ว. ผ่านหรือเคลื่อนไปเร็ว (มักใช้แก่กริยาเห็น), มองแต่เผิน ๆ ไม่ถี่ถ้วน, เช่น มองผาด เห็นผาด ๆ ดูผาด ๆ.
(-แผฺลง) ก. ยิงไปโดยเร็ว.
ว. เคลื่อนไหวไปมารวดเร็วว่องไวน่าหวาดเสียวต่ออันตราย เช่น บินผาดโผน แสดงผาดโผน.
น. ชื่อไม้เถาชนิดหนึ่งขึ้นในป่าตํ่าตามที่นํ้าท่วม มักขึ้นปะปนกับเถากรด ซึ่งดูผาด ๆ คล้ายคลึงกัน ใบคู่ ขอบใบตอนบนที่ใกล้หรือติดกับก้านมีต่อมข้างละต่อม ผลนัยว่าแบน ๆ รูปสามเหลี่ยม ไม้ใช้ทำฟืน.
(คามะนี) น. ผู้ฝึกหัดม้าหรือช้าง, หมอช้าง, นายสารถี, เช่น พลคชคณผาดผ้าย คามณีย์ทาย จำทวยทวน (สมุทรโฆษ).
น. ชื่อนกขนาดเล็กหลายชนิด ในวงศ์ Meropidae ปากสีดำปลายแหลมโค้งเล็กน้อย รูปร่างเพรียว สีออกเขียว ขนหางอาจสั้นหรือยาวแล้วแต่ชนิด มักสร้างรังเป็นรูตามหน้าผาดิน อยู่เป็นกลุ่ม กินแมลง เช่น จาบคาเคราแดง [ Nyctyornis amictas (Temminck) ] จาบคาหัวเขียว ( Merops philippinus Linn.) ซึ่งเดิมเรียก คับคา.
(ฉะหฺวัดฉะเหฺวียน) ก. อาการที่บินวนเวียนไปมาอย่างผาดโผน เช่น บินฉวัดเฉวียน, แล่นเร็วอย่างผาดโผน เช่น ขับรถฉวัดเฉวียน.
(โซม) ก. รุมกัน, ช่วยกัน, เช่น จึ่งจะรุมโรมโซรมปรทยด (ม. คำหลวง ชูชก), เลือดไหลคือโชรเซราะธาร ยักษาพลพาน โซรมก็ผาดผลาญผลง (อนิรุทธ์).
ก. อาการที่ช้างใช้ตีนหลังถีบหรือเตะ เช่น ม้วนงวงแทงธรณีดล งางอนเงยกล คือดั่งจะเสื้องสอยดาว ถีบฉัดผัดผาผาดสราว ไม้ไล่เหิรหาว ก็ฟุ้งทั้งป่าเปนไฟ (อนิรุทธ์).
น. ส่วนของปืนที่สวมแก๊ปเพื่อให้ประกายเข้าไปเผาดินปืนข้างใน
(ผะหฺงาด) ว. สง่า, เด่น, ผาดโผน.
ก. เผาดินซึ่งส่วนมากทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้สุกเพื่อใช้ก่อตึกหรือกำแพง เป็นต้น.
ว. ผิว ๆ, ผาด ๆ, ตื้น ๆ, เช่น มองเผิน ๆ แลเผิน ๆ, (มักใช้แก่กิริยาที่ดูหรือมอง).
ว. อาการที่แสดงหรือทำผาดโผนให้เป็นที่สะดุดตาผู้อื่น เช่น แต่งตัวเฟี้ยว ขับรถเฟี้ยว.
น. การแสดงผาดโผนชนิดหนึ่งโดยขับขี่รถจักรยานยนต์วนไปรอบ ๆ ภายในถังไม้รูปทรงกระบอกขนาดใหญ่, ที่ใช้จักรยานสองล้อ หรือ รถยนต์ ก็มี.
ว. แปลกผิดธรรมดา เช่น สำนวนโลดโผน, ผาดโผนน่าหวาดเสียวต่ออันตราย เช่น ขับรถโลดโผน, บางทีก็ใช้เข้าคู่กับคำ โจนทะยาน เป็น โลดโผนโจนทะยาน หมายความว่า ผาดแผลงอย่างน่าหวาดเสียวต่ออันตราย เช่น เด็กซน ๆ ชอบเล่นโลดโผนโจนทะยาน.
(อันยะ-) น. ธาตุเดียวกันแต่มีสมบัติและรูปแบบต่างกัน เมื่อนำไปทำปฏิกิริยากับธาตุอื่นธาตุเดียวกัน จะให้ผลเป็นสารประกอบอันเดียวกัน เช่น ธาตุคาร์บอน มีอัญรูป คือ เพชร กับ แกรไฟต์ เมื่อนำอัญรูปทั้ง ๒ นี้ ไปเผาด้วยความร้อนสูงกับธาตุออกซิเจน จะได้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เช่นเดียวกัน.