บทความ
Premium
Word Game
New
CTA
เกี่ยวกับ
Classic version
ไทย
Log in
Log in
แปลศัพท์
PopThai
แปลศัพท์
US
55
ผลลัพธ์ สำหรับ
*การปฏิวัติ*
ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น:
การปฏิวัติ
,
-การปฏิวัติ-
ภาษา
Thai-English:
NECTEC's
Lexitron-2
Dictionary [with local updates]
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
การปฏิวัติ
(n)
revolution
,
See Also:
revolutionary
,
Syn.
การเปลี่ยนแปลง
,
Example:
ญี่ปุ่นเป็นผู้ริเริ่มให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมขึ้นในเอเชีย
,
Thai Definition:
การเปลี่ยนแปลงระบบหรือการเปลี่ยนแปลงระบอบการบริหารบ้านเมือง
อังกฤษ-ไทย:
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
[เชื่อมโยงจาก
orst.go.th
แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
permanent revolution
การปฏิวัติถาวร
[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
revolution
การปฏิวัติ
[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
revolution
การปฏิวัติ
[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
revolution, green
การปฏิวัติทางกสิกรรม
[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
revolution, industrial
การปฏิวัติอุตสาหกรรม
[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
revolution, social
การปฏิวัติสังคม
[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
social revolution
การปฏิวัติสังคม
[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
counterrevolution
การปฏิวัติซ้อน
[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
cultural revolution
การปฏิวัติทางวัฒนธรรม
[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
green revolution
การปฏิวัติทางกสิกรรม
[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
industrial revolution
การปฏิวัติอุตสาหกรรม
[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
industrial revolution
การปฏิวัติอุตสาหกรรม
[วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
vital revolution
การปฏิวัติชีพ
[ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
อังกฤษ-ไทย:
คลังศัพท์ไทย
โดย
สวทช.
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
Industrial revolution
การปฏิวัติอุตสาหกรรม
[วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Art and revolutions
ศิลปะกับการปฏิวัติ
[TU Subject Heading]
Arts and revolutions
ศิลปกรรมกับการปฏิวัติ
[TU Subject Heading]
Green Revolution
การปฏิวัติเขียว
[TU Subject Heading]
Motion pictures and the revolution
ภาพยนตร์กับการปฏิวัติ
[TU Subject Heading]
Music and the revolution
ดนตรีกับการปฏิวัติ
[TU Subject Heading]
Gorbachev doctrine
นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics)
[การทูต]
Information Revolution
การปฏิวัติสารสนเทศ
[การจัดการความรู้]
Green Revolution
การปฏิวัติเขียว
[การแพทย์]
Thai-English-French:
Volubilis Dictionary 1.0
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
การปฏิวัติ
[kān patiwat]
(n)
EN:
revolt ; revolution ; mutiny ; rebellion
FR:
révolte [ f ] ; révolution [ f ] ; insurrection [ f ] ; soulèvement [ m ] ; émeute [ f ]
การปฏิวัติฝรั่งเศส
[Kān Patiwat Farangsēt]
(n, prop)
FR:
Révolution française [ f ]
การปฏิวัติคาร์เนชั่น
[Kān Patiwat Khānēchan]
(n, prop)
EN:
Carnation Revolution
FR:
révolution des œillets [ f ]
การปฏิวัติเขียว
[Kān Patiwat Khīo]
(n, prop)
EN:
Green Revolution
FR:
Révolution verte [ f ]
การปฏิวัติพลังงาน
[kān patiwat phalang-ngān]
(n, exp)
EN:
Energy [ R ]evolution
การปฏิวัติพฤษภา ’68
[kān patiwat phreutsaphā hoksip-paet]
(n, exp)
FR:
Mai 68
การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 (๒๔๗๕)
[Kān Patiwat Sayām phø.sø. søng phan sī røi jetsip-hā]
(n, prop)
EN:
Siamese Revolution of 1932 ; Siamese Coup d'état of 1932 ; 1932 Revolution in Siam
FR:
coup d'État de 1932 [ m ]
การปฏิวัติทางพันธุกรรม
[kān patiwat thāng panthukam]
(n, exp)
EN:
genetic revolution
การปฏิวัติทางภูมิปัญญา
[kān patiwat thāng phūmpanyā]
(n, exp)
EN:
Intellectual Revolution
การปฏิวัติทางอุตสาหกรรม
[kān patiwat thāng utsāhakam]
(n, exp)
EN:
Industrial Revolution
FR:
révolution industrielle [ f ]
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์
[kān patiwat thāng witthayāsāt]
(n, exp)
EN:
Scientific Revolution
การปฏิวัติเทคโนโลยี
[kān patiwat thēknōlōyī]
(n, exp)
EN:
Technological Revolution
FR:
révolution technologique [ f ]
การปฏิวัติอุตสาหกรรม
[kān patiwat utsāhakam]
(n, exp)
EN:
Industrial Revolution
FR:
révolution industrielle [ f ]
การปฏิวัติวัฒนธรรม
[kān patiwat watthanatham]
(n, exp)
EN:
cultural revolution
FR:
révolution culturelle [ f ]
English-Thai:
NECTEC's
Lexitron-2
Dictionary [with local updates]
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
coup d'etat
(n)
การรัฐประหาร
,
See Also:
การชิงอำนาจ
,
การปฏิวัติ
,
Syn.
putsch
,
takeover
Industrial Revolution
(n)
การปฏิวัติอุตสาหกรรม
,
See Also:
เริ่มในประเทศอังกฤษช่วงตอนกลางของศตวรรษที่ 18 ก่อนแพร่หลายเข้าสู่ทวีปยุโรปและสหรัฐอเมร
nihilism
(n)
การก่อการร้าย
,
See Also:
การปฏิวัติ
,
Syn.
terrorism
redcoat
(n)
ทหารอังกฤษที่แต่งเครื่องแบบสีแดงช่วงการปฏิวัติในอเมริกา
revolt
(n)
การปฏิวัติ
,
See Also:
การกบฏ
,
จลาจล
,
Syn.
rebellion
,
revolution
revolution
(n)
การปฏิวัติ
,
Syn.
mutiny
,
rebellion
,
revolt
revolutionary
(adj)
เกี่ยวกับการปฏิวัติ
,
Syn.
rebellious
,
revolting
,
insurgent
uprising
(n)
การปฏิวัติ
,
Syn.
revolt
,
rebellion
English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
Hope Dictionary
ancien regime
(อานุเซียน' เรจึม) fr. ระบบการเมืองและสังคมของฝรั่งเศสก่อนการปฏิวัติปี ค.ศ.1789 ระบอบเก่า
counterrevolution
(เคา'เทอะเรฟโวลู'เชิน) n. การปฏิวัติซ้อน, การเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ต่อต้านการปฏิวัติที่เกิดขึ้น.
filibuster
(ฟิล'ละบัสเทอะ) n., v. (ผู้ที่) (การ) ปฏิบัติการที่ทหารเข้าไปในประเทศอื่นโดยพลการเพื่อสนับสนุนการปฏิวัติ, ขัดขวางการยอมรับญัตติหรือกฎหมายในสภา,
,
See Also:
filibusterer n. filibusterism n.
french revolution
n. การปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1789 โค่นล้มราชวงศ์Bourbonและนโปเลียนมหาราชโดยยึดอำนาจเมื่อปี ค.ศ.1799
nihilism
(ไน'อะลิสซึม) n. ลัทธิยกเลิกกฎหมายและองค์กรบริหารทั้งหลาย, คนสงสัยอย่างยิ่งยวด, ลัทธิทำลาย, สภาวะที่ไร้กฎหมาย มีการก่อการร้ายและการปฏิวัติอื่น ๆ , การทำลายสิ้นเชิง.
,
See Also:
nihilist n.
,
adj. nihilistic adj.
revolution
(เรฟ'วะลิว'เชิน) n. การปฏิวัติ, การเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง (และมักรวดเร็ว) , การเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่, การหมุนรอบ, การโคจร, การพลิกแผ่นดิน, รอบ, วัฎจักร
,
See Also:
revolutionary adj.
,
n.
,
Syn.
revolt
,
cycle
,
rotation
English-Thai: Nontri Dictionary
Nontri Dictionary
revolution
(n)
การปฏิวัติ, การเปลี่ยนแปลง, วัฏจักร, การหมุนเวียน
revolutionary
(adj)
เกี่ยวกับการปฏิวัติ, เกี่ยวกับการหมุนเวียน, เกี่ยวกับวัฏจักร
revolutionist
(n)
ผู้ก่อการปฏิวัติ
Japanese-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version --
use with care
)
Longdo Unapproved JP-TH
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
革命
[かくめい, kakumei]
(n)
การปฏิวัติ
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ