ตกอับ, แร้นแค้น, เช่น ผัวเมียสองคนจนกรองกรอย (สังข์ทอง), ตองตอย ก็ว่า.
น. พิธีอย่างหนึ่ง ทำเมื่อผัวเมียมีบุตรด้วยกันคนหนึ่ง หรือไม่มีบุตร แต่ได้ทำพิธีแปลงออกครบ ๓ ปี.
น. พิธีอย่างหนึ่ง ทำเมื่อผัวเมียมีบุตรด้วยกัน ๒ คน.
(คนทันพะ-) น. การได้เสียเป็นผัวเมียกันเองโดยไม่แต่งงาน.
น. หญิงและชายที่อยู่ร่วมกันฉันผัวเมีย
น. ผัวเมียที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน, ชายหญิงที่อยู่กินร่วมกันฉันผัวเมีย, คู่เรียงเคียงหมอน ก็ว่า.
น. ผัวเมียที่อยู่กันแบบผัวเดียวเมียเดียว.
น. ผัวเมียที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน, ชายหญิงที่อยู่กินร่วมกันฉันผัวเมีย, คู่เคียงเรียงหมอน ก็ว่า.
น. คู่ผัวเมียที่ไม่ใช่คู่สร้างกัน จะอยู่ด้วยกันชั่วคราวแล้วเลิกร้างกันไป.
ก. แนะนำชายหญิงให้รู้จักกันในฐานชู้สาว เช่น ถ้าเจ้าไช้ให้ข้าชักสื่อ ท่านว่าข้าเถียงเจ้ามิได้ อย่าให้ไหมทาษนั้นเลย (สามดวง), ภิกษุชักสื่อให้ชายหญิงเป็นผัวเมียกัน ต้องสังฆาทิเสส (นวโกวาท).
ก. ลึก, ล่วงเข้าไป, เช่น ชายใดข่มขืนภิริยาท่านถึงชำเรา ให้ไหมโดยประถมผิดเมียทวีคูณ ถ้าข่มขืนมิได้ถึงชำเรา ให้ไหมโดยปรถมผิดเมีย (สามดวง พระไอยการลักษณผัวเมีย)
น. คู่รัก เช่น ข้าสมจรด้วยกันพ่อแม่และเจ้าข้ามิให้ และมันภากันหนีไปไกล หญิงนั้นยังมิเปนเมียชายเปนแต่ชู้กัน (สามดวง ลักษณผัวเมีย), ถ้าชายผู้ใดเอาหญิงเปนชู้เปนเมีย แต่ในกำหนดนั้นคือเมียท่านแลให้ไหมโดยขนาด (สามดวง ลักษณผัวเมีย), บุคคลที่เป็นที่รัก เช่น ร้อยชู้ฤๅเท่าเนื้อ เมียตน (ลอ)
การล่วงประเวณี เช่น เล่นชู้, ชายหรือหญิงที่ลอบลักสมัครสังวาสเป็นผัวเมียกัน
น. ชายที่ลอบได้เสียกับหญิงซึ่งสามียังมีชีวิตอยู่ เช่น หญิงใดทำชู้เหนือผัว ผัวจับชู้ได้มิทันพิจารณาบันดาลโกรธตีด่าฆ่าฟันแทงชายชู้นั้นตาย (สามดวง ลักษณ-ผัวเมีย).
ก. ได้เป็นผัวเมียกัน, ได้เสียกัน ก็ว่า.
ก. ได้เป็นผัวเมียกัน, ได้กัน ก็ว่า.
ว. เรียกชายหรือหญิงที่หย่าขาดจากความเป็นผัวเมียกันหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายจากไป, ตกพุ่มหม้าย หรือ เป็นม่าย ก็ว่า.
ก. ทำพิธีเพื่อให้ชายหญิงอยู่กินเป็นผัวเมียกันตามประเพณี.
ก. อนุญาตให้ชายสมสู่อยู่กินกับหญิงฉันผัวเมียกันได้ตั้งแต่วันสู่ขอแล้วทำพิธีแต่งงานในภายหลัง.
ก. เสพสังวาส, เป็นผัวเมียกัน.
ก. อยู่กินกันฉันผัวเมีย, แต่งงานกัน.
ก. บาดหมางกันเพราะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ, ไม่ปรองดองกัน, เช่น ผัวเมียระหองระแหงกันอยู่เสมอ.
ก. จากไปชั่วคราว เช่น นิราศร้างห่างเหเสน่หา, แยกกันอยู่แต่ยังไม่หย่าขาดจากกัน เช่น ผัวเมียร้างกัน.
ก. ค่อย ๆ เลิกร้างกันไปเอง เช่น ผัวเมียร้างรากัน.
เพิกถอนสิ่งที่เคยปฏิบัติมา เช่น เลิกทาส เลิกประเพณีหมอบคลาน เลิกกินหมาก เลิกสัมปทานป่าไม้ ผัวเมียเลิกกัน
ก. ทิ้งกัน, ไม่อยู่ด้วยกัน, (ใช้แก่ผัวเมีย).
ก. อยู่เป็นคู่ผัวเมีย, เขียนเป็น สํสอง ก็มี เช่น ยงงขวบคืนสํสอง เศกไท้ (กำสรวล).
ก. ร่วมประเวณี (มักใช้ในทางไม่ดี) เช่น เขาไปสมสู่กันเอง สมสู่อยู่กินกันฉันผัวเมีย, บางทีก็ใช้กับสัตว์บางชนิด เช่น เดือน ๑๒ เป็นฤดูที่สุนัขสมสู่กัน.
ก. อยู่ร่วมกันเสมือนผัวเมีย, อยู่ร่วมกันอย่างผัวเมีย, เขียนเป็น สู่สํ ก็มี เช่น ดินฤขัดเจ้าหล้า สู่สํสองสํ (กำสรวล).
ก. อุ้มไปให้สมสู่กัน (ในวรรณคดีใช้แก่การที่เทวดาอุ้มพระเอกไปให้สมสู่กับนางเอกที่ตนเห็นว่าคู่ควรกัน), (สำ) เปรียบเทียบคู่ผัวเมียที่เหมาะสมกันว่า ราวกับเทวดาอุ้มสม.