ว. เคย เช่น ไป่ห่อนเหลือคิดข้า คิดผิด แม่นา (ลอ), ในคำประพันธ์บางคราวใช้แทน ไม่ เช่น สาลิกามาตามคู่ ชมกันอยู่สู่สมสมร แต่พี่นี้อาวรณ์ ห่อนเห็นเจ้าเศร้าใจครวญ (เห่ชมนก).
(กฺลาย) ก. เปลี่ยนไป, แปรปรวนไป, เช่น หน้าหนาวกลายเป็นหน้าร้อน, เป็นอื่นไป, แปลงไป, เช่น ศรกลายเป็นทิพย์กระยาหาร เปรี้ยวหวานตกลงตรงหน้า (รามเกียรติ์ ร. ๒), (โบ; กลอน) ใช้ในความว่า กราย ก็มี เช่น ไปกลายบ๋านชองตนกดี (จารึกสยาม), จักเจริญสวัสดิภาพศักดิศรี ศัตรูไพรี บห่อนจะใกล้กลายตน (โชค–โบราณ).
(เกฺลียง) น. หญ้า เช่น เกลียงอ่อนห่อนโคลด ละไว้ (โลกนิติ).
ก. รู้, ทราบ, แจ้ง, จำได้, เช่น รู้จัก, ข้อยคูดนูแนบนิทรา รมย์ร่วมรถพาหนห่อนจักสึกสมประดี (สรรพสิทธิ์).
ก. คิดหวั่น, คิดหวาดหวั่น, เช่น ใจปราชญ์ฤๅเฟื่องฟื้นห่อนได้จินต์จล (โลกนิติ).
ว. อาการที่ตี ฟัน หรือทุบเป็นต้นแต่เบา ๆ เช่น ตีเบาะ ๆ, อย่างน้อย เช่น กระเป๋ายี่ห้อนี้เบาะ ๆ ก็เหยียบหมื่น.
เครื่องหมาย เช่น สินค้ายี่ห้อนี้รับประกันได้
ทีเดียว, ฉะนี้, (มักใช้ในที่สุดประโยคหรือข้อความ หรือคำลงท้ายคำประพันธ์) เช่น ยมพะบาลจับผู้หญิงผู้ชายจำให้ขึ้นจำให้ลงหากันดั่งนั้น หลายคาบหลายคราลำบากนักหนาแล (ไตรภูมิ), ห่อนข้าคืนสม แม่แล (ตะเลงพ่าย).
ว. ล่อนจ้อน, เปล่าเปลือย, เช่น เดินเปลือยกายโล่งโต้ง ถอนขนห่านเสียโล้งโต้ง ย่านซื่อซื่อว่าบ้าน ย่านยาว เหนแต่ชุมนุมลาว ล่อนโล้ง ลากอวนส่วนหนุ่มสาว เสียงแซ่ แม่เอย เท่าแก่แลโล้งโต้ง ต่างหล้อนห่อนอาย (นิ. สุพรรณ), โล่งโจ้ง ก็ว่า.
น. ชื่อกับข้าวชนิดหนึ่ง ใช้นํ้าพริกกับเนื้อปลาเป็นต้นกวนกับนํ้ากะทิมีผักรองแล้วห่อนึ่ง.