศใด ๆ ที่อยู่ใต้อำนาจควบคุมของคอมมิวนิสต์ระหว่างประเทศ[การทูต]
ผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการอาเซียนว่า ด้วยความ ร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก[การทูต]
องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ " เป็นทบวงการชำนัญพิเศษขององค์การสหประชาชาติ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2488 มีหน้าที่บรรเทาความอดอยากและหิวโหยของ ประชากรโลกด้วยการส่งเสริม และพัฒนาเกษตรกรรม การปรับปรุงโภชนาการ และแสวงหาความมั่นคงทางด้านอาหาร ปัจจุบันมีสมาชิก 171 ประเทศ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี "[การทูต]
ความเกี่ยวพันอย่างยืดหยุ่น " ความเกี่ยวพันอย่างยืดหยุ่นเป็นข้อเสนอของ ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่เสนอในการประชุมรัฐมนตรีต่าง ประเทศอาเซียน (ASEAN Ministerial Meeting : AMM) ครั้งที่ 31 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2541 ณ กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกอาเซียนมีการหารือและแลก เปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสร้างสรรค์ เปิดกว้างและเป็นกันเองในเรื่องหรือประเด็นต่าง ๆ ที่เห็นว่าเป็นผลประโยชน์ร่วมกันหรือที่จะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์และความ มั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจของนานาประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันสืบเนื่องจากการที่อาเซียนมีสมาชิกครบ 10 ประเทศ และอยู่ในภาวะที่เผชิญปัญหาท้าทายต่าง ๆ ซึ่งมีความเชื่อมโยงและเกี่ยวพันกัน "[การทูต]
ความมั่นคงทางด้านอาหาร หมายถึง การที่ประชากรโลกมีอาหารเพียงพอกับความต้องการ (availibility) มีเสถียรภาพ (stability) และสามารถเข้าถึงได้ (accessibility) แนวความคิดเรื่องความมั่นคงทางด้านอาหารนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการรับรองปฏิญญากรุงโรม ของที่ประชุมสุดยอด อาหารโลก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2539 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะขจัดความหิวโหย และลดปัญหาทุโภชนาการของประชากรโลก โดยตั้งเป้าหมายที่จะลดจำนวนประชากรที่ขาดอาหารให้เหลือครึ่งหนึ่งจากที่มี อยู่ในปัจจุบัน ภายในปี พ.ศ. 2558[การทูต]
เสรีภาพในการเคลื่อนย้ายและการเดินทางของผู้แทน ทางการทูต โดยปกติ รัฐผู้รับย่อมอนุญาตโดยเสรีแก่ผู้แทนทางการทูต ที่จะเคลื่อนย้ายและเดินทางไปไหนมาไหนได้ทั่วประเทศ แต่ระหว่างสงครามเย็นที่ผ่านมา ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ตั้งข้อจำกัดการเดินทางแก่ผู้แทนทางการทูตของกลุ่ม ประเทศคอมมิวนิสต์บางแห่ง ได้แก่ สหภาพโซเวียต บัลแกเรีย เชคโกสโลวาเกีย ฮังการี รูเมเนีย และโปแลนด์ นัยว่าสหรัฐฯ ได้กำหนดเขตแขวงในดินแดนของตน 355 แห่ง หรือประมาณร้อยละ 11 ของพื้นที่ทั้งหมด เป็นเขตห้ามเข้าสำหรับผู้แทนทางการทูตของประเทศเหล่านั้นในทำนองเดียวกัน กลุ่มประเทศคอมมิวนิสต์ดังกล่าวก็ได้ตั้งข้อจำกัดการเดินทางแก่ผู้แทนทางการ ทูตของสหรัฐฯ เช่นกัน สำหรับเสรีภาพการเคลื่อนย้ายนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติในข้อ 26 ว่า?ภายในบังคับของกฎหมาย และข้อบังคับของรัฐผู้รับเกี่ยวกับการเข้าไปในเขตหวงห้ามหรือวางระเบียบไว้ โดยเหตุผลของความมั่นคงแห่งชาติ ให้รัฐผู้รับประกันแก่สมาชิกทั้งมวลของคณะเกี่ยวกับเสรีภาพในการเคลื่อนไหว และการเดินทางในอาณาเขตของตน?[การทูต]
เสรีภาพในการเคลื่อนไหวของบุคคลในสถานที่ทำการทาง กงสุล เรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ได้บัญญัติไว้ในข้อ 34 ว่า?ภายในบังคับแห่งกฎหมาย และข้อบังคับของรัฐผู้รับเกี่ยวกับการเข้าไปในเขตซึ่งเป็นที่หวงห้าม หรือที่ได้กำหนดระเบียบไว้ เพราะเหตุผลในทางความมั่นคงแห่งชาติ ให้รัฐผู้รับประกันเสรีภาพในการเคลื่อนไหว และการเดินทางในอาณาเขตของตน แก่บุคคลทั้งปวงในสถานที่ทำการทางกงสุล?[การทูต]
คณะกรรมการชายแดนทั่วไป เป็นกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคง ชายแดน ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทยและประเทศเพื่อนบ้านเป็นประธานร่วม กัน ทำหน้าที่กกำหนดแนวทางและมาตรการที่เหมาะสมเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือ รักษาความสงบเรียบร้อยและเสถียรภาพในพื้นที่บริเวณชายแดน ซึ่งกลไกนี้ไทยมีกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดต่อกันทั้ง 4 ประเทศ[การทูต]
รายการยกเว้นทั่วไป สำหรับสินค้าบางรายการที่ไม่ต้องนำมาอยู่ในรายการลดอัตราภาษีศุลกากรของเขต การค้าเสรีอาเซียนตลอดไป ได้แก่ สินค้าที่มีผลต่อความมั่นคง ศีลธรรม ชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ สัตว์และพืช ศิลปะและโบราณวัตถุ[การทูต]
ประเทศมหาอำนาจ รัฐที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นประเทศมหาอำนาจ คือรัฐที่มีอำนาจอิทธิพลครอบงำในกิจการระหว่างประเทศ ไม่มีกฎหมายใดๆ ที่จะกำหนดว่าประเทศนั้น ประเทศนี้มีสถานภาพเป็นมหาอำนาจ หากเป็นเพียงเพราะรัฐนั้นๆ มีขนาด พละกำลัง และอำนาจอิทธิพลทางเศรษฐกิจเป็นพื้นฐาน และจะสังเกตได้ว่า สถานะของกลุ่มประเทศมหาอำนาจเช่นนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงได้บ่อยๆ เช่น ในสมัยการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาในปี ค.ศ. 1815 ประเทศมหาอำนาจในสมัยนั้นได้แก่ อังกฤษ ออสเตรีย ฝรั่งเศส ปอร์ตุเกส ปรัสเซีย สเปน สวีเดน และรัสเซีย หลังจากนั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่เกี่ยวกับพละกำลังของประเทศมหาอำนาจ คือก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ หนึ่ง ประเทศที่จัดว่าเป็นมหาอำนาจในตอนนั้นคือ อังกฤษ ฮังการี ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในทวีปยุโรป รวมทั้งสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่นอกยุโรป เมื่อตอนสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศที่เป็นมหาอำนาจได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ โซเวียตรัสเซีย ฝรั่งเศส และจีน พึงสังเกตด้วยว่า องค์การสหประชาชาติได้ถือว่า ประเทศทั้ง 5 นี้มีอำนาจและมีความสำคัญมากที่สุดในขณะนั้น ทั้ง 5 ประเทศนี้ต่างเป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ซึ่งมีอำนาจใช้สิทธิยับยั้ง (Veto) ในที่ประชุม ซึ่งในปัจจุบันก็ยังปฏิบัติเช่นนั้นอยู่[การทูต]
เครือข่ายความมั่นคงของมนุษย์[การทูต]
ความมั่นคงของมนุษย์ " หมายถึง การสร้างสภาพที่มั่นคงให้แก่มนุษย์โดยครอบคลุมทุกด้าน ทั้งในด้านการเมือง (เช่น การปลอดจากภัยสงคราม) ด้านเศรษฐกิจ (เช่น การกินดีอยู่ดี การมีสุขอนามัย) และด้านสังคม (เช่น การมีสิทธิพื้นฐานตามที่กฎหมายกำหนด) "[การทูต]
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการเงิน อำนวยความสะดวก เพื่อให้เกิดความเจริญเติบโตด้านการค้าระหว่างประเทศ ส่งเสริมให้เกิดระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราที่มั่นคงและเป็นระเบียบ การกำจัดข้อจำกัดด้านการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ และช่วยเหลือประเทศสมาชิกโดยการจัดหาทรัพยากรด้านการเงินเป็นการชั่วคราว เพื่อแก้ไขปัญหาด้านดุลการชำระเงิน[การทูต]
เรื่องสืบราชการลับ กล่าวอย่างกว้าง ๆ คือ เรื่องลับไม่ว่าชนิดใด โดยเฉพาะที่จะมีประโยชน์แก่ผู้กำหนดนโยบาย หรือฝ่ายทหารที่มีหน้าที่ว่างนโยบายหรือวางแผนยุทธศาสตร์ ถือว่าเป็น Intelligence ทั้งสิ้น เช่น ในสหรัฐอเมริกามีองค์กรสืบราชการลับอยู่หลายแห่ง เช่น CIA (สำนักงานสืบราชการลับกลาง) The NSA (National Security Agency หรือองค์การรักษาความมั่นคงปลอดภัยแห่งชาติ) G-2 (ฝ่ายสืบราชการลับของกองทัพบก) FBI (Federal Bureau of Investigation หรือหน่วยสืบสวนของรัฐบาลกลาง) Bureau of Intelligence and Research of the State Department หรือหน่วยสืบราชการลับและวิจัยของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ รวมทั้งฝ่ายสืบราชการลับของกองทัพเรือและกองทัพอากาศ ส่วนในโซเวียตรัสเซีย (ปัจจุบันเรียกชื่อใหม่ว่ารัสเซีย) แต่เดิมมีองค์การสืบราชการลับอยู่จำนวนหนึ่ง ที่สำคัญๆ ได้แก่ ฝ่ายสืบราชการลับทางทหารของกระทรวงกลาโหม หรือที่เรียกว่า YRU (Ylavnoe Razdevyvatelnoe Uptavlenie) และ KGB (Kommissariat Gosudatstvennoie Bezopastnotsi หรือ Commisariat of State Security) ในประเทศอังกฤษ มีฝ่ายสืบราชการลับเรียกว่า M15 (British Counter Intelligence) M16 เป็นหน่วยสาขาซึ่งทำงานด้านจารกรรมในต่างประเทศ และ M18 เป็นฝ่ายสืบราชการฝ่ายทหาร (Cryptographic Bureau of Military Intelligence)[การทูต]
กองกำลังนานาชาติในติมอร์ตะวันออก จัดตั้งขึ้นตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1264 (1999) เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2542 มีภารกิจหลัก 3 ประการ คือ ฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพในติมอร์ตะวันออก ป้องกันและสนับสนุนงานของเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ และอำนวยความสะดวกในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม กองกำลังนานาชาติปฏิบัติหน้าที่ในติมอร์ตะวันออกจนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2543[การทูต]
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1945 ตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ กฎข้อบังคับ (Statute) ของศาลโลกนั้นได้ผนวกอยู่ท้ายกฎบัตรของสหประชาชาติ และถือเป็นส่วนสำคัญอย่างแยกจากกันมิได้ของกฎบัตร ศาลนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นองค์กรแห่งศาลหรือแห่งตุลาการสำคัญที่สุดขององค์การสหประชาชาติ ประเทศใดที่เข้าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลก ย่อมมีสิทธิที่จะส่งคดีใดก็ตามไปให้ศาลโลกพิจารณาได้ ภายใต้เงื่อนไขที่คณะมนตรีความมั่นคงได้จัดวางไว้ นอกจากนั้น คณะมนตรีความมั่นคงก็อาจจะส่งกรณีพิพาททางกฎหมายไปให้ศาลพิจารณาได้ทั้ง สมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงสามารถขอคำปรึกษาหรือความเห็นจากศาลเกี่ยวกับ ปัญหาข้อกฎหมายใดๆ และองค์กรอื่น ๆ ของสหประชาชาติ อันรวมถึงองค์การชำนัญพิเศษ ก็สามารถขอคำปรึกษา หรือความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางกฎหมายใดๆ ที่อยู่ภายในกรอบของงานที่ปฏิบัติอยู่ แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุมัติเห็นชอบจากสมัชชาสหประชาชาติก่อน สมัชชาเคยมอบอำนาจเช่นนี้แก่คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะมนตรีภาวะทรัสตี คณะกรรมาธิการระหว่างกาล (Interim Committee) ของสมัชชา รวมทั้งองค์กรระหว่างรัฐบาลบางแห่งด้วยรัฐทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสหประชา ชาติถือว่าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกไปในตัว ส่วนประเทศใดที่มิใช่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็อาจเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกได้ ตามเงื่อนไขที่สมัชชาสหประชาชาติเป็นผู้กำหนดเป็นราย ๆ ไป ตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง ศาลโลกมีอำนาจที่จะพิจารณาปัญหาทั้งหลายที่รัฐสมาชิกขอให้พิจารณา รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ทั้งหลายที่ระบุอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ และตามสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาที่ใช้บังคับอยู่ รัฐสมาชิกย่อมยอมผูกพันตนล่วงหน้าได้ที่จะยอมรับอำนาจศาลในกรณีพิเศษต่าง ๆ โดยจะต้องลงนามในสนธิสัญญา หรืออนุสัญญาซึ่งยอมให้ส่งเรื่องไปที่ศาลได้ หรือออกประกาศเป็นพิเศษว่าจะปฏิบัติเช่นนั้น ในคำประกาศเช่นนั้นจะต้องระบุว่ายอมรับอำนาจบังคับของศาลโลก และอาจจะยกเว้นคดีบางประเภทมิให้อยู่ในอำนาจของศาลได้ ในการวินิจฉัยลงมติ ศาลโลกจะอาศัยแหล่งที่มาของกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้ คือ- สัญญาหรืออนุสัญญาระห่างประเทศซึ่งวางกฎข้อบังคับที่รัฐคู่กรณียอมรับ- ขนบธรรมเนียมระหว่างประเทศซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปตามที่ กฎหมายรับรองศาลโลกอาจจะตัดสินชี้ขาดว่าสิ่งใดยุติธรรมและดี โดยรัฐภาคีที่เกี่ยวข้องตกลงเห็นชอบด้วยคณะมนตรีความมั่นคงอาจจะรับการขอ ร้องจากรัฐภาคีหนึ่งใดในกรณีพิพาท ให้กำหนดมาตรการที่จะใช้เพื่อให้คำตัดสินของศาลมีผลบังคับ ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้อำนาจศาลศาลโลก ประกอบด้วยผู้พิพากษารวม 15 ท่าน ซึ่งถือกันว่าเป็น ?สมาชิก? ของศาล และได้รับเลือกตั้งจากสมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีอำนาจออกเสียงลงคะแนนอย่างอิสระเสรีหลักเกณฑ์การคัด เลือกผู้พิพากษาศาลโลกจะถือตามคุณสมบัติขอผู้พิพากษานั้น ๆ มิใช่ถือตามสัญชาติของบุคคลดังกล่าว อย่างไรก็ดี จะมีการระมัดระวังด้วยว่า กฎหมายที่นำมาใช้ในศาลจะต้องมาจากระบบกฎหมายที่สำคัญ ๆ ของโลก ในศาลโลกจะมีผู้พิพากษาที่เป็นชาติเดียวกันมากกว่าหนึ่งคนไม่ได้ ผู้พิพากษาทั้งหลายจะมีสิทธิ์ดำรงอยู่ในตำแหน่งได้ เป็นเวลา 9 ปี มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งซ้ำได้ และระหว่างที่ดำรงอยู่ในตำแหน่ง จะต้องไม่ประกอบอาชีพการงานอื่นใดทั้งสิ้น[การทูต]
คณะกรรมาธิการร่วม " เป็นกลไกความร่วมมือในระดับทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก JC มีบทบาทในการดูแลและส่งเสริมความสัมพันธ์ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วัฒนธรรม และสังคม โดยแต่ละฝ่ายจะสลับกันเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม ซึ่งอาจมีขึ้นปีละครั้งหรือ 2-3 ปีต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความสะดวกของทั้งสองฝ่าย JC อาจมีกลไกย่อยหรือคณะกรรมการภายใต้ JC เพื่อกำกับดูแลเฉพาะเรื่องหรือมีคณะกรรมการในระดับส่วน ภูมิภาค เช่น ไทยกับมาเลเซียมีคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee - GBC) มีบทบาทในการดูแลความร่วมมือด้านการทหารและความมั่นคงบริเวณชายแดน และมีคณะกรรมการจัดทำหลักเขตแดนทางบก (Land Boundary Committee - LBC) เพื่อดูแลการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างประเทศทั้งสอง นอกจากนั้น ยังมีคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee - JTC) ระหว่างไทยกับบางประเทศ เป็นกลไกเพื่อส่งเสริมการค้าและขจัดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน "[การทูต]
องค์การนาโต้ หรือองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ซึ่งได้ลงนามกันเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1949 ประเทศสมาชิกขณะเริ่มตั้งองค์การครั้งแรก ได้แก่ ประเทศเบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ต่อมาประเทศกรีซและตรุกีได้เข้าร่วมเป็นภาคีของสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1952 และเยอรมนีตะวันตก ( ในขณะนั้น) เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1955 สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1949ในภาคอารัมภบทของสนธิสัญญา ประเทศภาคีได้ยืนยันเจตนาและความปรารถนาของตน ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสันติกับประเทศและรัฐบาลทั้งหลาย ที่จะปกป้องคุ้มครองเสรีภาพมรดกร่วม และอารยธรรมของประเทศสมาชิกทั้งมวล ซึ่งต่างยึดมั่นในหลักการของระบอบประชาธิปไตย เสรีภาพส่วนบุคคลหลักนิติธรรม ตลอดจนจะใช้ความพยายามร่วมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อป้องกันประเทศ และเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงในสนธิสัญญาดังกล่าว บทบัญญัติที่สำคัญที่สุดคือข้อ 5 ซึ่งระบุว่า ประเทศภาคีสนธิสัญญาทั้งหลายต่างเห็นพ้องต้องกันว่า หากประเทศภาคีหนึ่งใดหรือมากกว่านั้น ในทวีปยุโรปหรือในอเมริกาเหนือ ถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ จักถือว่าเป็นการโจมตีต่อประเทศภาคีทั้งหมด ฉะนั้น ประเทศภาคีจึงตกลงกันว่า หากมีการโจมตีด้วยกำลังอาวุธเช่นนั้นเกิดขึ้นจริง ประเทศภาคีแต่ละแห่งซึ่งจะใช้สิทธิในการป้องกันตนโดยลำพังหรือร่วมกัน อันเป็นที่รับรองตามข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ จะเข้าช่วยเหลือประเทศภาคีแห่งนั้นหรือหลายประเทศซึ่งถูกโจมตีด้วยกำลัง อาวุธในทันทีองค์กรสำคัญที่สุดในองค์การนาโต้เรียกว่า คณะมนตรี (Council) ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศภาคีสนธิสัญญานาโต้ คณะมนตรีนี้จะจัดตั้งองค์กรย่อยอื่น ๆ หลายแห่ง รวมทั้งกองบัญชาการทหารสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตรภาคพื้นยุโรปและภาคพื้น แอตแลนติก สำนักงานใหญ่ขององค์การนาโต้ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส[การทูต]
ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง[การทูต]
ประเด็นความมั่นคงในรูปแบบใหม่[การทูต]
คือองค์การของรัฐในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1947 สหรัฐอเมริกา และประเทศต่าง ๆ ในละตินอเมริกา ยกเว้นประเทศนิคารากัวและอีเควดอร์ ได้ตกลงทำสนธิสัญญาระหว่างรัฐในอเมริกาด้วยกัน ณ กรุงริโอเดจาเนโร เพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า สนธิสัญญาริโอ ประเทศเหล่านั้นต่างมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือกันอย่างมีประสิทธิผล ถ้าหากรัฐในอเมริกาหนึ่งใดถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธหรือถูกคุกคามจาการรุกราน ต่อมาในเดือนเมษายน ค.ศ. 1948 ได้มีการจัดตั้งองค์การของรัฐอเมริกัน (Organization of American States) ขึ้น ณ กรุงโบโกตา ประเทศโบลิเวีย ประกอบด้วยรัฐต่าง ๆ ในอเมริการวม 21 ประเทศ ยกเว้นประเทศแคนาดา เพื่อดำเนินการให้เป็นผลตามสนธิสัญญาริโอ และจัดวางระบบการรักษาความมั่นคงร่วมกันขึ้น กฎบัตร (Charter) ขององค์การได้มีผลบังคับให้เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1951องค์การโอเอเอสนี้ เป็นองค์การส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่ง ภายในกรอบของสหประชาชาติ ประเทศสมาชิกต่างปฏิญาณร่วมกันที่จะทำการธำรงรักษากระชับสันติภาพ ตลอดจนความมั่นคงในทวีปอเมริกา เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุแห่งความยุ่งยากใด ๆ และต้องการระงับกรณีพิพาทที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกันโดย สันติวิธี อนึ่ง ถ้าหากมีการรุกรานเกิดขึ้นก็จะมีการปฏิบัติการร่วมกัน นอกจากนี้ ยังจะหาทางระงับปัญญาหาทางการเมือง ทางการศาล และทางเศรษฐกิจ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างประเทศสมาชิก พร้อมทั้งจะพยายามร่วมกัน ในการหาหนทางส่งเสริมพัฒนาการทางเศรษฐกิจสังคม และวัฒนธรรม สำนักงานใหญ่ขององค์การโอเอเอสตั้งอยู่ ณ กรุงวอชิงตันดีซี นครหลวงของสหรัฐอเมริกา[การทูต]
โครงการน้ำมันเพื่ออาหาร " เป็นโครงการภายใต้ข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ 986 (พ.ศ. 2538) ซึ่งอนุญาตให้อิรักนำรายได้จากการขายน้ำมันดิบไปซื้อสินค้าทางด้านมนุษยธรรม เพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนอิรัก "[การทูต]
คือองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจของยุโรป สัญญาที่ก่อตั้งองค์การนี้ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงปารีส เมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ.1948 โดยรัฐบาลของประเทศออสเตรีย เบลเยี่ยม เดนมาร์ก ฝรั่งเศส กรีซ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี โดยแม่ทัพของฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาที่ประจำอยู่ในเขตยึดครองในเยอรมนี (หลังเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง)จุดประสงค์สำคัญที่สุดขององค์การนี้คือ ต้องการให้ทวีปยุโรปมีภาวะเศรษฐกิจกลับคืนมาใหม่อย่างมั่นคง ด้วยการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิก สำนักงานใหญ่ขององค์การนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสอย่างไรก็ดี บัดนี้ได้มีองค์การตั้งขึ้นใหม่แทนองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจของยุโรป เรียกว่า องค์การร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organization for Economic Cooperation and Development ) หรือ OECD สำหรับสัญญาจัดตั้งองค์การโอดีซีดีนี้ ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงปารีส เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 โดยรัฐบาลของประเทศออสเตรีย เบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา สัญญาดังกล่าวมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1961จุดประสงค์สำคัญขององค์การโออีซีดี มีดังนี้1. เพื่อให้บรรดาประเทศสมาชิกได้มีความเติบโตทางเศรษฐกิจ มีแรงงาน อาชีพ และมาตรฐานการครองชีพให้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็พยายามรักษาเสถียรภาพทางการคลังไว้เพื่อเป็นการเกื้อกูลต่อการ พัฒนาเศรษฐกิจของโลก2. ระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ให้ประเทศสมาชิกมีโอกาสขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคง รวมทั้งในประเทศที่มิได้เป็นสมาชิกด้วย3. ต้องการมีส่วนเกื้อกูลต่อการขยายตัวทางการค้าในรูปพหุภาคี และปราศจากการกีดกันแต่อย่างใด ตามพันธกรณีระหว่างประเทศองค์การสำคัญในองค์การโออีซีดีคือคณะมนตรี ( Council ) ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิกทั้งหมด มีคณะกรรมการบริหารรวมทั้งเลขาธิการ สำนักงานใหญ่ขององค์การตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส[การทูต]
องค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความมั่นคงในลักษณะรอบด้าน กล่าวคือ ด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม โดยดำเนินนโยบายป้องกันทางการทูต (preventive diplomacy) มีประเทศสมาชิกจำนวน 55 ประเทศ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2517 ไทยได้สมัครเข้าเป็นหุ้นส่วนทางความร่วมมือของ OSCE ในปี พ.ศ. 2543[การทูต]
ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
เราได้พิจารณาบุคคล ที่ชอบบงการผู้อื่น... ...ผ่านความไม่มั่นคงและ ความหลงตัวเองของพวกเขาBasic Instinct (1992)
มันควรจะได้รับ การบำบัดอารมณ์ที่ไม่มั่นคงก่อน ในโลกเสมือนนั่นน่ะThe Lawnmower Man (1992)
เอาล่ะ " กุญแจที่นำไปสู่ชัยชนะ ของทีมสเลด... " " คือคนขับที่มั่นคงและนักวิ่งที่แข็งแรง 3 คน เพื่อเข็นลงลู่น้ำแข็ง "Cool Runnings (1993)
แสงแห่งความอบอุ่น มั่นคง รู้ไหม มันเป็นกลวิธีให้อยู่กันได้ยืดDon Juan DeMarco (1994)
เขาทั้งดูดี เป็นคนทันสมัย เขามีงานที่มั่นคง แต่คุณThe One with the East German Laundry Detergent (1994)
เขาทั้งดูดี เป็นทันสมัย มีงานการที่มั่นคงThe One with the East German Laundry Detergent (1994)
เฮย, มั่นคง, ผู้ชายSnow White and the Seven Dwarfs (1937)
มันได้รับสายในวันนี้และ เรือกรรเชียงเล็ก ๆ ยังคงเดินช้า ๆ และมั่นคงThe Old Man and the Sea (1958)
ฉันรู้ว่าคุณหลอก ฉันอยู่นี่ มั่นคงHelp! (1965)
มั่นคง ฉันคงHelp! (1965)
ในที่มั่นคง ฉันหมายความว่าคุณไม่ ต้องการที่จะคือYellow Submarine (1968)
ถือมันมั่นคง ผมไม่สามารถ เราอยู่ในร่างความร้อนFirst Blood (1982)
ถ้าเรามั่นคง มันจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายGandhi (1982)
สภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ทำเนียบขาว2010: The Year We Make Contact (1984)
มั่นคงเก่า คน มันทั้งหมดในกีฬาของวันGreystoke: The Legend of Tarzan, Lord of the Apes (1984)
ฟังนะผู้การ ผมจะสอบให้ผ่านให้ได้ แล้วจะออกจากห้องใต้ดินนี่ ไปทำภารกิจสำคัญ ระดับความมั่นคงของชาติSpies Like Us (1985)
ระดับการคุกคามความมั่นคง ถูกผ่านไประดับ 7 ..Akira (1988)
ระดับการคุกคามความมั่นคง ถูกผ่านไประดับ 7 ..Akira (1988)
สิ่งที่มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง ตลอดเวลาที่ผ่านมา คือเบสบอลField of Dreams (1989)
ใช้ยาช่วยในการไต่สวนเพื่อความมั่นคงน่ะ ไม่ผิดกฎหมายหรอกThe Jackal (1997)
มั่นคงในการโพสต์ของคุณ!Princess Mononoke (1997)
ภูเขาพวกนั้นมันไม่มั่นคง ต้องข้ามธารน้ำแข็งSeven Years in Tibet (1997)
ขนาดคือความมั่นคง ความหรูหรา และความทรงพลังTitanic (1997)
ถ้าคุณจะทิ้งพื้นที่โยกเยก ถ้าอยากรู้สึกถึงพื้นที่มั่นคงกว่าใต้ฝ่าเท้าThe Legend of 1900 (1998)
มั่นคงไว้Dark Harbor (1998)
ผมรู้สึกไม่มั่นคงeXistenZ (1999)
แต่เขามุ่งมั่นที่ยากมากสำหรับความฝันของเขา ด้วยความเชื่อที่มั่นคง เขาจะมีความทะเยอทะยานโดยไม่หวาดกลัวGTO (1999)
อาจารย์มั่นคงจัง !Millennium Actress (2001)
คุณจะมั่นคงขึ้นหลังจากแต่งงานInfernal Affairs (2002)
ปีเตอร์คุณเข้าใจดีแล้วว่า... ถ้าคุณนายอาร์เนสเกิดแคลงใจ ว่าคุณมีความไม่หนักแน่นมั่นคงBringing Down the House (2003)
เรื่องไม่หนักแน่นมั่นคงไม่มีในบ้านผมBringing Down the House (2003)
ผมเคยหล่อเหลา มีงานที่มั่นคง มีเพื่อนฝูงมากมาย ครบรสชาติเลยLatter Days (2003)
ฉันรู้แค่ว่าก่อนที่เขาจะย้ายมาอยู่นิวพอร์ต ชีวิตพวกเรามันปกติธรรมดากว่านี้ มั่นคงThe O.C. (2003)
ผมได้รับเชิญไปวอชิงตันดีซี เพื่อร่วมการประชุมที่จัดโดย หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติThe Corporation (2003)
ตอนนี้ ความมั่นคงของ กาแลกซี่จะหายหมด จักรพรรดิ์ เซิร์ก... กำลังสร้างอาวุธลับ... ซึ่งมีพลังการทำลายมาก สามารถทำลายประตูทางเข้าดาวเคราะห์ได้!Toy Story (1995)
ไมเคิล คิทส, ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติContact (1997)
แต่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น คณะกรรมการของไมเคิล คิทส ที่ได้ลาออกจากตำแหน่งเป็น ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ยกคิ้วเกี่ยวกับ แคพิทอลฮิลContact (1997)
ฉันลาออกจากตำแหน่งเป็น ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่ออุทิศพลังงานทั้งหมดของฉัน เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมนี้Contact (1997)
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการรักษาสัญญาของคุณหรอก และไม่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการเดินตามหัวใจคุณ มันเกี่ยวกับความมั่นคงตะหากThe Notebook (2004)
ผมไม่ได้ต้องการความมั่นคงทางการเงิน แบบที่คุณต้องการอยู่กับผมThe Notebook (2004)
เพราะสถานการณ์ในด้านการงาน ของผมตอนนี้ไม่มั่นคงI Heart Huckabees (2004)
อาจทำให้ผมดูไม่มั่นคง และอาจส่งผลร้าย พบเพื่อนร่วมงานฉันหน่อยนะI Heart Huckabees (2004)
มันคือ "เหล็ก" - มันคือความมั่นคง, มันคือความแข็งแกร่ง..National Treasure (2004)
มันคือความมั่นคง, มันคือการยึดมั่น , มันคือการลงนาม.National Treasure (2004)
มันเป็นสิทธิและหน้าที่ของเขา ที่จะล้มล้างผู้ปกครองที่เลว และสภาปนาผู้พิทักษ์ เพื่อให้อนาคตของพวกเขามั่นคง."National Treasure (2004)
สหประชาชาติรายงานว่า ตัวแทนสหรัฐและอังถกษ ในสภาความมั่นคงจะให้ถอนกำลัง และถองกำลัง U.N. ออกจากราวันดาHotel Rwanda (2004)
* โปรดอวยพรให้กับพวกเขา * ให้มีความรักที่มั่นคงนิจนิรันดร์Love So Divine (2004)
ฉันก็เริ่มไม่มั่นคงและท้อใจFormula 17 (2004)
ผมต้องทำสรุป\ สำหรับฝ่ายรักษาความมั่นคงที่ ดีซี ตอนเช้าและผม\ จะบอกอะไรกับพวกเขาล่ะPilot (2004)
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
[khanamontrī khwām mankhong] (x) EN: The Security Council
[khwām mankhong] (n) EN: stability ; durability ; endurance ; security  FR: stabilité [ f ] ; sécurité [ f ]
[khwām mankhong haengchāt] (n, exp) EN: national security  FR: sécurité nationale [ f ]
[khwām mankhong khøng chāt] (n, exp) EN: national security  FR: sécurité nationale [ f ]
[khwām mankhong khøng manut] (n, exp) EN: human security  FR: sécurité humaine [ f ]
[khwām mankhong phāinai] (n, exp) EN: internal security
[khwām mankhong ruam (kan)] (n, exp) EN: collective security
[Kotmāi Khwām Mankhong Phāinai] (n, prop) EN: Internal Security Act (ISA) ; ISA 2008 ; security law  FR: Acte de sécurité intérieure [ m ] ; Loi de sécurité intérieure [ f ] ; Loi sur la sécurité intérieure [ f ]
[kotmāi mankhong] (n, exp) EN: Internal Security Act (ISA)
[Krasūang Kān Phatthanā Sangkhom lae Khwām Mankhong khøng Manut] (org) EN: Ministry of Social Development and Human Security
[mankhong] (v) EN: be secure ; be stable ; be firm ; be strong ; be sturdy ; be steadfast ; firm ; secure ; stable
[mankhong] (adj) EN: strong ; solid ; firm ; stable ; steadfast ; secure  FR: résistant ; robuste ; solide ; ferme ; durable ; stable
[mankhong khaengraēng] (v, exp) EN: strengthen
[mankhong thāwøn] (v, exp) EN: last
[mankhong thāwøn] (adv) EN: permanently
[nayōbāi khwām mankhong haengchāt] (n, exp) FR: politique de sécurité nationale [ f ]
[thamhai mankhong] (v, exp) EN: strengthen ; stabilize
[thamhai sētthakit mankhong] (v, exp) EN: strenghten the economy
[yāng man khong] (adv) EN: constantly  FR: constamment
Longdo Approved EN-TH
(n, adj)ความปลอดภัย, สิ่งที่ทำให้ปลอดภัย, ความมั่นคง, การค้ำประกัน, หลักทรัพย์, ธนบัตร, คนรับรอง, สวัสดิการ, เกี่ยวกับการประกันSee Also:protectionSyn.certificate
(n)กองกำลังรักษาความมั่นคงแห่งชาติ
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
(adj)ซึ่งยึดติดSee Also:ซึ่งยึดติดอย่างมั่นคง
(vt)ทำให้มั่นคงSyn.compensate
(phrv)เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงSee Also:ก่อตัวขึ้น
(vt)ทำให้มั่นคงSee Also:ทำให้แข็งแรงSyn.make firm, strengthen
(phrv)ศรัทธาต่อSee Also:ซื่อสัตย์ต่อ, มั่นคงต่อSyn.adhere to
(phrv)ทำให้มั่นคงSee Also:ทำให้เข้าที่
(phrv)ทำให้มั่นคงSee Also:ทำให้เข้าที่
(idm)ไม่เปลี่ยนใจSee Also:เหนียวแน่น, มั่นคงSyn.stick in
(idm)ไม่เปลี่ยนใจSee Also:เหนียวแน่น, มั่นคงSyn.stick in
(phrv)เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมั่นคงSee Also:เคลื่อนไปอย่าเร็ว
(vt)ทำให้ไม่มั่นคง (โดยเฉพาะทางการเมืองหรือเศรษฐกิจ)See Also:ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะทางการเมือง
(vt)ทำให้ไม่มั่นคง (โดยเฉพาะทางการเมืองหรือเศรษฐกิจ)See Also:ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะทางการเมือง
(adv)อย่างมั่นคงSee Also:อย่างแน่นอน, อย่างติดแน่นSyn.firmly, fixedlyAnt.unsecurely
(adv)อย่างมั่นคงSee Also:อย่างเด็ดขาด, อย่างหนักแน่นSyn.firmly
(adv)อย่างหนักแน่นSee Also:อย่างมั่นคง, อย่างเหนียวแน่น
(n)ฐานที่มั่นคง (ทางธุรกิจ, อาชีพการงาน)
(vi)ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงSyn.progress
(adj)มั่นคงSee Also:หนักแน่น, แน่นอนSyn.determined, firm, steady
(adv)มั่นคงSee Also:หนักแน่น, แน่นอน
(idm)จงรักภักดีต่อคนเดียวเท่านั้นSee Also:ยึดมั่นต่อ, มั่นคงต่อ
(idm)ไม่อ่อนไหวง่ายSee Also:ไม่หงุดหงิดง่าย, มั่นคง
(adj)ซึ่งไม่แข็งแรงSee Also:ซึ่งไม่มั่นคงSyn.unhealthy, weakAnt.healthy
(adj)ไม่ปลอดภัยSee Also:ไม่มั่นคงSyn.afraid, unsafe
(adj)ไม่มั่นคงSee Also:ไม่คงที่
(adj)ซึ่งควบคุมได้See Also:มั่นคง, ระมัดระวังSyn.controlled, limited
(n)การรักษาความมั่นคงแห่ง่ชาติ
(n)ความมั่นคงSee Also:ความแน่นอน, ความสม่ำเสมอSyn.steadiness
(adj)ที่ไม่ปลอดภัยSee Also:ไม่มั่นคง, ใกล้อันตรายSyn.doubtful, uncertain
(adv)อย่างไม่ปลอดภัยSee Also:ไม่มั่นคง, ใกล้อันตรายSyn.dangerously, seriously
(n)ความรักระหว่างเด็กหนุ่มและเด็กสาวที่ยังไม่มั่นคง
(adj)ซึ่งเป็นเลนตมSee Also:ซึ่งไม่แข็งแรง, ซึ่งไม่มั่นคง
(n)สภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
(vt)ทำให้ตกใจและสะเทือนใจSee Also:ทำให้ว้าวุ่นใจ, ไม่มั่นคง
(adj)มั่นคงSee Also:ไม่เปลี่ยนแปลงSyn.fixed, stable
(n)เสถียรภาพSee Also:ความมั่นคงSyn.consistency, steadiness
(vt)ทำให้มั่นคงSee Also:ทำให้มีเสถียรภาพSyn.secure, steady
(vi)มั่นคงSee Also:มีเสถียรภาพSyn.secure, steady
(n)คนหรือสิ่งที่ทำให้มั่นคง
Hope Dictionary
(แอฟ' ฟลูเอินซฺ) n. ความมั่นคง, ความร่ำรวย, ความหลากหลาย (ความคิด, คำพูดและอื่น)Syn.wealth, plentyAnt.poverty
(เอสแทท'ทิค) adj. ไม่แน่นอน, ไม่มั่นคง, ไม่มีทิศทางที่แน่นอน. -astaticism n.
(แบล'เลิสทฺ) { ballasted, ballasting, ballasts } n. การถ่วงท้องเรือด้วยของหนัก ๆ , หินโรยทางรถไฟ, เศษหิน, กรวดที่โรยทาง, อุปกรณ์ถ่วงกระแสไฟฟ้า (แบลลัสท์) vt. ทำให้มั่นคง, ใส่ ballastSee Also:ballaster n. ดูballast
(เชน'จฺเลส) ไม่เปลี่ยนแปลง, แน่นอน, มั่นคงSee Also:changelessness n.Syn.certainAnt.uncertain
(คอม'แพคทฺ) { compacted, compacting, compacts } adj. แน่น, รวมกันแน่น, อัดแน่น, แข็ง, กระชับ, รัดกุม, กะทัดรัด vt. รวมกันแน่น, อัดกันแน่น, ทำให้แน่น, ทำให้มั่นคง, ทำให้กะทัดรัด, ทำให้เป็นปึกแผ่น, ประกอบเป็นรูปร่าง. n. ตลับแป้งที่มีกระจก, รถยนต์ขนาดย่อม, ข้อตกลง, สัญญา ค
(คันซิส'เทินทฺ) adj. มั่นคง, ซึ่งยึดมั่นเหนียวแน่น, เห็นพ้อง, ลงรอยกัน.Syn.accordingAnt.inconsistent -Conf. constant
(คันซอล'ลิเดท) { consolidated, consolidating, consolidates } vt. ทำให้แข็งแรง, ทำให้มั่นคง, รวบรวมกำลัง, รวบรวมเข้าด้วยกัน. vi.รวม, รวมเข้ากัน.See Also:consolidator n. ดูconsolidateSyn.combineAnt.weaken
(คอน'สเทินซี) n. ความมั่นคง, ความซื่อสัตย์, ความคงที่Syn.stability
(คอน'สเทินทฺ) adj. มั่นคง, คงที่, แน่วแน่, ไม่เปลี่ยนแปลง, ต่อเนื่อง, ซื่อสัตย์Syn.steady -Conf. consistent
(แครง'คี) adj. อารมณ์ร้าย, ฉุนเฉียว, ไม่มั่นคง, คว่ำ, ง่าย, เอียงง่าย, ประหลาด, บ้า ๆ บอ ๆSyn.cross, sulky, peevishAnt.calm
(เคร'ซี) adj. บ้า, มีจิตฟั่นเฟือน, เหลวไหล, พิลึกกึกกือ, ประหลาด, อ่อนแอ, ไม่มั่นคง, ดูจะแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย -Phr. (like crazy ด้วยความกระตือรือร้น ถึงที่สุด) n. ผู้ที่ไม่ลงรอยกับใคร.See Also:crazily adv. craziness n. คำที่มีความหมายเหมื
(เอนชัวร์') vt. รับรอง, ประกัน, ทำให้มั่นใจ, ทำให้ปลอดภัย, ทำให้มั่นคงSee Also:ensurer n. ดูensureSyn.assure
(อิแรท'ทิค) adj., n. (คนที่) เบี่ยงเบน, เอาแน่ไม่ได้, ไม่มีกฎเกณฑ์, ไม่มั่นคงSee Also:erraticism n. ดูerratic
(อิคซฺโพซดฺ') adj. ซึ่งเปิดออก, ซึ่งไม่มีที่ปิดบัง, ไม่มั่นคง, ซึ่งอาจถูกโจมตีได้See Also:exposedness n.
(ฟาสทฺ) vi., n. (การ) อดอาหาร, กินเจ adj. เร็ว, เดินเร็ว, แน่น, ติด, ด้าน, ตื้อ, มั่นคง, ซื่อสัตย์, ไม่ตก (สี) , สนิท (หลับ) -adv. แน่น, สนิท (หลับ) , เร็ว. -Phr. (fast asleep หลับสนิท) .
(ฟาสทฺ'นิส) n. สถานที่มั่นคง, ความมั่นคง, ความเร็ว
(เฟิร์ม) adj. แน่น, ไม่นิ่ม, แน่นหนา, แข็งแรง, มั่นคง, เหนียวแน่น, หนักแน่น, เด็ดขาด, แน่นอน, แน่วแน่ n. บริษัท, ห้าง, ห้างหุ้นส่วน, ห้างร้าน, ร้านค้า, กงสี, ธุรกิจ adv. อย่างแน่น, อย่างมั่นคง. -firmly adv.See Also:firmness n.
(ฟิค'เซท) vt. ทำให้มั่นคง, ทำให้คงที่, ทำให้ติดแน่น. vi. ติดแน่น, เกาะแน่นSyn.fix
(ฟิคซฺทฺ) adj. ติดแน่น, ซึ่งได้กำหนดไว้, ซึ่งได้ทำให้มั่นคงหรือถาวร, เป็นการเพ่งมองหรือเพ่งความสนใจ, แน่นอน, มั่นคง, ถาวร, ไม่ผันแปร, เป็นระเบียบ.See Also:fixedly adv. fixedness n.Syn.fastened
(ฟลิม'ซี) adj. ไม่มั่นคง, บอบบาง, อ่อนกำลัง, อ่อนแอ, ไม่เพียงพอ, ไม่มีประสิทธิภาพ. n. กระดาษบาง, สำเนารายงาน, สำเนา.See Also:flimsily adv. flimsiness n.Syn.weak
(ฟลู'อิด) n. ของเหลว, ของไหล, สิ่งที่ไหลได้. adj. เกี่ยวกับของเหลว, ซึ่งไหลได้, เกี่ยวกับสารที่เปลี่ยนรูปได้ง่าย, ซึ่งเปลี่ยนแปลงได้ง่าย, ไม่แน่นอน, ไม่มั่นคง.See Also:fluidal adj. fluidity n.Syn.liquid
(ฟุท'ทิง) n. จุดยึดมั่น, รากฐาน, ที่วางเท้า, การเดินเท้า, ความมั่นคง, การลงเท้าอย่างมั่นคง, การย่างเข้าสู่ตำแหน่ง, การเข้ามีความสัมพันธ์, การเพิ่มเข้าSyn.foundation, basis
adj. ยึดมั่น, มั่นคง, ซึ่งอยู่ในฐานะที่ลำบาก, ดื้อรั้น, อดอยาก (fixed)
(ฮาร์ท'แลนด์) n. ดินแดนส่วนกลางที่ยากแก่การถูกโจมตีมักมีความมั่นคงทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง
(ฮัส'คี) adj. แข็งแรงและใหญ่โต, มั่นคง, มีเปลือกมาก. (เสียง) แหบ -n. คนแข็งแรงและตัวใหญ่See Also:huskily adv. huskiness n.Syn.throaty, hoarse
(อินเฟิร์ม') adj., vt. (ทำให้) อ่อนแอ, อ่อนกำลัง, ไม่แข็งแรง, ไม่มั่นคง, ชรา, ไม่แน่วแน่See Also:infirmness n. - S. feebleAnt.robust
(อินเฟลค'ซะเบิล) adj. ไม่ยืดหยุ่น, ไม่ปรับตัว, งอไม่ได้, แน่วแน่, ดื้อรั้น, ไม่ยอม, มั่นคง, ไม่เปลี่ยนแปลง.See Also:inflexibility, inflexibleness n. inflexibly adv.Syn.firmAnt.flexible
(อินซิเคียว'เออะ) adj. ไม่ปลอดภัย, ไม่มั่นคง, เชื่อถือไม่ได้, น่าสงสัย.See Also:insecureness n.Syn.unstable
(อินซิเคียว'ริที) n. ความไม่ปลอดภัย, ความไม่มั่นคง, ความไม่มั่นใจ, สิ่งที่ไม่แน่นอน
(อินสทะบิล'ลิที) n. ความไม่มั่นคง, ความไม่แน่นอน, การไม่มีเสถียรภาพ, ความลังเลใจ
(อินสเท'เบิล) adj. ไม่มั่นคง, ไม่คงที่, ไม่แน่นอนSyn.unstable
(อินเทก'กริที) n. การยึดถือหลักคุณธรรม, ความซื่อสัตย์, ความสมบูรณ์, ความมั่นคง, ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันSyn.honesty, wholeness
(คีล) n. กระดูกงูเรือ, โครงเรือ, สันตามยาว เรือ., สีย้อมแดงชนิดหนึ่ง vt., vi. พลิก, คว่ำ, เอียง, ทำให้เย็น (โดยเฉพาะจากการพัด) -Phr. (on an evenkeel, ในสภาพที่สมดุลหรือมั่นคง) .
(เล'เบิล, -ไบลฺ) adj. มักเปลี่ยนแปลง, ไม่มั่นคง, ไม่คงที่.See Also:lability n. ดูlabileSyn.changeable
(ลูบริส'ซิที) n. ความลื่น, ความสามารถหล่อลื่น, ความไม่มั่นคง, ความไม่ยั่งยืน, ความไม่แน่นอน, ความเหลาะแหละ, ความแพศยา, ความมักมากในกามSyn.slipperiness
(ลู'บริคัส) adj. หล่อลื่น, ลื่น, ไม่มั่นคง, ไม่แน่นอน, เปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย, แพศยา, มักมากในกาม, มั่วโลกีย์
(มัวร์) vt. จอดเรือ, ผูกเรือ, ผูกแน่น, ทำให้มั่นคง. vi. จอดเรือ, กลายเป็นมั่นคง. n. การจอดเรือ, การผูกเรือ, การทำให้มั่นคง
(พรีแค'เรียส) adj. ไม่แน่นอน, ไม่มั่นคง, ไม่ปลอดภัย, ล่อแหลม, อันตราย, เสี่ยง, ไม่เพียงพอSee Also:precariousness n.
(ไซ'คะพาธ) n. บุคคลที่ป่วยทางจิตหรือมีภาวะจิตที่ไม่มั่นคง, ผู้ต่อต้านกฎเกณฑ์ระเบียบของสังคม, ผู้ไร้ศีลธรรมแม้มีปัญญา.See Also:psychopathic adj.Syn.psychotic
(ริค'คิที) adj. ล้มได้ง่าย, โคลงเคลง, ง่อนแง่น, ขี้โรค, มีข้อต่อที่อ่อนแอ, โซเซ, ไม่มั่นคง, ไม่ปกติ, เกี่ยวกับโรคกระดูกอ่อนSee Also:ricketiness n.Syn.infirm
(รอค) n. หิน, โขดหิน, ก้อนหิน, หินโสโครก, อันตราย, ภัยพิบัติ, รากฐานอันมั่นคง, เพชร, พลอย vi., vt., n. (การ) โยก, แกว่ง, ไกว, เขย่า, ทำให้สั่นสะเทือน, ร่อนแร่, โคลงเคลง, ปลอบโยน adj. โยกไปมา -Phr. (on the rocks สู่ความหายนะสู่ภัยพิบัติ, ล้มละลาย, ไม่มีเงิน)
(เซฟ) adj. ปลอดภัย, มั่นคง, n. ตู้นิรภัย, ถุงยางคุมกำเนิด.See Also:safely adv. safeness n.Syn.secure, unhurt, intact
(เซน) adj. มีสุขภาพจิตดี, มีเหตุผล, มีจิตปกติ, มีสติ, มั่นคง, มีสุขภาพดีSee Also:sanely adv. saneness n.Syn.normal, rational
(แซน'นิที) n. การมีสุขภาพจิตที่ปกติ, จิตปกติ, การมีจิตมั่นคง, การมีเหตุผลพอควร
(ซีเคียว'เออะ) adj. มั่นคง, มั่นใจ, แน่นหนา, ปลอดภัย, ไว้ใจได้, เชื่อถือได้, วางใจได้, ไร้กังวล, แน่นอน vt. ได้มา, เอามา, ทำให้ได้ผล, ทำให้มั่นใจ, ทำให้ปลอดภัย, รับรอง, รับประกัน, จับกุม, มัดให้แน่น. vi. กลายเป็นปลอดภัย, เข้าเวรประจำการSee Also:securable adj.
(ซีเคียว'ริที) n. ความมั่นคง, ความปลอดภัย, สิ่งที่ทำให้ปลอดภัย, เครื่องป้องกัน, การป้องกัน, มาตราการป้องกัน, การรับรอง, การค้ำประกัน, สิ่งค้ำประกัน, หลักทรัพย์ประกัน, หลักทรัพย์, หุ้น, ธนบัตร, คนรับรอง, คนค้ำประกัน adj. เกี่ยวกับการประกัน, ซึ่งค้ำประกัน. คำที่มีความ
n. สภาความมั่นคงของสหประชาชาต'ประกอบด้วยสมาชิกถาวร5ประเทศ (สหรัฐอเมริกา, โซเวียต, ฝรั่งเศส, อังกฤษและจีน) และสมาชิกชั่วคราว10ประเทศที่มีวาระครั้งละ2ปี
(เซท'เทิล) vt., vi. จัด, จัดการ, วาง, จ่ายเงิน, ชำระ, ปิดบัญชี, อพยพเข้า, ตั้งรกราก, ตั้งหลักฐาน, ทำให้สงบ, ทำให้มั่นคง, ทำให้ค่อย ๆ จมลง, ขจัดให้เสร็จสิ้น, ตัดสินใจ, จัดการ, ตกลง, พัก, นอนก้น -Phr. (settle down ตั้งรกราก, ตั้งถิ่นฐาน, สงบใจ เงียบสงบ มีจิตมุ่งมั่น)
(เชด) (shook, shaken, shaking, shakes } vt., vi., n. (การ) เขย่า, สั่น, โยก, ทำให้สั่น, สลัด, สะบัด, ทอดทิ้ง, ทำให้กระวนกระวาย, กวนใจ, ทำให้สงสัย, ขจัด, สั่นสะเทือน, ตัวสั่น, สะท้าน, แกว่ง, ไม่มั่นคง, หวั่นไหว, จับมือกัน (แสดงความเคารพการทักทายหรือการเห็นด้วย) , สิ่งที่เกิดจากการสั
(เช'คี) adj. สั่น, สั่นเทา, สั่นระริก, สั่นสะเทือน, ตัวสั่น, โอนเอน, โยกคลอน, ไม่มั่นคง, ทำท่าจะล้ม, น่าสงสัย.See Also:shakily adv. shakiness n.Syn.decrepit, rickety
Nontri Dictionary
(adj)ถาวร, สืบไป, ตลอดกาล, มั่นคง
(vt)ถ่วงน้ำหนัก, ทำให้มั่นคง
(adj)ค้ำจุน, ซึ่งทำให้มั่นคง
(adj)ไม่เปลี่ยนแปลง, แน่นอน, มั่นคง
(adj)สะอาด, หมดจด, เฉียบขาด, มั่นคง
(n)ความมั่นคง, ความเหนียวแน่น, ความคงเส้นคงวา, ความไม่เปลี่ยนแปลง
(n)ความมั่นคง, ความยึดมั่น, ความคงเส้นคงวา, ความไม่เปลี่ยนแปลง
(adj)มั่นคง, เหนียวแน่น, คงเส้นคงวา, ไม่เปลี่ยนแปลง, เหมาะ
(vt)รวบรวม, ทำให้มั่นคงขึ้น, ทำให้แข็งแรง
(n)ความมั่นคง, ความแน่นแฟ้น, ความแน่วแน่, ความคงที่, ความซื่อสัตย์
(adj)มั่นคง, เป็นอยู่เสมอ, แน่นแฟ้น, แน่วแน่, คงที่, ซื่อสัตย์
(adj)มั่นคง, แน่นอน, ซึ่งตัดสินใจแล้ว, ซึ่งตกลงแล้ว
(n)ความมีใจมั่นคง, ความใจเย็น, ความมีใจสงบ
(adj)รวดเร็ว, ด่วน, เร็ว, แน่น, แข็ง, จดจ่อ, ดื้อ, มั่นคง
(n)ความแน่น, ความมั่นคง, ความแข็งแรง, ความรวดเร็ว
(adj)มั่นคง, เด็ดเดี่ยว, แน่วแน่, แน่นอน, หนักแน่น, แน่นหนา, แข็งแรง
(n)ความแน่วแน่, ความมั่นคง, ความแน่นหนา, ความแข็งแรง, ความเด็ดเดี่ยว
(n)ความคงที่, ความแน่นอน, ความตายตัว, ความมั่นคง, ความถาวร
(adj)ตรงแนว, เฉียบขาด, มั่นคง, โดยตรง, ตรงไปตรงมา, โผงผาง
(adv)ตรงแนว, อย่างเฉียบขาด, อย่างมั่นคง, อย่างตรงไปตรงมา, ทันที
(vt)ทำให้ยาก, ทำให้แข็งแกร่ง, ทำให้แข็ง, ทำให้มั่นคงขึ้น
(adj)แน่นหนา, ยั่งยืน, มั่นคง, คงทน
(adj)อ่อนแอ, ไม่แข็งแรง, ทุพพลภาพ, ไม่มั่นคง, บกพร่อง
(adj)ไม่มั่นคง, เชื่อถือไม่ได้, ไม่ปลอดภัย
(n)ความไม่ปลอดภัย, ความไม่มั่นใจ, ความไม่แน่นอน, ความไม่มั่นคง
(n)ความครบถ้วน, บูรณภาพ, ความซื่อตรง, ความมั่นคง
(adj)มั่นคง, ติดแน่น, เข้ากระดูกดำ, เก่าแก่
(adj)มั่นคง, ยืนหยัด, ดื้อ, เพียร, เด็ดเดี่ยว
(n)ความมั่นคง, การถือทิฐิ, ความเพียร, ความดื้อ, ความเด็ดเดี่ยว
(adj)แน่วแน่, มั่นคง, เด็ดเดี่ยว, ยืนหยัด
(adj)ไว้ใจได้, ปลอดภัย, มั่นคง, แน่นหนา
(adj)มั่นคง, แน่นหนา, ปลอดภัย, ไร้กังวล, มั่นใจได้
(vt)ทำให้มั่นคง, ทำให้แน่นหนา, ทำให้ปลอดภัย, จับกุม, รับรอง
(adv)อย่างละเอียดลออ, อย่างถูกต้อง, อย่างถาวร, อย่างมั่นคง
(n)ความถูกต้อง, ความมีอนามัยดี, ความสมบูรณ์, ความมั่นคง
(n)เสถียรภาพ, ความคงที่, ความมั่นคง, ความเที่ยง, ความแน่วแน่
(n)การทำให้มีเสถียรภาพ, การทำให้คงที่, การทำให้มั่นคง
(vt)ทำให้มั่นคง, ทำให้คงที่, ทำให้สม่ำเสมอ, ทำให้มีเสถียรภาพ
(adj)มีเสถียรภาพ, คงที่, มั่นคง, แน่วแน่
(adj)มั่นคง, คงที่, แน่นอน, ตายตัว, นิ่ง
(adj)แน่วแน่, มั่นคง, แน่นอน, ยึดมั่น
(adv)อย่างแน่วแน่, อย่างมั่นคง, อย่างหนักแน่น, อย่างเด็ดเดี่ยว
(n)ความแน่วแน่, ความมั่นคง, ความสม่ำเสมอ, ความคงที่, ความหนักแน่น
(adj)แน่วแน่, มั่นคง, สม่ำเสมอ, คงที่, หนักแน่น, เด็ดเดี่ยว
(vt)ทำให้คงที่, ทำให้มั่นคง, ทำให้สม่ำเสมอ, ทำให้หนักแน่น
(adj)อ้วน, แข็งแรง, มีพลัง, มั่นคง, กล้าหาญ
(n)ความอ้วน, ความแข็งแรง, ความกำยำ, ความมั่นคง, ความกล้าหาญ
(adj)มีกำลัง, แข็งแรง, มั่นคง, มีอิทธิพล, รุนแรง
(n)ความมั่นคง, ความแข็งแรง, ความแข็งแกร่ง, ความหนักแน่น
(adj)มั่นคง, แข็งแรง, หนักแน่น, แข็งแกร่ง, เหนียว
Longdo Unapproved EN-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
(adj)มั่นคง, คงที่, แน่วแน่, ไม่เปลี่ยนแปลง, ต่อเนื่อง, ซื่อสัตย์Syn.constantly
ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์, ภาวะที่เครือข่าย ระบบคอมพิวเตอร์ โปรแกรม และข้อมูล พ้นจากภัยคุกคาม มีลักษณะสำคัญ ๓ ประการ คือ คงความลับ คงความถูกต้องครบถ้วน และคงความพร้อมใช้งาน ภาวะดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยบุคลากร กระบวนการทำงาน และเครื่องมือ ที่เหมาะสม [ ศัพท์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับราชบัณฑิตยสภา ]
ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (ref.ราชบัณฑิต)
(n)กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ
สภาวะที่ไม่มั่นคง
(n)สภาความมั่นคง
สภาความมั่นคงแห่งชาติ
(abbrev)สภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Security Agency) เป็นหน่วยงานหนึ่งของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
Longdo Approved JP-TH
[あんぜんほしょうりじかい, anzenhoshourijikai](n)คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติSee Also:国連
[あんてい, antei](n)ความมั่นคง
[じょうにんりじこく, jouninrijikoku](n)ประเทศสมาชิกถาวรประจำคณะมนตรีความมั่นคง
Longdo Approved DE-TH
(n)|die, nur Sg.| ความมั่นคง, ความปลอดภัย, สิ่งที่ทำให้ปลอดภัย เช่น Geborgenheit ist ein Gefühl und eine Gewissheit kindlicher Sicherheit.
Longdo Unapproved DE-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
(adj)ซึ่งมีความมั่นคงที่ไม่แน่นอน , เกี่ยวกับภาวะหรือสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลง หรือถูกทำลายในที่สุดแต่มีเสถียรภาพพอควร เนื่องจากการปลี่ยรแปลงนั้นเป็นไปอย่างช้าๆSyn.metastable
เพิ่มคำศัพท์
add
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ