ปริมาณของน้ำมันดิบทั้งหมดที่มีอยู่ในแหล่งกักเก็บใต้ดิน, Example:เป็นตัวเลขที่มากกว่าตัวเลขปริมาณสำรอง (reserves) เพราะปริมาณน้ำมันที่มีอยู่นั้นไม่สามารถที่จะนำขึ้นมาได้หมด[ปิโตรเลี่ยม]
ชั้นหินที่ไม่ยอมให้ของเหลวหรือก๊าซไหลผ่าน, ชั้นหินที่ไม่ยอมให้ของเหลวหรือก๊าซไหลผ่าน ปิดทับอยู่ด้านบนของชั้นหินกักเก็บปิโตรเลียม และปิดกั้นไม่ให้ไฮโดรคาร์บอนหนีออกมาถึงพื้นผิวดินได้[ปิโตรเลี่ยม]
การพุ่งออกมาของน้ำมัน ก๊าซ น้ำ หรือ ของเหลวอื่นๆ จากหลุมในระหว่างการเจาะ, การพุ่งออกมาของน้ำมัน ก๊าซ น้ำ หรือ ของเหลวอื่นๆ จากหลุมในระหว่างการเจาะ โดยไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องมาจากแรงดันภายในแหล่งกักเก็บ[ปิโตรเลี่ยม]
บริเวณที่มีลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยา และลักษณะชั้นหินที่คล้ายคลึงกัน, บริเวณที่มีลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยา และลักษณะชั้นหินที่คล้ายคลึงกัน และมีแหล่งกักเก็บปิโตรลียม (Petroleum reservoir) อยู่เป็นจำนวนมาก[ปิโตรเลี่ยม]
ปริมาณน้ำมันดิบในแหล่งกักเก็บใต้ดิน, ปริมาณน้ำมันดิบในแหล่งกักเก็บใต้ดินที่คาดว่าจะสามารถผลิตขึ้นมาได้และคุ้มค่าต่อการลงทุน[ปิโตรเลี่ยม]
น้ำมันที่มีอยู่แต่เดิมในแหล่งกักเก็บ[ปิโตรเลี่ยม]
แหล่งกักเก็บปิโตรเลียม, Example:โดยปิโตรเลียมซึ่งได้แก่น้ำมันและก๊าซธรรมชาติจะสะสมตัวอยู่ในช่องว่างระหว่างหิน เช่น ชั้นหินทราย[ปิโตรเลี่ยม]
หินกักเก็บปิโตรเลียม, หินกักเก็บปิโตรเลียม, Example:หินที่มีรูพรุนและยอมให้ของไหลซึมผ่านได้สูง (Good porosity and permeability) เช่น หินทราย (sandstone) หินคาร์บอเนต หินปูน หินโดโลไมต์ เพื่อที่จะสามารถกักเก็บปิโตรเลียมในปริมาณมากได้ นอกจากจะต้องมีความพรุนสูงแล้ว ควรจะต้องมีความหนาด้วย ในแหล่ง ปิโตรเลียมเชิงพาณิชย์ส่วนมากหินกักเก็บจะมีความพรุนสูงกว่า 10% และมีความหนามากกว่า 10 ฟุต จะต้องมีความต่อเนื่องและครอบคลุมบริเวณกว้าง เพื่อที่จะได้มีปริมาตรกักเก็บปิโตรเลียมได้สูง[ปิโตรเลี่ยม]
การจำลองการไหลในแหล่งกักเก็บ[ปิโตรเลี่ยม]
การเคลื่อนที่ของปิโตรเลียมจากหินต้นกำเนิดไปยังแหล่งกักเก็บ, Example:การเคลื่อนที่มีอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ การเคลื่อนที่แบบปฐมภูมิ (primary migration) เป็นการเคลื่อนที่ของไฮโดรคาร์บอนออกจากหินต้นกำเนิด การเคลื่อนที่แบบทุติยภูมิ (secondary migration) เป็นการเคลื่อนที่ผ่านชั้นหินที่มีคุณสมบัติในการซึมผ่านสูงหรือในหินกักเก็บเอง และการเคลื่อนที่แบบตติยภูมิ (tertiary migration) เป็นการเคลื่อนที่จากแหล่งกักเก็บหนึ่ง (trap) ไปยังอีกแหล่งหนึ่ง หรือเป็นการเคลื่อนที่หายไปของไฮโดรคาร์บอนจากแหล่งกักเก็บ[ปิโตรเลี่ยม]
ก๊าซธรรมชาติที่ละลายปนอยู่ในน้ำมันในแหล่งกักเก็บใต้ดิน, Example:เมื่อมีการผลิตน้ำมันขึ้นมายังผิวดิน ที่ความดันบรรยากาศก๊าซก็จะแตกตัวออกมา[ปิโตรเลี่ยม]
เรือผลิตและกักเก็บปิโตรเลียม[ปิโตรเลี่ยม]
แหล่งปิโตรเลียมที่มีทั้งก๊าซและน้ำมัน, ในแหล่งปิโตรเลียมที่มีทั้งก๊าซและน้ำมัน ก๊าซจะอยู่ส่วนบนของแหล่งกักเก็บ เรียกว่า Gas cap[ปิโตรเลี่ยม]
ปริมาณน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่ประมาณได้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง, ปริมาณน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่ประมาณได้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งว่าจะสามารถผลิตได้จากแหล่งกักเก็บที่สำรวจพบแล้ว โดยรวมถึงปริมาณที่ผลิตไปแล้วทั้งหมดและปริมาณที่คาดว่าจะสามารถผลิตได้ในอนาคต โดยเทคโนโลยีและสภาพเศรษฐกิจที่คาดการณ์ได้ ณ เวลานั้น[ปิโตรเลี่ยม]
ปริมาณที่จะสามารถผลิตได้จากแหล่งกักเก็บที่ค้นพบแล้ว, ปริมาณที่จะสามารถผลิตได้จากแหล่งกักเก็บที่ค้นพบแล้ว โดยประเมินได้อย่างมั่นใจพอควร จากข้อมูลทางธรรีวิทยาและวิศวกรรม ทั้งนี้ การผลิตจะต้องอยู่ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ ตลอดจนวิธีปฏิบัติการและกฎระเบียบของรัฐบาลในขณะนั้น[ปิโตรเลี่ยม]
impounding dam, เขื่อนกักเก็บน้ำ[เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ]
flood storage basin, พื้นที่กักเก็บน้ำท่วม[เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ]
normal pool level, ระดับกักเก็บปกติ[เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ]
retention water level, ระดับน้ำกักเก็บ[เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ]
พลังน้ำ, พลังงานที่สะสมอยู่ในน้ำในรูปของพลังงานศักย์โน้มถ่วง เช่น พลังน้ำในเขื่อนกักเก็บน้ำ เมื่อน้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ พลังงานศักย์จะเปลี่ยนเป็นพลังงานจลน์ ซึ่งจะใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ เช่น หมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หรือมีโทษ เช่น ทำความเสียหายให้แก่บ้านเรือน พืช[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
การทดและส่งน้ำ, การจัดสรรน้ำจากแหล่งกักเก็บน้ำเข้าสู่นา ไร่ ทางคลองส่งน้ำ เพื่อใช้ในการเพาะปลูก[พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]