ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร[เศรษฐศาสตร์]
ความตกลงทั่วไปว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีศุลกากรและการค้า (องค์การ)[TU Subject Heading]
ความตกลงทั่วไปว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีศุลกากรและการค้า (ค.ศ.1947)[TU Subject Heading]
สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร[TU Subject Heading]
ข้อตกลงทั่วไปว่าด้วยอัตราภาษีศุลกากรและการ ค้า(แกตต์), Example:สนธิสัญญาหลายฝ่ายว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเริ่มดำเนินการเมื่อ พ.ศ. 2491 โดยมีสมาชิกที่เริ่มก่อตั้ง 23 ประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้การค้าของโลกดำเนินไปได้โดยเสรีและตั้งอยู่ บนพื้นฐานที่มั่นคง อันจะเป็นการส่งเสริมความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาและความกินดีอยู่ดีของประชากรทั่วโลก บทบาทที่สำคัญของแกตต์คือ 1) บทบาทในการลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศทางด้านภาษีศุลกากรและมิใช่ภาษี ศุลกากร โดยได้จัดให้มีการเจรจาการค้าหลายฝ่ายเพื่อลดอัตราภาษีศุลกากรสำหรับสินค้า นำเข้า และอุปสรรคทางการค้าอื่นๆ ลงเป็นรอบๆ ซึ่งผ่านมาแล้วรวมทั้งสิน 8 รอบ รอบสุดท้ายจบลงที่ปลาย พ.ศ. 2538 รู้จักกันโดยทั่วไปว่า การเจรจารอบอุรุกวัย (ดู Uruguay Round) 2) บทบาทในการออกกฎเกณฑ์ข้อบังคับสำหรับการค้าระหว่างประเทศ 3) บทบาทในการเป็นเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น การหารือ การเจรจาไกล่เกลี่ยและยุติข้อพิพาท แกตต์ได้รับการยกฐานะจากเดิม ซึ่งเป็นเพียงข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศให้เป็นองค์การการค้าโลก (ดู WTO) ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกกับธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศหลังเสร็จสิ้นการเจรจารอบอุรุกวัย เมื่อ พ.ศ. 2536 [สิ่งแวดล้อม]
ภาษีศุลกากร, Example:อัตราภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บกับสินค้าส่งออก และนำเข้า โดยปกติจะหมายถึงรายการหรือตารางรายการสินค้ากับอัตราภาษี ที่ต้องจ่ายให้กับรัฐบาล เมื่อมีการนำเข้าหรือส่งออกสินค้า [สิ่งแวดล้อม]
ระบบศิทธิประโยชน์ทั่วไปทางภาษีศุลกากร, Example:แนวคิดที่เกิดจากการประชุมสหประชาชาติว่าด้วย การค้าและการพัฒนา (ดู UNCTAD) ครั้งที่ 2 ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อ พ.ศ. 2511 ที่มีมติให้มีโครงการให้มีสิทธิประโยชน์เป็นพิเศษแก่สินค้าออกที่สำคัญของ ประเทศกำลังพัฒนาเพื่อเพิ่มรายได้จากการส่งออกของประเทศกำลังพัฒนา และเร่งรัดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศเหล่านั้นโดยประเทศพัฒนาแล้ว จะลดหรือยกเว้นภาษีศุลกากรขาเข้าสำหรับสินค้าออกที่สำคัญบางชนิดของประเทศ กำลังพัฒนาจำนวนหนึ่ง หลักการนี้ประเทศที่พัฒนาแล้วจะให้กับประเทศกำลังพัฒนาทุกประเทศโดยทั่วไป มิได้กำหนดเฉพาะเจาะจงเพียงบางประเทศดังที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ [สิ่งแวดล้อม]
เขตการค้าเสรีอาเซียน จัดตั้งขึ้นตามมติของที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 4 เพื่อส่งเสริม การค้าเสรีระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน โดยให้มีการลดอัตราภาษีศุลกากรที่เท่ากันตามระยะเวลาที่กำหนด เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 โดยให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเดิม 6 ประเทศ ลดอัตราภาษีศุลกากรให้เหลือร้อยละ 0-5 ภายในปี พ.ศ. 2546 และมีระยะเวลาผ่อนผันสำหรับประเทศสมาชิกใหม่อีก 4 ประเทศ ตามช่วงเวลาก่อน/หลังที่เข้าเป็นสมาชิกอาเซียน[การทูต]
โครงการความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมอาเซียน เป็นมาตรการเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัตถุดิบการผลิตในรูปสินค้าสำเร็จ รูป/กึ่งสำเร็จรูป เพื่อใช้ในการผลิตทางอุตสาหกรรมระหว่างบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศอาเซียน อันจะเป็นการสนับสนุนการแบ่งกันผลิตและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของภาค อุตสาหกรรมในอาเซียน โดยจะต้องเป็นความร่วมมือตั้งแต่สองประเทศขึ้นไป และมีคนชาติประเทศสมาชิกอาเซียนมีหุ้นส่วนอยู่ในแต่ละบริษัทอย่างน้อยร้อยละ 30 สินค้าที่ได้รับอนุมัติให้อยู่ในโครงการจะได้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรใน อัตราร้อยละ 0-5 ในทันที โดยไม่ต้องรอให้เขตการค้าเสรีอาเซียนมีผลบังคับใช้[การทูต]
คณะกรรมการประสานงานการดำเนินงานตามพันธกรณีภายใต้ CEPT ของ AFTA เป็นกรอบการหารือในระดับผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านการคลัง เพื่อ ติดตามและประสานงานการดำเนินการตามพันธกรณีการลดอัตราภาษีศุลกากรที่เท่ากัน ของเขตการค้าเสรีอาเซียน ซึ่งปกติจัดขึ้นประมาณปีละ 3-4 ครั้ง[การทูต]
อัตราภาษีพิเศษที่เท่ากัน " เป็นกลไกหลักในการลดอัตราภาษีศุลกากรระหว่างกันภายใต้กรอบ การจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียนให้อยู่ในระดับร้อยละ 0-5 โดย ครอบคลุมสินค้าทุกชนิด "[การทูต]
การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ " หมายถึง การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ตั้งแต่ 2 ประเทศขึ้นไป โดยการยกเลิกการเรียกเก็บภาษีศุลกากรและมาตรการอื่น ๆ ที่เป็นอุปสรรคทางการค้าให้แก่กันและกัน รวมทั้งอาจใช้นโยบายต่าง ๆ ร่วมกัน จำแนกได้หลายรูปแบบ เช่น เขตการค้าเสรี สหภาพศุลกากร ตลาดร่วม และสหภาพเศรษฐกิจ "[การทูต]
เขตการค้าเสรี การรวมกลุ่มเศรษฐกิจโดยมีเป้าหมายเพื่อลดภาษีศุลกากร ระหว่างกันภายในกลุ่มลงให้เหลือน้อยที่สุด หรือเป็น 0% และใช้อัตราภาษีปกติที่สูงกว่ากับประเทศนอกกลุ่ม[การทูต]
รายการยกเว้นทั่วไป สำหรับสินค้าบางรายการที่ไม่ต้องนำมาอยู่ในรายการลดอัตราภาษีศุลกากรของเขต การค้าเสรีอาเซียนตลอดไป ได้แก่ สินค้าที่มีผลต่อความมั่นคง ศีลธรรม ชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ สัตว์และพืช ศิลปะและโบราณวัตถุ[การทูต]
ความตกลงต่าง ๆ เกี่ยวกับพิกัดอัตราภาษีศุลกากร และการค้า โดยจุดประสงค์ที่จะให้ประเทศทั้งหลายตัดทอนข้อกีดขวาง ทางการค้าระหว่างกันให้น้อยลง การเจรจาทำความตกลงเหล่านี้ได้กระทำผ่านทางองค์การการค้าระหว่างประเทศ[การทูต]
ระบบการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป " มีที่มาจากการประชุมว่าด้วยการค้าและการพัฒนาขององค์การ สหประชาชาติ (UNCTAD) เมื่อปี พ.ศ. 2510 ภายใต้ระบบนี้ประเทศที่พัฒนาแล้วจะเปิดโอกาสให้ประเทศกำลังพัฒนาสามารถส่ง สินค้าไปขายแข่งขันในประเทศพัฒนา โดยการยกเว้นหรือลดหย่อนอัตราภาษีขาเข้าให้แก่สินค้าที่อยู่ในข่ายได้รับ สิทธิพิเศษ โดยไม่เรียกร้อง ผลประโยชน์ตอบแทนใด ๆ "[การทูต]
รายการในบัญชี " หมายถึง รายการสินค้าที่อยู่ในแผนความตกลงในแต่ละกรณี อาทิ รายการสินค้าในบัญชีลดอัตราภาษีศุลกากรให้เหลือร้อยละ 0-5 ของเขตการค้าเสรีอาเซียน "[การทูต]
องค์การการค้าระหว่างประเทศ มีหน้าที่ดำเนินงานเกี่ยวกับความตกลงทั้วไปว่าด้วยภาษี ศุลกากรและการค้าระหว่างประเทศ วัตถุประสงค์สำคัญขององค์การคือ ต้องการขยายการค้าของโลกให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยให้มีมาตรฐานการครองชีพสูงขึ้น ขจัดการกีดกันการค้า หรือพยายามลดให้เหลือน้อยที่สุด เช่น การตั้งข้อจำกัดโควต้า เป็นต้น ตัดทอนภาษีศุลกากรทั่วโลกให้ต่ำลง ดูแลตลาดวัตถุดิบให้เป็นไปอย่างยุติธรรม และพยายามควบคุมด้านการค้าของการร่วมมือกันทางธุรกิจ (Cartels) จุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดคือ ป้องกันมิให้กลับไปสู่การดำเนินการทางการค้าที่ตัดราคากันอย่างหั่นแหลก เหมือนเมื่อระยะปี ค.ศ. 1930 ถึง 1939 นั่นเองอย่างไรก็ดี ตั้งแต่มีการปฏิบัติใช้ความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้ามาจนบัด นี้ ก็ได้รับผลสำเร็จตามแนววัตถุประสงค์อย่างมากมาย เช่น มีประเทศสมาชิกหลายสิบประเทศลดภาษีศุลกากรและรักษาระดับภาษีอย่างมีเสรีภาพ แต่ละปี ประเทศสมาชิกจะได้ยินได้ฟังเสียงร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติทางการค้า ละเมิดกฎเกณฑ์ของความตกลงทั่วไป แล้วเสียงร้องเรียนดังกล่าวก็ได้รับการแก้ไขจนเป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย เป็นต้น นอกจากนี้ ได้มีการปรับปรุงและดัดแปลงข้อกำหนดของความตกลงทั่วไป ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา[การทูต]