ว. แสดงสีหน้าเจื่อนเพราะรู้สึกผิดคาดหรือทำอะไรผิดพลาดไป เช่น ทำหน้าเก้อ, รู้สึกผิดคาดผิดหวัง เช่น ไปเก้อ คอยเก้อ, ผิดแผกไปจากผู้อื่นเขาหรือแต่งตัวรอจะไปงานแล้วไม่ได้ไป เช่น แต่งตัวเก้อ
กระดาก, อาย, เช่น ทำแก้เก้อ
ขัดเขินหรือค้างอยู่เพราะไม่เข้ากัน ไม่รับกัน เช่น รำเก้อ เรือนหลังนี้ทำไม่ได้ส่วนดูเก้อ ข้อความที่เขียนไว้เก้อไม่รับกัน.
ว. อาการที่วางหน้าไม่สนิท, รู้สึกกระดากอาย.
ก. ทำหรือพูดกลบเกลื่อนความกระดากอายที่เกิดจากความพลั้งพลาดแล้วถูกจับได้.
ก. อาการที่ยิ้มให้เขาแล้วเขาไม่ยิ้มตอบ ทำให้รู้สึกเก้อเขิน.
ก. อาการที่รู้สึกเก้อหรือขวยแล้วไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ฝืนยิ้มออกมา.
ว. มีสีหน้าเจื่อนเพราะรู้สึกผิดคาดหรือทำอะไรผิดพลาดไป เช่น เด็กตีหน้าเก้อเมื่อถูกจับได้ว่าทำความผิด.
ทำให้หาย เช่น แก้เก้อ แก้ขวย แก้จน แก้โรค
ว. วางหน้าไม่สนิทมีอาการเก้อเขิน.
ชื่อกลบทอย่างหนึ่ง บังคับให้ซ้ำคำ ๒ คำต้นในวรรค โดยคำที่ซ้ำเปลี่ยนไปทุกวรรค เช่น กุ๋ยกุ๋ยหน้าไม่เก้อละเมอหึง ฟังฟังก็เหมือนแกล้งแพร่งความอึง คิดคิดและให้ขึ้งขุ่นเคืองใจ (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ).
(-แหฺย) ก. ยิ้มอย่างเก้ออาย.
ก. ตีหน้า เช่น วางหน้าไม่สนิท วางหน้าเก้อ ๆ.
อ. คำที่เปล่งออกมาเมื่อรู้สึกตกใจ เก้อเขิน หรือไม่พอใจ เป็นต้น (โดยมากเป็นเสียงผู้หญิง) เช่น วุ้ย น่ารำคาญ.
(สับพะยอก) ก. หยอกเย้า เช่น ผู้ใหญ่สัพยอกเด็กว่าเป็นแม่สายบัวแต่งตัวเก้อ.
ว. วางหน้าไม่สนิท มีอาการเก้อเขิน.
(-แหฺง) น. หน้าแสดงความเก้อหรือจนปัญญา.
(แหฺง) ว. อาการของหน้าที่แสดงความเก้อหรือจนปัญญา ในคำว่า หน้าแหง
โดยปริยายหมายความว่า เก้อ, ไม่สมปรารถนา.
(แหฺย) ว. อาการที่ไม่สู้ใครหรือเก้ออาย.
อ. คำที่เปล่งออกมาเพื่อเยาะให้เก้อ, เฮ้ว ก็ว่า.
อ. คำที่เปล่งออกมาเพื่อเยาะให้เก้อ, เอ๊ว ก็ว่า.