แปลศัพท์
PopThai
dropdown
US
premium
108 ผลลัพธ์ สำหรับ 

*สถาปนา*

 ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น: สถาปนา, -สถาปนา-
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
(v)establishSee Also:set up, found, buildSyn.แต่งตั้งAnt.ถอดถอนExample:สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวงใหม่Thai Definition:ยกย่องโดยแต่งตั้งให้สูงขึ้นNotes:(บาลี/สันสกฤต)
(n)founderSee Also:initiator, originator, inventorSyn.ผู้สร้าง, ผู้ก่อตั้ง, ผู้ตั้ง, ผู้ริเริ่มExample:พ่อขุนรามคำแหงเป็นผู้สถาปนาอาณาจักรสุโขทัยUnit:คนThai Definition:ผู้ยกย่องโดยแต่งตั้งให้สูงขึ้น, ผู้ที่ตั้งขึ้น
(v)create oneselfSyn.ตั้งตัวเองExample:พระนางวิกตอเรียสถาปนาตัวเป็นจักพรรดินี
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
(สะถาปะนา) ก. ยกย่องโดยแต่งตั้งให้สูงขึ้น เช่นเลื่อนเจ้านายให้สูงศักดิ์ขึ้น หรือยกวัดราษฎร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวง, ตั้งขึ้น (มักใช้แก่หน่วยราชการหรือองค์การที่สำคัญ ๆ ในระดับกระทรวง ทบวงมหาวิทยาลัย) เช่น วันสถาปนากระทรวงมหาดไทย วันสถาปนาราชบัณฑิตยสถาน วันสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
น. ตราสารที่สถาปนาและจัดระเบียบองค์การสหประชาชาติ.
เชื้อสายของพระมหากษัตริย์นับตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไป และผู้ได้รับสถาปนาอิสริยยศขึ้นเป็นเจ้า, บางแห่งหมายถึงกษัตริย์ก็มี เช่น เจ้ากรุงจีน
น. เจ้าโดยกำเนิดหรือที่สถาปนาขึ้น, เรียกพระราชโอรสและพระราชธิดาชั้นเจ้าฟ้า ว่า เจ้าครอกฟ้า, เรียกพระองค์เจ้า ว่า เจ้าครอก, และเรียกหม่อมเจ้า ว่า ครอก.
น. เชื้อสายของพระมหากษัตริย์นับตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไป และผู้ได้รับสถาปนาอิสริยยศขึ้นเป็นเจ้า, เจ้า ก็เรียก
เครื่องสักการะที่เจ้านายหรือขุนนางที่มีบรรดาศักดิ์ตั้งแต่เจ้าพระยาขึ้นไปถวายแด่พระเจ้าแผ่นดิน เมื่อได้รับสถาปนาให้ทรงกรมหรือเลื่อนกรมให้สูงขึ้น หรือเมื่อได้รับพระราชทานตั้งยศ.
ก. สถาปนาเจ้านายพระองค์ใดพระองค์หนึ่งให้ควบคุมคนหมู่หนึ่ง. (ดู กรม ๓ ประกอบ).
ยกย่องตัว, สถาปนาตัว, เช่น ตั้งตัวเป็นหัวหน้า ตั้งตัวเป็นใหญ่.
ก. ยกขึ้น, สถาปนา
น. พระภิกษุที่ได้รับแต่งตั้งและสถาปนาให้มีสมณศักดิ์ตั้งแต่ชั้นสามัญจนถึงชั้นสมเด็จพระราชาคณะ.
น. สกุลยศสำหรับพระราชโอรสหรือพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์ซึ่งประสูติแต่เจ้าจอมมารดา, สกุลยศสำหรับพระโอรสหรือพระธิดาในสมเด็จเจ้าฟ้าที่พระมารดาเป็นพระองค์เจ้า, สกุลยศสำหรับพระโอรสหรือพระธิดาในพระองค์เจ้าที่ประสูติแต่พระมารดาซึ่งเป็นพระองค์เจ้า, อิสริยยศสำหรับหม่อมเจ้าหรือสามัญชนที่ได้รับสถาปนา.
(มะกุดราดชะ-) น. ตำแหน่งรัชทายาทที่จะสืบราชสันตติวงศ์ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงสถาปนา.
น. รัชทายาทที่พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาขึ้นเป็นตำแหน่งสมเด็จพระยุพราช โดยพระราชทานยุพราชาภิเษกหรือโดยพิธีอย่างอื่นสุดแท้แต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ.
น. พระราชพิธีในการสถาปนาขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ ใช้ว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษก.
น. พระราชินีที่ทรงได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทนพระองค์หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และทรงได้รับการสถาปนาพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถ, พระเจ้าแผ่นดินที่เป็นผู้หญิง เช่น พระราชินีนาถวิกตอเรีย.
น. วันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงสถาปนาพระบรมราชวงศ์จักรี ตรงกับวันที่ ๖ เมษายน.
น. วันสถาปนาองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งเรียกว่า องค์การสหประชาชาติ ตรงกับวันที่ ๒๔ ตุลาคม.
(อิดสะริยะยด) น. ยศที่พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาเจ้านายให้สูงขึ้น เนื่องจากได้ปฏิบัติราชการแผ่นดิน มีความดีความชอบ เช่น สถาปนาพระองค์เจ้าขึ้นเป็นเจ้าฟ้า สถาปนาหม่อมเจ้าขึ้นเป็นพระองค์เจ้า, ยศอันยิ่งใหญ่ที่สามัญชนได้รับสถาปนาขึ้นเป็นเจ้า.
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
๑. สถานที่ทำการ, สถานที่ประกอบการ๒. การก่อตั้ง, การสถาปนา๓. สถาบัน, กลุ่มผู้ทรงอำนาจ[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
๑. ที่ตั้งทำการ, สถานที่ทำการ, สถานประกอบการ๒. การก่อตั้ง, การสถาปนา[ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
๑. ที่ตั้งทำการ, สถานที่ทำการ, สถานประกอบการ๒. การก่อตั้ง, การสถาปนา[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การสถาปนา (เข้าดำรงตำแหน่ง)[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
พิธีสถาปนา[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
ยศอันยิ่งใหญ่, ยศที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ หมายถึง สกุลยศของพระราชวงศ์ที่ถือกำเนิดมาว่ามียศทางขัตติยราชสกุลชั้นใด เช่น เจ้าฟ้า พระองค์เจ้า หม่อมเจ้า, ถ้าพระราชวงศ์พระองค์ใดได้ปฏิบัติราชการแผ่นดิน มีความดีความชอบ ก็อาจได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็นเจ้าต่างกรมจึงต่อพระนามกรมไว้ท้ายพระ นามเดิม เช่น พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์[ศัพท์พระราชพิธี]
การประชุมสุดยอดหรือการประชุมระดับผู้นำประเทศ/หัวหน้า รัฐบาลในโอกาสครบรอบปีสำคัญ อาทิ การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน[การทูต]
การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและคณะผู้แทนถาวร ทางการทูต ข้อนี้มีบทบัญญัติไว้ในมาตรา 2 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตว่าการสถาปนาความ สัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัฐ และคณะผู้แทนถาวรทางการทูตมีขึ้นได้ด้วยความยินยอมของกันและกันในเรื่องนี้ รัฐที่มีอธิปไตยโดยสมบูรณ์ทุกรัฐ มีสิทธที่จะส่งตัวแทนทางการทูตไปทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนยังรัฐ อื่นๆ ซึ่งถือกันว่ามี Active right of legation แต่การใช้สิทธิดังกล่าว เป็นเรื่องดุลยพินิจของแต่ละรัฐ เพราะจะบังคับให้รัฐหนึ่งส่งคณะผู้แทนทางทูตประจำ ณ ที่ใดหาได้ไม่ ถ้าหากรัฐนั้นไม่ปรารถนาจะปฏิบัติเช่นนั้น ในทำนองเดียวกันจะมีการบังคับให้รัฐผู้รับต้องรับคณะผู้แทนทางการทูตจากรัฐ ใดหาได้ไม่ ทั้งนี้เพราะเป็นเรื่องดุลยพินิจของรัฐผู้รับเช่นกัน[การทูต]
การระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐโดยศาลตุลาการ ก่อนที่จะเกิดองค์การสหประชาชาติ รัฐทั้งหลายที่มีกรณีพิพาทระหว่างประเทศจะฟ้องร้องต่อศาลระวห่างประเทศแห่ง หนึ่ง มีชื่อว่าศาลประจำยุติธรรมระหว่าประเทศ (Permanent Court of International Justice) ซึ่งองค์การสันนิบาตชาติ (League of Nations) จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1920 ได้ประชุมกันเป็นครั้งแรก ณ กรุงเฮก เมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1922 หลังจากนั้นเป็นเวลา 23 ปี ผู้พิพากษาของศาลก็ได้ลาออกในปีค.ศ. 1946 และสันนิบาตชาติได้ยุบศาลนี้ในปีเดียวกันเมื่อมีการสถาปนาองค์การสหประชา ชาติขึ้น ได้มีการจัดตั้งศาลระหว่างประเทศขึ้นใหม่ เรียกว่า ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) ตามกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรนี้ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 92 ว่า ?ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศจักเป็นองค์กรทางตุลาการอันสำคัญของสหประชาชาติ ศาลจักดำเนินหน้าที่ตามธรรมนูญผนวกท้าย ซึ่งยึดถือธรรมนูญของศาลประจำยุติธรรมระหว่างประเทศเป็นมูลฐาน และซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับกฎบัตรฉบับปัจจุบัน?ศาลยุติธรรมระหว่าง ประเทศนี้ ประชุมกันเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1946[การทูต]
คือการเป็นตัวแทนประจำประเทศต่าง ๆ มากกว่าหนึ่งแห่ง ตามหลักทั่วไป รัฐหนึ่งจะแต่งตั้งบุคคลหนึ่งให้ไปประจำเพียงรัฐเดียวในตำแหน่งเอกอัคร ราชทูต แต่มาในทุกวันนี้ เนื่องจากงบประมาณของประเทศมีจำกัด จึงเป็นธรรมเนียมแพร่หลายที่จะตั้งให้เอกอัครราชทูตคนเดียวไปประจำปลาย ประเทศได้ในเวลาเดียวกัน ยกเว้นแต่ว่ารัฐผู้รับหนึ่งใดจะแสดงการคัดค้านอย่างแจ้งชัดเอกอัครราชทูตคน เดียวกัน ซึ่งไปประจำอยู่หลายประเทศนั้น จะมีถิ่นพำนักถาวร (Permanent Residence) อยู่ในนครหลวงของเพียงประเทศหนึ่ง ส่วนในประเทศที่เหลือที่เขาเป็นเอกอัครราชทูตประจำอยู่ด้วยนั้น เขาไปพำนักอยู่เพียงระยะเวลาจำกัดเป็นพัก ๆ รัฐผู้ส่งจะมีคณะผู้แทนทางการทูตของตนไปประจำ ณ นครหลวงของแต่ละประเทศเหล่านั้น ตัวหัวหน้าคณะแต่ละแห่งจะมีตำแหน่งเรียกว่า อุปทูตชั่วคราว (Charge d? Affaires ad interim)เกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 5 ดังนี้ ?1. หลังจากที่ได้บอกกล่าวแก่รัฐผู้รับที่เกี่ยวข้องตามสมควรแล้ว นอกจากจะมีการคัดค้านอย่างชัดแจ้งโดยรัฐผู้รับรัฐใดรัฐหนึ่ง รัฐผู้ส่งอาจแต่งตั้งหัวหน้าคณะผู้แทน หรือแต่งตั้งบุคคลใดในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายการทูตแล้วแต่กรณี ไปยังมากกว่ารัฐหนึ่งก็ได้ 2. ถ้ารัฐผู้ส่งแต่งตั้งหัวหน้าคณะผู้แทนไปยังรัฐอื่นหนึ่งรัฐหรือมากกว่านั้น รัฐผู้ส่งอาจสถาปนาคณะผู้แทนทางการทูตโดยมีอุปทูตชั่วคราวเป็นหัวหน้าในแต่ ละรัฐที่หัวหน้าคณะผู้แทนไม่มีที่นั่งทำงานของตนเป็นประจำก็ได้ 3. หัวหน้าคณะผู้แทน หรือบุคคลใดในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายการทูตของคณะผู้แทน อาจกระทำการในฐานะเป็นผู้แทนของรัฐผู้ส่งในองค์การระหว่างประเทศใดก็ได้"[การทูต]
องค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์ สถาปนาขึ้นในปี พ.ศ. 2507 เพื่อเป็นตัวแทนของชาวปาเลสไตน์ มีนาย Yasser Arafat เป็นประธาน PLO มีฐานะเป็นผู้สังเกตการณ์ (observer) ในสหประชาชาติ[การทูต]
คือองค์การส่วนภูมิภาค ในเรื่องนี้ ข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติไว้ว่า ?ไม่มีข้อความใดในกฎบัตรฉบับปัจจุบัน อันจักริดรอนสิทธิประจำตัวในการป้องกันตนเองโดยลำพังหรือโดยร่วมกัน หากการโจมตีโดยกำลังอาวุธบังเกิดแก่สมาชิกของสหประชาชาติ จนกว่าคณะมนตรีความมั่นคงจะได้ดำเนินมาตรการที่จำเป็น เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ มาตรการที่สมาชิกได้ดำเนินไปในการใช้สิทธิป้องกันตนเองนี้ จักต้องรายงานให้คณะมนตรีความมั่นคงทราบโดยทันที และจักไม่กระทบกระเทือนอำนาจและความรับผิดชอบของคณะมนตรีความมั่นคงภายใต้กฎ บัตรฉบับปัจจุบันแต่ทางหนึ่งทางใด ในอันที่จักดำเนินการเช่นที่เห็นจำเป็น เพื่อธำรงไว้หรือสถาปนากลับคืนมา ซึ่งสันติภาพความมั่นคงระหว่างประเทศ?จะเห็นได้ว่า ประเทศต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเดียวกันมักจะทำข้อตกลงกันในส่วนภูมิภาค โดยอาศัยสนธิสัญญา และโดยที่อาศัยอยู่ในเขตภูมิศาสตร์ใกล้เคียงกัน ( Geographical Propinquity ) หรือมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด และมีวัตถุประสงค์ที่จะอำนวยความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเมืององค์การส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่งที่พอจะหยิบยก มาเป็นตัวอย่างได้ คือ องค์การสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEATO) ซึ่งบัดนี้ได้ยุบเลิกไปแล้วเพราะหมดความจำเป็น องค์การรัฐอเมริกัน (Organization of American States-OAS) องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ (NATO) องค์การร่วมมือระหว่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา (ANZUS) เป็นต้น องค์การภูมิภาคเหล่านี้ตั้งขึ้นโดยอาศัยข้อ 51 ของกฎบัตร สหประชาชาติ ซึ่งกล่าวถึงสิทธิของประเทศสมาชิกที่จะทำการป้องกันตนเองโดนลำพังหรือโดย ร่วมกัน หากถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ[การทูต]
การบังคับตามกฎระหว่างประเทศ หมายถึงการที่หลาย ๆ ชาติได้ลงมติใช้มาตรการบังคับหรือจูงใจพร้อม ๆกันเพื่อบังคับให้ชาติหนึ่งที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ทำการยับยั้ง (Desist) หรือยินยอมให้มีการชี้ขาดตัดสิน (Adjudication) หรือกล่าวอย่างสั้น ๆ แซ็งชั่นก็คือ หนทางที่บังคับพันธกรณีทางกฎหมายให้เป็นไปตามกฎหมายเรื่องแซ็งชั่นนี้ กฎบัตรสหประชาชาติได้กล่าวไว้ในบทที่ 7 ข้อ 41 และ 42 มีข้อความดังนี้ ?ข้อ 41 คณะมนตรีความมั่นคงอาจวินิจฉัยว่า จะต้องใช้มาตรการอันใดอันไม่มีการใช้กำลังอาวุธ เพื่อยังผลให้เกิดแก่คำวินิจฉัยของคณะมนตรี และอาจเรียกร้องให้สมาชิกแห่งสหประชาชาติใช้มาตรการเช่นว่านั้น มาตรการเหล่านี้อาจรวมถึงการตัดสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และการคมนาคมทางรถไฟ ทางทะเล ทางอากาศ ทางไปรษณีย์โทรเลข ทางวิทยุ และวิถีทางคมนาคมอย่างอื่นโดยสิ้นเชิงหรือแต่บางส่วน และการตัดความสัมพันธ์ทางการทูต ข้อ 42 หากคณะมนตรีความมั่นคงพิจารณาเห็นว่ามาตรการที่บัญญัติไว้ในข้อ 41 น่าจะไม่เพียงพอ หรือได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เพียงพอ คณะมนตรีก็อาจดำเนินการใช้กำลังทางอากาศ ทางทะเล หรือทางพื้นดินเช่นที่เห็นจำเป็น เพื่อธำรงไว้ หรือสถาปนากลับคืนมาซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ การดำเนินการเช่นว่านี้ อาจรวมถึงการแสดงแสนยานุภาพ การปิดล้อม และการปฏิบัติอย่างอื่นโดยกำลังทางอากาศ ทางทะเล หรือทางพื้นดินของบรรดาสมาชิกแห่งสหประชาชาติ[การทูต]
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีนี้ประกอบด้วยสมาชิกถาวร (Permanent members) 5 ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต อังกฤษ และสหรัฐฯ และมีสมาชิกไม่ถาวร (Non-permanent members) อีก 10 ประเทศ ซึ่งสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเป็นผู้เลือกตั้ง และให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งประเทศละ 2 ปี สมาชิกประเภทนี้ไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งใหม่ในทันที และในการเลือกตั้งจะคำนึงส่วนเกื้อกูลหรือบทบาทของประเทศผู้สมัครที่มีต่อ การธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งที่มีต่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ขององค์การสหประชาชาติด้วย ในการเลือกตั้ง จะคำนึงถึงการแบ่งกลุ่มประเทศสมาชิกดังนี้คือ ก. 5 ประเทศจากแอฟริกาและเอเชียข. 1 ประเทศจากยุโรปตะวันออกค. 2 ประเทศจากละตินอเมริกาง. 2 ประเทศจากยุโรปตะวันตก และประเทศอื่น ๆหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีดังนี้1. ธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ2. สอบสวนเกี่ยวกับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ3. เสนอแนะวิธีที่จะใช้กรณีพิพาทเช่นว่านั้น หรือ เงื่อนไขที่ให้มีการตกลงปรองดองกัน4. วางแผนเพื่อสถาปนาระบบการควบคุมกำลังอาวุธ5. ค้นหาและวินิจฉัยว่ามีภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือ เป็นการกระทำที่รุกรานหรือไม่ แล้วเสนอแนะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร 6. เรียกร้องให้สมาชิกประเทศที่ทำการลงโทษในทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ถึงขั้นทำสงคราม เพื่อป้องกันมิให้เกิดหรือหยุดยั้งการรุกราน7. ดำเนินการทางทหารตอบโต้ฝ่ายที่รุกราน8. เสนอให้รับประเทศสมาชิกใหม่ รวมทั้งเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ ในการที่จะเข้าเป็นภาคีตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ 9. ทำหน้าที่ให้ภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ ในเขตที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์10. เสนอแนะให้สมัชชาสหประชาชาติ แต่งตั้งตัวเลขาธิการและร่วมกับสมัชชาในการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลโลก11. ส่งรายงานประจำปีและรายงานพิเศษต่อสมัชชาสหประชาชาติบรรดาประเทศสมาชิกของสห ประชาชาติ ต่างตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อมติใด ๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งยังรับรองที่จะจัดกำลังกองทัพของตนให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงหากขอร้อง รวมทั้งความช่วยเหลือและและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ[การทูต]
บ้านพี่เมืองน้อง หมายถึง ความตกลงระหว่างประเทศ หรือเมืองในประเทศที่ต่างกัน ในการที่จะสถาปนาเมืองในประเทศของแต่ละฝ่ายให้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเป็น พิเศษ เช่น นครเชียงใหม่เป็นบ้านพี่เมืองน้องกับนครเซี่ยงไฮ้ หรือกรุงเทพฯ เป็นบ้านพี่เมืองน้องกับนครลอสแอนเจลิส[การทูต]
สันนิบาตชาติ เป็นองค์การที่ตั้งขึ้นตามสนธิสัญญาแวร์ซาย และสนธิสัญญาอื่น ๆ ที่ทำขึ้นตอนเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และสถาปนาเป็นองค์การระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 1920 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ นครเจนีวา สันนิบาตชาติมีหน้าที่สำคัญสองประการ คือ1. ดูแลให้มีการปฏิบัติเป็นไปตามสนธิสัญญา2. ให้โลกมีสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศแต่สันนิบาตชาติมีอายุอยู่ได้ ไม่นาน อุปสรรคสำคัญที่สุดอันหนึ่ง คือ ไม่มีสหรัฐอเมริการ่วมเป็นสมาชิกขององค์การด้วย สันนิบาตชาติประชุมกันเป็นสมัยประชุมครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1939 และหมดสภาพเป็นองค์การระหว่างประเทศลงเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1946 ทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งหมดได้โอนไปให้แก่องค์การสหประชาชาติ[การทูต]
ตัวอย่างประโยคจาก Open Subtitles**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ข้าขอประกาศ สถาปนาดาวดวงนี้เป็น ทรูมาเนียแห่งเบอร์แบงก์กาแล็กซีThe Truman Show (1998)
ราม ลูกรัก วันนี้ข้าควรจะสถาปนาเจ้าให้เป็นกษัตริย์แห่งอโยธยา แต่มเหสีชั่วของข้า ไกยเกษี-Sita Sings the Blues (2008)
เพื่อให้เป็นไปตามสัญญานั้น แทนที่ข้าจะสถาปนาเจ้าให้เป็นกษัตริย์ ข้าต้องเนรเทศเจ้า ให้ไปอยู่ที่ป่า เป็นเวลา 14 ปี!Sita Sings the Blues (2008)
เล่าปี่สถาปนาตัวจักรพรรดิ์ของThree Kingdoms (2008)
สถาปนาความศรัทธาของพวกเขาAlbification (2009)
โดยประมาณเป็นที่ยอมรับ ส่วนใหญ่ของการสถาปนาThe Grandfather: Part II (2009)
ดังนั้นศุกร์นี้ เราจะมาทำพิธีสถาปนา รูปปั้นของคุณ GuzmanAdvanced Criminal Law (2009)
ไปบอกเพ็กกี้ ฮาพลิน เธอควรสถาปนาให้คุณ เป็นนายอำเภอPolly Wants a Crack at Her (2010)
และตระกูลกิลเบิร์ตยังเป็นหนึ่งในตระกูลแรกเริ่ม ที่สถาปนาเมืองมิสติกฟอลล์ ซึ่ง...Bloodlines (2010)
การสถาปนาเมือง, เอกสารเก่าของเมือง, คณะผู้บุกเบิก ทั้งหมดอยู่นี่Bloodlines (2010)
ในโอกาสวันสถาปนาเมือง ที่กำลังจะมาถึงMiss Mystic Falls (2010)
เอาล่ะ วันครบรอบ แห่งการสถาปนาเมืองMiss Mystic Falls (2010)
มันสำคัญอย่างไรที่ต้องมี วันสถาปนาเมืองนั่นรึ?Miss Mystic Falls (2010)
สำหรับคู่ควงในงานสถาปนาเมืองMiss Mystic Falls (2010)
คู่ควงในงานสถาปนาเมือง?Miss Mystic Falls (2010)
คู่ควงงานสถาปนาเมืองMiss Mystic Falls (2010)
แม่ของฉันเคยเข้า่ร่วมงาน วันสถาปนาเมืองมาก่อนMiss Mystic Falls (2010)
งานเลี้ยงวันครบรอบ 150 ปี แห่งการสถาปนาเมืองMiss Mystic Falls (2010)
martinis สถาปนาเป็นประเพณีที่มีอายุ 100 ปี, พร้อมๆ กับหนุ่มๆ ที่อยากจะเอาใจเธอThe Undergraduates (2010)
สำหรับขบวนพาเรดในวันสถาปนาIsobel (2010)
งานแห่วันสถาปนาIsobel (2010)
ใช่เด็กผู้หญิงที่ลุงเห็นเธออยู่ด้วยกัน ในงานสถาปนาหรือเปล่า?Isobel (2010)
เขาต้องการจะย้อนเวลา และสถาปนาตัวเองเป็นกษัตริย์Prince of Persia: The Sands of Time (2010)
และรสชาตของ การสถาปนาOriginal Skin (2011)
มีใครตายแล้วสถาปนาเธอขึ้นเป็นราชินีงั้นหรอ?Mash Off (2011)
เกร์สัน โกลบอล จะได้ทำการสถาปนาราชาองค์ใหม่Revelations (2012)
ผู้สนับสนุนการสถาปนาชาติ ทาสในอดีตกลับคืนสู่แอฟริกา...What Becomes of the Broken-Hearted (2013)
และได้สถาปนาที่หลบภัยแห่งนี้ สถานที่พวกแม่มดน้อยจะสามารถมารวมตัวกันเพื่อฝึกฝนBitchcraft (2013)
ถ้าตารางเวลาของคุณว่าง เราจะยินดีอย่างยิ่งถ้าคุณจะเป็นแขกผู้มีเกียรติ ที่งานสถาปนาในนามน้องสาวของคุณIllumination (2013)
ลุงพลาดวันสถาปนาเจ้านะ ไปดูสิBook of the Stranger (2016)
ท่านทั้งหลายสถาปนาข้าขึ้นมาStormborn (2017)
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
[sathāpanā] (v) EN: create ; establish ; install ; found ; set up ; build  FR: établir ; fonder ; instituer ; édifier
[sathāpanā køngthap] (v, exp) EN: found an army  FR: fonder une armée ; créer une armée ; établir une armée
[sathāpanā prathēt] (v, exp) EN: found a country ; establish a country  FR: fonder un pays ; établir un pays
[sathāpanā tūa] (v) EN: create oneself
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
(vt)สร้างSee Also:สถาปนาSyn.construct
(vt)ก่อตั้งSee Also:สถาปนาSyn.found, establish, set up
(n)ผู้สถาปนาSee Also:ผู้สร้าง, ผู้ก่อตั้งSyn.founder
(n)การก่อตั้งSee Also:การสถาปนา
(vt)สถาปนาSee Also:ตั้งขึ้น, ก่อตั้ง
(n)การสถาปนาSee Also:การแต่งตั้ง
Hope Dictionary
(บิลดฺ) { built, built, building, builds } v. สร้าง, ก่อสร้าง, ก่อ, ปลูก, สถาปนา, สร้างสรรค, เพิ่ม, ทำให้แข็งแรง n. การก่อสร้าง, ร่างที่ดีSyn.erectAnt.demolish
(คอน'สทิทิวทฺ) vt. ประกอบด้วย, ก่อตั้ง, ตั้งขึ้น, สถาปนา, บัญญัติSee Also:constituter, constitutor n.Syn.form
(คอนสทิทิว'เชิน) n. การประกอบขึ้น, การก่อตั้ง, การสถาปนา, ร่างกาย, อุปนิสัย, สันดาน, รัฐธรรมนูญ, ระเบียบข้อบังคับ, รูปแบบการปกครอง, รากฐานSyn.composition
(อีสแทบ'ลิช) vt. สร้าง, สถาปนา, ก่อตั้ง, ตั้งมั่น, กำหนด, บัญญัติ, ทำให้เป็นที่ยอมรับ, พิสูจน์See Also:establisher n. ดูestablish
(อีสแทบ'ลิ?เมินทฺ) n. การสร้าง, การสถาปนา, การก่อตั้ง, การตั้งมั่น, สิ่งก่อสร้าง, สถาบัน, บ้านเรือน, องค์การ, ที่ทำการSyn.foundation, firm
(เฟาเด'เชิน) n. รากฐาน, พื้นฐาน, การก่อ, การสร้าง, การสถาปนา, มูลนิธิ, กองทุนมูลนิธิ, ผู้ก่อตั้ง, คณะผู้ก่อตั้ง, เครื่องรัดลำตัวผู้หญิง.See Also:foundationary adj.Syn.basis
(อินออ' กิวเริล) adj. เกี่ยวกับการเข้ารับตำแหน่งเป็นทางการ, เกี่ยวกับการริเริ่ม, เกี่ยวกับการเปิดฉาก, เกี่ยวกับการสถาปนา, เกี่ยวกับการเปิดทำการ. -n. คำปราศรัยในการเข้ารับตำแหน่ง, พิธีเข้ารับตำแหน่ง
(อินสทอล') vt. ติดตั้ง, สถาปนา, ประกอบ, แต่งตั้ง, นำไปนั่ง, ทำให้เข้ารับตำแหน่งเป็นทางการSyn.place
(อินสทอล') vt. ติดตั้ง, สถาปนา, ประกอบ, แต่งตั้ง, นำไปนั่ง, ทำให้เข้ารับตำแหน่งเป็นทางการSyn.place
(อินสทอลเล'เชิน) n. การติดตั้ง, การสถาปนา, การแต่งตั้ง, เครื่องมือติดตั้ง, ที่ทำการ, กองบัญชาการ, ค่ายSyn.establishment
(อินสทอล'เมินทฺ) n. เงินใช้หนี้ที่จ่ายเป็นงวด ๆ , งวด, ส่วน, ตอน , การติดตั้ง, การสถาปนา
(อินสทอล'เมินทฺ) n. เงินใช้หนี้ที่จ่ายเป็นงวด ๆ , งวด, ส่วน, ตอน , การติดตั้ง, การสถาปนา
Nontri Dictionary
(vt)ทำ, สร้าง, ร่าง, ก่อ, ปลูก, ก่อสร้าง, สถาปนา
(n)ผู้สร้าง, ผู้สถาปนา, ช่างก่อสร้าง
(vt)ประกอบขึ้น, สถาปนา, แต่งตั้ง, บัญญัติขึ้น, สร้างขึ้น
(vt)สร้าง, สถาปนา, ก่อตั้ง, จัดตั้ง, ก่อสร้าง, ติดตั้ง
(vt)สถาปนา, ตั้ง, จัดตั้ง, ก่อตั้ง, กำหนด, สร้าง
(n)การตั้ง, การสถาปนา, สิ่งก่อสร้าง, สถาบัน, องค์การ
(vt)สถาปนา, ก่อตั้ง, สร้างขึ้น, วางราก, หลอม, หล่อ(ระฆัง)
(n)การสถาปนา, รากตึก, รากฐาน, การสร้าง, มูลนิธิ, หลักฐาน, พื้นฐาน
(adj)เกี่ยวกับพิธีต้อนรับ, เกี่ยวกับการเปิดทำการ, เกี่ยวกับการสถาปนา
(vt)เอาเข้าประจำตำแหน่ง, สถาปนา, ติดตั้ง, นำไปไว้, ประกอบ
(n)การเข้าประจำตำแหน่ง, การสถาปนา, การติดตั้ง, ที่ทำการ
(n)การติดตั้ง, การสถาปนา, ตอน, ส่วน, เงินผ่อน
(vt)สถาปนาใหม่, ตั้งขึ้นใหม่, สร้างขึ้นใหม่
เพิ่มคำศัพท์
add
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ