premium
120 ผลลัพธ์ สำหรับ 

*กันและกัน*

 ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น: กันและกัน, -กันและกัน-
NECTEC Lexitron-2 Dictionary (TH-EN)
(pron)one anotherSee Also:each otherSyn.ทั้งสองฝ่ายExample:การขยายเครือข่ายระหว่างบริษัทสาขาจะมีผลกระทบต่อกันและกัน
(adv)each otherSee Also:mutually, reciprocally, one anotherSyn.กัน, ต่อกัน, กันและกันExample:พวกเราต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ส. คำใช้แทนชื่อในลักษณะที่มีการกระทำร่วมกันหรือต่อกันโดยมีบุรพบทประกอบหน้า เช่น รักซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์ของกันและกัน.
น. กิจการที่บุคคลหลายคนตกลงเข้าร่วมกันเพื่อทำการสงเคราะห์ซึ่งกันและกันในการจัดการศพ หรือจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ตกลงเข้าร่วมกันนั้นซึ่งถึงแก่ความตาย และมิได้ประสงค์จะหากำไรหรือรายได้เพื่อแบ่งปันกัน.
น. ชื่อปลาทะเลขนาดเล็กทุกชนิดในสกุล Amphiprion วงศ์ Pomacentridae ลำตัวสั้นและแบนข้าง สีเหลือง แสด หรือแดง บางชนิดมีส่วนบนรวมทั้งครีบหลังดำคลํ้า มักมีแถบสีขาวเด่นพาดขวางบนหัวและลำตัว ๑-๒ แนว แล้วแต่ชนิดหรือขนาดบ้างมีสีส้ม พบอาศัยตามแนวปะการัง โดยเฉพาะอยู่กับดอกไม้ทะเลซึ่งเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังประเภทหนึ่งในลักษณะพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ขนาดยาวได้ถึง ๑๖ เซนติเมตร.
ว. ต่างฝ่ายต่างรู้ความลับของกันและกัน.
น. ระบบ เส้นทาง หรือการปฏิบัติงานที่ติดต่อประสานกันเป็นโยงใย เช่น เครือข่ายโทรคมนาคม เครือข่ายวิทยุชุมชน, กลุ่มบุคคลหรือองค์กรที่มีความเห็นใกล้เคียงกัน มีการติดต่อสนับสนุนซึ่งกันและกัน เช่น เครือข่ายนักวิจัย.
ก. ทักทายตามธรรมเนียมตะวันตกโดยบุคคล ๒ คน ประสานมือขวาของกันและกันแล้วเขย่า, เรียกอาการที่ครูสอนโดยจับมือผู้เริ่มเรียนให้ทำตามในการสอนบางวิชาเช่น ฟ้อนรำ ดนตรี หรืองานฝีมือบางอย่าง เช่น จับมือรำ จับมือตีระนาด, โดยปริยายหมายถึงร่วมมือกัน เช่น ชาวบ้านจับมือกันพัฒนาแหล่งน้ำ.
ก. ใช้กำลังบุกเข้าตี เช่น โจมตีข้าศึก, โดยปริยายหมายความว่า พูดหรือเขียนว่าหรือกล่าวหาผู้อื่นอย่างรุนแรง เช่น ๒ พรรคการเมืองโจมตีกันและกัน หนังสือพิมพ์โจมตีผู้บริหารที่ทุจริต.
(-แผฺละ) น. การเล่นชนิดหนึ่ง มีคนเล่น ๒ คน นั่งหันหน้าเข้าหากัน แต่ละฝ่ายตบมือ ตบเข่าและตบมือของตัวเองก่อน จึงใช้มือซ้ายตบมือซ้ายของกันและกัน แล้วตบมือ ตบเข่า และตบมือ แล้วจึงใช้มือขวาตบมือขวาของกันและกัน แล้วเริ่มต้นใหม่.
ก. ต่อว่า, โต้ตอบซึ่งกันและกัน, เช่น สองคนนั้นกำลังต่อว่าต่อขานกันลั่นบ้าน.
ก. แข่งขึ้นหน้ากันและกัน.
(-เริก) น. ชื่อเพลงไทย มี ๒ ทาง คือ ทางไทย เป็นเพลงอัตรา ๒ ชั้น หน้าทับปรบไก่ ปรากฏในเรื่องทำขวัญ และทางฝรั่ง, ใช้เป็นเพลงเกียรติยศของข้าราชการทุกชั้น ที่ต่ำกว่าชั้นพระบรมวงศ์ตลอดจนถึงสามัญชน เพื่อใช้ในเวลาอวยพรซึ่งกันและกันในงานพิธีมงคลฤกษ์ต่าง ๆ.
น. มีดขนาดเล็ก ใบมีดแบนเรียวปลายแหลม ยาวประมาณครึ่งฝ่ามือ ชุดหนึ่งมี ๒ เล่ม ด้ามมีดทำเป็นท่อนสี่เหลี่ยมยาว มีช่องสำหรับสอดใบมีดอีกเล่มหนึ่งสวนเข้าไปเก็บไว้ได้มิดชิด มีดทั้ง ๒ เล่มเมื่อสอดใบมีดเข้าไปในด้ามของกันและกันแล้ว แลดูเหมือนไม้สี่เหลี่ยมท่อนสั้น ๆ ใช้พกเป็นอาวุธ.
น. ชื่อสัญญาชนิดหนึ่งซึ่งคู่กรณีต่างโอนกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินให้กันและกัน.
น. องค์กรทางเศรษฐกิจและสังคมที่สมาชิกร่วมกันจัดตั้งขึ้นด้วยการลงหุ้นร่วมกัน จัดการร่วมกันในการผลิต การจำหน่ายสินค้า หรือบริการตามความต้องการหรือผลประโยชน์อย่างเดียวกันของบรรดาสมาชิก สมาชิกแต่ละคนมีสิทธิ์ออกเสียงได้หนึ่งเสียงในการบริหารสหกรณ์ โดยไม่ขึ้นกับจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์โคนม, (กฎ) คณะบุคคลซึ่งร่วมกันดำเนินกิจการเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม โดยช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และได้จดทะเบียนตามกฎหมาย.
(สันถะวะ-) น. การนิยมชมชอบกัน, การสรรเสริญซึ่งกันและกัน
ก. กล่าวให้ร้ายซึ่งกันและกัน, ก่อให้เกิดความเสียหายแก่กันและกัน.
น. ข่าวคราวความเป็นไปหรือความเป็นอยู่ เช่น ไม่พบกันมานาน เพื่อน ๆ ต่างก็ถามสารทุกข์สุกดิบซึ่งกันและกัน.
น. ธรรมอันเป็นไปเพื่อความระลึกถึงกันและกัน.
ลักษณะของการถ้อยทีถ้อยอาศัยกันด้วยการให้สิ่งของแลกเปลี่ยนหรือตอบแทนซึ่งกันและกันเป็นต้น.
(อันยะมันยะ-) ว. ซึ่งกันและกัน, แก่กันและกัน, ของกันและกัน, เช่น เป็นอัญมัญปัจจัย คือ เป็นปัจจัยของกันและกัน.
(-โยนยะ) ว. “กันและกัน”. (ส. อนฺโยนฺย; ป. อฺมฺ)
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
[jōtthanā wā klāo seung kan lae kan] (v, exp) EN: indulge in mutual recriminations
[kan lae kan] (pr) EN: one another ; each other
[seung kan lae kan] (adv) EN: each other  FR: mutuellement
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
ชมรมประกันภัยกันและกัน[ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
การประกันภัยกันและกัน[ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
การกลมกลืนกันและกัน[สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕]
การตอบแทนกันและกัน[ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
ภาวะพึ่งพิงซึ่งกันและกัน[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความสำคัญผิดซึ่งกันและกัน[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การเป็นหนี้ซึ่งกันและกัน[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความสำคัญผิดซึ่งกันและกัน [ ดู common mistake ประกอบ ][นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
คติความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
อำนาจทำลายล้างซึ่งกันและกัน[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ความผูกพันซึ่งกันและกัน[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
ความเป็นหนี้ซึ่งกันและกัน[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
อำนาจทำลายล้างซึ่งกันและกัน[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การพี่งพาซึ่งกันและกัน[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
การมัลติเพล็กซ์โดยการแบ่งความถี่ที่สัญญาพาหะตั้งฉากซึ่งกันและกัน[วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
วิสัยทัศน์อาเซียน พ.ศ. 2563 เป็นเอกสารซึ่งที่ประชุมสุดยอดอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2540 ได้ให้ความเห็นชอบ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นและพันธกรณีของอาเซียนที่จะนำประชาชนในภูมิภาคนี้ ไปสู่ (1) การเป็นภูมิภาคที่มีสันติภาพและเสถียรภาพ (2) ความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งด้วยการรวมตัวทางเศรษฐกิจ อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น (3) การเป็นสังคมที่เปิดกว้าง มีความเป็นปึกแผ่นและเอื้ออาทรต่อกัน และ (4) การกระชับความสัมพันธ์กับคู่เจรจาและโลกภายนอก บนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกันและมีความเคารพซึ่งกันและกัน[การทูต]
การตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้[การทูต]
การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ " หมายถึง การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ตั้งแต่ 2 ประเทศขึ้นไป โดยการยกเลิกการเรียกเก็บภาษีศุลกากรและมาตรการอื่น ๆ ที่เป็นอุปสรรคทางการค้าให้แก่กันและกัน รวมทั้งอาจใช้นโยบายต่าง ๆ ร่วมกัน จำแนกได้หลายรูปแบบ เช่น เขตการค้าเสรี สหภาพศุลกากร ตลาดร่วม และสหภาพเศรษฐกิจ "[การทูต]
การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและคณะผู้แทนถาวร ทางการทูต ข้อนี้มีบทบัญญัติไว้ในมาตรา 2 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตว่าการสถาปนาความ สัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัฐ และคณะผู้แทนถาวรทางการทูตมีขึ้นได้ด้วยความยินยอมของกันและกันในเรื่องนี้ รัฐที่มีอธิปไตยโดยสมบูรณ์ทุกรัฐ มีสิทธที่จะส่งตัวแทนทางการทูตไปทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนยังรัฐ อื่นๆ ซึ่งถือกันว่ามี Active right of legation แต่การใช้สิทธิดังกล่าว เป็นเรื่องดุลยพินิจของแต่ละรัฐ เพราะจะบังคับให้รัฐหนึ่งส่งคณะผู้แทนทางทูตประจำ ณ ที่ใดหาได้ไม่ ถ้าหากรัฐนั้นไม่ปรารถนาจะปฏิบัติเช่นนั้น ในทำนองเดียวกันจะมีการบังคับให้รัฐผู้รับต้องรับคณะผู้แทนทางการทูตจากรัฐ ใดหาได้ไม่ ทั้งนี้เพราะเป็นเรื่องดุลยพินิจของรัฐผู้รับเช่นกัน[การทูต]
ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางอาญา[การทูต]
ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง[การทูต]
คือองค์การของรัฐในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1947 สหรัฐอเมริกา และประเทศต่าง ๆ ในละตินอเมริกา ยกเว้นประเทศนิคารากัวและอีเควดอร์ ได้ตกลงทำสนธิสัญญาระหว่างรัฐในอเมริกาด้วยกัน ณ กรุงริโอเดจาเนโร เพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า สนธิสัญญาริโอ ประเทศเหล่านั้นต่างมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือกันอย่างมีประสิทธิผล ถ้าหากรัฐในอเมริกาหนึ่งใดถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธหรือถูกคุกคามจาการรุกราน ต่อมาในเดือนเมษายน ค.ศ. 1948 ได้มีการจัดตั้งองค์การของรัฐอเมริกัน (Organization of American States) ขึ้น ณ กรุงโบโกตา ประเทศโบลิเวีย ประกอบด้วยรัฐต่าง ๆ ในอเมริการวม 21 ประเทศ ยกเว้นประเทศแคนาดา เพื่อดำเนินการให้เป็นผลตามสนธิสัญญาริโอ และจัดวางระบบการรักษาความมั่นคงร่วมกันขึ้น กฎบัตร (Charter) ขององค์การได้มีผลบังคับให้เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1951องค์การโอเอเอสนี้ เป็นองค์การส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่ง ภายในกรอบของสหประชาชาติ ประเทศสมาชิกต่างปฏิญาณร่วมกันที่จะทำการธำรงรักษากระชับสันติภาพ ตลอดจนความมั่นคงในทวีปอเมริกา เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุแห่งความยุ่งยากใด ๆ และต้องการระงับกรณีพิพาทที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกันโดย สันติวิธี อนึ่ง ถ้าหากมีการรุกรานเกิดขึ้นก็จะมีการปฏิบัติการร่วมกัน นอกจากนี้ ยังจะหาทางระงับปัญญาหาทางการเมือง ทางการศาล และทางเศรษฐกิจ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างประเทศสมาชิก พร้อมทั้งจะพยายามร่วมกัน ในการหาหนทางส่งเสริมพัฒนาการทางเศรษฐกิจสังคม และวัฒนธรรม สำนักงานใหญ่ขององค์การโอเอเอสตั้งอยู่ ณ กรุงวอชิงตันดีซี นครหลวงของสหรัฐอเมริกา[การทูต]
คือองค์การส่วนภูมิภาค ในเรื่องนี้ ข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติไว้ว่า ?ไม่มีข้อความใดในกฎบัตรฉบับปัจจุบัน อันจักริดรอนสิทธิประจำตัวในการป้องกันตนเองโดยลำพังหรือโดยร่วมกัน หากการโจมตีโดยกำลังอาวุธบังเกิดแก่สมาชิกของสหประชาชาติ จนกว่าคณะมนตรีความมั่นคงจะได้ดำเนินมาตรการที่จำเป็น เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ มาตรการที่สมาชิกได้ดำเนินไปในการใช้สิทธิป้องกันตนเองนี้ จักต้องรายงานให้คณะมนตรีความมั่นคงทราบโดยทันที และจักไม่กระทบกระเทือนอำนาจและความรับผิดชอบของคณะมนตรีความมั่นคงภายใต้กฎ บัตรฉบับปัจจุบันแต่ทางหนึ่งทางใด ในอันที่จักดำเนินการเช่นที่เห็นจำเป็น เพื่อธำรงไว้หรือสถาปนากลับคืนมา ซึ่งสันติภาพความมั่นคงระหว่างประเทศ?จะเห็นได้ว่า ประเทศต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเดียวกันมักจะทำข้อตกลงกันในส่วนภูมิภาค โดยอาศัยสนธิสัญญา และโดยที่อาศัยอยู่ในเขตภูมิศาสตร์ใกล้เคียงกัน ( Geographical Propinquity ) หรือมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด และมีวัตถุประสงค์ที่จะอำนวยความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเมืององค์การส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่งที่พอจะหยิบยก มาเป็นตัวอย่างได้ คือ องค์การสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEATO) ซึ่งบัดนี้ได้ยุบเลิกไปแล้วเพราะหมดความจำเป็น องค์การรัฐอเมริกัน (Organization of American States-OAS) องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ (NATO) องค์การร่วมมือระหว่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา (ANZUS) เป็นต้น องค์การภูมิภาคเหล่านี้ตั้งขึ้นโดยอาศัยข้อ 51 ของกฎบัตร สหประชาชาติ ซึ่งกล่าวถึงสิทธิของประเทศสมาชิกที่จะทำการป้องกันตนเองโดนลำพังหรือโดย ร่วมกัน หากถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ[การทูต]
ภูมิภาคนิยม " เป็นการรวมกลุ่มของประเทศในภูมิภาคบนพื้นฐานของการตระหนักถึงผลประโยชน์ร่วม กันในการพัฒนาและความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันในด้านต่าง ๆ เพื่อเป็นการระดมพลังในการปกป้องและเสริมสร้างความก้าวหน้าและสันติภาพความ มั่นคงของแต่ละประเทศและของภูมิภาคโดยส่วนรวม - open regionalism ภูมิภาคนิยมแบบเปิด เป็นกระบวนการ รวมตัวและร่วมมือกันในภูมิภาคเพื่อลดอุปสรรคทางการค้าซึ่งกันและกัน โดยไม่มีการกีดกันประเทศภายนอก - closed regionalism ภูมิภาคนิยมแบบปิด เป็นกระบวนการ รวมตัวและร่วมมือกันในภูมิภาคเพื่อลดอุปสรรคทางการค้าซึ่งกันและกัน โดยมีการกีดกันประเทศภายนอก "[การทูต]
ความร่วมมือใต้-ใต้ หรือ ความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนา " เป็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการที่ประเทศกำลังพัฒนา/ ด้อยพัฒนา ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันภายหลังจากที่ความ ช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและวิชาการที่ประเทศที่พัฒนาแล้วได้ให้แก่ประเทศกำลัง พัฒนา/ด้อยพัฒนามีแนวโน้มลดลงและมีการนำเงื่อนไขอื่น ๆ มาผูกกับการให้ความช่วยเหลือมากขึ้น อาทิ ประเด็นสิ่งแวดล้อม โดยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการระหว่างประเทศกำลังพัฒนา/ด้อยพัฒนานี้ จะเป็นทั้งในลักษณะของการให้ (อาทิ ทุนการศึกษา/ทุนฝึกอบรม/ทุนดูงาน/ผู้เชี่ยวชาญ/วัสดุอุปกรณ์) ของประเทศใดประเทศหนึ่งแต่ฝ่ายเดียว อาทิ การให้ความร่วมมือด้านทุนฝึกอบรมระยะสั้นในสาขาการเกษตรของไทยแก่ประเทศใน แอฟริกา และในลักษณะของการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างกัน "[การทูต]
เซลล์ไลน์, เซลล์ที่เลี้ยงให้เติบโตและเพิ่มจำนวนได้อย่างต่อเนื่องอย่างไม่จำกัดภายนอกร่างกายสิ่งมีชีวิต เซลล์ทุกเซลล์ในเซลล์ไลน์เดียวกันมีลักษณะเหมือนกันทุกประการ คือเป็นโคลน (Clone) ของกันและกัน เซลล์ไลน์ต่างชนิดกันจะมีลักษณะบางอย่างที่แตกต่างกัน ซึ่งมีประโยชน์สำหรับการประยุกต์ใช้ในการศึกษาทางอณูชีววิทยา (Molecular Biology)[เทคโนโลยีชีวภาพ]
โค้ง, ติดต่อซึ่งกันและกันเป็นข่ายโค้ง, ส่วนโค้งติดต่อกัน, ทางโค้ง[การแพทย์]
สาเหตุ, การอาศัยซึ่งกันและกัน, สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงต่อโรค[การแพทย์]
กระบวนการตอบโต้ซึ่งกันและกัน[การแพทย์]
การปนเปื้อนซึ่งกันและกัน[การแพทย์]
การอยู่ในสายตาของกันและกัน[การแพทย์]
การได้รับประโยชน์ร่วมกัน, ความสัมพันธ์แบบหนึ่งของสิ่งมีชีวิต 2 ชนิดที่ต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ซึ่งกันและกันในขณะที่มาดำรงชีพร่วมกัน แต่สิ่งมีชีวิตทั้ง 2 ชนิดนั้นไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เช่น นกเอี้ยงเกาะบนหลังควาย  เป็นต้น[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
การสื่อด้วยการสัมผัส, พฤติกรรมทางสังคมของสัตว์โดยใช้การสัมผัสเป็นสื่อบอกความหมายซึ่งกันและกัน[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
พฤติกรรมทางสังคม, พฤติกรรมของสัตว์ที่มีระบบประสาทเจริญดีแสดงออกเพื่อให้เข้าใจความหมายซึ่งกันและกันได้ เมื่ออยู่รวมกันเป็นหมู่พวกหรือสัมพันธ์กัน[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
ระบบพิกัดฉาก, ระบบที่ประกอบด้วยแกนอ้างอิง 2 แกน ตั้งได้ฉากกันซึ่งเรียกว่า แกน X และแกน Y (หรือ ประกอบด้วยแกนอ้างอิง 3 แกน ตั้งได้ฉากซึ่งกันและกัน เรียกแกน X แกน Y และแกน Z)  จุดที่ตัดกันของแกน X แกน Y (และแกน Z) เรียกจุดกำเนิด และ ตำแหน่งของจุดในระนาบ คือ ตำแหน่งของจุด[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
เส้นตั้งฉาก, เส้นตรงสองเส้นตั้งฉากกัน ก็ต่อเมื่อเส้นตรงทั้งสองตัดกันแล้วมุมประชิดจะมีขนาดเท่ากัน ในเรขาคณิตวิเคราะห์เส้นตรงสองเส้นซึ่งไม่อยู่ในแนวดิ่งจะตั้งฉากซึ่งกันและกัน ก็ต่อเมื่อผลคูณของความชันของเส้นตรงทั้งสอง มีค่าเท่ากับ -1[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
การชนกัน, การชน, 1. คอมพิวเตอร์ : เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระบบเครือข่ายที่มีการส่งข้อมูลในจังหวะเวลาและช่องทางเดียวกัน พร้อมกัน ทำให้การรับข้อมูลนั้นมีการตีความผิดพลาด 2. ฟิสิกส์ : การกระทำต่อกันและกันระหว่างวัตถุ อะตอม หรือโมเลกุล เมื่อเคลื่อนที่เข้าใกล้กันหรือกระทบกันในช่[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, คลื่นซึ่งเกิดจากการสั่นของประจุไฟฟ้าหรือเกิดจากประจุไฟฟ้าที่มีความเร่ง คลื่นนี้ประกอบด้วยสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้าที่เปลี่ยนค่าตลอดเวลาและตั้งฉากซึ่งกันและกัน แผ่กระจายออกจากแหล่งกำเนิดคลื่นด้วยความเร็วเท่ากับความเร็วแสง[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
สีเติมเต็ม, สีของแสงคู่ใดคู่หนึ่ง ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วให้ผลเป็นแสงสีขาว  เช่น แสงสีน้ำเงินกับแสงสีเหลือง ต่างก็เป็นแสงสีเติมเต็มของกันและกัน[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
ระบบนิเวศ, ระบบที่กลุ่มสิ่งมีชีวิตอาศัยในแหล่งที่อยู่เดียวกัน  มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน และมีความสัมพันธ์กับแหล่งที่อยู่นั้นด้วย[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
การคมนาคม, การสื่อสาร, การติดต่อถึงกันและกันโดยการขนส่งหรือการส่งข่าวสารด้วยยานพาหนะหรือเครื่องสื่อสารต่าง ๆ[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
กฎแรงดึงดูดระหว่างมวล, กฎเกี่ยวกับแรงดึงดูดระหว่างวัตถุคู่หนึ่ง ๆ ซึ่งกล่าวว่า วัตถุทั้งหลายจะดึงดูดซึ่งกันและกัน โดยขนาดของแรงดึงดูดระหว่างวัตถุคู่หนึ่ง ๆ เป็นสัดส่วนตรงกับมวลของวัตถุทั้งสอง และเป็นสัดส่วนกลับกับระยะทางระหว่างวัตถุทั้งสองนั้นยกกำลังสอง[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
การสำเร็จความใคร่ให้กันและกัน[การแพทย์]
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
(pron)ซึ่งกันและกันSee Also:แก่กันและกันSyn.mutually, reciprocally
(n)การพึ่งพาอาศัยกันSee Also:การอาศัยซึ่งกันและกัน
(n)การมีปฏิกิริยาต่อกันและกันSee Also:การมีผลกระทบซึ่งกันและกันSyn.interaction
(vi)มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันSee Also:เกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน
(vt)มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันSee Also:เกี่ยวข้องซึ่งกันและกันSyn.interconnect
(abbr)โครงข่ายคอมพิวเตอร์เฉพาะบริเวณ เช่น ในอาคารเดียวกัน คอมพิวเตอร์เหล่านาจะทำงานร่วมกันได้ ดึงโปรแกรมหรือข้อมูลจากกันและกันได้ แต่การทำเช่นนี้จะต้องใช้ซอฟแวร์ช่วยด้วย (คำย่อของ local area network)
(adj)ซึ่งกันและกันSee Also:ร่วมกัน, ทั้งสองฝ่ายSyn.common
(pron)ซึ่งกันและกันSyn.each other
(n)การเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกันSyn.concurrence, interaction
Hope Dictionary
(แอ็ค) ตอบรับ รับรู้ ย่อมาจากคำว่า acknowledge ใช้ในความหมายของการรับรู้ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะมีการถ่ายโอนข้อมูลให้แก่กันและกัน เท่ากับเป็นการรับรู้ว่ามีเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ และพร้อมที่จะรับการถ่ายโอนข้อมูลจากกัน
(แอนนะมอร์' ฟิค) adj. ซึ่งมีหรือทำให้เกิดการขยายที่ไม่เท่ากันคามแกนที่ตั้งฉากซึ่งกันและกัน -anamorphism n.
(อะนา' เธอะ) adj., pron. อีก, อีกหนึ่ง, อื่น, อย่างอื่น, คล้ายกัน. -one another ซึ่งกันและกัน. -another time คราวหน้าSyn.substitute, alternative
การประชุมทางไกลด้วยเสียงหมายถึง การประชุมระหว่างคนสองคนหรือมากกว่า ที่อยู่ห่างไกลกันมาก แต่สามารถได้ยินเสียงของกันและกันได้ การส่งเสียงดังกล่าวอาจทำให้ผ่านสายโทรศัพท์หรือสัญญาณดาวเทียมก็ได้
การประชุมทางไกลด้วยเสียงและภาพหมายถึง การประชุมระหว่างคนสองคนหรือมากกว่า ที่อยู่ห่างไกลกันมาก นอกจากจะได้ยินเสียงของกันและกันแล้ว ยังสามารถเห็นภาพประกอบการประชุมได้ด้วย ภาพดังกล่าวน่าจะเป็นภาพกราฟิกส์ในเครื่องคอมพิวเตอร์
(เบฟ'เวิล) { bevelled, bevelling, bevels } n. ส่วนลาดหรือเอียงของเส้นหรือผิวหน้าที่ไม่เป็นมุมฉากซึ่งกันและกัน, เครื่องมือวาดมุมกับส่วนลาดเอียง adj. ลาด, เอียง, มุมเอียง vt. ทำให้เป็นมุมเอียง, เอียงตัด, ลาดตัว vi. เป็นมุมเอียงSee Also:bevelled adj. เอียง
n. ความปรองดองซึ่งกันและกัน
n. ระบบการตรวจสอบควบคุมซึ่งกันและกัน
adj. ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน n. ผู้ช่วย, ผู้ร่วมมือ
ข่ายงานคอมพิวเตอร์เครือข่ายคอมพิวเตอร์หมายถึงระบบการนำเครื่องคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่อง หรือเครื่องปลายทาง (terminal) หลาย ๆ เครื่องมาทำงานร่วมกัน โดยอาจใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องร่วมกัน เช่น สื่อนำข้อมูลเข้า/ออก เครื่องพิมพ์ โมเด็ม (modem) เป็นต้น การทำงานเป็นเครือข่ายจะทำให้ดึงข้อมูลจากกันและกันมาใช้ หรือใช้ร่วมกันได้
ซึ่งกันและกัน
(ฟรี'เมเซินรี) n. การร่วมสงเคราะห์ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน, ความเห็นอกเห็นใจกัน, ความสามัคคี
การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน
abbr. ระหว่าง, 'ท่ามกลาง, ด้วยกัน, ซึ่งกันและกัน
(อินเทอคะมิว'นิเคท) vi. เชื่อมสัมพันธ์กัน, ติดต่อกัน. vi. แลกเปลี่ยนข่าวสารกัน, แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน.See Also:intercommunicability, intercommunicable adj. intercommunication n. intercommunicative adj. intercommunicator n.
ตัวประสานหมายถึง การเชื่อมต่อระหว่าง คอมพิวเตอร์ ที่ถ่ายโอนข้อมูลจากกันและกันได้ แต่มักนำมาใช้ในความหมายของ user interface ที่แปลว่า การติดต่อประสานระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับผู้ใช้ เช่น แป้นพิมพ์, จอภาพ ต่างก็เป็นตัวประสานกับผู้ใช้ทั้งสิ้น
(อินเทอริเลท') vt., vi. (ทำให้) มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันSee Also:interrelation n.
(จาวา, ชวา) 1. ชื่อเกาะชวาของประเทศอินโดนีเซีย 2. เป็นชื่อภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็ม เป็นผู้คิดขึ้น เพื่อใช้เกี่ยวกับการส่งออกผลลัพธ์จากการคำนวน ให้กันและกันเพราะอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน มีลักษณะคล้ายกับ ภาษา C++
(ไล'เคิน) n. พืชผสมระหว่างfungusกับalgaeซึ่งอยู่รวมกันแบบเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
(LAN) โครงข่ายคอมพิวเตอร์เฉพาะบริเวณ, การเชื่อมโยงเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันเป็นข่ายงานเฉพาะบริเวณที่ไม่กว้างขวางนัก : ย่อว่า LAN, ข่ายงานบริเวณเฉพาะที่ ใช้ตัวย่อว่า LAN หมายถึง คอมพิวเตอร์หลาย ๆ ระบบ หรือหลาย ๆ เครื่องที่มีการทำงานเชื่อมกันเป็นเครือข่าย แต่ละเครื่องอยู่ในบริเวรใกล้ ๆ กัน เช่นในอาคารเดียวกันเป็นต้น คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกันเหล่านี้จะทำงานร่วมกันได้ ดึงโปรแกรมหรือข้อมูลจากกันและกันได้ แต่การทำเช่นนี้จะต้องใช้ซอฟทืแวรืช่วยด้วย หากเป็นเครือข่ายเครื่องอยู่ห่างกัน เรียกว่า wan (wide area network ดู wan)
(เมช'ชี) adj. ติดอยู่ในตาข่ายหรือร่างกาย, ซึ่งลงร่องกันและกัน, สอดสานกัน (meshed)
(มิว'ชวล) adj. ซึ่งกันและกัน, ทั้งสองฝ่าย, ร่วมกัน
(เนท'เวิร์ค) n. ตาข่าย, ร่างแห, แผนประสานซึ่งกันและกัน, เครือข่าย การเชื่อมโยงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อการสื่อสารข้อมูลหรือใช้โปรแกรมร่วมกัน, ระบบการนำเครื่องคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่อง หรือเครื่องปลายทาง (terminal) หลาย ๆ เครื่อง มาทำงานร่วมกันโดยอาจใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องร่วมกัน เช่น สื่อนำข้อมูลเข้า/ออก, เครื่องพิมพ์ เป็นต้น
(รีซิพ'ระเคิล) adj. ซึ่งกันและกัน, ต่างตอบแทนกัน n. สิ่งที่เป็นไปทั้งสองฝ่าย, การแลกเปลี่ยนกัน, หมูไปไก่มา, จำนวนเลขที่กลับกันSee Also:reciprocality n.Syn.mutual
(เรสซะพรอส'ซิที) n. ความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน, การแลกเปลี่ยน, การแลกแลกเปลี่ยนผลประโยชน์Syn.mutuality
n. วันที่14กุมภาพันธ์เป็นวันระลึกถึงนักบุญSt. Valentine เป็นวันที่มีการส่งสารแห่งความรักซึ่งกันและกัน
(ซิมไบโอ'ซิส) n. การอยู่รวมกันของสิ่งมีชีวิตสองชนิด (โดยเฉพาะที่ให้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน) .See Also:symbiotic adj. symbiotical adj. pl. symbioses
(วอน) adj. ซีด, ซีดขาว, อมโรค, อ่อนแอ, ไม่มีความสุข, ขาดกำลัง, ขาดสมรรถภาพ, มืด, สลัว vi. vt. ทำให้หรือกลายเป็นซีด แวน <คำอ่าน>ย่อมาจาก wide area network (แปลว่า ข่ายงานบริเวณกว้าง) หมายถึง ข่ายงานคอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อมโยงกันเป็นบริเวณกว้าง (ถ้าเป็นบริเวณแคบ ๆ เรียกว่า LAN หรือ local area network) เช่น ระหว่างจังหวัด ระหว่างประเทศ เป็นต้น คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกันเหล่านี้ จะทำงานร่วมกันได้ ดึงโปรแกรมจากกันและกันได้ การกระทำเช่นนี้จำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์เป็นตัวการสำคัญด้วยตัวหนึ่ง การเชื่อมโยงนั้น อาจใช้สายโทรศัพท์ สายเคเบิล เส้นใยนำแสง (optical fibre) หรือดาวเทียม ก็ได้ดู LAN เปรียบเทียบSee Also:wanly adv. wanness n.Syn.pale, faint, livid
wide area network ข่ายงานบริเวณกว้างใช้ตัวย่อว่า WAN (อ่านว่า แวน) หมายถึง ข่ายงานคอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อมโยงกันเป็นบริเวณกว้าง (ถ้าเป็นบริเวณแคบ ๆ เรียกว่า LAN หรือ local area network) เช่น ระหว่างจังหวัด ระหว่างประเทศ เป็นต้น คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกันเหล่านี้ จะทำงานร่วมกันได้ ดึงโปรแกรมจากกันและกันได้ ซึ่งจำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์เป็นตัวการสำคัญด้วยตัวหนึ่ง การเชื่อมโยงนั้น อาจใช้สายโทรศัพท์ สายเคเบิล เส้นใยนำแสง (optical fibre) หรือดาวเทียม ก็ได้ดู local area network เปรียบเทียบ
Nontri Dictionary
(adj)ซึ่งกันและกัน, ร่วมกัน, ทั้งสองฝ่าย, สัมพันธ์กัน
(adj)กลับส่วนกัน, ทำนองเดียวกัน, ซึ่งกันและกัน
Longdo Unapproved EN-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
เกษตรผสมผสานพึ่งพากัน ปลูกพืช เลี้ยงปลา แบบพึ่งพาซึ่งกันและกัน
(n)เกษตรผสมผสานแบบพึ่งพาซึ่งกันและกัน เช่น ปลูกพืช ให้เป็นอาหารปลา ปลาขี้ใส่ลงในน้ำกลายเป็นปุ๋ยให้กับพืช
(n)ลักษณะของคูสัญญาทางธุรกิจที่คู่สัญญามีผลประโยชน์แยกออกจากกันและไม่ได้อยู่ใต้อำนาจของกันและกัน มักพบในรูป a contract made at arm's length
(prep)ติดต่อซึ่งกันและกัน
บุคคลที่มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
Longdo Approved JP-TH
[たがい, tagai]ซึ่งกันและกัน
Longdo Unapproved JP-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
抱き合う
[だきあう, dakiau](vi)โอบกอดซึ่งกันและกัน
Saikam JP-TH-EN Dictionary
助け合う
[たすけあう, tasukeau] TH: ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
助け合う
[たすけあう, tasukeau] EN: to help each other
Longdo Approved DE-TH
ยิ่ง (ใช้บ่งว่าของสองสิ่งขึ้นอยู่ซึ่งกันและกัน เช่น ถ้าสิ่งหนึ่งมากขึ้น อีกสิ่งน้อยลง ใช้คู่กับ umso หรือ desto) เช่น Je kälter es ist, desto mehr Gas für die Heizung verbraucht man. ยิ่งอากาศหนาวเท่าไหร่ เราก็ยิ่งใช้ก๊าซสำหรับเครื่องทำความร้อนมากขึ้นเท่านั้น
Longdo Unapproved DE-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ซึ่งกันและกัน, แก่กันและกัน
เพิ่มคำศัพท์
add
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ