น. รูปสามเหลี่ยมที่มีด้านคู่หนึ่งยาวเท่ากัน.
น. เครื่องบนแห่งเรือนที่ปิดด้านสกัดหลังคา สำหรับกันลมและแดดฝน มีรูปเป็นสามเหลี่ยม, จั่ว ก็ว่า
เรียกรูปสามเหลี่ยมที่มีด้านคู่หนึ่งยาวเท่ากัน ว่า สามเหลี่ยมหน้าจั่ว.
น. กาแล, ชื่อไม้เครื่องเรือนที่ต่อจากปั้นลมทั้ง ๒ ด้านไปไขว้กัน อยู่ตอนบนสุดของหลังคาที่ยื่นจากหน้าจั่ว อาจสลักลวดลายตามแต่จะเห็นงาม, บางถิ่นเรียก แกแล.
น. ชื่อไม้เครื่องเรือนที่ต่อจากปั้นลมทั้ง ๒ ด้านไปไขว้กัน อยู่ตอนบนสุดของหลังคาที่ยื่นจากหน้าจั่ว อาจสลักลวดลายตามแต่จะเห็นงาม, บางถิ่น กะแล หรือ แกแล.
น. กาแล, ชื่อไม้เครื่องเรือนที่ต่อจากปั้นลมทั้ง ๒ ด้านไปไขว้กัน อยู่ตอนบนสุดของหลังคาที่ยื่นจากหน้าจั่ว อาจสลักลวดลายตามแต่จะเห็นงาม, บางถิ่นเรียก กะแล.
น. ขื่อด้านสกัดหัวท้ายสำหรับรับหน้าจั่วและติดกลอนปีกนก.
น. ส่วนของหลังคาอาคารสถาปัตยกรรมไทย เฉพาะตอนที่ยื่นพ้นผนังอาคารออกไปยังขอบหลังคา, ถ้าส่วนที่ยื่นนั้นอยู่ตรงหน้าจั่ว เรียก ไขราหน้าจั่ว, ถ้าอยู่ปลายหน้าบัน เรียก ไขราหน้าบัน, ถ้าเป็นหลังคาปีกนก เรียก ไขราปีกนก, ถ้าเป็นหลังคาบังสาดตามขนาดยาวของเต้า เรียก ไขราจันทันเต้า หรือ ไขราเต้า.
น. เครื่องบนแห่งเรือนที่ปิดด้านสกัดหลังคาสำหรับกันลมและแดดฝน มีรูปเป็นสามเหลี่ยม, หน้าจั่ว ก็ว่า.
น. เรียกหน้าจั่วของปราสาท โบสถ์ วิหาร ว่า หน้าบัน.
(-หฺยา) น. สิ่งปลูกสร้างซึ่งมีหลังคาเอนเข้าหาอกไก่ทั้ง ๔ ด้าน ไม่มีหน้าจั่ว เรียกว่า เรือนปั้นหยา.
น. ตัวไม้ที่ทอดลงมาบนหัวแปตอนหน้าจั่ว.
น. เรือนที่เรียกตามลักษณะทรงหลังคา ซึ่งมีหลังคาเอนเข้าหาอกไก่ทั้ง ๔ ด้าน ไม่มีหน้าจั่ว.
(-พัน) น. ชื่อเชิงเทียน ทำเป็นแผงรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่วติดไม้กลึงเป็นเชิงเทียน ๗ เชิง กรอบมักทำเป็นรูปพญานาคเลื้อยลงมาคล้ายกรอบหน้าบัน.