แปลศัพท์
PopThai
dropdown
US
premium
197 ผลลัพธ์ สำหรับ 

*สุนทร*

 ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น: สุนทร, -สุนทร-
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
(adj)sweetSee Also:pleasant, delightfulSyn.ไพเราะ, เพราะ, เสนาะThai Definition:ที่มีความไพเราะรื่นหู
(adj)beautifulSee Also:pleasantSyn.งาม, สวย, ดีNotes:(บาลี/สันสกฤต)
(adj)aestheticSee Also:estheticExample:การมองโลกอย่างอิสระตามความเป็นไปของมัน เป็นบ่อเกิดความคิดอันสุนทรียะThai Definition:ที่เกี่ยวกับความนิยมความงาม
(n)speechSee Also:address, harangue, orationSyn.คำปราศรัยExample:เขาได้รับรางวัลที่ 1 ในการพูดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษซึ่งจัดโดยศูนย์พัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษระดับมัธยมปลายThai Definition:คำพูดที่ประธานหรือบุคคลสำคัญเป็นต้นกล่าวในพิธีการหรือในโอกาสสำคัญต่างๆ
(n)aestheticsExample:การเข้าค่ายครั้งนี้ทำให้เข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างสุนทรียภาพกับศาสนธรรมได้อย่างลึกซึ้งThai Definition:ความงามในธรรมชาติหรืองานศิลปะที่แต่ละบุคคลสามารถเข้าใจและรู้สึกได้
(n)arts and appreciation
(n)aestheticsSee Also:estheticsExample:เขาใช้ความรู้ทางสุนทรียศาสตร์มาตัดสินคุณค่าและความงามของงานศิลปะชิ้นนี้Thai Definition:ปรัชญาสาขาหนึ่งว่าด้วยความงาม และสิ่งที่งามในธรรมชาติหรืองานศิลปะ
(v)deliver a speechSee Also:make a speechExample:ท่านรองนายกรัฐมนตรีได้ให้เกียรติกล่าวสุนทรพจน์ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
(-ทอน, -ทอนระ-, -ทอระ-) ว. งาม, ดี, ไพเราะ, เช่น วรรณคดีเป็นสิ่งสุนทร, มักใช้เข้าสมาสกับคำอื่น เช่น สุนทรพจน์ สุนทรโวหาร.
(สุนทอนระ-, สุนทอระ-) น. คำพูดที่ประธานหรือบุคคลสำคัญเป็นต้นกล่าวในพิธีการหรือในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เช่น นายกรัฐมนตรีกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ.
(-ทะรี) น. หญิงงาม, นางงาม, หญิงทั่วไป.
ว. เกี่ยวกับความนิยม ความงาม.
(-ทะรียะ) น. ความงามในธรรมชาติหรืองานศิลปะที่แต่ละบุคคลสามารถเข้าใจและรู้สึกได้, ความเข้าใจและรู้สึกของแต่ละบุคคลที่มีต่อความงามในธรรมชาติหรืองานศิลปะ.
น. ปรัชญาสาขาหนึ่งว่าด้วยความงาม และสิ่งที่งามในธรรมชาติหรืองานศิลปะ.
<i>ดู สุนทร, สุนทร-</i>.
<i>ดู สุนทร, สุนทร-</i>.
<i>ดู สุนทร, สุนทร-</i>.
<i>ดู สุนทร, สุนทร-</i>.
น. แบบ เช่น อย่าคบพวกหญิงพาลสันดานชั่ว ที่แต่งตัวไว้จริตผิดกระสวน (สุภาษิตสุนทรภู่)
ในบทกลอนใช้ว่า กรายกรุย ก็มี เช่น อย่านุ่งลายกรายกรุยทำฉุยไป (สุภาษิตสุนทรภู่).
(กฺริดา, กฺริดากาน) น. บารมีอันยิ่งที่ทำไว้ (กร่อนมาจาก กฤดาธิการ) เช่น ทรงพระกฤดาเดชานุภาพยิ่งทวีขึ้น (พงศ. อยุธยา), ผู้ใดมีบุญญากฤดาการ (เสภาสุนทรภู่).
แต่งงาน เช่น ฝรั่งกล่าวแหม่ม. (ประเพณีของชาวคริสเตียน), คำนี้ใช้เป็นปรกติในภาษาเขียน แต่ใช้เป็นภาษาพูดก็มีในบางลักษณะ เช่น กล่าวสุนทรพจน์.
ก. ยินดี, พอใจ, เช่น สุนทรกันต์.
ว. เลวทราม เช่น จงหลีกเลี่ยงเสียให้พ้นคนขี้ถัง (สุภาษิตสุนทรภู่).
น. คำที่ออกเสียงเหมือนกันแต่เขียนต่างกันและมีความหมายต่างกัน เช่น ใส-ไส-ไสย กาน-กาล-การ-การณ์, (โบ) ในหนังสือแบบเรียนภาษาไทยของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) เรียกคำพ้องเสียงว่า ไวพจน์.
ว. เกือบตาย เช่น สิ้นแผ่นดินปิ่นเกล้ามาเปล่าอก น้ำตาตกตายน้อยลงร้อยหน (นิราศพระประธมของสุนทรภู่).
น. ชื่อปลาแห้งชนิดหนึ่งที่ไม่กรีดเนื้อตามยาวเป็นริ้ว เช่น เขากินหมูหนูพัดจะกัดเกลือ ไม่ถ่อเรือแหหาปลาตำแบ (นิราศวัดเจ้าฟ้าของสุนทรภู่), จำแบ ก็ว่า.
ผ่องใส, บริสุทธิ์ เช่น จิตประภัสสร, เขียนเป็น ประภัสร์ ก็มี เช่น ธรรมรสเรืองรองผ่องประภัสร์ เป็นมิ่งฉัตรสุขสันต์นิรันดร (ชีวิตและงานของสุนทรภู่).
(มะกุด) ว. สูงสุด, ขั้นสูง, เช่น อันกอปรด้วยลักณณษการอดุลย์ สุนทรเทพมกุฎ (ม. คำหลวง ทศพร), เจ้าก็เกิดในมกุฎเกศกรุงสีวีราษฎร์ (ม. ร่ายยาว กุมาร) (ป., ส. มกุฏ).
ในหนังสือแบบเรียนภาษาไทยของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) หมายถึง คำที่ออกเสียงเหมือนกันแต่เขียนต่างกันและมีความหมายต่างกัน เช่น ใส–ไส–ไสย กาน–กาล–การ–การณ์, ปัจจุบันเรียกว่า คำพ้องเสียง.
(สะหฺมาด) น. การเอาศัพท์ตั้งแต่ ๒ ศัพท์ขึ้นไปมาต่อกันเป็นศัพท์เดียวตามหลักที่ได้มาจากไวยากรณ์บาลีและสันสกฤต เช่น สุนทร + พจน์ เป็น สุนทรพจน์ รัฐ + ศาสตร์ เป็น รัฐศาสตร์ อุดม + การณ์ เป็น อุดมการณ์.
(เสวะ-) น. การสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เช่น กลุ่มวรรณกรรมจัดเสวนาเรื่องสุนทรภู่.
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
สุนทรพจน์ตอบรับ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
สุนทรพจน์ตอบรับ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
สุนทรพจน์หลัก[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
สุนทรพจน์ตอบรับ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความเป็นกลางทางสุนทรียภาพ[วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
การตัดสินเชิงสุนทรียภาพ[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
คุณค่าทางสุนทรียภาพ[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
สุนทรียนิยม[วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
สุนทรียศาสตร์[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
สุนทรียศาสตร์[ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
สุนทรีย์[ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
สุนทรียเจตคติ[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
สุนทรียเจตคติ[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
สุนทรพจน์ตอบรับ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การตัดสินเชิงสุนทรียภาพ[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
การตัดสินเชิงสุนทรียภาพ[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
สุนทรียศาสตร์ฟันปลอม[ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
คุณค่าทางสุนทรียภาพ[ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
สุนทรพจน์หลัก[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
สุนทรียศาสตร์[TU Subject Heading]
สุนทรพจน์ในวันรับปริญญา[TU Subject Heading]
สิ่งแวดล้อม (สุนทรียศาสตร์)[TU Subject Heading]
ความสวยของสตรี (สุนทรียศาสตร์)[TU Subject Heading]
ธรรมชาติ (สุนทรียศาสตร์)[TU Subject Heading]
สุนทรพจน์ในโอกาสต่าง ๆ[TU Subject Heading]
สุนทรพจน์ในรัฐสภา[TU Subject Heading]
สุนทรพจน์[TU Subject Heading]
สุนทรพจน์อเมริกัน[TU Subject Heading]
สุนทรพจน์จีน[TU Subject Heading]
สุนทรพจน์อังกฤษ[TU Subject Heading]
สุนทรพจน์ไทย[TU Subject Heading]
สุนทรียภาพ[สิ่งแวดล้อม]
เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลจะถูกประกาศว่าไม่พึงปรารถนา หรือไม่พึงโปรดได้ ดังข้อ 23 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติไว้ด้วยข้อความดังนี้?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ว่าพนักงานฝ่ายกงสุลเป็น บุคคลที่ไม่พึงโปรด หรือบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีนั้นรัฐผู้ส่งจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นต่อสถานที่ทำการทางกงสุล แล้วแต่กรณี2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธหรือไม่นำพาภายในเวลาอันสมควรที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีของ ตนตามวรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับอาจเพิกถอนอนุมัติบัตรจากบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น หรือเลิกถือว่าบุคคลนั้นเป็นบุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลก็ได้ แล้วแต่กรณี3. รัฐผู้รับอาจประกาศว่า บุคคลหนึ่งบุคคลใดซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล เป็นผู้ที่ไม่อาจยอมรับได้ ก่อนที่บุคคลนั้นจะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับ หรืออยู่ในรัฐผู้รับแล้ว แต่ก่อนเข้ารับหน้าของตนต่อสถานที่ทำการทางกงสุลก็ได้ ในกรณีใด ๆ เช่นว่านั้น รัฐผู้ส่งจะเพิกถอนการแต่งตั้งบุคคลนั้น4. ในกรณีที่ได้บ่งไว้ในวรรค 1 และ 3 ของข้อนี้ รัฐผู้รับไม่มีพันธะที่จะต้องให้เหตุผลในการวินิจฉัยของตนแก่รัฐผู้ส่ง?การ ที่รัฐผู้รับปฏิเสธที่จะออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตรหลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วนั้น เป็นสิทธิของรัฐผู้รับอันจะถูกโต้แย้งมิได้ ประเด็นที่เป็นปัญหาก็คือ รัฐผู้รับมีพันธะที่จะต้องอธิบายเหตุผลอย่างใดหรือไม่ ในการที่ปฏิเสธไม่ยอมออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตร หลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วข้อนี้ น้ำหนักของผู้ทรงอำนาจหน้าที่ดูแลจะเห็นคล้อยตามทรรศนะที่ว่า รัฐผู้รับไม่จำเป็นต้องแสดงเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้นในการกระทำดังกล่าวเหตุผลของการไม่ยอมออกอนุมัติบัตรให้นั้นคือว่า ผู้ที่ไม่เห็นด้วย หรือไปแสดงสุนทรพจน์อันมีข้อความเป็นที่เสื่อมเสียแก่รัฐผู้รับ หรือเคยมีส่วนร่วมในการก่อการกบฏต่อรัฐผู้รับหรือเข้าไปแทรกแซงกิจการการ เมืองภายในของรัฐผู้รับ เป็นต้น[การทูต]
แผนการมาร์แชล ในโอกาสวันประสาทปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1947 ยอร์ช ซี.มาร์แชล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สมัยนั้น ได้กล่าวอยู่ตอนหนึ่งในสุนทรพจน์ว่า?สหรัฐอเมริกาควรจะทำทุกอย่างเท่าที่จะ สามารถกระทำได้ เพื่อช่วยให้ดินแดนต่าง ๆ ในโลกได้กลับคืนสู่ภาวะปกติทางเศรษฐกิจ เพราะหากปราศจากภาวะดังกล่าว โลกก็จะไม่มีเสถียรภาพที่สถาพร นโยบายของสหรัฐฯ มิได้มุ่งจะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศใดหรือลัทธิใด หากมุ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อความหิวโหย ความยากจน ความสิ้นหวัง และความยุ่งเหยิง การที่จะให้สหรัฐอเมริการับภาระในการจัดวางโครงการแต่ฝ่ายเดียว เพื่อช่วยให้ทวีปยุโรปสามารถช่วยตนเองทางเศรษฐกิจขึ้นใหม่ นับว่ายังไม่เหมาะสมและถูกต้องนัก ควรจะให้เป็นภาระหน้าที่ของชนชาวยุโรปทั้งหลายเอง บทบาทของสหรัฐฯ ควรจะเป็นเพียงผู้เสนอให้ความความช่วยเหลือฉันมิตร ในการร่างโครงการช่วยเหลือทวีปยุโรป และให้ความสนับสนุนแก่โครงการนั้น ตราบที่โอกาสจะเอื้ออำนวยต่อการกระทำเช่นนั้นได้?จากสุนทรพจน์ข้างต้น พอจะเข้าใจจุดประสงค์สำคัญของสหรัฐอเมริกาได้ไม่ยากว่า ไม่ต้องการให้ทวีปยุโรป ซึ่งกำลังอ่อนแอโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจหลังจากเสร็จสงครามใหม่ ๆ ต้องตกไปอยู่ใต้อำนาจครอบงำของฝ่ายคอมมิวนิสต์นั่นเอง[การทูต]
ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง[การทูต]
การทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ[การทูต]
่ความต้องการเกี่ยวกับสุนทรียะ[การแพทย์]
สุนทรียศาสตร์[การแพทย์]
ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
พ่อลืมสุนทรพจน์Jumanji (1995)
สำหรับเสียงของเขาและเข็มขัด เชิงเส้นของเขา ดังนั้นเขาไม่อาจทำให้การกล่าว สุนทรพจน์How I Won the War (1967)
เที่ยง งั้นผมรีบซ้อมสุนทรพจน์ก่อนBlazing Saddles (1974)
หนูรู้เกี่ยบกับเรื่องที่ แม่ของหนูพูดสุนทรพจน์ตอนเรียนจบนั่นหรือเปล่า?X-Ray (2001)
ทอร์ชของเธอเก็บบันทึกสุนทรพจน์ไว้ทุกปีใช่ไหม?X-Ray (2001)
บางทีฉันอาจจะหาข้อมูลให้เธอได้นะ เธอรู้ไหมว่าใครเป็นคนกล่าวสุนทรพจน์นี้?X-Ray (2001)
หนูพยายามหาคำพูดสุนทรพจน์ของแม่ แต่มันกลับไม่เคยถูกพิมพ์ไว้เลยX-Ray (2001)
ในฐานะที่เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนสมอลวิลล์ ฉันอยากจะขอแนะนำ.. ผู้นำกล่าวคำสุนทรพจน์ประจำปี 1977 มิสลอร์ร่า พอตเตอร์X-Ray (2001)
รู้ไหม ผมมาที่นี่บ่อยสุด เวลาผมต้องกล่างสุนทรพจน์... ...แล้วรู้สึกเกร็งMaid in Manhattan (2002)
ใช่ ความลื่นไหล ฉันอยากจะคิด... สุนทรพจน์ที่โน้มน้าวใจคนMaid in Manhattan (2002)
และมีคนนึงโทรมา เขาพูดเรื่อง สุนทรพจน์ของเขา... แล้วดีเจจัสติสบอกว่า สุนทรพจน์ของคุณมีอะไรดี?Punch-Drunk Love (2002)
ผมเลื่อนงานเรื่องหนังสือรุ่นหน่ะครับ กะจะซ้อมเรื่องสุนทรพจน์ซะหน่อยครับThe Girl Next Door (2004)
ครับ มันเยี่ยมมาก -ซ้อมสุนทรพจน์อะไรอยู่หล่ะ?The Girl Next Door (2004)
แบบว่า มีการแข่งขันด้วยหน่ะครับ คัดเอาแค่คนเดียวด้วย หมายถึงว่าผมต้องทำให้เขาชอบสุนทรพจน์ของผมให้ได้The Girl Next Door (2004)
นั่นเหรอ สุนทรพจน์ของนาย?The Girl Next Door (2004)
-อย่าพยายามพูดมาก เข้าใจ? -พูดมากนี่นะ? ฉันกำลังจะไปกล่าวสุนทรพจน์นะThe Girl Next Door (2004)
อีกไม่กี่อึดใจ เราจะเริ่ม การกล่าวสุนทรพจน์ และเราหวังว่า...The Girl Next Door (2004)
ฟังดูตลกๆนะ ผมเตรียมสุนทรพจน์... ใช้เวลาซ้อมเป็นอาทิตย์ แต่รู้ไรไหม?The Girl Next Door (2004)
นี่คือสิ่งที่คุณ ให้ฉันเหรอ สุนทรพจน์ "เป็นทหาร ที่ดีนะ"Pilot (2004)
ไม่ ฉันเองที่จะให้ สุนทรพจน์ ว่าคุณคือ นักวิทยาศาสตร์ที่ดี่ที่สุดของฉัน และทอมเป็นหัวหน้า สืบสวนที่ดีที่สุดPilot (2004)
ผมพลาดสุนทรพจน์น่าเบื่อไปรึยังGoal! The Dream Begins (2005)
ผมนี่ละคนกล่าวสุนทรพจน์ "น่าเบื่อ" ที่นี่ไม่ต้อนรับคนก่อกวนGoal! The Dream Begins (2005)
พรุ่งนี้กู๊ดชายลด์จะเตรียม สุนทรพจน์ต่อสภาÆon Flux (2005)
- เทรเวอร์ สุนทรพจน์ของคุณÆon Flux (2005)
ระหว่างเตรียมสุนทรพจน์Æon Flux (2005)
บ้างก็ว่าที่เจ้าบ่าวเราโอ้เอ้ ไม่ยอมแต่งซะที เพราะกลัวครับ กลัวต้องกล่าวสุนทรพจน์ อันที่กำลังจะต้องกล่าวตอนนี้Imagine Me & You (2005)
"ตอนกล่าวสุนทรพจน์ นักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง..."Imagine Me & You (2005)
คุณกล่าวสุนทรพจน์ในงานต้อนรับเข้ามหาลัยDeath Note: The Last Name (2006)
คุณชอบทำตัวเป็นคน ไม่มีอารมณ์สุนทรีย์เอาซะเลยMorning Comes (2007)
รายการต่อไปนี้ เป็นการกล่าวสุนทรพจน์ จากตัวแทนน้องใหม่Crows Zero (2007)
- ... เดินทางมาถึงในวันนี้... เพื่อกล่าวสุนทรพจน์ ต่อหน้าสมัชชาความมั่นคง...Pilot (2007)
เราสาวกแมค เรามีสุนทรียะทางไอทีChuck Versus the Helicopter (2007)
ฉันรักสุนทรพจน์นี้มากพอๆกับที่ ฉันไม่ต้องการสิ่งของนอกกายนั่นแหละ จากผู้ชายที่มี สิ่งนั้นอยู่ในผมเค้าเลยนะ this party is about excess, not exposition.Bad News Blair (2007)
มันคงไม่เหมือนกับว่าฉันกำลังกล่าวสุนทรพจน์ หรืออะไรใช่ไม๊Unstoppable Marriage (2007)
สุนทรพจน์ไม่น่าจะมีปัญหาUnstoppable Marriage (2007)
ผมถนัดขุดหลุมมากกว่า กล่าวสุนทรพจน์There Will Be Blood (2007)
ผมลืมกล่าวอะไรไปบ้างหรือเปล่า ในสุนทรพจน์Mr. Brooks (2007)
ในกัลกัตต้า คุณเคย กล่าวสุนทรพจน์ว่า เพื่อนคือเครื่องหมายการค้าHeyy Babyy (2007)
เหมือนคาสโตรอ่านสุนทรพจน์เลยThe Mist (2007)
ใช่ตอนที่บรีกำลังกล่าวสุนทรพจน์อยู่รึป่าวHello, Little Girl (2008)
พวกเผด็จการ บางทีเรื่องผจญภัยในยมโลก ที่เขาแต่งอย่างมีสุนทรียะThe Scorpion King: Rise of a Warrior (2008)
คืนนี้ผมต้องกล่าวสุนทรพจน์ด้วยI Don't Wanna Know (2008)
เจ้าหน้าที่ใช้กระสุนทรงกลมเบาขนาด 37 มิลลิเมตรPage Turner (2008)
สุนทรียศาสตร์ มักมีความสำคัญต่อผมมากArt Imitates Life (2008)
สุนทรพจน์นั่นน่าเบื่อLucky Thirteen (2008)
เราต้องการคัดเลือกบางข้อความ ตั้งแต่เริ่มต้นและจนถึง\ นับรวมสุนทรพจน์ในปี 1970 ด้วยมั้ยFrost/Nixon (2008)
ถ้านายไม่บอกเธอ ตอนนายกล่าวสุนทรพจน์ นายแย่แน่I Love You, Beth Cooper (2009)
แพตตี้ขอให้ฉันแต่งสุนทรพจน์I Agree, It Wasn't Funny (2009)
ค่ะ ฉันแค่.. ซ้อมสุนทรพจ์เล็กน้อยThe Ugly Truth (2009)
พี่น้องชาวอเมริกัน นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผม จะกล่าวสุนทรพจน์2012 (2009)
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
[sadaēng suntharaphot] (v, exp) EN: make a speech  FR: faire un discours
[Samak Suntharawēt] (n, prop) EN: Samak Sundaravej  FR: Samak Sundaravej
[suntharaphot] (n) EN: speech ; address ; harangue ; oration  FR: discours [ m ] ; allocution [ f ]
[suntharaphot amlā] (n, exp) EN: farewell speech  FR: discours d'adieu [ m ]
[suntharaphot tønrap] (n, exp) EN: welcome speech  FR: discours de bienvenue [ m ] ; allocution de bienvenue [ f ]
[suntharīyaphāp] (n) EN: aesthetics
[suntharīyasāt] (n) EN: aesthetics
[sunthøn] (adj) EN: beautiful ; plesant ; sweet ; delightful ; mellifluous
[sunthøn] (adj) EN: eloquent  FR: éloquent
Longdo Approved EN-TH
(n)ย่อมาจาก State of Nation Address สุนทรพจน์ที่ผู้นำกล่าวสรุปสถานการณ์ของประเทศ
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
(adj)ที่เกี่ยวกับความงามSee Also:เกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์
(n)สุนทรียศาสตร์See Also:การศึกษาความงามSyn.philosophy of beauty
(vi)ตระเวณไปที่ต่างๆ เพื่อแสดงละครหรือแสดงสุนทรพจน์
(phrv)กล่าวสุนทรพจน์เรื่องSee Also:อภิปรายเรื่อง, ปราศรัยเรื่อง
(phrv)กล่าวสุนทรพจน์เรื่องSee Also:อภิปรายเรื่อง, ปราศรัยเรื่อง
(vt)แสดงสุนทรพจน์อย่างฉะฉานSee Also:อ่านบทกวีอย่างฉะฉานจริงจังSyn.recite
(n)การแสดงสุนทรพจน์อย่างฉะฉานSee Also:การพูดหรืออ่านอย่างฉะฉาน
(vt)พูดสุนทรพจน์See Also:แสดงการบรรยาย, ปาฐกถาSyn.tell, recite
(n)การบรรยายที่เคร่งเครียดSee Also:การสนทนา, การปาฐกถา, การกล่าวสุนทรพจน์Syn.speech, verbalization, address, monoloque
(n)ศิลปะหรืองานประพันธ์ที่ทำขึ้นมาเพื่อความสุนทรียทางเพศSyn.pornography
(adj)เกี่ยวกับความงามSee Also:เกี่ยวกับสุนทรียะSyn.aesthetic, tasteful
(n)ความงามSee Also:สุนทรียะ
(n)สุนทรียศาสตร์สาขาหนึ่งของวิชาปรัชญาที่ศึกษาเกี่ยวกับความสวยความงามSyn.aestheticism, aesthetics
(idm)สุนทรพจน์ครั้งแรก
(n)พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง (ทางการเมือง)See Also:สุนทรพจน์ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งSyn.coronation, enthronement
(vt)กล่าวสุนทรพจน์ (โดยเฉพาะในที่สาธารณะ)See Also:ปราศรัย, กล่าวอย่างเป็นทางการSyn.address, speak, declaim
(n)การพูดปราศรัยในที่สาธารณะSee Also:การกล่าวสุนทรพจน์Syn.address, speech
(adj)เกี่ยวกับศิลปะในการพูดสุนทรพจน์
(n)ศิลปะในการพูดสุนทรพจน์See Also:ศิลปะในการแสดงคำปราศรัยSyn.rhetoric, eloquence
(adj)ซึ่งมีอารมณ์สุนทรีย์
(adj)ซึ่งมีอารมณ์สุนทรีย์
(n)การแสดงสุนทรพจน์
(vi)กล่าวสุนทรพจน์
(n)ผู้กล่าวคำปราศัยSee Also:ผู้กล่าวสุนทรพจน์Syn.speaker, talker
(n)ผู้เขียนคำสุนทรพจน์
(n)ผู้แทนผู้เรียนที่กล่าวสุนทรพจน์ในวันรับประกาศนียบัตรSee Also:ตัวแทนนักเรียนหรือนักศึกษาที่กล่าวคำอำลา
(n)สุนทรพจน์กล่าวอำลาSyn.address, lecture, speech
(n)สุนทรพจน์See Also:การพูดSyn.speech, talk
Hope Dictionary
(al) (เอสเธท' ทิค, -เคิล) adj. เกี่ยวกับความรู้สึกต่อความงาม, เกี่ยวกับสุนทรีย์ศาสตร์, เกี่ยวกับอารมณ์และความรู้สึกที่บริสุทธิ์, ทฤษฏีหรือความคิดเห็นที่ถือความงามเป็นใหญ่.Syn.esthetic al -esthetician n.
(เอสเธท' ทิคซฺ') n. สุนทรียศาสตร์, สุนทรียภาพSyn.esthetics
(แอลโลคิว' เชิน) n. การแสดงสุนทรพจน์ (formal speech)
เอาแต่แรงหมายถึง การออกแรงทำงานบางอย่างโดยไม่มีการคำนึงถึงรูปแบบ ความงดงาม หรือความสุนทรีย์ใด ๆ เลย
(เดคคละเม'เชิน) n. การแสดงสุนทรพจน์แบบโผงผาง, พูดชุมชน, การพูดที่ครึกโครม, การคุยโว, การท่องออกเสียงSee Also:declamatory adj. ดูdeclamation
(ดิลิฟ'เวอรี) n. การส่ง, การนำส่ง, การกล่าว, การกล่าวสุนทรพจน์, การโยน (ลูกบอล) , สิ่งที่นำส่ง, การคลอดบุตร, การส่งสินค้าจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อSyn.transfer
(เอส'ธีท) n. ดู aesthete, ความงามสุนทรียภาพ
(เอสเธท'ทิค) adj. ดูaesthetic, งาม, เกี่ยวกับสุนทรียภาพ, เกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์
(เอสธีทิซ'เชิน) n. ดูaesthetician, ผู้เชี่ยวชาญด้านสุนทรียภาพ, นักสุนทรียศาสตร์
(เอสเธท'ทิคซฺ) n. ดูaesthetics, สุนทรียภาพ, สุนทรียศาสตร์
(โอเรท', ออเรท', ออ'เรท) vi., vt. กล่าวคำปราศรัย, กล่าวคำโวหาร, แสดงสุนทรพจน์
(โอเร'เชิน) n. คำโวหาร, คำปราศรัย, คำสุนทรพจน์, การแสดงสุนทรพจน์, ศิลปะแห่งการพูดSyn.address
(ออ'ระโทรี) n. ศิลปะการแสดงสุนทรพจน์, คำสุนทรพจน์, คำโวหาร, คำปราศรัย
(สพีชฺ) n. การพูด, วิธีการพูด, คำพูด, คำบรรยาย, คำสุนทรพจน์, วิชาเกี่ยวกับการพูด, ข่าวลือ, ภาษาชนชาติ, ภาษา.Syn.utterance
(สพีชฺ'ลิส) adj. เงียบอึ้ง, ไม่พูด, พูดไม่ออก, เป็นใบ้, ไม่มีถ้อยคำ, ไม่มีการกล่าวสุนทรพจน์, ไม่สามารถจะถ่ายทอดเป็นคำพูดได้.See Also:speechlessness n.
(ทริบ'บิวน์) n. ผู้พิทักษ์สิทธิของประชาชน, เจ้าหน้าที่คุ้มครองประชาชน, เวทีแสดงสุนทรพจน์, เวทีอภิปราย, ยกพื้นสำหรับการแสดงสุนทรพจน์See Also:tribuneship n.
Nontri Dictionary
(n)คำปราศรัย, สุนทรพจน์, การจ่าหน้าซอง, ที่อยู่
(n)คนมีอารมณ์สุนทรีย์
(adj)เกี่ยวกับความสวยงาม, เกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์
(n)สุนทรียศาสตร์
(vi)พูดในที่ชุมนุมชน, แสดงปาฐกถา, แสดงสุนทรพจน์
(n)การพูดในที่ชุมนุมชน, ปาฐกถา, การแสดงสุนทรพจน์
(n)การพูดจา, การกล่าวสุนทรพจน์, การส่งมอบ, การคลอดลูก
(n)ผู้รักความสวยความงาม, ความงาม, สุนทรียภาพ, สุนทรียศาสตร์
(adj)เกี่ยวกับความงาม, เกี่ยวกับสุนทรียภาพ, เกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์
(n)การกล่าวปราศรัย, การแสดงสุนทรพจน์, โวหาร
(n)ผู้ปราศรัย, ผู้แสดงสุนทรพจน์, นักพูด, นักโต้วาที, โจทก์
(adj)ในเชิงโวหาร, เกี่ยวกับการแสดงสุนทรพจน์
(n)คำปราศรัย, สุนทรพจน์, วาทศิลป์
(n)ผู้พูด, โฆษก, พิธีกร, ผู้บรรยาย, ลำโพงวิทยุ, ประธาน, การแสดงสุนทรพจน์
(n)การแสดงสุนทรพจน์, การพูด, การบรรยาย, การแสดงปาฐกถา
(n)สุนทรพจน์, คำพูด, คำปราศรัย, คำบรรยาย, วาทะ
Longdo Unapproved EN-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
(n)บทสดุดี คือสุนทรพจน์อย่างเป็นทางการหรือต่อมาเป็นบทเขียนที่ใช้ในการสรรเสริญบุคคลหรือสิ่งของ เป็นคำที่มาจากภาษากรีกที่หมายถึงสุนทรพจน์ที่เหมาะแก่ที่ประชุม (panegyris) ในเอเธนส์การกล่าวบทสดุดีจะทำกันในเทศกาลระดับชาติหรือในการแข่งขันกีฬาโดยมีจุดประสงค์ในการเร้าใจผู้ที่มาร่วมเพื่อให้ปฏิบัติตนเช่นตัวอย่างอันดีของบรรพบุรุษ (Source:wikipedia.org)See Also:eulogy
Longdo Unapproved JP-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
台詞
[せりふ, serifu](n)(สพีชฺ) n. การพูด, วิธีการพูด, คำพูด, คำบรรยาย, คำสุนทรพจน์, วิชาเกี่ยวกับการพูด, ข่าวลือ, ภาษาชนชาติ, ภาษา., S. utterance
Saikam JP-TH-EN Dictionary
発言
[はつげん, hatsugen] TH: คำกล่าวสุนทรพจน์
発言
[はつげん, hatsugen] EN: speech
Longdo Approved DE-TH
(n)|die| คำกล่าว, สุนทรพจน์
เพิ่มคำศัพท์
add
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ