premium
75 ผลลัพธ์ สำหรับ 

*การสะสม*

 ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น: การสะสม, -การสะสม-
Volubilis Dictionary (TH-EN-FR)
[kān sasom] (n) EN: accumulation   FR: accumulation [ f ] ; collection [ f ]
[kān sasom ngoenthun] (n, exp) EN: capital accumulation
[kān sasom thun] (n, exp) EN: capital formation
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
โดยปริยายหมายความว่าลึกซึ้งแจ่มแจ้งจากการสะสมความรู้หรือความคิด เช่น เขาศึกษาประวัติศาสตร์ไทยอย่างจริงจังจนความรู้ตกผลึก, งวดเข้า เช่น คดีนี้จวนจะตกผลึก.
(ทะโนปะไจ) น. การสะสมทรัพย์.
น. การสะสม, การรวบรวม.
น. การสะสม, การรวบรวม
น. หินที่เกิดจากการทับถมของตะกอนที่เกิดจากหินอัคนีหรือหินแปรที่ผุพังแตกสลายหรือการตกตะกอนทางเคมีรวมทั้งตะกอนที่เกิดจากการสะสมของซากดึกดำบรรพ์ มีลักษณะของการเรียงตัวเป็นชั้น ๆ, หินตะกอน ก็เรียก.
น. หินที่เกิดจากการทับถมของตะกอนที่เกิดจากหินอัคนีหรือหินแปรที่ผุพังแตกสลายหรือการตกตะกอนทางเคมีรวมทั้งตะกอนที่เกิดจากการสะสมของซากดึกดำบรรพ์ มีลักษณะการเรียงตัวเป็นชั้น ๆ, หินชั้น ก็เรียก.
ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน
๑. ตัวสะสมแบบถังกรวด๒. การสะสมแบบถังกรวด[พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
๑. ตัวสะสมแบบเปลี่ยนสถานะ๒. การสะสมแบบเปลี่ยนสถานะ[พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
๑. ตัวสะสมแบบถังอนุภาค๒. การสะสมแบบถังอนุภาค[พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
การสะสมทรัพย์สมัยเริ่มแรก[รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
การสะสมทรัพย์แท้จริง[ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
๑. ตัวสะสมพลังงานอุณหภูมิต่ำ๒. การสะสมพลังงานอุณหภูมิต่ำ[พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
๑. ตัวสะสมความร้อนแฝง๒. การสะสมความร้อนแฝง[พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
๑. ตัวสะสมในสถานะของแข็ง๒. การสะสมในสถานะของแข็ง[พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
๑. ตัวสะสม๒. การสะสม[พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
๑. การงอกติดกัน๒. การงอกโดยสะสม๓. การสะสม[แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
การสะสม[นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
การสะสมตัว[ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
๑. การแทนที่ด้วยปูน๒. การสะสมสารคาร์บอเนต[ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
การสะสมของแร่ในชั้นดิน[ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖]
คลังศัพท์ไทย (สวทช.)
การสะสมทางชีววิทยา[วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
อัตราการสะสม[เศรษฐศาสตร์]
สารพอยซันเสื่อมสภาพได้, สารดูดกลืนนิวตรอน เช่น โบรอน ที่ผสมไว้ในแท่งเชื้อเพลิงหรือเปลือกแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์เพื่อลดการเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ในระยะแรก ซึ่งมีปริมาณเชื้อเพลิงมาก หลังจากใช้งานไประยะหนึ่งจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสารที่ไม่ดูดกลืนนิวตรอน เป็นการชดเชยผลจากเชื้อเพลิงที่ถูกใช้ไป และการสะสมตัวของผลผลิตการแบ่งแยกนิวเคลียสที่ดูดกลืนนิวตรอนที่เกิดขึ้นในเชื้อเพลิง ทำให้อายุการใช้งานของเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ยาวนานขึ้น[นิวเคลียร์]
การสะสมหนังสือ[TU Subject Heading]
การสะสมคาร์บอน[TU Subject Heading]
นักสะสมและการสะสม[TU Subject Heading]
ซองวันแรกจำหน่าย (การสะสมไปรษณียากร)[TU Subject Heading]
การสะสมไปรษณียากร[TU Subject Heading]
แหล่งแร่กำเนิดจากการสะสมExample:แหล่งแร่ที่เกิดจากการสะสมนั้นเกิดขึ้นแบบ เดียว กับการเกิดหินชั้นนั่นเอง อาจจะโดยกรรมวิธีทางเคมี คือตกผลึกจากสารละลาย หรือโดยกรรมวิธีทางชีวะ คือการสะสมตัวของอินทรีย์สาร หรือโดยการระเหย แหล่งแร่ มักจะเกิดเป็นชั้นหรือเป็นส่วนในชั้น หรือไม่ก็กระจายอยู่ในชั้นใดชั้นหนึ่ง แหล่งแร่สะสม ได้แก่ แร่เหล็ก แมงกานีส ถ่านหิน ยิปซัม ดินเบา แอนไฮไดรท์ หินเกลือ เป็นต้น [สิ่งแวดล้อม]
กระบวนการสะสมเกลือในดิน[สิ่งแวดล้อม]
การสะสมในสิ่งมีชีวิตExample:ขบวนการที่ปริมาณสารในสิ่งมีชีวิต หรือส่วนของสิ่งมีชีวิตเพิ่มขึ้นตามระยะเวลา การสะสมของสารเคมีในสิ่งมีชีวิตจะมีผลต่อระบบนิเวศน์ โดยเฉพาะสารเคมี ประเภท hydrophobic chemical ซึ่งสามารถละลายแบ่งส่วน (partitioned) ในไขมัน และเนื้อเยื่อ ไขมัน (lipid tissue) และประเภทสารอนนินทรีย์บางชนิดซึ่งสามารถละลายแบ่งส่วนในไขกระดูก การบ่งบอกถึงการสะสมของสารเคมีในสิ่งมีชีวิตนิยมใช้ว่า bioaccumulation หรือที่เรียกว่า ratio bioconcentration (BCF) วึ่งหมายถึงสัดส่วนความเข้มข้นของสารเคมีในสิ่งมีชีวิต หรือเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิตต่อความเข้มข้นในสิ่งแวดล้อมที่เป็นตัวกลาง (ซึ่งปกติเป็นน้ำ) ค่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการประเมินผลกระทบของสารเคมีในสิ่งมีชีวิตที่เป็น ตัวน้ำ ถ้าค่าสูงหมายถึงมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาก [สิ่งแวดล้อม]
การสะสมของแร่ในชั้นดินExample:การสะสมแร่ เกลือ และอนุภาคของดินใน สภาพสารละลายหรือแขวนลอย ซึ่งถูกเคลื่อนย้ายจาก ดินชั้นบนด้วยกระบวนการซึมชะ ชั้นดินที่มีการสะสมของแร่นี้ เรียกว่า ชั้นดินชั้นบี (B-horizon) [สิ่งแวดล้อม]
การสะสมทางชีวภาพExample:การที่สิ่งมีชีวิตได้รับสารเข้าตัวมากกว่าที่ ถ่ายออก [สิ่งแวดล้อม]
นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics)[การทูต]
ตัวสะสม การสะสม[การทูต]
การสะสมหนังสือExample:Book collecting หมายถึง การสะสมหนังสือ เป็นกระบวนการของการจัดหาหนังสือขึ้นอยู่กับเนื้อหา ประวัติ ความเก่า ความหายาก ความสวยงาม หรือคุณลักษณะอื่น ๆ ของหนังสือที่นักสะสมหนังสือกำหนด ส่วนนักสะสมหนังสือ คือ คนที่ได้หนังสือมาเพื่อความสุขในการเป็นเจ้าของ อาจเป็นการลงทุน หรือด้วยความตั้งใจที่จะยกมรดกให้กับห้องสมุดหรือสถาบันอื่น ๆ การสะสมหนังสือเป็นการเก็บรวบรวมหนังสือรวมทั้งการแสวงหา การได้รับมา การจัดระบบ การทำบัตรรายการ การแสดง และการเก็บรักษาหนังสืออะไรก็ตามที่เป็นที่สนใจของนักสะสมแต่ละคน หนังสือที่สะสมมีทั้งหนังสือใหม่และหนังสือใช้แล้ว นักสะสมหนังสืออาจสะสมหนังสือของนักเขียนที่ชื่นชอบ หนังสือพิมพ์ครั้งที่ 1 ของนักเขียนสมัยใหม่หรือหนังสือในเรื่องที่กำหนด โดยทั่วไปราคาหนังสือขึ้นอยู่กับความต้องการหนังสือ จำนวนฉบับที่มีและสภาพของตัวเล่ม การสะสมหนังสือทำได้ง่ายแม้บางครั้งหนังสือที่สะสมบางเล่มจะมีราคาแพง <p> แหล่งที่ขายหนังสือสะสมมีทั้งร้านขายหนังสือทั่วไป ร้านขายหนังสือเก่าและร้านหนังสือออนไลน์ โดยหนังสือใหม่หาซื้อได้จากร้านขายหนังสือทั่วไปและร้านหนังสือออนไลน์ เช่น Abebooks, Alibris และ Amazon เป็นต้น โดยผ่านทางเว็บไซต์ของร้านและเก็บค่าคอมมิชชั่น ซึ่งจะมีทั้งหนังสือที่ไม่มีการตีพิมพ์อีก หนังสือเก่า หนังสือหายากที่สามารถหาซื้อมาสะสมได้ ส่วนร้านขายหนังสือเก่าอาจมีหนังสือขายให้สะสมได้เล็กน้อย นอกจากนั้นบริษัทประมูลส่วนใหญ่จะขายหนังสือสะสมที่มีคุณภาพ [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
สารเคมีที่เติมลงไปในยางเพื่อช่วยลดการสะสมของประจุไฟฟ้าบนผิวยาง เช่น เขม่าดำเกรดที่นำไฟฟ้าได้ดี (Conductive black) เกลือของแอมโมเนียม เป็นต้น[เทคโนโลยียาง]
อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ยางเนื่องจากการสะสมความร้อนของ ผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่และหนาที่ใช้งานในเชิงพลวัต (dynamic)[เทคโนโลยียาง]
ปริมาณสลัดจ์หรือปริมาณตม หมายถึง สิ่งเจือปนที่ไม่ใช่ยางซึ่งจะตกตะกอนลงก้นภาชนะเมื่อมีการปั่นหรือกวนน้ำยาง สิ่งเจือปนเหล่านี้ประกอบด้วย ฝุ่นละออง ดิน ทราย เปลือกไม้ และแมกนีเซียมแอมโมเนียมฟอสเฟต ถ้าปริมาณสลัดจ์มีค่าสูง อาจเกิดการสะสมของปริมาณตมอย่างรวดเร็วระหว่างกระบวนการผลิต ทำให้น้ำยางเสียสภาพและไม่สามารถใช้งานต่อไปได้[เทคโนโลยียาง]
การสะสม, การรวมตัว[การแพทย์]
การสะสมทุน[การแพทย์]
การสะสมของสารทองแดง[การแพทย์]
การสะสมของยา[การแพทย์]
การสะสมหิมะ[อุตุนิยมวิทยา]
เนินตะกอน(น้ำพา)รูปพัด, เนินตะกอนที่เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนในบริเวณที่มีการเปลี่ยนระดับของทางน้ำจากหุบเขาชันลงสู่ที่ราบ ทำให้ความเร็วของกระแสน้ำลดลงจนไม่สามารถนำพาตะกอนบางส่วนต่อไปได้ ตะกอนจึงตกสะสมในลักษณะที่แยกกระจายออกไปรอบข้างเป็นรูปพัด[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
การสะสมตัวของตะกอน, การสะสมทับถม, การสะสมตะกอนของหิน ทราย หรือสารประกอบเคมีเป็นเวลานาน  อาจทำให้เกิดเป็นชั้นหินหรือชั้นแร่[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
หินปูน, หินตะกอนชนิดหนึ่งเกิดจากการสะสมตัวของโคลน ตะกอนพวกแคลไซต์หรือแคลเซียมคาร์บอเนต  ซึ่งทับถมกันอยู่เป็นเวลานาน ๆ[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
โรคเก๊าท์; โรคเกาต์; โรคปวดตามข้อ; เก๊า; โรคเกาท์; โรคเก๊า; โรคบวมตามข้อ; โรคข้ออักเสบชนิดเกิดจากการสะสมผลึกเกลือของกรด; เกาท์; เกาต์, โรค; เกาท์, โรค; โรคไขข้ออักเสบ[การแพทย์]
NECTEC Lexitron Dictionary EN-TH
(n)การเก็บรวบรวมSee Also:การสะสมSyn.assemblage, compilation, amassment, corpus, gathering
(vt)ได้รับความน่าเชื่อถือจากการสะสมชั่วโมงทำงานในเรือหรือเครื่องบิน
(adj)ซึ่งเกี่ยวกับการสะสมเหรียญ
(adj)การศึกษาเกี่ยวกับเหรียญSee Also:การสะสมเหรียญหรือเงินเหรียญ
(n)การสะสมแสตมป์
Hope Dictionary
(แอธธะโรสเคลอโร'ซิส) n. arteriosclerosis แบบหนึ่งที่มีการสะสมไขมันที่ผิวหน้าและหลอดโลหิต. -atherosclerotic adj. (a form of arteriosclerosis)
(คะเลค'เชิน) n. การสะสม, การรวบรวม, เงินสะสม, สิ่งที่เก็บรวบรวมไว้, การจัดเก็บ, การเรียกเก็บ, เงินที่เรี่ยไรมา
(เดบ'บรี, เด'บรี, ดะบรี') n. ซากสลักหักพัง, เศษ, ขยะ, การสะสมของเศษหิน, ดินทรายสะสมที่ถูกพัดมาจากที่สูงSyn.rubble
(เดพพะซิช'เชิน) n. การปลดออกจากตำแหน่งหรืองาน, การให้ออกจากราชสมบัติ, สิ่งที่ถูกปลด, การให้การเป็นพยาน, หนังสือให้การเป็นพยาน, การทับถม, การสะสม, การนอนก้นของตะกอน, การฝากเงิน
n. การสะสมรายชื่อจานเสียง
(ดรอพ'ซี) n. ภาวะการสะสมน้ำอย่างผิดปกติในเนื้อเยื่อโพรงของร่างกาย, โรคบวมน้ำ.See Also:dropsied adj. ดูdropsy dropsical adj. ดูdropsy
(อิวลิว'เวียม) n. ชั้นดินที่เกิดจากการสะสมของเศษหินที่พัด มากอง -pl. eluvium
(แฟท'ที) adj. ซึ่งประกอบด้วยไขมัน, ซึ่งมีการสะสมของไขมันมากเกินไป.See Also:fattily adv. fattiness
(คีโท'ซิส) n. ภาวะการสะสมketone bodies ในร่างกาย.See Also:ketotic adj.
(ฟิเลท'ลี) n. การสะสมแสตมป์, การเล่นดวงตราไปรษณีย์See Also:philatical adj. philatically adv. philatelist n.
Nontri Dictionary
(n)ผู้สนับสนุน, การค้ำจุน, การสะสม
(n)การเตรียมตัว, การสะสม, การรวมพล, การพัฒนา, การเสริม
(n)การเก็บ, การสะสม, การรวบรวม, เงินสะสม
(n)การฝากเงิน, การสะสม, การปลดออกจากตำแหน่ง, การทับถม
(n)ของที่สะสมไว้, กอง, บึก, การสะสม, การกักตุน
(n)การสะสมแสตมป์, การเล่นดวงตราไปรษณีย์
Longdo Unapproved EN-TH**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
เงื่อนไขที่เจ็บปวดและอันตรายที่เกิดจากการสะสมของความดันจากเลือดออกภายในหรือบวมของเนื้อเยื่อ ความดันลดการไหลเวียนของเลือด, กีดกันกล้ามเนื้อและเส้นประสาทของการบํารุงที่จําเป็น.อาการอาจรวมถึงอาการปวดอย่างรุนแรงความรู้สึกของหมุดและเข็มและความอ่อนแอของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ สําหรับกรณีที่รุนแรงของโรคช่องจําเป็นต้องผ่าตัดฉุกเฉิน
เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการสะสมที่ผิดปกติของเซลล์ที่อักเสบ (ชนิดของเนื้องอกที่ประกอบด้วยเนื้อเยื่อเม็ด) ที่สามารถสร้างเป็นก้อนภายในอวัยวะของร่างกาย
(n)หินถ้ำ หินที่เกิดภายในถ้ำในรูปลักษณะต่างๆ มีประกายระยิบระยับจากการสะสมแร่ เช่น หินงอก หินย้อย
เพิ่มคำศัพท์
add
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ