323 ผลลัพธ์ สำหรับ 

*library*

 ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น: library, -library-
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
(n)การเก็บต้นฉบับ สิ่งพิมพ์ เทป หรือวัสดุในการค้นคว้าวิจัย
(n)การเก็บรวมโปรแกรมของคอมพิวเตอร์
(n)ห้องสมุดเคลื่อนที่
(n)บรรณารักษ์ศาสตร์Syn.library science
(n)ห้องสมุดแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาในรัฐวอชิงตัน
Hope Dictionary
(ไล'บรารี) n. ห้องสมุด, หอเก็บหนังสือ, การเก็บรวมโปรแกรมมาตรฐานของคอมพิวเตอร์
n. บัตรยืมหนังสือจากห้องสมุด
n. ห้องสมุดแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาในกรุงวอชิงตัน
คลังชุดคำสั่งส่วนตัวหมายถึง ที่เก็บรวบรวมชุดคำสั่งหรือโปรแกรมต่าง ๆ ซึ่งแปลไว้เป็นภาษาเครื่อง (machine language) แล้ว อาจเรียกใช้ได้ทันที มักเป็นชุดคำสั่งที่มีการเรียกใช้บ่อย ๆ มีความหมายเหมือน program library
คลังโปรแกรมหมายถึง ที่เก็บรวบรวมชุดคำสั่งหรือโปรแกรมต่าง ๆ ซึ่งแปลไว้เป็นภาษาเครื่อง (machine language) แล้ว อาจเรียกใช้ได้ทันที มักเป็นชุดคำสั่งที่มีการเรียกใช้บ่อย ๆ มีความหมายเหมือน private library
Nontri Dictionary
(n)หอสมุด, ห้องสมุด
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
ระบบห้องสมุดแบบบูรณาการExample:ระบบห้องสมุดแบบบูรณาการ เป็นระบบที่ทำงานร่วมกันระหว่างชุดโปรแกรมที่ประกอบด้วยโมดูลต่างๆ หรือระบบย่อยตามลักษณะงานพื้นฐานของห้องสมุด ได้แก่ งานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ (Acquisition module) งานควบคุมสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง (Serial control) งานทำรายการทรัพทยากรสารสนเทศ (Cataloging module) การสืบค้นทางออนไลน์ (Online Public Access Catalog-OPAC) และงานบริการยืม-คืน (Circulation module) <p> <p>การทำงานที่สัมพันธ์ (โดยย่อ) เริ่มจาก <p> <p>1. การจัดหาทรัพยากรสารสนเทศ เช่น การจัดซื้อทรัพยากรสารสนเทศ นำรายการของทรัพยากรสารสนเทศ ข้อมูลของร้านค้าหนังสือ ข้อมูลของราคา (อัตราแลกเปลี่ยน) ข้อมูลของงบประมาณที่ได้รับสำหรับการจัดหา งานจัดหาทรัพยากรสารสนเทศสามารถควบคุมงบประมาณที่ได้รับจากการที่ระบบสามารถตัดยอดงบประมาณที่ได้ดำเนินการไปแล้ว สามารถติดต่อร้านค้าตามข้อมูลที่ลงไว้ในระบบ และลงรายการข้อมูลทางบรรณานุกรม (ตั้งต้น) ของทรัพยากรสารสนเทศ พร้อมสถานะของรายการนั้นๆ ว่าอยู่ในระหว่างการจัดซื้อ การส่งไปยังงานวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ รายการต่างๆ แม้ว่าจะลงรายการทางบรรณานุกรม ยังไม่ครบถ้วน แต่ผู้ใช้สามารถสืบค้นและเห็นรายการดังกล่าว ผ่านโมดูล OPAC แต่สถานะจะเป็นตัวบ่งบอกว่าอยู่ในกระบวนการใด <p> <p>2. งานวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ ดึงรายการทางบรรณานุกรมของทรัพยากรสารสนเทศที่ทางงานจัดหาทรัพยากรสารสนเทศ บันทึกไว้ในระบบ เพื่อลงรายการทางบรรณานุกรมตามหลักเกณฑ์การลงรายการทางบรรณานุกรมที่เครื่องคอมพิวเตอร์อ่านได้ (MARC) อย่างครบถ้วน ถูกต้อง พร้อมเปลี่ยนสถานะของรายการนั้นๆ เป็นให้บริการที่ชั้นหนังสือ (Check shelf available) และส่งทรัพยากรสารสนเทศที่ลงรายการทางบรรณานุกรมในระบบผ่านโมดูล Cataloging เรียบร้อยไปยังงานบริการเพื่อขึ้นชั้นให้บริการ รายการทางบรรณานุกรมที่ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะสามารถสืบค้นผ่านโมดูล OPAC <p> <p>3. ผู้ใช้สามารถสืบค้นรายการทรัพยากรสารสนเทศที่ต้องการใช้ผ่านโมดูล OPAC และนำมายืมผ่านโมดูล Circulation <p> <p>4. โมดูล Circulation อำนวยความสะดวกในการให้ยืม คืน จอง ต่ออายุ ทรัพยากรสารสนเทศ พร้อมทั้งคำนวณการปรับค่าหนังสือที่ค้างการคืน และพิมพ์ใบเสร็จรับเงินค่าปรับ <p> <p>5. ในส่วนของวารสาร ซึี่่งเป็นงานที่มีความซับซ้อนมาก จะมีโมดูล Serial control ในการบันทึกรายการวารสารที่เข้ามาแล้ว ต้องติดตามทวงถาม การเย็มเล่ม <p> <p>เริ่มมีการนำระบบห้องสมุดแบบบูรณาการมาใช้ให้ห้องสมุดตั้งแต่ ค.ศ. 1981 เมื่อ University of Florida ซื้อโปรแกรมสำเร็จรูปโนทิส (NOTIS-Northwestern Online Total Integrated System) เป็นครั้งแรก และหลังจากนั้นก็มีระบบห้องสมุดแบบบูรณาการเกิดขึ้นอีกมากมายและจำนวนห้องสมุดที่หันมาใช้ระบบดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นทั่วโลก นับเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากสำหรับห้องสมุดในการเปลี่ยนจากระบบห้องสมุดแบบเดิม มาเป็นระบบห้องสมุดแบบบูรณาการ <p> <p>ระบบห้องสมุดแบบบูรณาการในปัจจุบัน มีทั้งเชิงพาณิชย์ และที่เป็นโปรแกรมโอเพนซอร์ส สำหรับโปรแกรมเชิงพาณิชย์ ได้แก่ อินโนแพค (INNOPAC) วีทีแอลเอส (VTLS) เป็นต้น แล้วแต่ความละเอียดของแต่ละโมดูลที่มีให้ และมีทั้งที่พัฒนาจากต่างประเทศและในประเทศไทย ส่วนโปรแกรมที่เป็นโอเพนซอร์ส ได้แก่ Koha, OpenBiblio เป็นต้น [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดดิจิทัล[เทคโนโลยีการศึกษา]
ห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดการเกษตร[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
สมาคมห้องสมุดอเมริกัน[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดศิลปะ[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดเศรษฐศาสตร์[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดประมง[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดโรงพยาบาล[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดวิทยาศาสตร์Example:<p>หากจัดแบ่งตามประเภทห้องสมุด ซึ่งมี 5 ประเภท คือ หอสมุดแห่งชาติ ห้องสมุดประชาชน ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย ห้องสมุดโรงเรียน และห้องสมุดเฉพาะ <p>ห้องสมุดวิทยาศาสตร์ จัดอยู่ในประเภทห้องสมุดเฉพาะ ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา ให้บริการแก่ผู้ใช้เฉพาะกลุ่มหรือบางกลุ่มซึ่งเป็นผู้ที่ทำงานหรือศึกษาในสาขาวิชานั้น ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานราชการ องค์กรวิจัย เป็นต้น ทำหน้าที่จัดหาหนังสือ และให้บริการความรู้ ข้อมูล และข่าวสาร เฉพาะเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของหน่วยงานนั้น ๆ <P>ที่ตั้งและสถานภาพของห้องสมุดวิทยาศาสตร์ ส่วนใหญ่เป็นห้องสมุดคณะวิทยาศาสตร์ สังกัดมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา หรือ หน่วยงาน องค์กรวิจัย ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี <P>ห้องสมุดวิทยาศาสตร์ที่โดดเด่น เช่น ห้องสมุดคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กรมวิทยาศาสตร์บริการ เป็นต้น [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดเคลื่อนที่[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดสาขา[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
การจัดหมู่หนังสือExample:เดิมห้องสมุดส่วนใหญ่จัดเก็บหนังสือ ตามขนาดของหนังสือ ตามสีของปก หรือตามลำดับเลขทะเบียนของหนังสือ ต่อมา ได้มีผู้คิดระบบจัดหมู่หนังสือขึ้น โดยแบ่งวิชาความรู้ออกเป็นหมวดหมู่ โดยมีพัฒนาการ ดังนี้ <p> <p>1. สมัยโบราณ <p><p> 1.1 ชาวอัสซีเรียน เชื่อกันว่า ชาวอัสซีเรียนเป็นพวกที่เริ่มวิธีการจัดหมู่อย่างเป็นแบบแผน ในสมัยพระเจ้าอัสซูบานิปาล มีการจัดกลุ่มแท่งดินเหนียวในห้องสมุดแห่งเมืองนิเนเวห์ออกเป็น 2 หมวดใหญ่แบ่งตามเนื้อเรื่อง คือ เรื่องราวทางโลก และ เรื่องราวทางสวรรค์ <p><p> 1.2 ชาวโรมัน ห้องสมุดในสมัยโรมัน มีการแบ่งแยกหนังสือตามประเภทของผู้เขียน เป็น 2 หมวด คือ หนังสือของพวกนักเขียนนอกศาสนา และหนังสือของพวกนักเขียนที่นับถือศาสนาคริสต์หรือนักบวช <p><p> 1.3 ชาวอียิปต์ คัลลิมาคัส ซึ่งเป็นบรรณารักษ์ของห้องสมุดอเล็กซานเดรีย จัดแบ่งวิชาความรู้ออกเป็น 5 หมวดใหญ่ คือ กวีนิพนธ์ ประวัติศาสตร์ ปรัชญา วาทศิลป์ และเบ็ดเตล็ด <p> 2 สมัยกลาง อริสโตเติล นักปราชญ์ชาวกรีก คิดระบบการจัดแบ่งวิชาความรู้ออกเป็น 3 ภาคได้แก่ <p><p> - ความรู้ภาคปฏิบัติ (Practical หรือ Ethical) ประกอบด้วย วิชาเศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ <p><p> - ความรู้ในทางสร้างสรรค์ (Productive หรือ Creative) ประกอบด้วย วิชากวีนิพนธ์ และศิลปะ <p><p> - ความรู้ภาคทฤษฎี (Theoretical) ประกอบด้วยวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเทววิทยา <p> 3. สมัยศตวรรษที่ 16 คอนราด เกสเนอร์ (Conrad Gesner) เขียนหนังสือชื่อ Bibliotheca Universalis ซึ่งเป็นบรรณานุกรมที่รวบรวมรายชื่อหนังสือภาษาลาติน กรีก และฮินดู จัดเรียงตามรายชื่อหนังสือตามลำดับหัวข้อวิชา โดยแบ่งออกเป็น 21 หัวข้อ <p> 4. สมัยศตวรรษที่ 17 เซอร์ ฟรานซิส เบคอน (Sir Francis Bacon) ได้เขียนหนังสือชื่อ The Advancement of Learning ขึ้นในปี ค.ศ. 1605 โดยเบคอนมีความคิดว่า มนุษย์มีความรู้สึกนึกคิดเป็น 3 ส่วน ซึ่งแต่ละส่วนมีผลทำให้เกิดความรู้ขึ้น ได้แก่ ส่วนที่ 1 ความจำ (Memory) ทำให้เกิดวิชาประวัติศาสตร์ ส่วนที่ 2 จินตนาการ (Imagination) ทำให้เกิดวิชาร้อยกรอง และ ส่วนที่ 3 เหตุผล (Reason) ทำให้เกิดวิชาปรัชญา <p> จากแนวความคิดนี้เอง ประธานาธิบดี โธมัส เจฟเฟอสัน (Thomas Jefferson) แห่งสหรัฐอเมริกา ได้นำมาจัดทำเป็นระบบจัดหมู่หนังสือในห้องสมุดส่วนตัว ซึ่งต่อมาก็ได้ถูกนำมาใช้เป็นระบบจัดหมู่หนังสือในหอสมุดรัฐสภาอเมริกันในยุคแรก <p> 5. สมัยศตวรรษที่ 18 กุสตาฟ บูรเนต์ (Gustave Brunet) ชาวฝรั่งเศส เขียนหนังสือคู่มือการจัดหมู่หนังสือและห้องสมุดชื่อ Manuel du Libraire et d l' Amateur de Livres โดยแบ่งความรู้ออกเป็น 5 หมวดใหญ่คือ เทววิทยา นิติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ปรัชญา และวรรณคดี <p> 6. สมัยศตวรรษที่ 19-20 ได้มีผู้คิดระบบจัดหมู่หนังสือเพื่อใช้ในห้องสมุดอย่างจริงจังหลายระบบ ได้แก่ <p><p> ค.ศ. 1876 ระบบทศนิยมดิวอี้ <p><p>ค.ศ. 1891 ระบบเอ็กแพนซีฟ <p><p>ค.ศ. 1901 ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน <p><p>ค.ศ. 1905 ระบบทศนิยมสากล <p><p> ค.ศ. 1906 ระบบซับเจ็ค <p><p> ค.ศ. 1933 ระบบโคลอน <p><p> ค.ศ. 1935 ระบบบิบลิโอกราฟิค <p> ระบบการจัดหมู่ในระยะแรกมีแนวคิดในการแบ่งวิชาความรู้ออกเป็นหมวดหมู่อย่างมีเหตุผลตามแนวทฤษฎี จึงเรียกว่า ระบบทฤษฎี (Theoretical system) ต่อมาในศตวรรษที่ 20 แนวความคิดเปลี่ยนเป็นการคำนึงถึงหนังสือที่มีอยู่จริงในห้องสมุด จึงเรียกว่า ระบบปฏิบัติ (Practical system) <p> บรรณานุกรม <p> กุลธิดา ท้วมสุข. 2533. การวิเคราะห์เลขหมู่หนังสือ. พิมพ์ครั้งที่ 2 แก้ไขปรับปรุง. ขอนแก่น : ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. <p> จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะอักษรศาสตร์. แผนกวิชาบรรณารักษศาสตร์. 2520. ประวัติการทำบัตรรายการและการจัดหมู่หนังสือ. เอกสารบรรณารักษศาสตร์ เล่ม 19. กรุงเทพฯ : แผนกวิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. <p> Wynar, Bohdan S. 1985. Introduction to Cataloging and Classification. 7th ed. Littletob, Colo. : Libraries Unlimited.[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดประชากรศาสตร์, [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดทันตแพทย์[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดดิจิทัล, [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
การยืมระหว่างห้องสมุดExample:การยืมระหว่างห้องสมุด คือ เป็นบริการที่ห้องสมุดจัดให้เพื่อให้มีการยืม ทำสำเนาเอกสาร จากห้องสมุดแห่งอื่น เป็นการขยายการให้บริการเพื่อให้ผู้ใช้สามารถได้รับเอกสาร หนังสือ หรือทรัพยากรสารสนเทศรูปแบบอื่นๆ ที่ต้องการใช้ได้ แม้ว่าจะไม่มีรายการนั้นๆ อยู่ในห้องสมุดที่ผู้ใช้นั้นสังกัดอยู่ โดยต้องมีการกรอกรายละเอียดของทรัพยากรสารสนเทศที่ต้องการยืมลงในแบบฟอร์ม การใ้ห้บริการยืมระหว่างห้องสมุดส่วนใหญ่มีในห้องสมุดมหาวิทยาลัย <p> <p>การใช้บริการยืมระหว่างห้องสมุด อาจทำได้ 2 วิธี คือ <p>1. ผู้ใช้บริการไปติดต่อขอยืมด้วยตนเอง <p> ผู้ใช้กรอกรายละเอียดของทรัพยากรสารสนเทศที่ต้องการยืม ผ่านให้บรรณารักษ์ของห้องสมุดที่ผู้ใช้สังกัดอยู่ และนำไปแบบฟอร์มนี้ไปติดต่อยืมด้วยตนเอง <p>2. ให้ห้องสมุดดำเนินการให้ <p>ผู้ใช้กรอกรายละเอียดลงในแบบกรอกรายการยืมระหว่างห้องสมุด ส่งให้บรรณารักษ์ที่รับผิดชอบดำเนินการให้ ขอใช้บริการไปยังห้องสมุดที่มีข้อมูล/ เอกสารสิ่งพิมพ์ที่ต้องการ [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
สหพันธ์ระหว่างประเทศว่าด้วยสมาคมและสถาบันห้องสมุดExample:<p>International Federation of Library Associations and Institutions (IFLA) สหพันธ์ระหว่างประเทศว่าด้วยสมาคมและสถาบันห้องสมุด ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2470 (ค.ศ. 1927) มีวัตถุประสงค์ในการประสานสามัคคีระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพบรรณารักษศาสตร์และ สารนิเทศศาสตร์ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด ประสบการณ์ และร่วมมือกันสร้างความพัฒนาถาวรให้แก่ห้องสมุด และสถาบันบริการสารนิเทศ รวมทั้งการพัฒนาทางมาตรฐานงานเทคนิคของห้องสมุด ปัจจุบันมีสมาชิกทั่วโลกจำนวน 1, 600 คน / หน่วยงาน จาก 150 ประเทศ <p>IFLA มีสถานภาพเป็นองค์กรอิสระระดับสากล ไม่แสวงหากำไร ให้คำแนะนำปรึกษาด้านห้องสมุด บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ แก่องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมของสหประชาชาติ องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยมาตรฐาน สภาระหว่างประเทศว่าด้วยการจดหมายเหตุ และองค์การอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสารนิเทศ การศึกษา และวัฒนธรรม IFLA ก่อตั้งขึ้นที่เมือง Edinburgh, Scotland และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ให้ตั้งสำนักงานที่กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ <p>IFLA จัดการประชุมวิชาการทุกปีโดยหมุนเวียนเปลี่ยนสถานที่ไปตามประเทศสมาชิกต่าง ๆ เพื่อให้บรรณารักษ์นานาชาติจากทั่วโลกได้มาพบ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์วิชาการ วิชาชีพ และสร้างมิตรภาพ ก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างห้องสมุด โดยประเทศไทยได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดประชุม IFLA ครั้งที่ 65 ในปี พ.ศ. 2542 (วันที่ 19 - 27 สิงหาคม 2542) โดยสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์การประชุม หัวข้อการประชุมในครั้งนั้น เรื่อง On the Threshold of the 21st Century : Libraries as Gateways to an Enlightened World หรือ ห้องสมุดเป็นประตูไปสู่โลกอันสดใสในรุ่งอรุณแห่งศตวรรษใหม่ สนใจกิจกรรมการจัดประชุมของ IFLA ติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.ifla.org [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
การบริหารงานห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ผู้บริหารห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดอัตโนมัติ[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
อาคารห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ความร่วมมือระหว่างห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ฉบับห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
บุคลากรห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
เวลาเปิดทำการของห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
บริการสอนวิธีใช้ห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ทรัพยากรห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ระบบการจัดหมวดหมู่หนังสือของห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
การปฐมนิเทศการใช้ห้องสมุดExample:<p>การปฐมนิเทศการใช้ห้องสมุด (Library orientation) เป็นกิจกรรมและบริการเชิงรุกในการส่งเสริมความรู้ ความสามารถ ในการใช้บริการพื้นฐานต่าง ๆ ของห้องสมุด เช่น การสืบค้น การยืม-คืน ทรัพยากรสารสนเทศของห้องสมุด และเป็นการสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติตามระเบียบและมารยาทของการเข้าใช้ห้องสมุดได้อย่างถูกต้อง ก่อให้เกิดความคุ้นเคยด้านสถานที่ การบริการ และแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งอำนวยประโยชน์ในด้านการเรียน การสอน และการค้นคว้าวิจัย <p> กลุ่มเป้าหมายในการจัดปฐมนิเทศการใช้ห้องสมุด ได้แก่ นิสิต นักศึกษาใหม่ ของสถาบันการศึกษา หรือ พนักงานใหม่ ในกรณีหน่วยงานนั้นมีห้องสมุดในการให้บริการแก่ผู้ใช้ <p>การปฐมนิเทศการใช้ห้องสมุด ประกอบด้วยเนื้อหาและขอบเขต ดังนี้ <p>1. ข้อมูลทั่วไปของห้องสมุด กฎ กติกา มารยาท วันเวลาเปิด - ปิด บริการ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมทั้งข่าวและกิจกรรมที่น่าสนใจ <p>2. นำชมห้องสมุด เพื่อสร้างความคุ้นเคยด้านสถานที่ และพาเยี่ยมชมพื้นที่ให้บริการ <p>3. แนะนำบริการของห้องสมุด เช่น บริการตอบคำถามและช่วยค้นคว้า บริการยืม-คืน บริการสืบค้นสารสนเทศ บริการวิทยานิพนธ์ บริการวารสาร บริการอินเทอร์เน็ต เป็นต้น <p>4. ทรัพยากรสารสนเทศของห้องสมุดในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ <p>5. การสืบค้นสารสนเทศ เรียนรู้เทคนิคการสืบค้นสารสนเทศจากฐานข้อมูล ที่ห้องสมุดบอกรับ <p>6. บริการเอกสารฉบับเต็ม แนะนำวิธีการค้นหาเอกสาร หากไม่สามารถค้นหาเอกสารที่ต้องการได้ในเมืองไทย <p>7. บรรณานุกรมและอ้างอิง แนะนำวิธีการเขียนรายการบรรณานุกรมและอ้างอิง ที่ถูกต้องของสิ่งพิมพ์ประเภทต่าง ๆ รวมถึงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการประกอบการทำรายงาน งานวิจัย และวิทยานิพนธ์ [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ผู้ใช้ห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
เจ้าหน้าที่ห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
วิชาชีพห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
การประชาสัมพันธ์ห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
บรรณารักษศาสตร์[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ตราห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
มาตรฐานห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
หน้าลับเฉพาะ[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดทหาร[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
หอสมุดแห่งชาติ[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
รายการบรรณานุกรมออนไลน์[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดส่วนตัว[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดประชาชน[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
การให้เช่าหนังสือ[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดเคลื่อนที่[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ห้องสมุดมหาวิทยาลัย[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
การระดมเงินทุนของห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
ระบบการจัดหมู่รัฐสภาอเมริกัน, การวิเคราะห์หนังสือระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกันExample:ระบบการจัดหมู่รัฐสภาอเมริกัน (Library of Congress Classficiation - LC) หรือเรียกสั้นๆ ว่า LC หรือระบบ LCC เป็นระบบที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการจัดหมู่หนังสือของหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน <p> ในระยะแรกก่อตั้งหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน เมื่อปี ค.ศ. 1800 ระบบจัดหมู่หนังสือที่ใช้อยู่นั้น คิดขึ้นโดยจอห์น เบคเลย์ (John Beckley) โดยจัดหนังสือตามขนาดหน้ายก หนังสือขนาดเดียวกันจัดเรียงตามลำดับเลขทะเบียนของหนังสือ <p> ต่อมาในปี ค.ศ. 1812 เมื่อหนังสือมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงได้เปลี่ยนเป็นวิธีการจัดหมู่หนังสือตามเนื้อเรื่อง โดยนำระบบจัดหมู่หนังสือของ The Library Company of Philadelphia มาใช้ แบ่งเนื้อเรื่องเป็น 18 หมวด เมื่อห้องสมุดไฟไหม้ จึงได้จัดซื้อหนังสือจำนวน 6, 487 เล่มจากห้องสมุดส่วนตัวของประธานาธิบดีโธมัส เจฟเฟอร์สัน โดยคิดระบบตามที่ประธานาธิบดีเจฟเฟอร์สัน โดยแบ่งออกเป็น 44 หมวด <p> จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1890 เมื่อมีหนังสือเพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ บรรณารักษ์ของหอสมุดในขณะนั้น คือ จอห์น รัสเซล ยัง (John Russell Young)คิดว่าระบบเดิมไม่เหมาะสม ควรคิดหาระบบใหม่เพื่อให้มีความเหมาะสมมากขึ้น จึงมอบหมายให้ เจมส์ แฮนสัน (James Hanson) และ ชาร์ลส์ มาร์แตล (Charles Martel) ศึกษาหาแนวทางที่จะสร้างระบบจัดหมู่หนังสือใหม่เพื่อใช้ในหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน <p> การศึกษาอย่างจริงจังได้เริ่มเมื่อ เฮอร์เบิร์ต พุตนัม (Herbert Putnum) เข้ามาดำรงตำแหน่งบรรณารักษ์ในปี ค.ศ. 1899 และยังคงมอบหมายให้ แฮนสันและมาร์แตลรับศึกษาต่อไป โดยนำระบบ 3 ระบบ คือ ระบบทศนิยมดิวอี้ ระบบเอ็กแพนซีฟ และระบบจัดหมู่หนังสือของเยอรมัน ชื่อ Halle Schema ของออตโต ฮาร์ตวิก (Otto Hartwig) พบว่า ระบบเอ็กแพนซีฟมีความเหมาะสมมาก เนื่องจากการจัดหมวดหมู่กว้างขวางและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายทุกๆ หมวดตามต้องการ สัญลักษณ์ที่ใช้สามารถขยายได้ทั้งชนิดที่เป็นตัวอักษรและตัวเลข เพราะเป็นสัญลักษณ์ผสม เหมาะกับหอสมุดรัฐสภาอเมริกันซึ่งมีหนังสือจำนวนมาก จึงได้จัดทำระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกันขึ้นโดยยึดหลักการของระบบเอ็กแพนซีฟ <p> มีการจัดทำหมวด Z เป็นหมวดแรก เมื่อปี ค.ศ. 1902 <p> ลักษณะทั่วไปของระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน <p>1. ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกันเป็นระบบที่คิดขึ้นโดยจัดแบ่งหมวดหมู่ตามสาขาวิชาความรู้ที่มีอยู่จริงของหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน <p>2. สัญลักษณ์เป็นสัญลักษณ์ผสมระหว่างตัวอักษรโรมันตัวพิมพ์ใหญ่และเลขอารบิค โดยอักษรโรมันตัวใหญ่หนึ่งตัวแทนหมวดใหญ่และเพิ่มอักษรโรมันตัวใหญ่อีกหนึ่งหรือสองตัวแทนหมวดย่อย (ยกเว้นหมวด E-F และ Z) และแบ่งหมู่ย่อยต่อไปอีก โดยใช้เลขอารบิคจาก 1-9999 รวมทั้งขยายโดยใช้จุดทศนิยม <p>3. แผนการจัดหมวดหมู่จัดแบ่งวิชาความรู้ในสาขาต่างๆ โดยเริ่มจากเรื่องทั่วไปสู่เรื่องที่เฉพาะยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ <p>3.1 การแบ่งครั้งที่ 1 เป็นการแบ่งเนื้อหาวิชาเป็น 20 หมวดใหญ่ (Main class) โดยใช้อักษรตัวเดียวโดดๆ A-Z ยกเว้น I, O, W, X, Y <p>A ความรู้ทั่วไป (General Works) <p>B ปรัชญา จิตวิทยา ศาสนา (Philosophy, Psychology, Religion) <p>C ศาสตร์ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ (Auxiliary sciences of history) <p>D ประวัติศาสตร์ : เรื่องทั่วไปและประวัติศาสตร์โลกเก่า (History : general and old world) <p>E-F ประวัติศาสตร์ : อเมริกา (History : America) <p>G ภูมิศาสตร์ แผนที่ มานุษยวิทยา นันทนาการ (Geography, Maps, Anthropology, Recreation) <p>H สังคมศาสตร์ (Social science) <p>J รัฐศาสตร์ (Political science) <p>K กฎหมาย (Law) <p>L การศึกษา (Education) <p>M ดนตรี (Music) <p>N ศิลปกรรม (Fine Arts) <p>P ภาษาและวรรณคดี (Languages and Literature) <p>Q วิทยาศาสตร์ (Sciences) <p>R แพทยศาสตร์ (Medicines) <p>S เกษตรศาสตร์ (Agriculture) <p>T เทคโนโลยี (Technology) <p>U ยุทธศาสตร์ (Military science) <p>V นาวิกศาสตร์ (Naval science) <p>Z บรรณานุกรม บรรณารักษศาสตร์ (Bibliography, Library science) <p>3.2 การแบ่งครั้งที่ 2 เป็นการแบ่งหมวดย่อย (subclass) ตามสาขาวิชา โดยใช้ตัวอักษรโรมันตั้งแต่ 2 ตัว ถึง 3 ตัว เป็นสัญลักษณ์ และใช้หลักการเรียงลำดับตามตัวอักษร A-Z ยกเว้นหมวด Z จะไม่มีการแบ่งครั้งที่ 2 เช่น หมวด Q แบ่งออกเป็นหมวดย่อย 12 หมวดดังนี้คือ <p>Q วิทยาศาสตร์ (Science) <p> QA คณิตศาสตร์ (Mathematics) <p> QB ดาราศาสตร์ (Astronomy) <p> QC ฟิสิกส์ (Physics) <p> QD เคมี (Chemistry) <p> QE ธรณีวิทยา (Geology) <p> QH ธรรมชาติวิทยา (Natural History) <p> QK พฤกษศาสตร์ (Botany) <p> QL สัตววิทยา (Zoology) <p> QM กายวิภาคศาสตร์ (Human Anatomy) <p> QP สรีรวิทยา (Physiology) <p> QR จุลชีววิทยา (Microbiology) <p> ซึ่งยังคงแบ่งต่อไปได้อีก เมื่อต้องการขยายเลขหมู่เพิ่มในภายหลัง <p> 3.3 การแบ่งครั้งที่ 3 คือ การแบ่งออกเป็น หมู่ (division) โดยใช้ตัวเลขอารบิกตั้งแต่ 1-9999 ประกอบตัวอักษรโรมัน ในแต่ละหมู่จะมีจำนวนการแบ่งเป็นหมู่ย่อยไม่เท่ากัน เช่น หมวด LA จะแบ่งเป็น LA1-LA 2397 หรือ หมวด HV จะแบ่งเป็น HV 1-HV 9920 เป็นต้น สามารถที่จะขยายเลขหมู่สำหรับวิชาการที่จะเพิ่มใหม่ การแบ่งครั้งที่ 3 มี 2 ลักษณะ คือ <p> 3.3.1 การแบ่งโดยใช้เลขทศนิยม คือ การนำเอาเลขทศนิยมมาขยายเลขย่อยในกลุ่มนั้น ให้ได้เลขหมู่เพิ่มขึ้นสำหรับเนื้อหาวิชาที่ควรจะอยู่ในกลุ่มเดียวกัน <p> 3.3.2 การแบ่งโดยใช้เลขคัตเตอร์ คือ การใช้ตัวอักษรและตัวเลขสำหรับการแบ่งย่อยเนื้อหาที่ละเอียดลงไปอีก เช่น การแบ่งย่อยตามชื่อทางภูมิศาสตร์ (geographical name) และการแบ่งย่อยตามรายชื่อเนื้อหาวิชาเฉพาะ (special topics) และการแบ่งตามเลขคัตเตอร์สำรองที่ได้กำหนดไว้แล้ว <p> ตัวอย่าง HF 5438.5 HF เป็นหมวดย่อยของ H คือ สังคมศาสตร์ ซึ่ง HF เป็นหมู่ย่อย หมายถึง การค้า (Commerce) และแบ่งออกเป็นหมู่ คือ 5438 หมายถึง การขาย (Selling) จากนั้นแบ่งโดยใช้เลขทศนิยม คือ .5 หมายถึง การส่งเสริมการขาย (Sales promotion) <p> ตัวอย่าง ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น 600 ปี <p> DS เป็นเลขหมู่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย <p> 575 แบ่งย่อยเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทางการเมืองและการทูต <p> .5 แบ่งย่อยเป็นความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ A-Z <p> .J3 ประเทศญี่ปุ่น (Japan = .J3) <p> จะได้เลขหมู่เป็น DS 575.5.J3 ปัจจุบัน หนังสือคู่มือหมวดหมู่รัฐสภาอเมริกันมีทั้งแบบสิ่งพิมพ์และแบบออนไลน์ <p> บรรณานุกรม <p> Library of Congress. Library of Congress Classification Outline. 2011. [ Online ] Retrieve from: http://www.loc.gov/catdir/cpso/lcco/. Accessed 20110516. <p> กุลธิดา ท้วมสุข. 2533. การวิเคราะห์เลขหมู่หนังสือ. ขอนแก่น : ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. <p> กมลา รุ่งอุทัย. 2533. การวิเคราะห์สารนิเทศระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน ใน เอกสารการสอนชุดวิชา การวิเคราะห์สารนิเทศ หน้า 219-281. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. <p> อัมพร ทีขะระ. 2532. คู่มือการจัดหมู่ระบบหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน. กรุงเทพฯ : ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาััลัย. [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
การศึกษาการใช้ห้องสมุด[บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
WordNet (3.0)
(n)a bachelor's degree in library scienceSyn.ABLS
(n)library that provides books for use outside the buildingSyn.circulating library
(n)a room where books are kept
(n)a collection of literary documents or records kept for reference or borrowing
(n)a depository built to contain books and other materials for reading and studySyn.depository library
(n)(computing) a collection of standard programs and subroutines that are stored and available for immediate useSyn.program library, subroutine library
(n)a building that houses a collection of books and other materials
(n)a card certifying the bearer's right to use the librarySyn.borrower's card
(n)an enumeration of all the resources of a librarySyn.library catalogue
(n)fine imposed by a library on books that overdue when returned
(n)a program in a program library
(n)a debugged routine that is maintained in a program library
(n)the study of the principles and practices of library administration
(n)a master's degree in library scienceSyn.MALS
(n)a master's degree in library scienceSyn.MLS
(n)a nonprofit library maintained for public use
(n)a collection of 13 ancient papyrus codices translated from Greek into Coptic that were discovered by farmers near the town of Nag Hammadi in 1945; the codices contain 45 distinct works including the chief sources of firsthand knowledge of GnosticismSyn.Nag Hammadi Library
(n)an adhesive made from water and flour or starch; used on paper and paperboardSyn.library paste
Collaborative International Dictionary (GCIDE)

n.; pl. Libraries [ OE. librairie, F. librairie bookseller's shop, book trade, formerly, a library, fr. libraire bookseller, L. librarius, from liber book; cf. libraria bookseller's shop, librarium bookcase, It. libreria. See Libel. ] 1. A considerable collection of books kept for use, and not as merchandise; as, a private library; a public library. [ 1913 Webster ]

2. A building or apartment appropriated for holding such a collection of books. Holland. [ 1913 Webster ]

ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
คลัง(โปรแกรม)ส่วนตัว[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
คลัง(โปรแกรม)[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
คลัง(โปรแกรม)[เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
คลัง(โปรแกรม)[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
คลัง(โปรแกรม)[เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
รูทีนจากคลัง[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
ซับรูทีนจากคลัง[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
แถบบันทึกจากคลัง[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
คลังโปรแกรมระบบ[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
คลังซับรูทีน[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
คลังจุดหมาย[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
คลังแมโคร[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
ห้องสมุดรับฝาก[เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
คลังแถบบันทึก[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
คลังโปรแกรมทดสอบ[คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
Longdo Unapproved EN-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ระบบการบริการให้ยืม, หนังสือระหว่างห้องสมุดสำหรับผู้ใช้ห้องสมุด
(n)บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์
(n)ห้องสมุดแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาในเขตที่ตั้งรัฐบาลวอชิงตัน ดี.ซี.
ตัวอย่างประโยคจาก Tanaka JP-EN Corpus
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
(n)catalogue cardSee Also:card index (library)Example:นักศึกษาสามารถค้นหนังสือได้จากบัตรรายการในห้องสมุด
(n)public libraryExample:กรุงเทพมหานครให้งบประมาณสร้างห้องสมุดประชาชนขึ้นทั่วกรุงเทพ 20 แห่งThai Definition:ห้องสมุดสำหรับประชาชน
(n)knowledge sourceSee Also:librarySyn.ห้องสมุดExample:ห้องสมุดเป็นคลังสมองที่รวบรวมความรู้ในทุกสาขาวิชาUnit:แห่ง, ที่
(n)libraryExample:การจัดสรรงบประมาณให้หอสมุดได้ซื้อหนังสือ จำต้องได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษในแต่ละปีUnit:แห่งThai Definition:ห้องหรืออาคารที่มีระบบจัดเก็บรวบรวมรักษาหนังสือประเภทต่างๆ ซึ่งอาจรวมทั้งต้นฉบับ ลายมือเขียน ไมโครฟิล์ม เป็นต้น เพื่อใช้เป็นที่ค้นคว้าหาความรู้
(n)librarySyn.หอสมุดExample:ห้องสมุดเป็นแหล่งข้อมูลความรู้สำคัญสำหรับเยาวชนUnit:ห้อง
(n)libraryExample:ห้องสมุดเป็นแหล่งข้อมูลความรู้สำคัญสำหรับเยาวชนUnit:ห้องThai Definition:ห้องหรืออาคารเก็บรวบรวมรักษาหนังสือประเภทต่างๆ ไว้เป็นระบบ
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
[bat hǿngsamut] (n, exp) EN: library ticket ; borrower's ticket  FR: carte de lecteur [ m ]
[chabap hǿngsamut] (n, exp) EN: library edition
[chabap prajam hǿngsamut] (n, exp) EN: library edition
[hǿngsamut] (n) EN: library ; study  FR: bibliothèque [ f ]
[hǿngsamut khleūoenthī] (n, exp) EN: mobile library  FR: bibliothèque mobile [ f ] ; bibliothèque itinérante [ f ]
[hǿngsamut sameūoen jing] (n, exp) EN: virtual library  FR: bibliothèque virtuelle [ f ]
[Hø Phra Samut Haengchāt] (org) EN: National Library (in Bangkok)  FR: Bibliothèque nationale (de Thaïlande) [ f ]
[høsamut] (n) EN: library   FR: bibliothèque [ f ]
[høsamut haengchāt] (n, exp) EN: National Library  FR: bibliothèque nationale [ f ]
[kān baeng mūatmū nangseū] (n, exp) EN: classification of books ; library classification  FR: classification des ouvrages [ f ]
[rabop kān jat mūatmū nangseū] (n, exp) EN: library classification  FR: système de classification des livres [ m ] ; système de classification des documents [ m ]
[samnak høsamut klāng] (n, exp) EN: central library
[yeūm nangseū jāk hǿngsamut] (v, exp) EN: borrow a book from the library  FR: emprunter un livre à la bibliothèque
CC-CEDICT CN-EN Dictionary
[  /  , tú shū, ㄊㄨˊ ㄕㄨ]books (in a library or bookstore)#4677[Add to Longdo]
[   /   , tú shū guǎn, ㄊㄨˊ ㄕㄨ ㄍㄨㄢˇ]library#4742[Add to Longdo]
[    /    , hào rú yān hǎi, ㄏㄠˋ ㄖㄨˊ ㄧㄢ ㄏㄞˇ]vast as the open sea (成语 saw); fig. extensive (library)#62818[Add to Longdo]
[  /  , shū guǎn, ㄕㄨ ㄍㄨㄢˇ]teashop with performance by 評書|评书 story tellers; (attached to name of publishing houses); (in former times) private school; library (of classic texts)#65429[Add to Longdo]
[   /   , jiè shū zhèng, ㄐㄧㄝˋ ㄕㄨ ㄓㄥˋ]library card#85718[Add to Longdo]
[  /  , xù jiè, ㄒㄩˋ ㄐㄧㄝˋ]extended borrowing (e.g. library renewal)#113653[Add to Longdo]
[, chéng, ㄔㄥˊ]library stack; storage#207855[Add to Longdo]
[       /       , bó dé léi ēn tú shū guǎn, ㄅㄛˊ ㄉㄜˊ ㄌㄟˊ ㄣ ㄊㄨˊ ㄕㄨ ㄍㄨㄢˇ]Bodleian Library (Oxford)[Add to Longdo]
[   /   , hán shì kù, ㄏㄢˊ ㄕˋ ㄎㄨˋ]library (partition on computer hard disk)[Add to Longdo]
[  , gōng néng jí, ㄍㄨㄥ ㄋㄥˊ ㄐㄧˊ]function library[Add to Longdo]
[   /   , Tóng wén guǎn, ㄊㄨㄥˊ ㄨㄣˊ ㄍㄨㄢˇ]the first modern Chinese library established in 1898 by William A.P. Martin 丁韙良|丁韪良, becoming the foundation for Beijing University library[Add to Longdo]
[     /     , guó jiā tú shū guǎn, ㄍㄨㄛˊ ㄐㄧㄚ ㄊㄨˊ ㄕㄨ ㄍㄨㄢˇ]national library[Add to Longdo]
[   /   , dàng àn guǎn, ㄉㄤˋ ㄢˋ ㄍㄨㄢˇ]archive library[Add to Longdo]
DING DE-EN Dictionary
Artothek { f }
picture lending library; art lending library[Add to Longdo]
Ausbildungsbibliothek { f }
training library[Add to Longdo]
Ausleihbibliothek { f }
lending library[Add to Longdo]
Autobücherei { f }
mobile library[Add to Longdo]
Benutzerbibliothek { f }
user library[Add to Longdo]
Bibliothek { f } | Bibliotheken { pl } | öffentliche Bibliothek { f } | wissenschaftliche Bibliothek { f }
library | libraries | public library | academic library; research library; scientific library[Add to Longdo]
Bibliotheksausbildung { f }
library education[Add to Longdo]
Bibliotheksführung { f }
library tour[Add to Longdo]
Bibliotheksgebäude { n }
library building[Add to Longdo]
Bibliotheksgrundriss { m }
library's outline[Add to Longdo]
Bibliothekspersonal { n }
library personnel; library staff[Add to Longdo]
Bibliotheksschule { f }
library school[Add to Longdo]
Bibliotheksschulen-Ausbildung { f }
library school education[Add to Longdo]
Bibliothekstechniker { m }
library technician[Add to Longdo]
Bibliotheksverwaltung { f }
library maintenance[Add to Longdo]
Buch { n }; Heft { n } | Bücher { pl } | lieferbare Bücher | Buch aufnehmen | Buch einordnen | Buch absignieren | (Buch) durchblättern | in ein Buch vertieft sein | wie es im Buche steht | vorhandene Bücher in der Bibliothek | ein Buch mit sieben Siegeln [ übtr. ]
book | books | books in print | to catalogue a book; to list a book | to put the book in order; to shelve a book | to check books against readers' requests | to flip through | to be sunk in a book | a textbook example | books available in the library | a sealed book[Add to Longdo]
Bücherei { f }; Bibliothek { f }
Bücherschrank { m }
bookcase; library cupboard[Add to Longdo]
Datenbibliothek { f }
library of data[Add to Longdo]
Fachbibliothek { f }
technical library[Add to Longdo]
Fahrbibliothek { f }
mobile library; traveling library[Add to Longdo]
Fernleihbestellung { f }
interlibrary loan request[Add to Longdo]
Fernleihe { f }
inter-library loan[Add to Longdo]
Fernleihverkehr { m }
inter-library lending[Add to Longdo]
Filmarchiv { n } | Filmarchive { pl }
filmlibrary | filmlibraries[Add to Longdo]
Freihandbibliothek { f }
open access library[Add to Longdo]
Handbibliothek { f }
reference library[Add to Longdo]
Institutsbibliothek { f }
faculty library[Add to Longdo]
Kinder- (und Jugend-) Bibliothek { f }
children's library[Add to Longdo]
Landesbibliothek { f }
regional library[Add to Longdo]
Landesbibliothek { f }
state library[Add to Longdo]
Leihbibliothek { f } | Leihbibliotheken { pl }
lending library | lending libraries[Add to Longdo]
aktiver Leihverkehr
inter-library loan[Add to Longdo]
Magazinbibliothek { f }
storage library[Add to Longdo]
Modulbibliothek { f }
module library[Add to Longdo]
Nationalbibliothek { f }
national library[Add to Longdo]
Pflichtexemplar Bibliothek
depository library; copyright library[Add to Longdo]
Präsenzbibliothek { f }
reference library[Add to Longdo]
Primärbibliothek { f }
source library[Add to Longdo]
Programmbibliothek { f } [ comp. ]
program library[Add to Longdo]
Sammlung { f } | Sammlungen { pl }
library | libraries[Add to Longdo]
Speicherbibliothek { f } [ comp. ]
core image library[Add to Longdo]
Spezialbibliothek { f }
special library[Add to Longdo]
Spielothek { f }
games library[Add to Longdo]
Stadtbibliothek { f }
city library[Add to Longdo]
automatischer Suchlauf
automatic library lookup[Add to Longdo]
Universitätsbibliothek { f }
university library[Add to Longdo]
Videothek { f }
video library; video rental shop; video shop[Add to Longdo]
Volksbibliothek { f } | Volksbibliotheken { pl }
public library | public libraries[Add to Longdo]
Zentralbibliothek { f }
central library; main library[Add to Longdo]
EDICT JP-EN Dictionary
[ぶんこ, bunko](n) (1) library; book collection; (2) (abbr. of 文庫本) paperback book; (P)#756[Add to Longdo]
[としょかん(P);ずしょかん(図書館)(ok), toshokan (P); zushokan ( toshokan )(ok)](n) library; (P)#1098[Add to Longdo]
[しょぼう, shobou](n) library; bookstore; bookshop; (P)#1819[Add to Longdo]
[そうしょ, sousho](n) series (of publications); library (of literature)#2912[Add to Longdo]
[こっかいとしょかん, kokkaitoshokan](n) (See 国立国会図書館) National Diet Library; Library of Congress#3396[Add to Longdo]
[かいかん, kaikan](n, vs) (1) opening a hall for that day's business (museum, library, such like buildings); (2) opening of new hall (museum, etc.); (P)#3941[Add to Longdo]
[raiburari-(P); raiburari](n) library; (P)#7944[Add to Longdo]
[ぞうしょ, zousho](n, vs) book collection; library; (P)#10173[Add to Longdo]
[きゅうかん, kyuukan](n, vs, adj-no) closure (of a library, museum, etc.); (P)#12965[Add to Longdo]
[らいかん, raikan](n, vs) coming to an embassy, theatre, library, etc.#15066[Add to Longdo]
[にゅうかん, nyuukan](n, vs) entry (e.g. library, school, museum); entering#19958[Add to Longdo]
[a-kaiburaiburari](n) { comp } archive library[Add to Longdo]
[obujiekutoraiburari](n) { comp } object library[Add to Longdo]
[kurasuraiburari](n) { comp } class library (as in C++)[Add to Longdo]
[kontentsuraiburari](n) { comp } content library[Add to Longdo]
[shiea-doraiburari](n) { comp } shared library[Add to Longdo]
[shisutemuraiburari](n) { comp } system library[Add to Longdo]
[sutanda-doraiburari-; sutanda-doraiburari](n) standard library (programming)[Add to Longdo]
[suraidoraiburari](n) { comp } slide library[Add to Longdo]
[taipuraiburari](n) { comp } type library[Add to Longdo]
[dainamikkurinkuraiburari](n) { comp } dynamic linking library; DLL[Add to Longdo]
[dainamikkurinkuraiburarifairu](n) { comp } dynamic-link library file[Add to Longdo]
[te-puraiburari](n) { comp } tape library[Add to Longdo]
[te-puraiburari-](n) tape library[Add to Longdo]
[dokyumentoraiburari](n) { comp } document library[Add to Longdo]
[bideoraiburari](n) { comp } video library[Add to Longdo]
[firumuraiburari](n) { comp } film library[Add to Longdo]
[firumuraiburari-](n) film library[Add to Longdo]
[fotoraiburari-](n) photo library[Add to Longdo]
[bukkumobiru](n) { comp } mobile library; bookmobile (USA)[Add to Longdo]
[puroguramuraiburari](n) { comp } program library[Add to Longdo]
[ライブラリーかんすう, raiburari-kansuu](n) { comp } library function[Add to Longdo]
[raiburarike-su](n) { comp } library case[Add to Longdo]
[raiburarideirekutori](n) { comp } library directory[Add to Longdo]
[raiburarifairu](n) { comp } library file[Add to Longdo]
[raiburariru-chin](n) { comp } library routine[Add to Longdo]
[rantaimuraiburari](n) { comp } run-time library[Add to Longdo]
[reko-doraiburari](n) { comp } sound recordings library; record library[Add to Longdo]
[いどうとしょかん, idoutoshokan](n) mobile library; bookmobile[Add to Longdo]
[いでんしライブラリー, idenshi raiburari-](n) gene library[Add to Longdo]
[いんしょくきんし, inshokukinshi](n) no food or drink (e.g. as a sign in a library, etc.); no eating or drinking[Add to Longdo]
[おんがくとしょかん, ongakutoshokan](n) music library[Add to Longdo]
[かいか, kaika](n, adj-no) open access (in a library); open shelves[Add to Longdo]
[かいかしき, kaikashiki](n) making materials in a library available in open stacks[Add to Longdo]
[がっこうとしょかん, gakkoutoshokan](n) school library[Add to Longdo]
[かんすうライブラリ, kansuu raiburari](n) { comp } function library; FL[Add to Longdo]
[きたくとしょかん, kitakutoshokan](n) { comp } deposit library[Add to Longdo]
[きょうゆうライブラリ, kyouyuu raiburari](n) { comp } shared library[Add to Longdo]
[きんたいしゅつ, kintaishutsu](adj-no) for reference only; in-library use only; not for loan[Add to Longdo]
[きょうどう, kyoudou](n) sutra library[Add to Longdo]
COMPDICT JP-EN Dictionary
[しすてむらいぶらり, shisutemuraiburari]system library[Add to Longdo]
[てーぷらいぶらり, te-puraiburari]tape library[Add to Longdo]
[びでおらいぶらり, bideoraiburari]video library[Add to Longdo]
[ふぃるむらいぶらり, firumuraiburari]film library[Add to Longdo]
[ぶっくもびる, bukkumobiru]mobile library, bookmobile (USA)[Add to Longdo]
[ぷろぐらむらいぶらり, puroguramuraiburari]program library[Add to Longdo]
[らいぶらり, raiburari]library[Add to Longdo]
[ライブラリーかんすう, raiburari-kansuu]library function[Add to Longdo]
[らいぶらりけーす, raiburarike-su]library case[Add to Longdo]
[らいぶらりでいれくとり, raiburarideirekutori]library directory[Add to Longdo]
[らいぶらりふぁいる, raiburarifairu]library file[Add to Longdo]
[らいぶらりるーちん, raiburariru-chin]library routine[Add to Longdo]
[れこーどらいぶらり, reko-doraiburari]sound recordings library, record library[Add to Longdo]
[いどうとしょかん, idoutoshokan]mobile library, bookmobile (USA)[Add to Longdo]
[きたくとしょかん, kitakutoshokan]deposit library[Add to Longdo]
[けんきゅうとしょかん, kenkyuutoshokan]research library[Add to Longdo]
[こうきょうとしょかん, koukyoutoshokan]public library[Add to Longdo]
[こくりつとしょかん, kokuritsutoshokan]national library[Add to Longdo]
[さんこうとしょかん, sankoutoshokan]reference library[Add to Longdo]
[じっこうけいしきライブラリ, jikkoukeishiki raiburari]execution image library[Add to Longdo]
[しゃしんとしょかん, shashintoshokan]photographic library[Add to Longdo]
[としょかん, toshokan]library[Add to Longdo]
[としょかんシステム, toshokan shisutemu]library system[Add to Longdo]
[としょかんネットワーク, toshokan nettowa-ku]library network[Add to Longdo]
[としょかんがく, toshokangaku]library science[Add to Longdo]
[せんもんとしょかん, senmontoshokan]special library[Add to Longdo]
[そうごうとしょかん, sougoutoshokan]general library[Add to Longdo]
[ちょさくけんとしょかん, chosakukentoshokan]copyright library[Add to Longdo]
[ちょさくけんとうろくとしょかん, chosakukentourokutoshokan]copyright library[Add to Longdo]
[でんしとしょかん, denshitoshokan]electronic library[Add to Longdo]
[とうろくしゅうげんぶん, tourokushuugenbun]library text[Add to Longdo]
[とうろくしゅうめい, tourokushuumei]library-name[Add to Longdo]
[のうほんとしょかん, nouhontoshokan]deposit library[Add to Longdo]
[ひょうじゅんライブラリ, hyoujun raiburari]standard library[Add to Longdo]
[ぶんこ, bunko]library[Add to Longdo]
เพิ่มคำศัพท์
add
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ